Super God Gene – ตอนที่ 2297

อี๋ซาและหานเซิ่นกลับไปที่ฐานทัพของหน่วยอัศวินไอซ์บลู ที่นั่นเขาได้พบกับราชาอัศวินไอซ์บลู มันเห็นได้ชัดว่าราชาอัศวินไอซ์บลูไม่สามารถค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องภายในปราสาทเขาวงกตได้และตัดสินใจเดินทางกลับ

 

เมื่อเขาเห็นอี๋ซาและหานเซิ่นกลับมาด้วยกัน ดวงตาของราชาอัศวินไอซ์บลูก็เบิกกว้าง

 

“อี๋ซา! ข้าดีใจจริงๆที่ได้รู้ว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่…” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูดขณะที่เข้ามาหาเธอ

 

“ข้ากลัวว่าการที่ข้ารอดมาได้อาจจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเจ้า” อี๋ซาพูด

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูขมวดคิ้ว “อี๋ซา ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนั้น?”

 

“ข้ายังมีชีวิตอยู่ นั่นหมายความว่าไม่มีใครรังแกลูกศิษย์ของข้าได้ ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมมันอาจจะไม่ใช่เรื่องดี?” อี๋ซาพูด เสียงของเธอแข็งราวกับหิน

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูดูกระวนกระวาย เขารีบพูดขึ้นมา “ข้าแค่ทำหน้าที่ของตัวเอง! ข้าไม่มีตัวเลือกในเรื่องนี้ มันมีบางสิ่งที่ข้าจำเป็นต้องทำ”

 

“ข้าไม่สนใจเกี่ยวกับหน้าที่ของเจ้า บอกข้ามาว่าเจ้าลากลูกศิษย์ของข้ามาเข้าหน่วยอัศวินไอซ์บลูใช่หรือไม่?”

 

อี๋ซาจ้องไปที่ราชาอัศวินไอซ์บลู

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูดูหม่นหมอง เขารับสารภาพ “ใช่”

 

“เจ้าคือคนที่พยายามจับตัวเขาใช่หรือไม่?” อี๋ซาถาม

 

“ใช่” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูด

 

“ถ้าเจ้าดูแลเขาไม่ได้ ทำไมเจ้าถึงลากลูกศิษย์ของข้ามาถึงที่นี่? นั่นคือวิธีการจัดการหน่วยอัศวินไอซ์บลูของเจ้าอย่างนั้นหรอ?” อี๋ซาพูด

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูไม่สามารถพูดโต้เถียงอะไรได้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

อัศวินไอซ์บลูอีกคนที่ติดตามราชาอัศวินไอซ์บลูก้าวออกมาข้างหน้าและพูดด้วยความโกรธ

“อี๋ซา อย่าเสียมารยาท เจ้าเป็นสมาชิกของหน่วยอัศวินไอซ์บลูคนหนึ่ง เจ้าพูดอย่างนั้นกับกัปตันได้ยังไง?”

 

“จากนี้ต่อไปข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหน่วยอัศวินไอซ์บลูอีก” อี๋ซามองพวกเขาทุกคนด้วยความดูถูก

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูขมวดคิ้วและพูด “อี๋ซา ข้าเข้าใจเหตุผลที่เจ้าจะโกรธ แต่มันมีบางสิ่งที่เจ้าไม่ควรพูดออกมา ข้าจะแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เจ้าพูด ถ้าเจ้าอยากจะพูดอะไร พวกเราจะคุยกันภายหลังอย่างลับๆ”

 

“ระหว่างพวกเราไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก หานเซิ่น พวกเราไปกันเถอะ” อี๋ซาหันหลังกลับ

 

“อี๋ซา! เจ้าอย่าบ้าไปหน่อยเลย หน่วยอัศวินไอซ์บลูมีกฎอยู่ เจ้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของหน่วยอัศวินไอซ์บลู และเจ้าเกิดมาเพื่อเป็นอัศวินไอซ์บลู นอกจากเจ้าจะตายในนามของอัศวินไอซ์บลู หน่วยอัศวินไอซ์บลูก็จะไม่อนุญาตให้หนึ่งในสมาชิกของพวกเขาทรยศ นอกจากนั้นทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็ไม่มีทางปล่อยให้…” เสียงของราชาอัศวินไอซ์บลูตัดขาดไป ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

อี๋ซาระเบิดลมปราณสีม่วงออกมาราวกับปีศาจ เธอปกคลุมทั้งฐานทัพของอัศวินไอซ์บลูด้วยพลังของเธอ ทุกคนภายในฐานทัพดูซีดเซียวในทันที พวกเขาถูกพลังของอี๋ซากดดันจนแทบจะไม่สามารถยืนอยู่ได้

 

“ระดับเทพเจ้า… เจ้ากลายเป็นระดับเทพเจ้า” ราชาอัศวินไอซ์บลูและอัศวินไอซ์บลูคนอื่นๆตกตะลึง

 

“โทษทีนะ เจ้าช่วยพูดให้ข้าฟังอีกครั้งได้ไหม?”

อี๋ซาหันมามองราชาอัศวินไอว์บลูและคนอื่น แม้แต่อัศวินไอซ์บลูระดับราชันก็หน้าซีดไป ตอนนี้ไม่มีใครกล้าจะสบสายตากับอี๋ซา

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูเองก็หน้าซีดเช่นกัน อารมณ์ที่หลากหลายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว สุดท้ายแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาและพูด

“ข้ามีเหตุผลของตัวเองที่อยากให้เจ้าอยู่ แต่ในเมื่อตอนนี้เจ้ากลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว ข้าก็รู้ว่าไม่มีโอกาสจะรั้งเจ้าเอาไว้ที่นี่ได้อีก ถ้าอย่างนั้นข้าอนุญาตให้เจ้าจากไปได้”

 

อี๋ซาไม่มองราชาอัศวินไอซ์บลูอีก เธอพาหานเซิ่นออกไปจากฐานทัพของอัศวินไอซ์บลู

 

“ราชินี นั่นมันสุดยอดไปเลย อัศวินไอซ์บลูพวกนั้นต่างก็อวดดีกันทุกคน แต่พวกเขาเตรียมจะฉี่ราดเมื่ออยู่ต่อหน้าบารมีของท่าน” หานเซิ่นบอกเธอขณะที่ขับวาฬขาวไป

 

หลังจากที่อี๋ซาและหานเซิ่นออกจากฐานทัพของอัศวินไอซ์บลู พวกเขาก็ใช้วาฬขาวเพื่อเดินทางผ่านอวกาศ พวกเขาตรงกลับไปที่แนร์โรว์มูน

 

อี๋ซากำลังอุ้มเป่าเอ๋ออยู่ เธอป้อนผลไม้ให้กับเป่าเอ๋อขณะที่พูดขึ้นมา

“หน่วยอัศวินทั้งสิบของเอ็กซ์ตรีมคิง พวกมันฟังดูทรงพลังและเป็นที่เกรงขามทั่วจักรวาลจีโน แต่ภายในเอ็กซ์ตรีมคิงนั้น เหล่าอัศวินเป็นเพียงแค่เบี้ย พวกเขาคอยทำงานสกปรกเล็กๆน้อยๆแค่นั้น พวกเขาไม่ได้รับภารกิจสำคัญอะไร ถ้าสมาชิกคนไหนของหน่วยอัศวินกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้ออกจากหน่วย พวกเขาจะไม่ถูกผูกมัดกับหน่วยอัศวินอีกต่อไป นี่เป็นกฎข้อหนึ่งของเอ็กซ์ตรีมคิง ราชาอัศวินไอซ์บลูจะฝ่าฝืนเรื่องนั้นไม่ได้”

 

“กองกำลังที่แข็งแกร่งอย่างหน่วยอัศวินไอซ์บลูยังถือว่าเป็นแค่เบี้ยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นตกใจที่ได้ยินแบบนั้น

 

“พวกเขาไม่มีสมาชิกคนไหนที่เป็นระดับเทพเจ้า ถ้าเจ้าคิดว่านั่นคือกองกำลังหลักของเอ็กซ์ตรีมคิงแล้วล่ะก็ เจ้าก็ประเมินกองกำลังของพวกเขาต่ำไปอย่างมาก”

อี๋ซายิ้มและพูดต่อ “กองกำลังของเอ็กซ์ตรีมคิงประกอบไปด้วยอัศวินราชวงศ์ พวกเขาจะรับสมาชิกที่เป็นเอ็กซ์ตรีมคิงเลือดบริสุทธิ์เท่านั้น และแม้แต่สมาชิกใหม่ก็ยังต้องเป็นระดับราชันเป็นอย่างน้อย พวกเขายังมีข้อจำกัดที่สูงในเรื่องสายเลือดและภูมิหลังอีกด้วย”

 

“นอกจากอัศวินราชวงศ์แล้ว เอ็กซ์ตรีมคิงยังมีหน่วยงานอื่นอีกเช่นกัน พวกมันแค่มีชื่อเสียงน้อยกว่าเท่านั้น เอ็กซ์ตรีมคิงแข็งแกร่งถึงขนาดที่มีน้อยเผ่าพันธุ์นักที่จะต่อกรกับพวกเขาได้ แม้แต่เผ่าพันธุ์ชั้นสูงอย่างปราสาทนภาก็ยังไม่มีโอกาสจะต่อกรกับเอ็กซ์ตรีมคิงได้ พวกเขาต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากเผ่าเวรี่ไฮเพื่อทำให้เอ็กซ์ตรีมคิงหลีกเลี่ยงพวกเขา นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่เอ็กซ์ตรีมคิงไม่แตะต้องปราสาทนภา”

 

“อย่างนี้นี่เอง” หานเซิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นมา

“ถ้าอย่างนั้นแนร์โรว์มูนเป็นอะไรสำหรับเอ็กซ์ตรีมคิง?”

 

“พวกเราไม่ได้เป็นของใครทั้งนั้น” อี๋ซาถอนหายใจ หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ

“ข้าบอกเจ้าแล้วยังไงว่าบรรพบุรุษของพวกเราคือทาสรับใช้คนหนึ่งของเฮลล์คิง แต่ยุคสมัยของเฮลล์คิงผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว ตอนนี้ผู้ปกครองของเอ็กซ์ตรีมคิงถูกรู้จักกันในชื่อไวท์คิง แนร์โรว์มูนไม่เคยมีสมาชิกระดับเทพเจ้ามาก่อน การที่ข้ากลายเป็นระดับเทพเจ้าไม่ได้ช่วยเปลี่ยนการเมืองของรีเบทอะไร รีเบทไม่มีวันถูกมองว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่บริสุทธิ์ และพวกเราจะเลือกข้างไม่ได้ พวกเราเป็นเพียงแค่หุ่นเชิด”

 

“ตราบใดที่ราชินีอยู่ที่นี่ รีเบทก็จะกลายเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่มีชื่อเสียงที่สุดในจักรวาล”

หานเซิ่นรีบพูดประจบเธอ อี๋ซาเป็นผู้สนับสนุนของเขา ความปลอดภัยของหานเซิ่นและพวกพ้องก็ขึ้นอยู่อี๋ซา

 

อี๋ซากรอกตาของเธอ “บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นในแนร์โรว์มูน”

 

หานเซิ่นบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในแนร์โรว์มูน เขาไม่ได้พูดอะไรเกินความเป็นจริง แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของอี๋ซาก็ถมึงทึงหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด

 

“พวกเขานำทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าไปแบ่งกันเอง? พวกเขาโหดร้ายกับลูกศิษย์เพียงคนเดียวของข้า? พวกเขาจะกล้าดีเกินไปแล้ว”

 

หานเซิ่นรู้สึกซาบซึ้ง ถ้าเธอพูดแบบนั้น นั่นก็หมายความว่าเขาสำคัญกับเธออย่างมาก

 

“มันไม่เป็นไรที่พวกเขาจะรังแกลูกศิษย์ของข้า แต่พวกเขากล้ามาขโมยปราสาทของข้าและทำให้ของของข้าต้องแปดเปื้อน อภัยให้ไม่ได้” อี๋ซาพูดอย่างเกรี้ยวโกรธ

 

ก่อนหน้านี้หานเซิ่นรู้สึกซาบซึ้ง แต่ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออก เขาเช็ดจมูกและพูด

“ใช่แล้ว! อภัยให้ไม่ได้ ราชินีจะต้องส่งสอนบทเรียนให้กับพวกเขาทุกคน”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset