ถ้าตัวตนของหานเซิ่นถูกเปิดเผย มันก็ไม่เป็นผลดีอะไรต่อราชินีจิ้งจอก เธอดูไม่เหมือนกับคนที่จะทำร้ายคนอื่นถ้าเธอไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรตอบแทน
แต่หานเซิ่นไม่สามารถใช้ตรรกะเพื่อคาดเดาพพฤติกรรมของราชินีจิ้งจอกได้ เธอเป็นเผ่าจิ้งจอกและเธอก็ถูกขังมาเป็นเวลานาน ไม่มีใครมั่นใจว่าเธอจะทำอะไร
หลังจากที่หานเซิ่นกลับไปถึงเมืองใต้น้ำ เขาก็นำขวดไซเรนออกมาและเคาะด้านซ้ายของขวด 3 ครั้ง สายรุ้งพุ่งออกมาจากขวดและเปลี่ยนเป็นรูปร่างเงาที่เป็นไซเรนเวอร์จิ้น
หานเซิ่นบอกเธอว่าตัวเองถูกข่มขู่โดยราชินีจิ้งจอก ไซเรนเวอร์จิ้นดูไม่ได้กังวลอะไร เธอพูดอย่างใจเย็น
“ราชินีจิ้งจอกไม่ได้จะขายเจ้าให้กับราชาไป๋ แต่ถ้าเจ้าติด 3 อันดับแรกในการสอบและได้รับสิทธิ์เข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา นั่นก็ถือเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม”
“ตัวตนของข้าอาจจะถูกเปิดเผยได้ทุกเมื่อ แบบนั้นทำไมข้าถึงต้องทำอะไรที่ดึงดูดความสนใจมากขนาดนั้นด้วย?” หานเซิ่นยิ้มแห้งๆออกมา
ไซเรนเวอร์จิ้นหัวเราะ “สถานการณ์ของเจ้าไม่ได้คับขันอย่างที่เจ้าคิด ถึงราชาไป๋จะสงสัยในตัวเจ้า แต่ถ้าเขาต้องการจะตรวจสอบเจ้า มันก็มีเพียงแค่ 3 วิธีเท่านั้นที่เขาจะทำได้ อย่างแรกเขาจะเรียกเจ้าไปเข้าพบตรงๆ แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะช่วยอะไร เพราะยังไงซะเขาก็ไม่เคยสนใจอะไรในตัวไป๋อี้ตั้งแต่แรกแล้ว ด้วยเหตุนั้นพวกเขาแทบจะไม่เคยได้พบหน้ากัน ข้าไม่คิดว่าเขาจะบอกได้ว่าเจ้าคือไป๋อี้หรือไม่ วิธีการที่ 2 ก็คือการตรวจสอบเจ้าโดยใช้คุณหญิงมิร์เรอร์ สำหรับคนอื่นแล้วนั่นถือเป็นวิธีการตรวจสอบที่หลีกเลี่ยงได้ยากที่สุด แต่สำหรับเจ้าแล้วมันถือเป็นเรื่องดี”
“ทำไมกัน?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่ไซเรนเวอร์จิ้น เขาไม่เคยบอกเธอเกี่ยวกับคุณหญิงมิร์เรอร์ ดังนั้นเขาไม่รู้ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้ไซเรนเวอร์จิ้นได้ข้อสรุปแบบนั้น
เธอชี้ไปที่นิ้วมือของหานเซิ่นที่มีแหวนสวมอยู่และพูด “เจ้ากำลังสวมใส่แหวนมิร์เรอร์สปิริตอาย เจ้าคือความหวังของคุณหญิงมิร์เรอร์ แบบนั้นทำไมนางต้องทำลายความหวังของตัวเองด้วย?”
“ความหวัง? ข้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร?” หานเซิ่นรู้สึกดีขึ้นมา เมื่อรู้สึกตัวว่าไซเรนเวอร์จิ้นดูเหมือนจะรู้บางสิ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
ไซเรนเวอร์จิ้นยิ้มอย่างอ่อนโยน “คุณหญิงมิร์เรอร์ถูกเรียกว่าคุณหญิงมิร์เรอร์ก็เพราะนางมีร่างกายแห่งราชันมิร์เรอร์สปิริต นางใช้ร่างกระจกของนางกับยอดฝีมือคนหนึ่ง และยิ่งยอดฝีมือคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ นางก็จะได้รับประโยชน์มากเท่านั้น”
“แหวนนี่ก็คือร่างกระจกของคุณหญิงมิร์เรอร์อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่แหวนบนนิ้วมือด้วยความประหลาดใจ
ไซเรนเวอร์จิ้นพยักหน้าและพูด “ใช่ ร่างกระจกนั้นใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว ถ้าร่างกระจกตกไปอยู่ในมือคนอื่น คุณหญิงมิร์เรอร์ก็จะสูญเสียการควบคุมมันไป และเจ้าของคนใหม่ก็จะได้รับประโยชน์จากร่างกระจกแทน ความงดงามและเฉลียวฉลาดของคุณหญิงมิร์เรอร์เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิง ในสมัยที่ก่อนชื่อองค์หญิงมิร์เรอร์นั้นมีชื่อเสียงมากๆ ขุนนางหนุ่มมากมายต่างก็ต้องการจะแต่งงานกับนาง แต่นางภาคภูมิเกินกว่าที่จะยอมตกอยู่ใต้เงาของคนอื่น นางไม่เคยเหลียวมองชายคนไหน แต่ที่สุดแล้วนางได้แต่งงานกับคนๆหนึ่ง แต่เขาเป็นคนนอก นางใส่ร่างกระจกของนางลงในแหวนมิร์เรอร์สปิริตอายและมอบมันให้กับหนุ่มคนนอกคนนั้น”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ไซเรนเวอร์จิ้นก็พูดต่อ “หนุ่มรูปงามคนนั้นไม่ทำให้คุณหญิงมิร์เรอร์ผิดหวัง เขาเป็นเพียงแค่ดยุกคนหนึ่ง และเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การช่วยเหลือของคุณหญิงมิร์เรอร์ ในเวลาเพียงแค่หนึ่งร้อยปีเขาก็กลายเป็นระดับเทพเจ้า แต่น่าเศร้าที่เขาถูกฆ่าตายในการต่อสู้และแหวนมิร์เรอร์สปิริตอายก็หายสาบสูญไป ข้าไม่เคยคาดคิดว่ามันจะมาอยู่กับเจ้า”
“นี่กำลังจะบอกว่าในตอนที่ข้าสวมใส่แหวนนี้อยู่ คุณหญิงมิร์เรอร์จะได้รับบางสิ่งจากข้าอย่างนั้นหรอ? นางได้รับอะไรกัน?” หานเซิ่นถามอย่างหวั่นใจ
ไซเรนเวอร์จิ้นหัวเราะ “ไม่ต้องกังวล ร่างกระจกจะทำงานก็ต่อเมื่อร่างกระจกทั้ง 2 อยู่ใกล้กันเท่านั้น เจ้าคงจะสังเกตเห็นสินะว่าคุณหญิงมิร์เรอร์เองก็มีแหวนที่เหมือนกับแหวนของเจ้า พวกเจ้าทั้งคู่จะต้องอยู่ใกล้กัน แหวนทั้ง 2 ถึงจะสะท้อนถึงกันได้ และการสะท้อนนั้นทั้งไปและกลับ เจ้าจะรู้ถึงสิ่งที่คุณหญิงมิร์เรอร์กำลังคิดเช่นเดียวกับที่นางรู้ความคิดของเจ้า นั่นเป็นเหตุผลที่ชายหนุ่มคนนั้นพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว การที่ได้รับแหวนมาทั้งๆที่เป็นดยุก ขณะที่คุณหญิงมิร์เรอร์เป็นระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้วนั้นแสดงว่าเจ้าไม่เป็นคนที่เก่งกาจก็เป็นคนที่โชดดี ระดับของนางสูงกว่าของเจ้ามาก”
“เธอจะไม่เอาแหวนกลับไปและมอบมันให้กับคนอื่นอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย
“มันจะเป็นเรื่องดีสำหรับนางถ้าแหวนโยกย้ายได้ง่ายแบบนั้น แต่ทว่าเมื่อแหวนตกไปอยู่ในมือใครคนหนึ่ง นางก็ควบคุมมันไม่ได้อีก เนื่องจากตอนนี้เจ้ากำลังสวมแหวนมิร์เรอร์สปิริตอายอยู่ นั่นหมายความว่าเจ้าได้รับการยอมรับจากร่างกระจก และถ้าเจ้าตาย ร่างกระจกก็จะได้รับความเสียหาย ครั้งก่อนที่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่นางมอบแหวนให้ตายไป มันก็สร้างความเสียหายกับร่างกระจกของคุณหญิงมิร์เรอร์อย่างมาก ข้าไม่คิดว่านางต้องการจะประสบกับมันอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นนางก็คงจะฆ่าเจ้าและเอาแหวนมิร์เรอร์สปิริตอายกลับไปแล้ว เพราะยังไงซะขณะที่เจ้าสวมใส่แหวนนี้อยู่ นางก็ไม่ได้รับอะไร” ไซเรนเวอร์จิ้นยิ้ม
หานเซิ่นไม่เข้าใจ ร่างกายของเขายังไม่ถึงระดับเทพเจ้าก็จริง แต่จิตใจของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าของคุณหญิงมิร์เรอร์ ถ้าร่างกระจกนี้สะท้อนอารมณ์และจิตใจของพวกเขา ใครจะรู้ว่าฝ่ายไหนที่เป็นฝ่ายที่ได้ผลประโยชน์?
แต่การรู้ว่าแหวนมิร์เรอร์สปิริตอายจะไม่ส่งผลร้ายอะไรต่อร่างกายของเขา มันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกดีขึ้นมา มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องกังวลว่าแหวนจะทำอะไรไม่ดีกับเขา
แถมตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณหญิงมิร์เรอร์ถึงไม่เอาตัวเขาไปมอบให้กับราชาไป๋ ด้วยคำอธิบายของไซเรนเวอร์จิ้น หานเซิ่นก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก
“นั่นหมายความว่าคุณหญิงมิร์เรอร์ไม่อยากเห็นข้าตายอย่างนั้นใช่ไหม?” หานเซิ่นรู้สึกดีใจ
“แน่นอนว่านางไม่ต้องการให้เจ้าตาย นางอาจจะปกป้องเจ้าด้วยซ้ำ เพราะยังไงซะถ้าเจ้าตาย ร่างกระจกของนางก็จะได้รับความเสียหายไปด้วย และมันจะใช้เวลานานกว่าที่นางจะฟื้นตัวกลับมา แถมมันอาจจะเป็นความเสียหายถาวร” ไซเรนเวอร์จิ้นพูด
“ราชาไป๋มีทั้งหมด 3 วิธี แล้ววิธีที่ 3 ล่ะคืออะไร?” หานเซิ่นถาม
“ในฐานะผู้นำของเอ็กซ์ตรีมคิง ราชาไป๋มีหลายหนทางในการเก็บข้อมูล แต่มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องกังวลเกี่ยวกับผู้เก็บข้อมูลธรรมดา เจ้าเป็นองค์ชายคนหนึ่ง ดังนั้นคนส่วนใหญ่จะมาตรวจสอบเจ้าไม่ได้ แต่ราชาไป๋มีเครือข่ายที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลอยู่ มันถูกเรียกว่าเรดิโอเวฟ พวกเขาคอยสอดส่องทั่วจักรวาล มันเป็นองค์กรที่ทรงพลังและพวกเขาคือคนที่เจ้าต้องระวังมากที่สุด ถ้าตัวตนของเจ้าถูกเปิดเผย มันก็คงจะต้องเป็นผลงานของเรดิโอเวฟ” ไซเรนเวอร์จิ้นพูด
“แต่ข้าไม่รู้ว่าใครที่เป็นสมาชิกของเรดิโอเวฟ แบบนั้นข้าจะหลีกเลี่ยงพวกเขาได้ยังไง?” หานเซิ่นพูด
“นั่นไม่เป็นไร ข้าบอกได้ทุกอย่างเกี่ยวกับไป๋อี้กับเจ้า แค่ทำตามที่ข้าบอกและจะไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าเจ้าไม่ใช่ไป๋อี้” ไซเรนเวอร์จิ้นพูด
หลังจากนั้นไซเรนเวอร์จิ้นก็บอกหานเซิ่นเกี่ยวกับไป๋อี้ เธอทำให้แน่ใจว่าหานเซิ่นจะรู้ทุกรายละเอียดเกี่ยวกับไป๋อี้