ในช่องว่างสี่เหลี่ยมที่เปิดออกมีกล่องไม้ขนาดพอๆกับลูกฟุตบอลอยู่ หานเซิ่นหยิบกล่องนั้นออกมาและรูปปั้นก็กลับสู่สภาพเดิม
หานเซิ่นกลับไปนั่งตรงหน้ารูปปั้นและพบว่าไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของรูปปั้น ดูเหมือนว่ารูปปั้นจะกลายเป็นแค่รูปปั้นธรรมดาๆแล้ว มันไม่ได้มีความหมายอะไรซ่อนอยู่อีกและน้ำเต้าในมือรูปปั้นก็ไม่ได้มอบความรู้สึกที่คุ้นเคยอีกเช่นกัน
“รูปปั้นถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาได้แค่ครั้งเดียวจริงๆ” หานเซิ่นมองกล่องไม้และคิดกับตัวเอง ‘นี่คือสิ่งที่อัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงทิ้งเอาไว้ มันไม่มีทางเป็นอะไรที่ธรรมดาไปได้ มันต้องเป็นอาวุธระดับเทพเจ้าหรืออะไรทำนองนั้น’
กล่องนั้นไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้ และเมื่อหานเซิ่นเปิดมันออก เขาก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็น
กล่องไม้บรรจุน้ำเต้าหยกที่มีขนาดพอๆกับมือเอาไว้ภายใน มันดูเหมือนกับคริสตัลสีเขียว คริสตัลดูโปร่งใส แต่หานเซิ่นมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน
“น้ำเต้าหยกนี้คงจะถูกแกะสลักขึ้นมา มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต บางทีมันอาจจะเป็นขวดที่รูปร่างเหมือนน้ำเต้า?”
หานเซิ่นหยิบน้ำเต้าหยกออกมาจากกล่อง แต่ผิวของน้ำเต้าเป็นเนื้อเดียวทั้งอัน มันไม่มีรูหรือรอยต่ออะไร
หานเซิ่นสัมผัสรอบๆผิวน้ำเต้าหยก และเมื่อเขาสัมผัสที่ก้นของมัน นิ้วมือของเขาก็พบผิวที่ขรุขระ บริเวณก้นที่เรียบของน้ำเต้ามีตัวอักษรสลักเอาไว้
“สำหรับผู้นำของเซเคร็ดเท่านั้น” หานเซิ่นรู้สึกตกใจหลังจากที่ได้อ่านตัวอักษรที่สลักเอาไว้
เท่าที่หานเซิ่นรู้เซเคร็ดมีผู้นำแค่คนเดียว และสิ่งนี้ก็เป็นสมบัติที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิง มันไม่มีทางเป็นสิ่งของที่ไร้ชื่อหรือไร้ความหมายไปได้
‘นี่หมายความว่าอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงเกี่ยวข้องกับผู้นำของเซเคร็ดอย่างนั้นหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงถึงได้มีของของผู้นำเซเคร็ด? หรือบางทีอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงอาจจะได้รับมันมาภายหลังจากที่ผู้นำของเซเคร็ดตายไปแล้ว’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
หานเซิ่นพลิกน้ำเต้าหยกไปมาในมือเพื่อศึกษามัน แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันทำมาจากอะไร
“ช่างเถอะ เก็บมันติดตัวไปก็แล้วกัน” หานเซิ่นเก็บน้ำเต้าหยกไป หลังจากนั้นเขาก็ยกกล่องไม้ขึ้นมาและเดินออกจากพาวิลเลี่ยน
หานเซิ่นรู้ว่าตอนนี้ผู้คนมากมายกำลังจับจ้องมาที่พาวิลเลี่ยน แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องเดินออกมา เขาไม่สามารถอยู่ในนั้นไปตลอดได้ และเขาก็ต้องออกจากพาวิลเลี่ยนในที่สุด
ถึงแม้เขาจะผ่านอะไรมามากมาย แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แม้แต่หานเซิ่นเองก็ค่อนข้างกังวล ตอนนี้เขาไม่มั่นใจว่าหลีกเลี่ยงการถูกเปิดโปงได้เมื่อทุกสายตาจับจ้องมาที่เขา
“ไป๋อี้! เขาก็คือคนที่…?” เมื่อหานเซิ่นเดินออกมาจากพาวิลเลี่ยน ยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิงต่างก็ประหลาดใจอย่างมาก
ผู้คนชั้นสูงหลายคนรู้ข่าวที่ไป๋อี้นั้นใช้รีเทิร์นทูออริจินใส่หานเซิ่น ตอนนี้คนที่ไม่รู้ว่าไป๋อี้ดูเหมือนกับหานเซิ่นคือคนไม่กี่คนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร
แต่ถึงพวกเขาจะรู้ว่าคนที่ออกมาคือไป๋อี้ พวกเขาก็ยังตกตะลึงอยู่ดี ราชาไป๋และกู่เยวียนเองก็แปลกใจเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าไป๋อี้จะเป็นคนที่เข้าใจรูปปั้นของอัลฟ่าได้สำเร็จ
“นั่นเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยากจริงๆ” ราชาไป๋พูดขณะที่มองไปที่หานเซิ่น
กู่เยวียนมองไปที่หานเซิ่น หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมาหาราชาไป๋
“โชคดีจริงๆ ขอแสดงความยินดีต่อฝ่าบาทด้วย”
“โชดไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมัน” ราชาไป๋พูด
ยอดฝีมือคนอื่นตกใจยิ่งกว่าราชาไป๋ซะอีก เมื่อไป๋เวยเห็นหานเซิ่นเดินออกมา เธอก็มีสีหน้าที่ซับซ้อน
ใบหน้าของไป๋หลิงซวงกำลังบิดเบี้ยวและเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เมื่อคุณหญิงมิร์เรอร์มองเห็นหานเซิ่นเดินออกมา เธอก็ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด
มันเป็นเหมือนกับปาฏิหาริย์ ไม่มีใครคาดคิดว่าองค์ชายสิบหก ไป๋อี้จะเป็นคนที่เข้าใจรูปปั้นของอัลฟ่าได้สำเร็จ ผู้คนของเอ็กซ์ตรีมคิงจะจดจำวันนี้ไปตลอดการ
รูปปั้นของอัลฟ่านั้นอยู่ในพาวิลเลี่ยนมานานกว่าพันล้านปี และมันไม่เคยมีใครเข้าใจถึงรูปปั้นนั้นได้ แต่องค์ชายสิบหกไป๋อี้ที่เป็นคนที่มีชื่อเสียงย่ำแย่กลับเข้าใจและปลุกรูปปั้นให้ตื่นขึ้นมาได้สำเร็จ มันทำให้ทุกคนตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อหานเซิ่นขี่กิเลนโลหิตกลับไปที่ดาววอเทอร์โซน แม้แต่องค์หญิงหลันไห่ซินก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขาจากบนปราสาท
หลันไห่ซินไม่เข้าใจว่าไป๋อี้สามารถปลุกรูปปั้นอัลฟ่าของเอ็กซ์ตรีมคิงให้ตื่นขึ้นมาได้ยังไง เธอคิดว่ามันเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อได้
หานเซิ่นกลับไปที่กระท่อมน้อยและปิดประตู หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเล่นกับน้ำเต้าหยกที่ได้มา นอกจากตัวอักษรที่บอกว่าสำหรับผู้นำของเซเคร็ดแล้ว มันก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่พิเศษ หานเซิ่นไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังพิเศษอะไรที่อยู่ภายใน ถึงแม้เขาจะพยายามมองหาอย่างละเอียดเท่าที่จะทำได้แล้ว
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงมองดูมันและพบว่ามันไม่มีอะไร แต่นั่นก็พิสูจน์ว่าน้ำเต้าหยกนี้ไม่ปกติ
‘น่าเสียดายที่เป่าเอ๋อถูกหลันไห่ซินพาตัวไป มันจะเป็นอะไรที่ดีมากถ้าเธออยู่ที่นี่ด้วย น้ำเต้าของรูปปั้นดูเหมือนกับเป่าเออ บางทีน้ำเต้าหยกนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเธอจริงๆ’ หานเซิ่นครุ่นคิด
“พ่อ!” ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิด เป่าเอ๋อก็วิ่งเข้ามาหาเขาขณะที่ถือของอยู่เต็มมือ
“เป่าเอ๋อ ทำไมหนูถึงกลับมา?” หานเซิ่นตกใจ เป่าเอ๋อถืออาหารอยู่เป็นจำนวนมาก และพวกมันทั้งหมดก็ดูไม่ใช่ของถูกๆ เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ก็ดูหรูหรามากเช่นกัน และพวกมันก็ดูจะเป็นชุดของเผ่าไซเรน
“หนูคิดถึงพ่อ!” เป่าเอ๋อกระโดดกอดหานเซิ่นและถูหน้าของเธอกับของหานเซิ่น
“พ่อก็คิดถึงเป่าเอ๋อเหมือนกัน แต่นี่คนของหลันไห่ซินเห็นหนูแอบออกมาหรือเปล่า?” หานเซิ่นหวังว่าเป่าเอ๋อจะล้วงความลับอะไรบางอย่างได้ขณะที่เขาไม่อยู่
“พ่อไม่ต้องกังวล ไม่มีใครเห็นหนู”
เป่าเอ๋อส่งอาหารให้กับหานเซิ่น “พ่อคงจะได้กินแต่อาหารแย่ๆขณะที่อยู่คนเดียว”
“ดี! หนูเป็นเด็กดีมากๆ เป่าเอ๋อเป็นลูกสาวที่ดีของพ่อ”
หานเซิ่นรับอาหารมาและเริ่มกินพวกมัน เขาส่งน้ำเต้าหยกให้กับเป่าเอ๋อด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เป่าเอ๋อ หนูรู้ไหมว่าสิ่งนี้คืออะไร?”
เป่าเอ๋อรับน้ำเต้าหยกไปและเขย่ามัน หลังจากนั้นเธอก็พลิกมันกลับหัวและมีบางสิ่งที่เหมือนกับน้ำก็ไหลออกมาจากน้ำเต้าหยก
ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าน้ำเต้าหยกนั้นข้างในตัน เขาไม่รู้สึกตัวเลยว่ามันมีบางสิ่งซ่อนอยู่ภายในด้วย
ของเหลวที่ออกมาจากน้ำเต้าหยกดูเหมือนกับน้ำ แต่พวกมันไม่ใช่น้ำ เมื่อของเหลวนั้นไหลออกมา พวกมันไม่ได้ตกลงไปบนพื้น แต่พวกมันลอยตัวอยู่ในอากาศเหมือนกับแฟรี่ และแทนที่จะแยกเป็นหยดๆน้ำกลับรวมอยู่ด้วยกันเป็นจุดเดียว มันดูคล้ายคลึงกับหานเซิ่นที่ใช้ร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์
“นี่คืออะไร?” หานเซิ่นยังคงรู้สึกแปลกใจ
“ช่วยพ่ออาบน้ำ” เป่าเอ๋อสั่งแฟรี่น้ำขณะที่ถือน้ำเต้าอยู่ในมือ
แฟรี่น้ำลอยมาหาหานเซิ่นและถอดเสื้อผ้าของเขา หลังจากนั้นเธอก็หมุนนิ้วมือเป็นเกลียวและน้ำลมปราณก็ห่อหุ้มทั้งร่างกายของหานเซิ่น มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ