กระสุนปกติจะเผชิญกับแรงต้านทานเมื่อยิงใต้น้ำ กระสุนนั้นจะเบาลงเรื่อยๆตามความไกลของระยะทางที่ยิงออกไป และในที่สุดหอยสังข์ก็สังเกตเห็นถึงการพุ่งเข้ามาของมัน
แต่หานเซิ่นมีอาณาเขตของร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์และวิญญาณอสูรมังกรปีกเงินอยู่ เขารวมเป็นหนึ่งเดียวกับทะเลของดาววอเทอร์โซน และเขาก็ใช้พลังน้ำสร้างกระสุนขึ้นมา ดังนั้นกระสุนที่ยิงออกไปจึงมีพลังธาตุน้ำอยู่ ซึ่งแทนที่กระสุนจะถูกชะลอความเร็วลงเมื่ออยู่ในน้ำ กระสุนนั้นกลับถูกเสริมพลังด้วยท้องทะเล มันพุ่งเข้าไปหาหอยสังข์อย่างเงียบเชียบราวกับเงามืด
แต่หานเซิ่นไม่ได้ยิงไปที่ตัวหอยสังข์ที่เผยตัวออกไป เขายิงไปที่เปลือกของมัน
ปัง!
กระสุนถูกเข้าที่เปลือกของหอยสังข์และเจาะทะลุผ่านเข้าไป หอยสังข์ตื่นตระหนกและรีบเปิดใช้งานแสงสีฟ้าของมัน แสงนั้นปกคลุมเปลือกของหอยสังข์เอาไว้
“เป็นอย่างที่คิด” หานเซิ่นดีใจ เขามองไปยังรูกระสุนและสังเกตเห็นว่าของเหลวสีขาวไหลออกมาจากรูนั้น ถึงแม้บาดแผลจะเล็กมากๆ แต่มันก็พิสูจน์ให้เห็นว่ากระสุนของเขาสามารถเจาะทะลุเปลือกหอยและสร้างความเสียหายให้กับหอยสังข์ที่อยู่ภายในได้
ตอนนี้หานเซิ่นมั่นใจแล้วว่ามันไม่ใช่เปลือกหอยที่แข็งแรง แต่แสงสีฟ้านั้นทำให้เปลือกหอยแข็งแกร่งขึ้น
กระสุนที่หานเซิ่นยิงออกไปอ่อนแอกว่าการโจมตีของกิเลนโลหิตมาก แต่ถึงอย่างนั้นกระสุนของเขาก็สามารถเจาะทะลวงเปลือกของเจ้าหอยสังข์ได้ ตอนนี้มันเห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะอาณาเขตแสงสีฟ้าของหอยสังข์ทะเล
หานเซิ่นยังคงซ่อนตัวอยู่ที่เดิมและยกปืนไรเฟิลขึ้นเพื่อเล็งไปที่หอยสังข์อีกครั้ง เขายิงออกไปอีกหลายครั้ง
แต่ไม่มีกระสุนไหนที่สามารถเจาะทะลวงเปลือกของหอยสังข์เข้าไปได้ เมื่ออยู่ภายใต้แสงสีฟ้าพวกมันก็ทำได้แค่ทิ้งรอยบางๆเอาไว้เท่านั้น
“เมื่อกระสุนผ่านเข้าไปในอาณาเขตแสงสีฟ้านั่น พวกมันไม่ได้สูญเสียความเร็วหรือพลัง แต่เมื่อพวกมันปะทะกับเปลือกของหอยสังข์ พวกมันไม่ได้สร้างแรงกระแทกอย่างที่ควรจะทำ” หานเซิ่นมองไปที่หอยสังข์ทะเลด้วยความสนใจ
หลังจากผ่านไปสักพัก รูกระสุนที่หานเซิ่นสร้างขึ้นก็หายไปอย่างสมบูรณ์ พลังในการรักษาของหอยสังข์นั้นไม่ธรรมดา
“ไม่แปลกใจเลยที่ไป๋อี้เหลือซีโน่เจเนอิคระดับราชันตัวนี้เอาไว้ เขาคงจะคิดหาวิธีฆ่ามันไม่ได้” หานเซิ่นหัวเราะ
เนื่องจากไป๋อี้ไม่สามารถฆ่ามันได้ นี่ก็ถือเป็นโอกาสดีสำหรับหานเซิ่น เขาและกิเลนโลหิตยังคงซ่อนตัวจากหอยสังข์ เขาตั้งใจจะฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับราชันตัวนี้ให้ได้
แต่หานเซิ่นยังไม่มีวิธีที่จะทำลายอาณาเขตแสงสีฟ้าของมันอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเขาจึงคิดจะรอจนกระทั่งเจ้าหอยสังข์ผ่อนคลาย
หอยสังข์เรียนรู้จากความผิดพลาดในก่อน ทำให้มันไม่เผยตัวออกมาง่ายๆ มันผ่านไปหลายชั่วโมงก่อนที่เจ้าหอยสังข์จะเผยตัวออกมาอีกครั้ง
แต่ทว่าครั้งนี้มันไม่ได้ปิดการใช้งานแสงสีฟ้า มันยังคงอาณาเขตแสงสีฟ้าเอาไว้ขณะที่เดินทางลึกเข้าไปในทะเล
หานเซิ่นคิดว่าเจ้าตัวนี้เชื่องช้า แต่มันวิ่งหนีอย่างเร็วราวกับกระต่าย หานเซิ่นมองดูภูเขาน้อยๆหนีลึกเข้าไปในทะเล
หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อจับตาดูเจ้าหอยสังข์เอาไว้ ขณะที่เขาไล่ตามมันไป
ตอนนี้เมื่อเจ้าหอยสังข์ได้รับความเสียหาย มันก็ระมัดระวังตัวอย่างมาก มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและคงอาณาเขตแห่งราชันเอาไว้ตลอดเวลา
แต่หานเซิ่นไม่ได้รีบร้อนอะไร เขายังคงตามมันไปติดๆ เจ้าหอยสังข์มีขนาดตัวที่ใหญ่เกินกว่าที่จะซ่อนตัวจากเขาได้ง่ายๆ
แถมหานเซิ่นก็มีอาณาเขตธาตุน้ำถึง 2 ชั้น การหนีไปจากเขาในท้องทะเลนั้นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หานเซิ่นมั่นใจอย่างมากในพลังธาตุน้ำของตัวเอง
แต่ไม่นานหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าเขามั่นใจในตัวเองมากเกินไป เมื่อเจ้าหอยสังข์ข้ามภูเขาลูกหนึ่ง จู่ๆมันก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หลังจากที่มันปีนไปด้านหลังภูเขา มันก็ไม่โผล่ออกมาอีก หานเซิ่นคิดว่ามันอาจจะกลับบ้านของมัน แต่เมื่อเขาค้นหารอบๆภูเขาอย่างละเอียด เขาก็หาเจ้าหอยสังข์ไม่เจอ
“แปลงจริงๆ มันหายไปไหนกัน?” หานเซิ่นมองไปรอบๆ แต่เขาไม่เห็นร่องรอยของเจ้าหอยสังข์เลย
หอยสังข์มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่หานเซิ่นจะมองข้ามไปได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงเชื่อว่ามันยังคงอยู่ในบริเวณนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะมองไปทางไหน มันก็ไม่มีวี่แววของเจ้าหอยสังข์เลย มันเหมือนกับว่าเจ้าหอยสังข์หายตัวไปจริงๆ
“คิดว่าจะหนีไปจากสายตาของฉันได้อย่างนั้นหรอ? แกไร้เดียงสาเกินไปแล้ว” หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงและออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อสแกนหาร่องรอยโมเลกุลของหอยสังข์ ซึ่งในที่สุดเขาก็พบมันและตามร่องรอยนั้นไป
ไม่นานหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าร่องรอยโมเลกุลนั้นพาเขาไปหยุดอยู่ที่หน้ารูเล็กๆบนพื้นใกล้กับภูเขา ดูเหมือนว่าร่องรอยของหอยสังข์จะหายไปในรูนั้น เขาถูกหลอกเข้าแล้ว
“เจ้าหอยสังข์ทะเลนั่นเปลี่ยนขนาดของตัวเองได้? ทำไมมันถึงไม่แสดงพลังนั้นก่อนหน้านี้?” หานเซิ่นสงสัย
“กิเลนโลหิต นายลงไปดูว่ามันกำลังทำอะไร แต่อย่าทำให้มันสัมผัสได้ถึงตัวตนของนาย”
หานเซิ่นไม่ถนัดเรื่องการเปลี่ยนขนาดร่างกาย แต่กิเลนโลหิตเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น มันสามารถเปลี่ยนขนาดของตัวเองได้ตามใจชอบ
กิเลนโลหิตคำราม ร่างกายของมันสั่นไหวขณะที่กระดูกของมันย่อส่วนลงเรื่อยๆจนกระทั่งมันกลายเป็นอสูรสีแดงตัวน้อยที่ดูเหมือนกับตุ๊กตา หลังจากนั้นมันก็กระโดดลงไปในรู
หานเซิ่นรออยู่ด้านนอก เขามองไปรอบๆและตรวจดูร่องรอยที่พามาสู่รูนั้น
หานเซิ่นได้ศึกษาเกี่ยวกับเทคนิคของสำนักเสวียนที่กุนซือไวท์ทิ้งเอาไว้ให้กับเขา เขาได้เรียนรู้เทคนิคหลายอย่าง แต่พวกมันเป็นอะไรที่เรียบง่าย เขาสำเร็จเทคนิคการคำนวณของสำนักเสวียน ซึ่งถ้าสถานการณ์ไม่ซับซ้อนจนเกินไป เขาสามารถใช้เทคนิคเหล่านั้นเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกได้
ภูเขาใต้น้ำเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ มันมีภูเขาหลายลูกอยู่ใกล้เคียงกัน และพวกมันทั้งหมดก็เชื่อมต่อกัน ภูเขาแต่ละลูกมีรูปร่างเหมือนกับภูเขาไฟที่มีรูขนาดใหญ่อยู่ที่ยอดสุด
จากด้านบนภูเขาทั้ง 9 ดูเหมือนกับวงแหวนที่ซ้อนกันเป็นเหมือนกับห่วงโซ่ หานเซิ่นจำได้ว่าในเทคนิคของสำนักเสวียนนั้นเรียกสภาพแวดล้อมแบบนี้ว่าไนน์ริงส์
ถ้ามีสภาพแวดล้อมแบบนี้อยู่ในสหพันธ์ มันก็ไม่มีใครกล้ามีชีวิตอยู่ที่นั่น สภาพแวดล้อมแบบนั้นจะนำมาซึ่งความโชคร้าย และผู้คนที่เลือกอาศัยอยู่ที่นั่นจะประสบกับผลที่ตามมา
แต่ทฤษฎีนั้นอาจไม่สามารถใช้กับจักรวาลจีโนได้ กุนซือไวท์บอกว่าเทคนิคของสำนักเสวียนจำเป็นต้องปรับปรุงหลายอย่างเพื่อใช้กับจักรวาลจีโน เทคนิคและพลังของก็อตแซงชัวรี่นั้นแตกต่างไปจากของจักรวาลจีโน และเขาก็สนใจในการศึกษาถึงความแตกต่างนั้น
ขณะที่หานเซิ่นตรวจดูภูเขาอยู่นั้น จู่ๆก็มีเงาสีขาวปรากฏออกมาจากยอดภูเขา มันเป็นปลาไหลไฟฟ้าที่ยาวหลายสิบเมตร ขณะที่มันว่ายออกไป เกล็ดสีขาวของมันก็ปะทุด้วยไฟฟ้า มันดูงดงามอย่างประหลาด
“ซีโน่เจเนอิคระดับราชันอีกตัว!” หานเซิ่นขมวดคิ้ว