“ท่าน… ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่ได้? ข้าคิดว่าท่าน…”
หลันไห่ซินไม่สามารถประกอบประโยคที่ต้องการจะพูดขึ้นได้ สถานการณ์ในตอนนี้มันความคาดหมายจนจิตใจของเธอปรับตัวไม่ทัน
ผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจและพูด “ในระหว่างการวิวัฒนาการมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นและน้องยวิ๋นพยายามจะฆ่าข้า นางทำให้ข้าไม่มีทางเลือกและต้องใส่ตัวเองเข้าไปในขวดไซเรนเพื่อเอาชีวิตรอด”
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้ว น้องยวิ๋นที่เธอพูดถึงก็คือไซเรนอาวุโสอย่างไม่ต้องสงสัย ดูเหมือนว่าจริงๆแล้วเธอไม่ได้รับความเชื่อใจจากแม่ของไป๋อี้ แผนการที่เธอวางเอาไว้จริงๆแล้วก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนการที่ใหญ่กว่าของแม่ไป๋อี้ ถึงแม้เธอจะวิวัฒนาการไม่สำเร็จ แต่จริงๆแล้วเธอเป็นฝ่ายชนะ
หลังจากนั้นเธอก็มองมาที่หานเซิ่น เธอยังคงมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนขณะที่พูด
“ลูกชายของข้า ข้าดีใจที่ได้เห็นเจ้าที่นี่”
“ท่านคงจะได้ยินสิ่งที่ไซเรนอาวุโสพูดแล้ว ข้าไม่ใช่ไป๋อี้ลูกชายของท่าน” หานเซิ่นพูดออกไปตรงๆ
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า “ข้ารู้ ยังไงซะไป๋อี้ก็ไม่ใช่ลูกชายของข้า”
เมื่อเธอพูดอย่างนั้น หลันไห่ซินก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง แม้แต่หานเซิ่นเองก็ยังประหลาดใจ
เธอเริ่มอธิบาย “ข้าคือไซเรนเวอร์จิ้น ข้าต้องรักษาพรหมจรรย์ของข้าเอาไว้ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากแต่งงานกับทางเอ็กซ์ตรีมคิง แต่ข้าทำข้อตกลงกับราชาไป๋ ข้าถูกรู้จักในฐานะสนมของเขา แต่เรื่องมีลูกนั้นจะถูกทำโดยไซเรนอีกคนที่ข้าเก็บเอาไว้ใกล้ตัว”
“อย่าบอกนะว่าคนๆนั้นก็คือไซเรนอาวุโสน่ะ?” หานเซิ่นพูดอย่างตกใจ
เธอพูดกับหานเซิ่นด้วยเสียงอ่อนๆ “ใช่ มันคือน้องยวิ๋นจริงๆ นางหลับนอนร่วมกับราชาไป๋เพียงแค่ครั้งเดียว จริงๆแล้วนางไม่รู้เกี่ยวกับข้อตกลงของข้ากับราชาไป๋ และนางก็ไม่เคยรู้สึกตัวว่าข้ายังคงเป็นสาวพรหมจรรย์”
หานเซิ่นยักไหล่และพูด “ไป๋อี้คือลูกชายของนาง?”
“เด็กน้อย ข้าชอบเจ้ามากจริงๆ” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้กับหานเซิ่น แต่เธอไม่ตอบคำถามของเขา
หานเซิ่นสันนิษฐานว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง ไซเรนอาวุโสบอกว่าลูกชายของเธอตายเพื่อผู้หญิงคนนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีลูกจริงๆ ไป๋อี้มีเลือดของราชาไป๋และไซเรน ความเป็นไปได้เดียวก็คือไป๋อี้เป็นลูกชายของไซเรนอาวุโส แต่ผู้หญิงคนนี้ต้องใช้กลลวงอะไรบางอย่างเพื่อชิงลูกของไซเรนอาวุโสไปเป็นลูกชายของตัวเอง และไซเรนอาวุโสก็ดูเหมือนจะไม่รู้ถึงเรื่องนั้น เธอเชื่อมาตลอดว่าลูกชายของเธอตายไปแล้ว
“เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวจริงๆ ไซเรนอาวุโสไม่เคยเอะใจว่าไป๋อี้คือลูกของนาง โชคดีที่นางไม่ได้รู้ความจริง ไม่อย่างนั้นนางก็คงจะทำทุกอย่างเพื่อไป๋อี้ แบบนั้นนางก็คงจะเปิดเผยตัวตนของเรากับราชาไป๋” หานเซิ่นมองไปที่รอยยิ้มของผู้หญิงคนนั้นและรู้สึกโล่งใจขึ้นมา
“เด็กน้อย เจ้ากับข้ามาทำข้อตกลงกันเป็นยังไง?” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้กับหานเซิ่น
“ข้อตกลงแบบไหน?” หานเซิ่นถาม
“เจ้ารู้ถึงสถานการณ์ของข้า ร่างกายของข้าถูกทำลายและข้าใช้ชีวิตอยู่ในขวดไซเรน ถ้าข้าหาร่างกายไม่ได้ ข้าก็จะเลือนหายไป เจ้าปลอมตัวเป็นไป๋อี้ ถึงเขาจะไม่ใช่ลูกชายของข้า แต่เขาก็เป็นลูกของราชาไป๋ ข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าราชาไป๋รู้ว่าเจ้าฆ่าไป๋อี้?”
“ข้าจะช่วยเหลือเจ้าในเรื่องนั้น และข้ายังจะช่วยให้เจ้าใช้พลังของขวดไซเรนได้ แต่เจ้าต้องหาร่างกายให้กับข้า เจ้าคิดว่ายังไง?”
“นั่นฟังดูไม่เลวเลย ข้าตกลง” หานเซิ่นพูด
ผู้หญิงคนนั้นดูประหลาดใจ เธอไม่ได้คาดคิดว่าหานเซิ่นจะตอบตกลงเร็วขนาดนี้ เธอยิ้มให้กับเขา “เด็กน้อย ข้าชอบเจ้ามากจริงๆ”
“ข้าช่วยเหลือท่านได้ แต่ข้ามีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง” หานเซิ่นพูด
“พูดออกมา” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า
“ท่านจะเรียกข้าด้วยชื่อ หรือท่านจะพูดแค่ ‘เฮ้’ หรือ ‘โย่’ อะไรทำนองนั้นก็ได้ แต่อย่าเรียกข้าว่าเด็กน้อย” หานเซิ่นพูดอย่างจริงจัง
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้กับหานเซิ่นและพูด “ก็ได้ ข้าเข้าใจ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ” หานเซิ่นพูดขณะที่พยักหน้าให้กับเธอ
“เมื่อไหร่ก็ตามเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เคาะข้างซ้ายของขวดไซเรน”
ผู้หญิงคนนั้นสบตากับหานเซิ่น หลังจากนั้นขวดไซเรนก็หยุดเรืองแสงไป แสงสีรุ้งถูกดูดกลับเข้าไปในขวดไซเรนพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น ขวดไซเรนลอยขึ้นจากแท่นบูชาและบินเข้ามาอยู่ในมือของหานเซิ่น
แสงที่ส่องสว่างออกมานั้นหายไปแล้ว และในตอนนี้ขวดไซเรนก็ดูเหมือนกับขวดคริสตัลธรรมดาทั่วๆไป
หานเซิ่นมองขวดไซเรนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเก็บมันไป
ผู้หญิงคนนั้นแข็งแกร่ง ถึงแม้เธอจะไม่มีร่างกายและต้องใช้ขวดไซเรนเป็นที่อยู่ แต่มันก็มีโอกาสสูงที่แม้แต่นกแดงน้อยจะไม่สามารถต่อกรกับเธอได้
พวกเขาตกลงที่จะร่วมมือกัน เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาต้องต่อสู้กัน ถ้ามันมีบางสิ่งเกิดขึ้นที่ทำให้พวกเขาต้องขัดแย้งกัน สถานการณ์ก็อาจจะเลวร้ายสำหรับหานเซิ่น
ผู้หญิงคนนั้นหลอกใช้ไซเรนอาวุโสให้พาไซเรนที่เหลือรอดมาที่นี่เพื่อถูกฆ่าตาย มันเห็นได้ชัดว่าเธอจำเป็นต้องใช้เลือดของเหล่าไซเรน และแผนการของเธอก็คงจะรวมถึงการฆ่าไป๋อี้และหลันไห่ซินด้วยเช่นกัน
แต่เพราะหานเซิ่นอยู่ที่นี่ เขาได้ทำลายแผนการของเธอ เธอคงจะไม่มั่นใจเกี่ยวกับศักยภาพที่แท้จริงของหานเซิ่น ด้วยเหตุนั้นเธอจึงเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับเขาแทน
แต่เธอไม่สามารถเชื่อใจได้ หานเซิ่นรู้ถึงเรื่องนั้นดี แต่สำหรับตอนนี้การร่วมมือกับเธอเป็นเรื่องดีสำหรับหานเซิ่น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไม่เปิดโปงเธอ
พวกเขามีผลประโยชน์ที่จะได้รับ และพวกเขาก็จำเป็นต้องพึ่งกันและกัน ดังนั้นพวกเขาจึงร่วมมือกันได้โดยไม่ต้องเจรจาอะไรมาก
หลันไห่ซินดูตกตะลึง เธอฟังการสนทนาทั้งหมดของหานเซิ่นกับผู้หญิงคนนั้น แต่เธอก็ยังไม่เชื่อเรื่องทั้งหมดที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
“เจ้ากำลังจะทำอะไร?”
หานเซิ่นเดินเข้ามาและสีหน้าของหลันไห่ซินก็ซีดไป เธอรู้ตัวว่าตัวเองนั้นอ่อนแอและไม่สามารถหนีไปได้
หานเซิ่นมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่ และถึงเขาจะอยู่ตัวคนเดียว เธอก็ไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้อยู่ดี
“ข้ากำลังจะพาภรรยาของข้ากลับบ้าน ข้าจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีก” หานเซิ่นจับแขนของหลันไห่ซินและยิ้ม
“อย่าเชียวนะ! เจ้าฆ่าคนของข้า ข้าจะไม่อยู่ร่วมกับเจ้า”
หลันไห่ซินพยายามจะสลัดแขนจากมือของเขา แต่เธอไม่สามารถทำได้ หานเซิ่นเริ่มจะลากตัวเธอออกไปจากปราสาทคริสติล
“ความตายของพวกเขาเป็นผลลัพธ์จากความโง่เขลาของเจ้า ถึงแม้ข้าจะไม่ฆ่าพวกเขา ไซเรนอาวุโสก็จะฆ่าทุกคนอยู่ดี” หานเซิ่นพูดด้วยเสียงที่ไม่อคติ
หลันไห่ซินอ้าปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอพูดไม่ออก เธอดูหมดหวัง
“ถ้าเจ้าคิดที่จะฆ่าตัวตาย ข้าจะไม่ห้ามเจ้า แต่ลองคิดดูดีๆ เจ้าเป็นไซเรนเลือดบริสุทธิ์คนสุดท้าย เจ้าคือความหวังสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ ถ้าเจ้าตายไปตอนนี้ มันก็จะเป็นจุดจบของเผ่าไซเรน” หานเซิ่นพูด
หลันไห่ซินพยายามที่จะสงบสติ และเธอไม่ได้พูดอะไรอีก