Super God Gene – ตอนที่ 2309

หานเซิ่นและไป๋เวยนั่งคอยอยู่บนมังกรกษัตริย์สีทองนานหลายชั่วโมง แต่มังกรกษัตริย์ก็ยังคงไม่ลงไปใต้ดิน ในตอนที่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาทางพวกเขา นั่นก็ทำให้ไป๋เวยรู้สึกกังวลใจ

 

เนื่องจากสายตาของหานเซิ่นดีกว่าไป๋เวย เขารู้ก่อนแล้วว่าใครที่กำลังเข้ามา ภาพที่เห็นทำให้เขาขมวดคิ้ว

 

หัวหน้าของกลุ่มคนที่เข้ามาไม่ใช่ใครอื่น นอกจากองค์ชายสิบสี่ ไป๋ชางลัง คนที่ติดตามเขามาคือราชองครักษ์ของเขา และมันก็มีอยู่ 4 คนด้วยกัน 2 คนเป็นเผ่าเลน หนึ่งคนเป็นเผ่ากาน่าและผู้หญิงอีกคนเป็นชาวเอ็กซ์ตรีมคิง

 

ราชองครักษ์ทั้ง 4 คนมีออร่าที่ขู่ขวัญ พวกเขาต้องเป็นระดับราชันเป็นอย่างน้อย นอกจากนั้นเอ็กซ์ตรีมคิงหญิงคนนั้นดูคุ้นเคยสำหรับหานเซิ่น แต่เมื่อหานเซิ่นมองดูดีๆแล้ว เขาก็รู้สึกตัวว่าไม่ได้รู้จักกับอีกฝ่าย

 

“พี่สิบสี่!” เมื่อไป๋เวยเห็นไป๋ชางลัง ใบหน้าของเธอก็ซีดไป เธออ่อนแอเกินกว่าที่จะไปแข่งขันกับไป๋ชางลังได้และตัวเธอเองก็รู้เรื่องนั้นดี

 

ไป๋เวยเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายและโค้งคำนับ “คารวะพี่สิบสี่”

 

ไป๋ชางลังมองไปที่ไป๋เวยและโบกมือ “เนื่องจากตอนนี้เจ้าได้สิทธิ์เข้ามาในสวนของกษัตริย์แล้ว เจ้าก็ไม่ใช่อะไรอื่นแต่เป็นคู่แข่งของข้า มันไม่มีความจำเป็นที่เจ้าต้องมีมารยาท”

 

หลังจากนั้นไป๋ชางลังก็มองข้ามไหล่ของเธอไป สายตาของเขามองไปที่หานเซิ่นแค่แว็บเดียวก่อนที่จะกลับมาที่ไป๋เวย
“แต่เจ้าเป็นน้องสาวของข้า ในฐานะพี่ชาย ข้าก็ไม่ควรไปรังแกเจ้า เลือกหนึ่งในอัศวินทั้ง 4 ของข้า ถ้าเจ้ารับหนึ่งการโจมตีของพวกเขาได้ เจ้าก็ใช้มังกรกษัตริย์รากแก้วนี้ต่อไปได้”

 

“พี่สิบสี่ พี่ล้อเล่นใช่ไหม ถ้าพี่ต้องการมัน พี่ก็เอามันไปเถอะ พวกเราจะไปหามังกรกษัตริย์ตัวอื่น” ไป๋เวยโค้งคำนับและเตรียมตัวจะจากไป

 

ไป๋ชางลังก้าวเข้ามาจับแขนของไป๋เวย เขายิ้มและพูด
“น้องเวย อย่าได้ดูถูกตัวเองแบบนั้น เจ้าเข้ามาอยู่ในสวนของกษัตริย์แล้ว! เจ้าไม่อาจจะหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับคนอื่นได้ เจ้าควรจะทำความเคยชินกับมัน ไม่ต้องกังวล พี่จะไม่แย่งมังกรกษัตริย์ไปจากเจ้า พี่แค่อยากให้เจ้าเข้าใจว่าจะเอาตัวรอดภายในสวนของกษัตริย์ได้ยังไง”

 

ไป๋เวยฝืนยิ้มออกมา “ขอบคุณพี่สิบสี่มาก แต่น้องไม่กล้าทำอะไรเกินตัว น้องไม่อยากจะต่อสู้กับใคร และน้องก็ขออยู่ที่นี่อย่างไม่แก่งแย่งกับคนอื่น”

 

“ไม่เป็นไร ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ เจ้าก็ใช้มังกรกษัตริย์รากแก้วนี้ได้” ไป๋ชางลังยังคงจับแขนของเธอเอาไว้ขณะที่พูดออกมา

 

มังกรกษัตริย์รากแก้วตัวหนึ่งไม่ได้หายากอะไรสำหรับองค์ชายอย่างไป๋ชางลัง ถ้าเขาไม่ใช้มังกรกษัตริย์รากแก้วตัวนี้ มันก็เป็นเรื่องง่ายที่เขาจะไปหามังกรกษัตริย์รากแก้วอีกตัว

 

ที่ไป๋ชางลังบังคับให้ไป๋เวยตกอยู่ในสถานการณ์นี้ก็เพราะหานเซิ่น เขาต้องการให้หานเซิ่นรู้ว่าการเลือกติดตามไป๋เวยเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมหันต์

 

หานเซิ่นเห็นไป๋ชางลังจับแขนของไป๋เวยเอาไว้และไม่ปล่อยเธอไป ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามาและโค้งคำนับ
“ถ้าองค์ชายสิบสี่ยืนกราม อย่างนั้นข้าก็ขอเป็นคนรับการโจมตีแทนองค์หญิงของข้า”

 

ไป๋เวยอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไป๋ชางลังพูดขึ้นมาก่อน
“อ้า เจ้าคือลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีดหนิ! กล้าหาญมากๆ ข้าเลื่อมใสในคนที่กล้าหาญอย่างเจ้า เชิญเลือกหนึ่งในองครักษ์ทั้ง 4 ของข้า ไม่ว่าเจ้าจะรับการโจมตีได้หรือไม่ เจ้าก็ยังคงใช้มังกรกษัตริย์ตัวนี้ได้”

 

หลังจากนั้นไป๋ชางลังก็หันไปหาองครักษ์ 4 คนที่ติดตามเขา
“หานเซิ่นเป็นลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีด นางเป็นเพื่อนที่ดีของข้า พวกเจ้าไม่ควรทำร้ายลูกศิษย์ของนางหนักจนเกินไป อย่าได้ใช้พลังของพวกเจ้ามากจนเกินไป เข้าใจใช่ไหม?”

 

หานเซิ่นมองไปที่องครักษ์ทั้ง 4 อย่างลังเล เขาเดินไปตรงหน้าขององครักษ์เอ็กซ์ตรีมคิงหญิงและพูด “ถ้าเจ้าจะกรุณา”

 

“เรดสลีฟ อย่าได้ลงมือกับเขาหนักจนเกินไป” ไป๋ชางลังพูดกำชับกับองครักษ์หญิง

 

“เพคะ” องครักษ์หญิงตอบ เธอก้าวออกมายืนตรงหน้าของหานเซิ่น

 

“ข้าชื่อหานเซิ่น เจ้ามีชื่อว่าอะไร?” หานเซิ่นทักทายองครักษ์หญิง

 

มันไม่สำคัญว่าเขาจะเลือกราชองครักษ์คนไหน เพราะพวกเขาแต่ละคนระดับสูงกว่าหานเซิ่นหนึ่งระดับ

 

หานเซิ่นเลือกเธอเพียงเพราะเขาคิดว่าเธอดูคุ้นๆ เขาแค่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน ด้วยการทำแบบนี้เขาหวังว่าจะนึกออกและยืนยันความรู้สึกคุ้นเคยของเขาได้

 

“เรดสลีฟ” องครักษ์หญิงตอบสั้นๆ เธอยกกำปั้นขึ้นและพูด
“ถ้าเจ้ารับหมัดของข้าได้ เจ้าก็เป็นฝ่ายชนะ”

 

หลังจากนั้นหมัดก็เริ่มเรืองแสงขึ้นมา แสงนั้นดูเหมือนกับดวงจันทร์ และที่ไหนก็ตามที่แสงจันทร์ส่องออกไปมิติบริเวณนั้นจะบิดเบี้ยว

 

หานเซิ่นขยับร่างกายเล็กน้อย เขารู้สึกราวกับว่าบริเวณรอบๆตัวถูกยืดออกไป และหลังจากที่เขาขยับร่างกายตัวเอง เขาก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

 

“พลังธาตุอวกาศ?” หานเซิ่นแปลกใจ

 

หมัดของเรดสลีฟพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่น มันเหมือนกับดวงจันทร์ตกลงมา หานเซิ่นขยับร่างกายของเขา แต่พลังของเธอดูเหมือนจะล็อคเขาเอาไว้กับที่ และดวงจันทร์ก็เข้ามาใกล้เรื่อยๆ

 

หานเซิ่นหลี่ตาและมองดวงจันทร์ที่กำลังเข้ามา ถ้าเขาหลบหลีกไม่ได้ แบบนั้นเขาก็จะไม่หลบ หานเซิ่นยกหมัดขึ้นและชกเข้าใส่ดวงจันทร์ที่เข้ามา

 

สีหน้าของไป๋เวยดูแย่ เรดสลีฟเป็นยอดฝีมือระดับราชัน เธออาจจะเป็นระดับครึ่งเทพด้วยซ้ำ ส่วนทางด้านหานเซิ่นเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง มันไม่สำคัญว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน มันไม่มีทางที่เขาจะต่อสู้กับเรดสลีฟได้อย่างตรงๆแบบนั้น

 

ไป๋เวยรู้ว่าไป๋ชางลังต้องการอะไร ถ้าหานเซิ่นรับหมัดนี้ไป ถ้าเขาไม่ตายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ปัง!

 

ในจังหวะที่หมัดของเรดสลีฟปะทะกับหมัดของหานเซิ่น ดวงจันทร์ก็แตกสลายราวกับแก้ว และมิติใกล้เคียงก็แตกเป็นเสี่ยงเช่นกัน รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนร่างจริงๆของหานเซิ่น

 

ไป๋เวยตกตะลึง เธอแน่ใจว่าเรดสลีฟไม่กล้าจะฆ่าคนอื่นภายในสวนของกษัตริย์ แต่ผู้หญิงคนนั้นปลดปล่อยพลังด้วยเจตนาที่จะฆ่าอย่างชัดเจน ร่างกายของหานเซิ่นถูกทำลายด้วยพลังธาตุอวกาศ นอกซะจากหานเซิ่นจะมีพลังฟื้นฟูที่แข็งแกร่ง เขาก็ไม่มีโอกาสจะฟื้นฟูตัวเองได้ทันต่อความเร็วในการแตกสลาย

 

ร่างกายของหานเซิ่นแตกร้าวไปทั่วร่าง และหลังจากนั้นร่างของเขาก็ระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วเหมือนกับแก้ว

 

แต่หลังจากนั้นภาพของหานเซิ่นก็ปรากฏให้เห็นในตำแหน่งเดิมที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้ เขายังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ หานเซิ่นที่ถูกดวงจันทร์ทำลายไปเป็นเพียงแค่ร่างโคลนที่สร้างขึ้นมาจากวิชาจันทรา

 

“ข้าไร้ความสามารถ องค์ชายได้โปรดลงโทษด้วย!” เรดสลีฟดูแย่ เธอโค้งคำนับขออภัยต่อไป๋ชางลัง

 

“เทคนิคของหานเซิ่นมหัศจรรย์มากๆ แม้แต่ข้าเองก็ยังถูกหลอก อย่างนั้นแล้วข้าจะโทษเจ้าได้อย่างไร”
ไป๋ชางลังพูดและทำท่าทางบอกให้เธอถอยออกไป เขายิ้มให้กับหานเซิ่นและพูด “เจ้าเหนือกว่าอาจารย์ของเจ้า ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าเป็นลูกศิษย์ของราชินีแห่งมีด ข้าใกล้ชิดกับอาจารย์ของเจ้า ถ้าเจ้ามีเวลาล่ะก็ เจ้าควรหาเวลาแวะมาเยี่ยมเยือนข้า”

 

หลังจากนั้นไป๋ชางลังก็หันไปบอกไป๋เวย “น้องเวย พี่ดีใจจริงๆที่เจ้าได้องครักษ์ที่ดีคนหนึ่งมา เจ้าใช้มังกรกษัตริย์รากแก้วนี้ได้ พี่จะไปหามังกรกษัตริย์ตัวอื่น ไว้เจอกันทีหลัง”

 

หลังจากที่ไป๋ชางลังจากไป ไป๋เวยก็พูดกับหานเซิ่น “นั่นมันเสี่ยงเกินไปแล้ว เจ้าเกือบจะต้องตาย”

 

“แต่ข้ายังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่หรือยังไง?” หานเซิ่นหัวเราะ ขณะที่เขาหันไปมองไป๋ชางลัง สีหน้าที่ครุ่นคิดก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset