Super God Gene – ตอนที่ 2342

“อย่าทำแบบนี้! ข้าต้องการคิงอีซแค่ 2 ตัว ไม่สิ แค่ตัวเดียวก็พอ พวกเจ้าทำแบบนั้นได้ไหม?” หานเซิ่นรู้สึกว่าระบบประสาทที่บอบบางของเขาไม่สามารถทนต่อการทรมานนี้ได้อีกต่อไป

 

นี่เป็นอะไรที่ทดสอบการทำงานของหัวใจของเขา โชคดีที่เขาไม่ได้มีโรคหัวใจอะไร ไม่อย่างนั้นนี่ก็คงจะทำให้เขาหัวใจวายไปแล้ว

 

สัญลักษณ์คิงอีซฝูงใหญ่ร่วงลงมาจากต้นไม้ มันเป็นอะไรที่ยากจะอธิบายได้ พวกมันเป็นเหมือนกับฝนดาวตกสีทอง มันเหมือนกับว่ากำลังมีลูกอ๊อดสีทองจำนวนมากแห่กันเข้าไปหาหานเซิ่น

 

ดวงตาขวาของหานเซิ่นเรืองแสงขึ้นมา 4 ตาดำของวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเริ่มหมุนวนขณะที่มองคิงอีซบนท้องฟ้า

 

มันมีสัญลักษณ์คิงอีซอยู่เป็นจำนวนมาก และถ้าพวกมันเข้าไปในร่างกายของเขาทั้งหมด หานเซิ่นก็คิดว่าร่างกายของเขาอาจจะระเบิด

 

มันไม่สำคัญว่าหอยเป๋าฮื้อจะอร่อยสักแค่ไหน เขาจะท้องแตกตายอยู่ดี ถ้าเขากินพวกมันมากเกินไป ด้วยสัญลักษณ์คิงอีซมากมายที่ร่วงลงมาจากต้นไม้พร้อมๆกัน มันจะไม่ใช่แค่ท้องของเขาเท่านั้นที่จะแตก ทั้งร่างของเขาจะต้องระเบิดอย่างแน่นอน

 

ด้วยการใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วง หานเซิ่นเห็นว่าแต่ละสัญลักษณ์คิงอีซประกอบด้วยห่วงโซ่สสารลึกลับอย่างหนึ่ง

 

แต่ละคิงอีซมีพลังงานของธาตุๆหนึ่งที่ประกอบเป็นห่วงโซ่สสารของพวกมัน มันไม่ได้มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตัวสัญลักษณ์คิงอีซที่ร่วงลงมา

 

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็อึ้งไป เขาสังเกตเห็นบางสิ่งที่ไม่ปกติ และทำให้หัวใจของเขาเกือบจะหยุดเต้น

 

นอกจากอักษรจีตัวแรกแล้ว คิงอีซตัวอื่นร่วงลงมาด้วยความเร็วที่แตกต่างกันออกไป

 

เมื่อดูจากความเร็วที่พวกมันร่วงลงมาแล้ว มันจะเริ่มด้วยตัวอักษรจี หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น

 

“เรื่องราว… ของ… ยีน…” หานเซิ่นอ่านคิงอีซที่ร่วงลงมาตามลำดับ อักษร 4 ตัวแรกสามารถอ่านได้ว่า‘เรื่องราวของยีน’

 

“นั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นไม่คิดว่าเรื่องบังเอิญแบบนี้จะเป็นไปได้

 

มันมีหลายสิ่งในโลกที่ดูเหมือนกับเรื่องบังเอิญ แต่เรื่องบังเอิญจริงๆแล้วสัมพันธ์กัน แต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีข้อมูลพอที่จะเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างมั่วๆได้

 

หานเซิ่นอยากจะมองดูมากกว่านั้น แต่มันสายเกินไปแล้ว ตัวอักษรจีร่วงลงบนหน้าผากและกำลังผสานเข้าไปในตัวของเขา

 

บางสิ่งที่อัดแน่นเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น มันเหมือนกับว่าความโกรธภายในตัวของหานเซิ่นถูกขจัดไปจนหมดสิ้น มันเหมือนกับว่าเขาถูกควบแน่นมาเป็นเวลากว่าล้านปี และตอนนี้ร่างกายเขาก็ดูอัดแน่นมากๆ

 

สัญลักษณ์คิงอีซทั้งหมดพุ่งเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น และเพราะพวกมันมีกันอยู่มากเกินไป พวกมันส่วนใหญ่จึงไม่สามารถเข้าไปในร่างกายของเขาผ่านทางหน้าผากได้ พวกมันจึงพุ่งเข้าจากส่วนอื่นๆตามร่างกายของหานเซิ่นแทน

 

เหล่าสัญลักษณ์คิงอีซเป็นเหมือนกับฝนดาวตก และพวกมันก็พุ่งตรงเข้าไปที่หานเซิ่น ตัวตนของเขาจึงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากคิงอีซเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างไม่หยุด

 

ขณะที่หานเซิ่นจมอยู่ภายใต้สัญลักษณ์คิงอีซที่เจิดจ้า คนอื่นๆเงียบสนิท ทุกคนจ้องมองหานเซิ่นที่อยู่ใต้ต้นไม้กษัตริย์ พวกเขาเห็นเหล่าคิงอีซทั้งหมดแย่งกันเข้าไปในร่างกายของหานเซิ่น

 

เนื่องจากทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนตัวแข็งทื่อไปขณะที่พวกเขากำลังหัวเราะ ซึ่งมันทำให้พวกเขาดูแปลกมากๆ

 

คุณหญิงมิร์เรอร์เองก็ตัวแข็งทื่อไปเช่นเดียวกัน ท่าทางที่สง่างามของเธอหายไปจนหมด และริมฝีปากสีแดงของเธอก็เปิดกว้าง เธอพูดอะไรไม่ออก

 

เธอบริหารจัดการสปริงเรนมาหลายปี เธอได้ทำงานหลายอย่างให้กับราชาไป๋ นั่นหมายความว่าสปริงเรนอาจเป็นทั้งกลุ่มนักฆ่าหรือคณะโจรสลัดขึ้นอยู่กับว่าจะมองจากมุมไหน

 

คุณหญิงมิร์เรอร์ได้เห็นสิ่งแปลกต่างๆนาๆในช่วงชีวิต แต่นี่ทำให้เธอรู้สึกตกใจมากที่สุด มันทำให้เธอเสียความสำรวมไป

 

ตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเอ็กซ์ตรีมคิง ตั้งแต่ที่ต้นไม้กษัตริย์ถูกค้นพบ มันไม่เคยมีใครเห็นคิงอีซร่วงลงมาแบบนี้มาก่อน

 

ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเอ็กซ์ตรีมมีกษัตริย์มากกว่า 70 องค์และองค์ชายองค์หญิงที่มีพรสวรรค์นับไม่ถ้วน ในอดีตองค์ชายที่ได้รับคิงอีซมากที่สุดนั้นได้รับพวกมันเพียงแค่หนึ่งร้อยตัวเท่านั้น มันไม่เคยมีใครที่ได้รับมากไปกว่านั้น

 

แต่เมื่อเทียบกับองค์ชายคนนั้นกับไป๋อี้ เขาดูไม่เท่าไหร่เลย ในตอนนี้มันมีคิงอีซมากมายกำลังร่วงลงมาจากต้นไม้ มันมากมายเกินกว่าจะนับได้ มันมีตัวอักษรร่วงลงมาเป็นหมื่นๆตัว

หานเซิ่นตกตะลึง เมื่อสัญลักษณ์คิงอีซทั้งหมดพุ่งเข้ามาใส่ร่างของเขา วิชาเรื่องราวของยีนของเขาก็เริ่มทำงานอย่างบ้าคลั่ง

 

แต่เดิมเรื่องราวของยีนเป็นเหมือนกับรถสปอร์ตที่น้ำมันหมด แต่เมื่อคิงอีซเข้าไปในร่างกายของเขา เรื่องราวของยีนก็มีปฏิกิริยาเหมือนกับว่ามันถูกเติมด้วยน้ำมันคุณภาพสูง เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มกำลังและส่งเสียงดังน่ากลัวออกมา

 

แม้แต่พลังโกสต์โบนที่อยู่ภายในร่างกายของหานเซิ่นก็ถูกสกัด มันเป็นเชื้อเพลิงที่ผลักดันเรื่องราวของยีนไปข้างหน้า

 

ความคืบหน้าของวิชาเรื่องราวของยีนที่ก่อนหน้านี้เป็นไปอย่างช้าๆ แต่ในตอนนี้มันก้าวหน้าด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ มันจะกำลังวิวัฒนาการสู่ระดับดยุกในคราวเดียว

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกับที่เขารู้สึกดีใจ

 

เขาดีใจที่เรื่องราวของยีนกำลังเลื่อนสู่ระดับดยุก ถึงแม้เขาจะไม่มั่นใจว่ามันคืบหน้าอย่างรวดเร็วได้ยังไงก็ตาม ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในร่างกายของหานเซิ่น และคนปกติไม่สามารถสังเกตเห็นเรื่องนั้นได้ แต่มันมียอดฝีมืออยู่ภายในเอ็กซ์ตรีมคิงมากเกินไป เขาไม่มั่นใจว่ามันจะไม่มีใครคนอื่นที่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา

 

หานเซิ่นพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดการทำงานของเรื่องราวของยีน เขาต้องการยับยั้งเรื่องราวของยีนเอาไว้ที่ระดับมาร์ควิส เพื่อที่เขาจะได้วิวัฒนาการสู่ระดับดยุกในภายหลังตอนที่ไม่มีใครอยู่

 

แต่มันเป็นอะไรที่เปล่าประโยชน์ ขณะที่คิงอีซหลั่งไหลเข้ามาในร่างกายของเขา วิชาเรื่องราวของยีนไม่สามารถหยุดได้ พวกมันขับเคลื่อนเขาราวกับรถสปอร์ตที่สูญเสียการควบคุมบนทางด่วน

 

“ช่างแม้ง! ถ้าหยุดมันไม่ได้ อย่างนั้นก็ผลักดันมันให้ถึงที่สุด!” หานเซิ่นตัดสินใจ เขากัดฟันและใช้วิชาเรื่องราวของยีนจนถึงขีดสุด

 

คิงอีซแต่ละตัวมีพลังงานมหาศาล ถ้าหานเซิ่นไม่ใช้พลังที่คิงอีซมอบให้เพื่อเพิ่มระดับวิชาเรื่องราวของยีน พลังเหล่านั้นก็จะระเบิดร่างกายของเขา

 

ในตอนนี้มันไม่มีทางให้หันกลับอีกแล้ว พลังงานของคิงอีซพยายามผลักดันเรื่องราวของยีนให้ไปไกลที่สุดและมันก็เลื่อนสู่ระดับดยุกจริงๆ

 

หานเซิ่นคิดว่านี่จะกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาและดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ

 

แต่หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะคิงอีซยังคงอยู่ภายในร่างกายของเขา พวกมันเปลี่ยนแปลงร่างกายของเป็นเหมือนกับภูเขา ทะเล ไฟ มังกรและนรก ทุกอย่างในโลกปรากฏในตัวของหานเซิ่นพร้อมกัน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset