หานเซิ่นหยิบมีดเขี้ยวผีสิงออกมา ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่ามีโซ่น้ำมาพันรอบตัวของเขา มันรัดตัวเขาเอาไว้แน่นและแขนของเขาถูกก็ผูกมัดอย่างสมบูรณ์
ราชองครักษ์ระดับราชันคนนั้นไม่ได้เข้ามาโจมตี เขาแค่ใช้แสงแห่งเทพดึงหานเซิ่นเข้ามาใกล้ๆ แขนขาของหานเซิ่นถูกยืดออกจนสุดราวกับว่าเขาถูกตรึงเอาไว้ต่อหน้าราชองครักษ์ระดับราชัน
“เจ้าคิดว่าการเอาชนะองค์ชายอู๋ฉางจะทำให้เจ้าเจ๋งมากหรือยังไง? เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ดยุกก็ยังเป็นแค่ดยุก ความแตกต่างระหว่างพลังของดยุกกับราชันเหมือนกับความแตกต่างทางฐานะระหว่างราชวงศ์และทาสรับใช้ มันเป็นความแตกระหว่างท้องฟ้ากับผืนดิน”
ราชองครักษ์ระดับราชันพูด เขาเอื้อมมือออกมาหยิบมีดเขี้ยวผีสิงของหานเซิ่น
เมื่อราชองครักษ์ระดับราชันเอื้อมมาเพื่อจับด้ามของมีดเขี้ยวผีสิง หานเซิ่นก็ใช้วิชากายหยกและเลือดกลายพันธุ์พร้อมๆกัน
เนื้อหนังของเขากลายเป็นหยกและเลือดคริสตัลของเขาก็ละลาย ตอนนี้มันเป็นเหมือนกับลาวาที่กำลังเดือดและไหลไปทั่วร่างกายของหานเซิ่น
น้ำที่ผูกมัดร่างกายของหานเซิ่นเบาบางไป มันไม่ได้ขาด แต่มันยืดออก มันไม่สามารถหยุดสิ่งที่หานเซิ่นกำลังทำอยู่ได้
“ราชบัลลังก์ถูกโค่นล้ม ท้องฟ้าและพื้นดินกลับตาลปัตร ดวงดาวถูกเคลื่อน กลางวันและกลางคืนสับเปลี่ยน ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือของข้า”
เสียงของหานเซิ่นเย็นราวกับเหล็ก เขากำมีดเขี้ยวผีสิงเอาไว้แน่นและแกว่งมันใส่ราชองค์รักษ์ระดับราชัน พลังเขี้ยวกลายเป็นปีศาจสีม่วงดำที่คำรามออกมา มันกำลังจะกลืนกินชายคนนั้น
“เจ้าก็แค่ดยุกคนหนึ่ง เจ้ารู้หรือยังว่าท้องฟ้านั้นหนาถึงขนาดไหน? เจ้าคิดว่าผืนดินจะถูกสั่นคลอนได้อย่างนั้นหรอ? ดวงดาวและดวงจันทร์ที่เจ้าคิดสว่างสักแค่ไหนกัน?” ราชองครักษ์ระดับราชันไม่ได้หลบ เขาชกหมัดเข้าใส่มีดลมปราณของหานเซิ่นแทน
หมัดสีเขียวเป็นเหมือนกับน้ำ เมื่อพลังเขี้ยวของมีดลมปราณปีศาจปะทะกับน้ำ มันก็เกิดการกระเพื่อมขึ้นมา มันเป็นแค่การกระเพื่อมเล็กๆราวกับการหยดน้ำลงไปในทะเลและกลายเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำของทะเล
หมัดของราชองครักษ์ระดับราชันชกใส่หานเซิ่นด้วยความรุนแรงของคลื่นสึนามิ หานเซิ่นเป็นเหมือนกับเรือที่ส่ายไปมาบนคลื่นที่บ้าคลั่งของทะเลและพร้อมที่จะจมลงได้ทุกเมื่อ
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ตีบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขา เสียงที่ดังขึ้นเป็นเหมือนกับเหล็กในของแมงป่องที่แทงเข้าไปในหัวของราชองครักษ์ระดับราชัน
ใบหน้าของราชองครักษ์เปลี่ยนแปลง แสงสีเขียวของเขายังคงสว่างไสวและทรงพลัง แต่มันสายเกินไปที่เขาจะทำอะไรกับการโจมตีของหานเซิ่น เสียงของเจดดรัมตรงเข้าไปในหัวของเขา
“อ้า!” ราชองครักษ์ระดับราชันกรีดร้องออกมา
หานเซิ่นหยิบธันเดอร์ก็อตสไปค์ออกมาจากเอว เขาใช้พลังสายฟ้าช็อตใส่ราชองครักษ์ระดับราชันที่ยังคงกรีดร้องจากการโจมตีของเจดดรัม
แต่หานเซิ่นสัมผัสได้ว่าสายฟ้าของธันเดอร์ก็อตสไปค์นั้นถูกจำกัดด้วยแสงแห่งเทพ มันเหมือนกับว่าเขากำลังพยายามเคลื่อนไหวผ่านทะเลลึก มันถูกบังคับให้เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆขณะที่มันสไลด์ไปด้านหน้า แม้แต่กระสุนก็ถูกชะลอด้วยพลังนั้นของราชองครักษ์
‘เวรเอ้ย! แสงแห่งเทพนี้มีผลต่อเรามากเกินไป’ หานเซิ่นคิดอย่างคับข้องใจ
ก่อนที่ธันเดอร์ก็อตสไปค์จะถูกร่างของราชองครักษ์ได้ ชายคนนั้นก็ก้มหัวและถอยออกไป เขาสามารถหลบหลีกการโจมตีของหานเซิ่นได้
“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่ำเกินไป” ราชองครักษ์ระดับราชันแบมือของเขาและหอกก็ปรากฏขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็แทงหอกเข้าใส่หานเซิ่น
หานเซิ่นยังคงถูกจำกัดการเคลื่อนไหวจากแสงแห่งเทพของราชองครักษ์ การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าอย่างมาก ทำให้เขาไม่สามารถหลบหลีกการโจมตีที่เข้ามาได้ หานเซิ่นยกธันเดอร์ก็อตสไปค์ขึ้นและพยายามใช้มันป้องกันหอกของราชองครักษ์ระดับราชัน พร้อมกับตีบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมอีกครั้ง
เสียงของเจดดรัมดังขึ้นราวกับฟ้าร้อง แต่ครั้งนี้ราชองครักษ์สามารถใช้พลังของเขาป้องกันมันเอาไว้ได้
ธันเดอร์ก็อตสไปค์ในมือของหานเซิ่นกับหอกของราชองครักษ์ระดับราชันกระแทกใส่กัน สายฟ้าสีเงินและแสงสีเขียวปะทะกัน แต่สายฟ้านั้นไม่สามารถถูกป้องกันได้ มันช็อตผ่านหอกไปถึงตัวของราชองครักษ์
ราชองครักษ์ระดับราชันกรีดร้องออกมาหลังจากที่ถูกช็อต หอกเกือบที่จะหล่นออกจากมือของเขา แต่เขาเป็นอัมพาตเพียงไม่นาน และเขาก็พื้นตัวอย่างรวดเร็ว หานเซิ่นต้องการจะโจมตีซ้ำในตอนที่อีกฝ่ายเป็นอัมพาต แต่เขาไม่สามารถทำได้
หานเซิ่นรู้สึกกังวล ราชองครักษ์ระดับราชันคนนี้แข็งแกร่งกว่าราชาไนท์ริเวอร์อย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีทั้ง 2 ครั้งของราชองครักษ์ก็ยังไม่สามารถถูกตัวของหานเซิ่นได้
ราชองครักษ์ระดับราชันไม่ดูถูกหานเซิ่นอีกต่อไป ดวงตาของเขาดูเฉียบขาดและหอกของเขาก็เป็นเหมือนกับมังกรที่ชี้ไปที่หานเซิ่น เขาไม่คิดจะปล่อยให้หานเซิ่นสัมผัสเขาด้วยธันเดอร์ก็อตสไปค์อีก
ร่างกายของหานเซิ่นยังคงถูกจำกัดการเคลื่อนไหวด้วยแสงแห่งเทพ และตอนนี้ราชองครักษ์ก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก
ราชองครักษ์ต้องหลีกเลี่ยงทั้งบลัดสกอร์เปี้ยนเจดดรัมและธันเดอร์ก็อตสไปค์ เขาไม่อยากจะเปิดช่องโหว่ให้กับอาวุธทั้ง 2 และนั่นก็คือวิธีที่ทำให้หานเซิ่นคงสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอาไว้ได้
ราชองครักษ์ระดับราชันพยายามทิ่มหอกไปรอบๆตัวหานเซิ่น แต่เขาไม่สามารถผ่านธันเดอร์ก็อตสไปค์ของหานเซิ่นไปได้ เขาตกใจกับเรื่องนี้และคิดกับตัวเอง
‘ดยุกคนนี้ยังคงป้องกันตัวเองได้ ทั้งๆที่ตกอยู่ภายใต้แสงแห่งเทพของข้าหรอเนี่ย? เจ้านี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เขาเอาชนะไป๋อู๋ฉางได้’
หานเซิ่นระเบิดพลังออกมาอย่างไม่หยุด เขาแทบจะไม่สามารถต้านพลังในการจำกัดการเคลื่อนไหวของแสงแห่งเทพเอาไว้ได้ และการทำแบบนั้นก็จำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างมาก ซึ่งถ้าตัวเขาเองเหนื่อยล้าเมื่อไหร่ การจะเอาชนะศัตรูก็จะเป็นไปไม่ได้
หานเซิ่นมีความคิดอย่างหนึ่ง เขากระโดดขึ้นและกระพือปีกเพื่อเทเลพอร์ตออกไปจากแสงแห่งเทพของราชองครักษ์
แต่ความสามารถในการเทเลพอร์ตของปีกถูกจำกัดเช่นกัน เขาไปได้ไกลแค่หนึ่งไมล์ต่อครั้งเท่านั้น ซึ่งมันไม่เพียงพอที่จะหนีออกไปจากแสงแห่งเทพของราชองครักษ์ และอีกฝ่ายก็ตามเขาทันอย่างง่ายดาย
ภายในแสงแห่งเทพนั้นหานเซิ่นไม่สามารถแข่งขันความเร็วกับอีกฝ่ายได้
“เขาเป็นยอดฝีมือระดับราชันธาตุน้ำ การอยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงจะถือเป็นอะไรที่เสียเปรียบสำหรับเขา” หานเซิ่นรีบตรงไปที่หุบเขาลาวา
ปัง!
ภายใต้การถูกจำกัดการเคลื่อนไหวจากแสงแห่งเทพระดับราชัน การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นนั้นเชื่องช้ามาก ราชองครักษ์แทงถูกไหล่ของเขาได้สำเร็จ และหานเซิ่นก็รู้สึกว่ามีน้ำเข้ามาในบาดแผลของเขา
หานเซิ่นกัดฟันและกระโดดลงไปในลาวา
ราชองครักษ์หัวเราะออกมา “ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนที่คู่ควรต่อการเลื่อมใส ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำบางสิ่งที่โง่เขลาอย่างนี้ น้ำไม่ใช่ธาตุเย็น เจ้าคิดจริงๆหรือว่าไฟจะได้ผลดีกับน้ำ? ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นเองว่าน้ำนั้นน่ากลัวถึงขนาดไหนเมื่อเผชิญหน้ากับธาตุไฟ”
หลังจากนั้นราชองครักษ์ระดับราชันก็กระโดดลงไปในลาวาโดยไม่ลังเล
ราชองครักษ์เดินทางผ่านลาวาอย่างรวดเร็ว ทำให้หานเซิ่นไม่สามารถหนีออกจากแสงแห่งเทพของเขาได้ และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือแสงแห่งเทพของเขาได้รับความร้อนจากลาวาและกลายเป็นอาณาเขตของไอน้ำร้อน พลังในการจำกัดการเคลื่อนไหวของมันเพิ่มขึ้น และมันก็เหมือนกับว่าชุดเกราะกุ้งกาแลกติกของหานเซิ่นกำลังละลาย