หานเซิ่นค้นหาทั่วกระท่อม กุนซือไวท์ไม่ได้บอกเขาว่าข้อมูลที่ให้มานั้นอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงสันนิษฐานว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะหา ไม่อย่างนั้นกุนซือไวท์ก็คงจะบอกเขา
หานเซิ่นค้นหาจนทั่วทั้งกระท่อม แต่เขาก็ยังไม่พบอะไร ที่เดียวที่เขาจะไม่ได้ตรวจดูก็คือคอมพิวเตอร์ของไป๋อี้
การจะเข้าใช้คอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีรหัสผ่าน แต่การเจาะรหัสไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับคนอย่างหานเซิ่น
ในยุคสมัยนี้มีคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายของตัวเองได้ ดังนั้นการใช้การสแกนร่างกายจึงไม่ถือว่าเป็นวิธีการป้องกันที่ปลอดภัย ด้วยเหตุนั้นคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จึงถูกปกป้องด้วยรหัสผ่าน
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อหารหัสผ่านของคอมพิวเตอร์ และหลังจากที่พิมพ์มันลงไป เขาก็สามารถเข้าใช้งานมันได้
‘วิญญาณอสูรระดับเทพเจ้านี่ดีจริงๆ มันจะดีไม่น้อย ถ้าเราหามาเพิ่มได้อีก’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองขณะที่ค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์
โว้ว!
ภาพบนคอมพิวเตอร์เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ภาพของผู้หญิงที่เปื่อยเปล่าสับเปลี่ยนตรงหน้าของหานเซิ่น พวกมันไม่ใช่แค่ภาพของผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงเช่นกัน มันมีผู้หญิงจากทุกเผ่าพันธุ์และพวกเธอทุกคนก็นอนโพสท่ายั่วยวน
“ว้าว! ไป๋เวยคนนี้น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ เขามีแม้กระทั่งผู้หญิงของเผ่าเลนอยู่ในนี้”
หานเซิ่นเปลี่ยนการตั้งค่าหน้าจอให้แสดงต่อคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นมองเห็นจากด้านข้าง เขาไม่ต้องการให้เป่าเอ๋อเห็นพวกมัน หานเซิ่นสังเกตว่าภาพเหล่านั้นไม่ได้โฟโต้ชอปเช่นกัน ผู้หญิงในรูปนั้นมีอยู่จริงๆ
“หมอนี่เป็นบ้าอะไรของมัน?” หานเซิ่นรีบค้นหาไฟล์ในคอมพิวเตอร์ และเขาค้นพบว่าภายในฮาร์ดดิสก์นั้นเต็มไปด้วยรูปภาพแบบนั้น
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่หานเซิ่นจะหาไฟล์เอกสารภายในนี้ได้ แต่เขาก็พบไฟล์เอกสารที่ค่อนข้างประหลาดไฟล์หนึ่ง มันถูกตั้งชื่อไฟล์ว่า‘ชีวิตของข้า’ หานเซิ่นเปิดไฟล์และพบว่ามันถูกป้องกันด้วยรหัสผ่าน
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อหารหัสผ่าน หลังจากนั้นเขาก็เปิดอ่านเอกสารที่อยู่ข้างใน เขารู้สึกอวดดีกับพรสวรรค์นี้ เขาพูดกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าเราจะเป็นแฮกเกอร์ที่เก่งคนหนึ่ง”
เป่าเอ๋อกระพริบตาและพูด “พ่อ แฮกเกอร์นั้นใช้ทักษะที่แท้จริง พ่อแค่เล่นขี้โกง”
“การเล่นขี้โกงก็เป็นทักษะหนึ่งเหมือนกัน หนูยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจ หนูจะเข้าใจเมื่อหนูโตแล้ว” หานเซิ่นบอกเธออย่างจริงจัง
หานเซิ่นอ่านไฟล์เอกสาร ซึ่งมีจำนวนหน้าที่มากอย่างน่าประหลาดใจ โชคดีที่มันถูกเขียนเอาไว้ด้วยภาษาสากลของจักรวาลจีโน ดังนั้นหานเซิ่นจึงอ่านมันได้
“นางนั่น อย่าให้ข้าเจอนางนะ ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่านาง…” แค่บรรทัดแรกก็ทำให้หานเซิ่นผิดหวังแล้ว
หานเซิ่นคิดว่าเอกสารนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่ไป๋อี้เขียนลงไปขณะที่เขามีความต้องการทางเพศ หานเซิ่นคิดว่ามันจะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงเท่านั้น
หลังจากที่อ่านไปได้สักพัก หานเซิ่นก็เปลี่ยนใจ ความคิดของนั้นไม่ถือว่าผิดซะทีเดียว มันเกี่ยวข้องกับผู้หญิงจริงๆ ผู้หญิงคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง มันเป็นผู้หญิงที่ไป๋อี้ไม่สามารถหยุดพูดถึงได้ เกือบจะทุกบรรทัดเป็นการคร่ำครวญด้วยความโกรธ เขาเขียนระบายลงไปในนี้เพราะว่าไม่มีใครที่เขาจะระบายความในใจด้วยได้
นอกจากคำพูดที่แย่ๆแล้ว มันมีข้อมูลที่สำคัญปะปนอยู่ภายในไฟล์เอกสารด้วยเช่นกัน
เขาพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง ไป๋อี้ไม่ได้เขียนชื่อของเธอเอาไว้ แต่มันไม่ใช่บางสิ่งที่เขาพยายามจะปิดบัง มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเดาว่าผู้หญิงคนนั้นก็คือองค์หญิงของเผ่าไซเรน
เมื่อดูจากการคร่ำครวญของไป๋อี้ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นองค์หญิงด้วยการตกลงบางอย่าง
ผู้หญิงคนนั้นจำเป็นต้องมีฐานะขององค์หญิงเพื่อความปลอดภัย และคนของเธอก็ต้องการจะมีที่หลบภัยภายในดินแดนของเอ็กซ์ตรีมคิง ไป๋อี้เองก็ต้องการบางสิ่งเช่นกัน เขาต้องการบางสิ่งจากผู้หญิงคนนั้น
ในการคร่ำครวญของไป๋อี้ สิ่งของศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งถูกพูดถึงซ้ำๆหลายครั้ง หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาแน่ใจว่าสิ่งของศักดิ์สิทธิ์นั้นคือส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างพวกเขา แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มอบมันมา มันไม่ใช่ว่าข้อตกลงถูกยกเลิก แต่ดูเหมือนว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นและทำให้ไป๋อี้ไม่สามารถเอามันมาได้
จากคำพูดในไฟล์เอกสาร หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่าไป๋อี้เป็นผู้ชายที่บ้ากาม แต่เขาก็สามารถบอกได้อีกว่าสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ที่เขาแสวงหานั้นมีความสำคัญกว่าผู้หญิงคนนั้น ไป๋อี้ใช้เวลาพูดถึงสิ่งนั้นมากกว่าที่เขาพูดถึงองค์หญิง มันเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการสิ่งนั่นเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งที่หานเซิ่นพบส่วนใหญ่เป็นคำกล่าวหาและคำสาปแช่ง มันไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนอะไร หานเซิ่นไม่รู้ว่าข้อตกลงนั้นคืออะไร และทำไมไป๋อี้ถึงเอาสิ่งนั้นมาไม่ได้
“ถึงเราจะรู้ถึงความลับระหว่างไป๋อี้และองค์หญิง มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เราอยู่ที่นี่ไปตลอดไม่ได้ และเราก็ไปมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนของไป๋อี้มากเกินไปไม่ได้ ต่อหน้าพวกเขาตัวตนของเราอาจจะถูกเปิดโปงได้ง่ายๆ” หานเซิ่นไม่คิดว่านี่คือข้อมูลที่กุนซือไวท์ต้องการให้เขาหา
หานเซิ่นค้นหาไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของไป๋อี้ต่ออีกสักพัก แต่มันก็ไม่มีอะไร นอกจากรูปภาพ18+กับวิดีโอเพศสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง
แต่หานเซิ่นก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่ค่อนข้างแปลก เขาเลิกสนใจผู้หญิงในวิดีโอและหันความสนใจไปที่ผู้ชาย ผู้ชายในวิดีโอดูเหมือนจะเป็นเพื่อนๆของไป๋อี้ พวกเขาต้องเป็นเพื่อนสนิทของไป๋อี้ไม่ผิดแน่
พวกเขาต้องมีฐานะที่สูงพอสมควร พวกเขาถึงทำแบบนี้ซ้ำๆได้ หานเซิ่นพยายามจดจำใบหน้าของพวกเขาเอาไว้ โดยหวังว่ามันจะมีประโยชน์ในอนาคตข้างหน้า
ใบหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียว เมื่อเขาค้นพบความชอบทางเพศของไป๋อี้ มันเป็นวิดีโอของผู้หญิงสูงวัย ภาพของพวกมันทำให้หานเซิ่นอยากจะอ้วก
“หมอนี่มันโรคจิต ตราบใดที่อีกฝ่ายถูกรับรองว่าเป็นผู้หญิง แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว!” หานเซิ่นบ่น เขาไม่ต้องการจะดูอะไรอย่างนี้อีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้นก็มีข้อความปรากฏขึ้นบนคอมพิวเตอร์ หานเซิ่นรีบเปิดอ่านมัน
“จดจำทุกรายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดยิบย่อย แต่พวกมันเป็นแค่ข้อสังเกตของข้าต่อไป๋อี้ ข้าไม่รู้ความลับของเขา ดังนั้นเจ้าต้องปฏิบัติตัวอย่างระมัดระวัง อย่าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจ้า และคอยระวังราชาไป๋ ราชครูและองค์หญิงของไซเรนเอาไว้ พวกเขาเป็นคนที่มีโอกาสสูงที่จะมองออกว่าเจ้าไม่ใช่ไป๋อี้ ระวังตัวให้มากและทำตัวให้เหมือนไป๋อี้ตลอดเวลา เจ้ากำลังอยู่ในอันตราย เจ้าอาจจะถูกเปิดโปงได้ทุกเมื่อ ถ้าเจ้าถูกจับตัวได้ที่นี่ เจ้าก็ต้องตายและไม่มีใครจะช่วยเจ้าได้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ช่วยเหลือเจ้าไม่ได้ เจ้ามีเวลาไม่มากที่จะฝึกมัน แต่ข้ามีวิชาจีโนที่จะช่วยให้เจ้าเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองชั่วคราว ทำให้ดูเหมือนว่าเจ้าค่อยๆเปลี่ยนกลับไปเป็นไป๋อี้อีกครั้ง”
มันไม่มีชื่อเขียนเอาไว้ แต่หานเซิ่นรู้ว่ามันมาจากกุนซือไวท์
ย่อหน้าที่ตามมานั้นยาวเหยียด มันพูดถึงความสัมพันธ์ของไป๋อี้และสิ่งที่ไป๋อี้ชอบรวมถึงนิสัย มันมีรายละเอียดอยู่เยอะมาก และมันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
“องค์ชาย! แย่แล้ว!” ขณะที่หานเซิ่นกำลังอ่านข้อมูล จู่ๆลิลลี่ก็ตะโกนขึ้นมา