ไม่นานหลังจากนั้นร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ก็กลายเป็นหยดน้ำหยดหนึ่งที่โปร่งใสราวกับเพชร
“ซีโน่เจเนอิคราชาออริจินอลวอเทอร์ระดับราชันกลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกพบ”
หานเซิ่นออกจากโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดด้วยความรู้สึกอ่อนล้า เมื่อร่างกายของเขาเพิ่มระดับขึ้น ระยะเวลาที่เขาจะคงร่างเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดก็เพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เสียพลังไปมาก มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะคงโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดได้เป็นเวลานาน
‘ถ้าเรากลายเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว เราจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดได้เป็นเวลานานไหมนะ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็กลืนหยดน้ำเข้าไปเพื่อดูดซับมันมัน
มันเหมือนกับกระบวนการดูดซับปีกมังกรของเขา หลังจากที่วิชาโลหิตชีพจรดูดซับหยดน้ำไปแล้ว หานเซิ่นก็ได้รับพลังยีนโลหิตชีพจรใหม่ แต่ครั้งนี้มันเป็นพลังยีนโลหิตชีพจรระดับราชัน
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขารู้สึกว่าร่างกายกลายเป็นของเหลวที่โปร่งใส มันดูเหมือนกับว่าตัวเขาทำขึ้นมาจากน้ำ
“นี่คือพลังของร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์อย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นดีใจ เขาใช้ร่างกายเพื่อสร้างแสงแห่งเทพธาตุน้ำขึ้นมา ซึ่งมันเหมือนกับที่ไป๋อี้ใช้ใส่เขาไม่มีผิด
“ถ้าเราได้ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันกลายพันธุ์หรือยีนซีโน่เจโนอิคระดับเทพเจ้ากลายพันธุ์มา เราก็จะไร้เทียมทาน” หานเซิ่นหลงรักการรวมกันระหว่างวิชาโลหิตชีพจรและวิชาขโมยโลหิตชีพจร
แต่หานเซิ่นรู้สึกปวดหัวขึ้นมา เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับผลที่จะตามมา เขาได้รับผลประโยชน์นี้จากการฆ่าไป๋อี้ แต่ราชาไป๋จะต้องทำการสืบหาความจริงอย่างแน่นอน
แถมไป๋หลิงซวงก็รู้ว่าไป๋อี้มาพบกับหานเซิ่น และถึงไป๋หลิงซวงจะไม่รู้ ทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็ต้องมีคนอย่างกุนซือไวท์อยู่ บางทีมันอาจจะมีวิชาจีโนพิเศษบางอย่างที่ช่วยพวกเขาสรุปได้ว่าหานเซิ่นคือคนที่ฆ่าไป๋อี้
หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนและวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อหลบร่องรอยในที่แห่งนั้น เขาสามารถวางใจได้ว่าโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้ มันไม่ควรจะมีใครหาความจริงได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
ร่างเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดนั้นไม่ทิ้งอะไรเอาไว้เบื้องหลังอย่างแท้จริง มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถูกเปิดโปงโดยวิชาจีโนอย่างหนึ่ง
แต่ไป๋อี้ตายในสถานที่ที่หานเซิ่นปรากฏตัว และมันก็มีราชองครักษ์ไม่มากที่มาดาวคิงคอง แบบนั้นถึงแม้มันจะไม่มีหลักฐานที่บ่งบอกว่าเขาเป็นคนผิด ราชาไป๋ก็อาจจะตัดสินใจสังหารทุกคนที่ต้องสงสัยก็เป็นได้
หานเซิ่นไม่จะอยากอยู่บนดาวคิงคองนานกว่านั้น เขาเก็บร่างของตุ๊กตาโลหะขึ้นมาและรีบไปจากที่นั่น เขาจำเป็นต้องคิดหาทางหนีออกไปจากดินแดนของเอ็กซ์ตรีมคิง ถ้าการฆาตกรรมไป๋อี้ของเขาถูกเปิดโปงขึ้นมา
ความจริงแล้วการอยู่ที่นี่ต่อไปก็เป็นอันตรายมากเกินไปแล้ว
หานเซิ่นออกจากดาวคิงคองและกลับไปที่สถานีอวกาศ ขณะที่เขานั่งรอยานอวกาศ ทันใดนั้นผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาและนั่งลงข้างๆหานเซิ่น เธอมองตรงมาที่เขา
“น้องสิบหก เจ้าใช้รีเทิร์นทูออริจินอย่างนั้นหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นถามด้วยความแปลกใจ
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาพยายามจะลอกเลียนแบบเสียงของไป๋อี้ เขาพูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็น
“หานเซิ่นคนนั้นเก่งกาจถึงขนาดที่บังคับให้ข้าต้องทำแบบนี้ ไป๋หลิงซวงนี่เจ้าหลอกข้าอย่างนั้นหรอ?”
ไป๋หลิงซวงหัวเราะ “น้องสิบหก เจ้าตัดสินใจจะไปที่นั่นเอง มันไม่ใช่ความผิดของข้าที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ แต่การรวมตัวเองเข้ากับหานเซิ่น… ข้าบอกได้ว่าตอนนี้เจ้าดูดีขึ้นมาก”
“ไป๋หลิงซวง” ใบหน้าของหานเซิ่นแข็งกร้าว เขาใช้ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์และร่างกายทั้งร่างของเขาก็กลายเป็นน้ำที่โปร่งใส แสงแห่งเทพของเขาแพร่กระจายออกไปเพื่อปกคลุมทั้งสถานีอวกาศ
“น้องสิบหก ทำไมเจ้าถึงได้โกรธ?” ไป๋หลิงซวงนั่งอยู่ภายในแสงแห่งเทพ แต่เธอดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร มันเหมือนกับว่าน้ำที่น่ากลัวนี้ไม่มีผลอะไรกับเธอ
แสงสีฟ้าส่องสว่างรอบๆตัวไป๋หลิงซวง รอยยิ้มที่สวยงามและร่างกายที่เซ็กซี ทำให้เธอดูเหมือนกับเทพธิดาที่ลงมาจากท้องฟ้า มันดูเหมือนกับว่ามันไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะทำให้เธอแปดเปื้อนได้
แสงสีฟ้าของไป๋หลิงซวงแพร่ขยายออกไป และมันก็แช่แข็งแสงแห่งเทพธาตุน้ำของหานเซิ่น เธอสะบัดมือและทำให้แสงแห่งเทพของหานเซิ่นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆจนหล่นลงมาเต็มพื้น
หานเซิ่นรู้สึกตกใจ ไป๋หลิงซวงเป็นครึ่งเทพ นอกจากนั้นเธอยังอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเช่นกัน เธอแข็งแกร่งกว่าไป๋อี้มาก
ไป๋หลิงซวงทำลายแสงแห่งเทพธาตุน้ำของหานเซิ่น หลังจากนั้นแสงสีฟ้าก็จางหายไป เธอพูดขึ้นมา
“เจ้าทำสิ่งนี้ด้วยตัวเอง แต่ไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ลืมสิ่งที่ให้สัญญากับเจ้า 2 คืนหลังจากนี้ไปที่เมืองไนท์ชาร์ม ข้าจะไม่จ่ายให้เจ้าน้อยไปกว่าที่ตกลงกันเอาไว้”
หลังจากนั้นไป๋หลิงซวงก็ลุกขึ้นและเดินจากไป แต่หลังจากเดินไป 2 ก้าว เธอก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหันกลับมาและพูด
“น้องสิบหก ไหนๆเจ้าก็รวมเข้ากับร่างของหานเซิ่นแล้ว เจ้าควรจะใช้ตัวตนของเขาในขณะที่ยังทำได้”
“ตอนนี้เจ้าต้องการอะไรจากข้าอีก?” หานเซิ่นเกรี้ยวกราด
ไป๋หลิงซวงยิ้ม “หานเซิ่นพาซีโน่เจเนอิคครึ่งเทพตัวหนึ่งมาด้วย เจ้าควรจะไปเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีอยู่มา ข้าเห็นเหล่าซีโน่เจเนอิคของเขาแล้ว ยีนของพวกมันดีมาก หนึ่งในพวกมันอาจจะเป็นระดับเทพเจ้าด้วย เจ้าจะได้รับผลประโยชน์อย่างมากจากการคว้าตัวซีโน่เจเนอิคแบบนั้นมา”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกข้าในเรื่องนั้น ข้ารู้ว่าต้องทำอะไร” หานเซิ่นมองเธอด้วยความดูถูก
“จำไว้ว่าในอีก 2 วันที่เมืองไนท์ชาร์ม” ไป๋หลิงซวงยิ้มและไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเดินออกไปจากสถานีอวกาศ
ในหัวของหานเซิ่นเต็มไปด้วยความสับสน นี่เป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อน และตอนนี้เขาก็จำเป็นต้องตัดสินใจ
ไป๋หลิงซวงคิดว่าไป๋อี้รวมร่างเข้ากับหานเซิ่น ดยุกคนหนึ่งไม่สามารถทนต่อเหตุการณ์ที่หานเซิ่นเพิ่งจะเผชิญได้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับราชันส่วนใหญ่ก็ไม่มีทางรอดพ้นมือไป๋อี้ไปได้
ดูเหมือนไป๋หลิงซวงจะรู้ถึงรีเทิร์นทูออริจินของไป๋อี้ หลังจากที่เขาใช้รีเทิร์นทูออริจิน ไป๋อี้จะดูเหมือนกับหานเซิ่น แต่ที่สุดแล้วเขาจะเปลี่ยนกลับไปสู่รูปลักษณ์ดั้งเดิม แต่มันเป็นกระบวนการที่ช้า
ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นมีร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ เขาสามารถปลอมตัวเป็นไป๋อี้ได้ เขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นองค์ชายสิบหกของเอ็กซ์ตรีมคิง
นี่ถือว่าปลอดภัยกว่าการที่ราชาไป๋รู้ว่าไป๋อี้ตายไปแล้ว
ถ้าไป๋อี้ใช้รีเทิร์นทูออริจินได้สำเร็จ เขาก็จะสามารถยึดครองทุกอย่างของหานเซิ่นได้ นั่นรวมถึงความทรงจำของหานเซิ่นด้วย
แต่หานเซิ่นแค่ดูดซับยีนกลายพันธุ์ของไป๋อี้เข้าไปเท่านั้น เขามีร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์อยู่ แต่เขาไม่มีความทรงจำของไป๋อี้ การพยายามจะปลอมตัวเป็นไป๋อี้จึงเป็นอะไรที่เสี่ยง มันมีโอกาสสูงที่เขาจะถูกเปิดโปง
“แต่เราทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้ เราคงต้องลองดู” หานเซิ่นพยายามสงบจิตใจและคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำต่อไป เขาไม่อยากจะทำให้ตัวเองตกเป็นที่ต้องสงสัย
แต่หานเซิ่นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับไป๋อี้ จากการสังเกตในช่วงเวลาสั้นๆ ไป๋อี้เป็นผู้คนที่ไม่รู้จักมองการไกล
“ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องไปหากิเลนโลหิตและคนอื่น หลังจากนั้นเราก็จะไปที่บ้านของไป๋อี้” หลังจากที่หานเซิ่นทำการตัดสินใจ เขาก็ไม่ลังเลอีก