‘เราควรจะฆ่าเธอดีไหมนะ?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
พลังของเชอร์นั้นแข็งแกร่งกว่าที่หานเซิ่นคาดคิด พลังน้ำแข็งของเขาไม่ได้ผลกับเธอเท่าไหร่นัก และเมื่อหานเซิ่นเห็นว่าเชอร์กำลังจะหลุดมาจากน้ำแข็งแล้ว เขาก็รู้ว่าถ้าเธอหนีไปได้มันจะทำให้ตัวตนที่แท้จริงของเขาถูกเปิดเผย
แต่การฆ่าเชอร์ก็ไม่ได้ทำให้เขาน่าสงสัยน้อยลงไปเช่นกัน
ที่นี่คือเมืองไนท์ชาร์ม มันไม่ใช่สถานที่ที่ผู้คนจะฆ่าฟันกันเพื่อทรัพยากรเหมือนอย่างในพิมานของอัศวิน ในเมืองแห่งนี้ผู้คนจำเป็นต้องทำตามกฎหมายของเอ็กซ์ตรีมคิง แม้แต่องค์ชายก็ไม่สามารถฆ่าคนอื่นตามใจชอบได้
ตอนนี้เชอร์ทั้งโกรธและกลัว เธอมั่นใจเต็มเปี่ยมว่ามนต์สะกดของเธอได้ผลกับหานเซิ่น ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ระวังตัว
โชคดีที่พลังของเธอเองเป็นอะไรที่น่าประทับใจ เธอแข็งแกร่งยิ่งกว่าไป๋อี้และเธอก็มีความต้านทานต่อน้ำแข็งที่สูง
เมื่อเห็นว่าเชอร์กำลังจะหนีจากน้ำแข็งได้ หานเซิ่นก็เอนตัวไปใกล้ๆเธอและกระซิบ
“เชอร์ เจ้าจำราชินีจิ้งจอกได้ไหม?”
เมื่อเชอร์ได้ยินแบบนั้น เธอก็ตกตะลึงไป แต่ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็กลับมาเป็นปกติและพยายามจะต่อสู้เพื่ออิสระภาพอีกครั้ง ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรที่หานเซิ่นเพิ่งจะถามเธอ
หานเซิ่นรู้ว่าสายลมกำลังพัดไปทางไหน ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นมา
“ข้าเป็นคนสนิทของราชินีจิ้งจอก ถ้าคำกล่าวอ้างนั่นไม่เป็นจริง เจ้าก็รู้ว่าข้าคงจะตายไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเจ้าควรจะเงียบและตั้งใจฟังให้ดี ถ้าบางสิ่งเกิดขึ้นกับข้า บางสิ่งก็จะเกิดขึ้นกับราชินีจิ้งจอกเช่นกัน”
“ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย?” เชอร์ทำลายน้ำแข็งชั้นสุดท้ายได้แล้ว แต่เธอไม่ได้พยายามขัดขืนหลังจากที่เธอเป็นอิสระแล้ว
หานเซิ่นเอนตัวลงไปและกระซิบ “เรดสลีฟ”
เชอร์อ้าปากค้าง มันเห็นได้ชัดว่าเธอเองก็รู้ว่าเรดสลีฟคือราชินีจิ้งจอก
ตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกปลอดภัยขึ้นมา เขาพูดต่อ “ต้องขอโทษด้วยที่ต้องทำแบบนี้ แต่ข้าแน่ใจว่าเจ้าคงจะเข้าใจสถานการณ์ของข้า เจ้าช่วยบอกข้าได้ไหมว่าข้าจะรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้ยังไง?”
“เจ้าคือหานเซิ่น?” เชอร์ไม่ได้โง่ จิ้งจอกเปลี่ยนร่างส่วนใหญ่นั้นชาญฉลาด เธอรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เธอคิดว่ามันยากจะเชื่อได้
หานเซิ่นเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง ไม่เพียงแค่รีเทิร์นทูออริจินของไป๋อี้จะไม่ได้ผลแล้ว เขายังถูกหานเซิ่นฆ่าตาย หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ยังสวมรอยเป็นองค์ชายไป๋อี้อีก ความกล้าของเขาเป็นอะไรที่บ้ามาก
หานเซิ่นรู้ว่าไม่สามารถปกปิดความจริงได้อีกต่อไป แต่นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของสถานการณ์ในขณะนี้
ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่รู้ความลับของกันและกัน หานเซิ่นรู้ว่าเชอร์จะไม่ขายเขานอกจากว่ามันจะจำเป็นจริงๆ
หานเซิ่นยิ้มให้กับเชอร์
อารมณ์หลายอย่างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเชอร์ หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็กันฟันและพูด
“รอข้าอยู่บนเตียง ข้าจะไปเรียกผู้หญิงเผ่าหมูมา”
“อย่าแม้แต่จะคิด ถ้าข้ายินดีจะทำแบบนั้น ข้าจะเปิดเผยตัวเองไปทำไม?”
หานเซิ่นยังคงกดเชอร์ลงบนเตียงเพื่อไม่ให้เธอขยับเขยื้อน
เชอร์หน้าแดงและพูด “ถ้าข้าไม่ไปทำแบบนั้น ไป๋หลิงซวงจะจับสังเกตได้ อย่าได้กังวล ข้าจะใช้วิชาจีโนเพื่อควบคุมผู้หญิงเผ่าหมูคนนั้น สวมเสื้อผ้าของเจ้าและรอข้าอยู่ที่นี่ อย่าได้ออกไปจากเตียงเป็นอันขาด มีเพียงแค่ตรงเตียงที่ไม่ถูกจับภาพโดยกล้องวงจรปิด”
“โอเค ในครั้งนี้ข้าจะยอมเชื่อคำพูดของเจ้า” หานเซิ่นกลิ้งออกไปอีกข้างหนึ่งของเตียงและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ทีละชิ้นๆ
เชอร์ชำเลืองมองหานเซิ่นก่อนที่จะเดินออกไป
ในขณะที่หานเซิ่นสวมใส่เสื้อผ้า เขาก็ครุ่นคิด เมื่อเชอร์กลับมา เธอก็พาบางคนที่สูง 3 เมตรและเอวกว้าง 8 ฟุตเข้ามา มันเป็นหมูจริงๆ
แต่มันดูเหมือนว่าผู้หญิงเผ่าหมูนั้นกำลังตกอยู่ภายใต้มนต์สะกด ดวงตาของเธอดูเบื่อหน่าย เธอนอนลงบนเตียงและเริ่มส่งเสียงร้องออกมา
เชอร์มองไปที่หานเซิ่นและพูด “เพื่อทำให้มันดูสมจริง เจ้าเองก็จำเป็นต้องส่งเสียงเช่นกัน”
ไม่นานหลังจากนั้นเชอร์ก็พาผู้หญิงเผ่าหมูออกไป เธอกลับมาและนอนลงข้างๆหานเซิ่นโดยสวมใส่แค่เสื้อคลุมอาบน้ำ
“เจ้าปลอมตัวเป็นองค์ชายสิบหกได้ยังไง?” เชอร์ถามขณะที่นอนมองไปที่หานเซิ่น
“นั่นไม่ใช่เรื่องยากอะไร ว่าแต่เจ้าล่ะ? เจ้ายังสาวอยู่ แต่เจ้าต้องถูกห้อมล้อมไปด้วยยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิง ชีวิตของเจ้าคงจะเป็นอะไรที่ยากลำบาก” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าช่วยแสดงความจริงใจหน่อยได้ไหม? ข้าเพิ่งจะช่วยช่วยเจ้า ถ้าข้าไม่ช่วย เจ้ากับผู้หญิงเผ่าหมูคนนั้นก็คงจะต้อง…”
เมื่อเชอร์รู้สึกตัวถึงสิ่งที่พูด เธอก็หน้าแดงและหยุดพูดไป
“จากจิ้งจอกเปลี่ยนร่างทั้งหมดที่ข้าเคยพบ เจ้าเป็นคนที่ไร้ยางอายน้อยที่สุด เจ้าดูเป็นคนที่บริสุทธิ์มาก แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็เลื่อนขั้นถึงระดับราชันได้สำเร็จ เจ้าคงจะต้องเมื่อชื่อเสียงมากในหมู่จิ้งจอกเปลี่ยนร่าง”
เชอร์ยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยด้วยความเย้ยหยัน “พยายามจะล้วงข้อมูลจากข้าอย่างนั้นหรอ? เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว”
“พวกเราแค่ทำการแลกเปลี่ยนกัน เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” หานเซิ่นไอกลบเกลื่อน
หานเซิ่นรู้สึกสนใจในแผนการลับของราชินีจิ้งจอก ถ้าผู้หญิงอย่างราชินีจิ้งจอกยอมปลอมตัวเป็นองครักษ์คนหนึ่งเพื่อแฝงตัวเข้ามา มันก็ต้องมีเรื่องใหญ่บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
หานเซิ่นคิดจะล้วงเอาข้อมูลจากเชอร์ เธอดูบริสุทธิ์ซะจนดูเหมือนคนที่ขาดประสบการณ์ แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่ฉลาดพอที่จะมองเขาออก
เชอร์ขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆกับหานเซิ่น มันใกล้ซะจนพวกเขาสามารถรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
“นี่เจ้ากำลังทำอะไร? ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อนว่าข้าเป็นคนมีมาตรฐาน” หานเซิ่นพูดพร้อมกับกระพริบตา
“เจ้าคือหานเซิ่นจริงๆอย่างนั้นหรอ?” เชอร์ถามอย่างสงสัย
“พวกเรากำลังนอนร่วมกัน แต่เจ้ายังถามเรื่องนั้นอีกอย่างนั้นหรอ? นั่นทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวด” หานเซิ่นยักไหล่เล็กน้อย
ดวงตาของเชอร์ดูเหมือนกับดวงจันทร์ เธอยิ้มและพูด “ข้าคิดว่าพวกเราจิ้งจอกเปลี่ยนร่างเก่งกาจเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวตน แต่เจ้าคงจะยอดเยี่ยมยิ่งกว่า เจ้าปลอมตัวเป็นถึงองค์ชายสิบหกของเอ็กซ์ตรีมคิงและยังหลีกเลี่ยงการถูกจับได้สำเร็จ แม้แต่ราชินีจิ้งจอกก็ไม่มีความกล้าพอจะทำอย่างที่เจ้าทำ”
“ที่ข้าทำได้สำเร็จก็เพราะข้าเรียนรู้เคล็ดลับหลายอย่างมาจากราชินีจิ้งจอก” หานเซิ่นพูด
ดวงตาของเชอร์ดูเป็นประกาย “เจ้าใกล้ชิดกับนางอย่างนั้นหรอ?”
“ใกล้ชิดสิ ใกล้ชิดมากๆ ราชินีจิ้งจอกถึงขนาดที่ต้องการจะแต่งงานกับข้า แต่ข้าไม่ต้องการทำแบบนั้น” หานเซิ่นพูดเล่นๆ
เมื่อเชอร์ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง เธอไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของหานเซิ่น “โกหก”
“ข้าจะโกหกไปทำไม? ก้นของราชินีจิ้งจอกของเจ้ามี…” หานเซิ่นบรรยายถึงรายละเอียด
เชอร์มองหานเซิ่นราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด หลังจากนั้นสักพักเธอก็พูด “เจ้ากับราชินีจิ้งจอก… นั่น… นั่น…”
“ข้าทำให้นางผิดหวังในตอนที่ปฏิเสธคำขอแต่งงานของนาง”
หานเซิ่นถอนหายใจ “ในตอนนี้ข้าได้แต่พยายามช่วยเหลือนางและคลายความเสียใจของนาง ถ้าข้าทำแบบนั้น ข้าก็จะตายอย่างมีความสุข”
“เจ้าจะช่วยราชินีจิ้งจอกชิงสมบัติของพวกเราอย่างนั้นหรอ?” เชอร์รู้สึกซึ้งขณะที่พูดออกมา
หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจอย่างมาก เชอร์เป็นคนที่รับมือง่ายกว่าจิ้งจอกเปลี่ยนร่างคนอื่นมาก ถึงเธอจะเป็นระดับราชันและเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่เธอก็ไม่ได้มีประสบการณ์มากนัก