หานเซิ่นเรียกไซเรนเวอร์จิ้นออกมาเพื่อที่เธอจะได้เห็นฝนดาบแสง เขายังบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องที่ดาบแสงปรากฏขึ้นจากบนยอดภูเขากระดูกเน่า แต่หานเซิ่นไม่ได้เผยความจริงที่ว่าตัวเองคือคนที่ทำลายโขดหินบนยอดเขา
เมื่อไซเรนเวอร์จิ้นได้ยินสิ่งที่เขาพูด เธอก็ดูตกใจ เธอหันไปมองฝนดาบแสงอย่างเงียบๆ
“รู้ไหมว่าดาบแสงนี้คืออะไร?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ไซเรนเวอร์จิ้นนั้นเงียบอยู่เป็นนาที
หลังจากนั้นเธอก็หันกลับมามองเขาและพูด “ดาบคลั่ง มันเป็นเวลานานที่แค่จะพูดชื่อของเขาก็ถือเป็นเรื่องต้องห้ามในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิง เขาไม่ใช่หนึ่งในขุนนางของเอ็กซ์ตรีมคิง และเขาก็ไม่มีร่างกายแห่งราชันอีกด้วย แต่วิชาดาบของเขาเหนือคำว่าอัจฉริยะ เขาเป็นแค่นักดาบธรรมดาคนหนึ่ง แต่แล้วเขาก็กลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จ เขาเอาชนะยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิงนับไม่ถ้วน”
“ข้ารู้เรื่องนั้น” หานเซิ่นพูด
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าเคยสงสัยไหมว่าทำไมยอดฝีมือที่น่ากลัวขนาดนั้นถึงไม่มีชื่อเสียงโด่งดังภายนอกเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง” ไซเรนเวอร์จิ้นถาม
“ข้าเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้ว ข้าคิดว่ามันเป็นอะไรที่แปลก มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด ข้าคิดว่ามันคงเป็นเพราะเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงกักขังเขาเอาไว้ที่นี่ และเขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกไปนอกเขตแดนของเอ็กซ์ตรีมคิง” หานเซิ่นพูด
ไซเรนเวอร์จิ้นส่ายหัว “เจ้าเดาถูกแค่ครึ่งเดียว ชายที่ชื่อดาบคลั่งไม่เคยออกจากเขตแดนของเอ็กซ์ตรีมคิงจริงๆ แต่จริงๆแล้วเขามีชื่อเสียงในหมู่เผ่าพันธุ์อื่นๆ เพียงแค่เผ่าพันธุ์อื่นๆรู้จักเขาในอีกชื่อหนึ่ง”
“หมายความว่าดาบคลั่งใช้นามแฝงอย่างนั้นหรอ? ทำไมเขาถึงได้ทำอะไรแบบนั้น?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ไซเรนเวอร์จิ้นส่ายหัว “ข้าไม่รู้ ข้าเคยสืบข้อมูลของดาบคลั่ง แต่ข้ารู้แค่ว่าเขาทำบางสิ่งที่ทำให้คนของเอ็กซ์ตรีมคิงเกลียดชังเขาเท่านั้น หลายคนในเอ็กซ์ตรีมคิงไม่ชอบเขาเป็นอย่างมาก”
หลังจากนั้นไซเรนเวอร์จิ้นก็มองไปที่ฝนดาบแสงราวกับว่าเธอมองออกไปในทะเล เธอพูดขึ้นมา “ถ้าข้อมูลที่ข้าได้มาถูกต้องล่ะก็ มันก็เป็นไปได้ที่ดาบคลั่งจะยังไม่ตายโดยสมบูรณ์ ฝนดาบแสงนี้อาจจะบ่งบอกถึงการเกิดใหม่ของเขา”
“จะบอกว่าดาบคลั่งถูกขังอยู่ในโขดหิน‘ความภาคภูมิใจและกระดูกถูกสร้างขึ้น’อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“มันคงจะเป็นแค่จิตของเขาเท่านั้น ข้าเดาว่าราชาไป๋คงจะกำลังปวดหัวกับเรื่องนี้ ถ้าเขาเกิดใหม่จริงๆ เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงก็จะตกลงสู่ความโกลาหล แต่นั่นถือเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเรา ยิ่งเอ็กซ์ตรีมคิงสับสนวุ่นวายมากเท่าไหร่ เจ้ากับข้าก็จะกอบโกยผลประโยชน์ได้มากเท่านั้น” ไซเรนเวอร์จิ้นพูดและจบด้วยการหัวเราะ
“ถ้าดาบคลั่งทิ้งไว้เพียงแค่จิตของเขา อย่างนั้นเขาก็อาจจะตัดสินใจหนีออกไปจากที่นี่ นั่นจะไม่สั่นคลอนสังคมของเอ็กซ์ตรีมคิงอะไรมากนัก?” หานเซิ่นพูด เขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ไซเรนเวอร์จิ้นพูด
ไซเรนเวอร์จิ้นส่ายหัวของนาง “ทำไมเขาต้องหนีด้วย? ในตอนนี้ทั้งดินแดนของเอ็กซ์ตรีมคิงเต็มไปด้วยดาบแสง ทั้งหมดที่เขาจำเป็นต้องทำก็คือเข้าสิงสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่อยู่ที่นี่ การจะหาตัวของเขานั้นคงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ มันไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องหนี”
หลังจากที่ได้ยินไซเรนเวอร์จิ้นพูดอย่างนี้ หานเซิ่นก็สะดุ้งเล็กน้อย หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ เขาก็ถาม “อย่างนั้นดาบคลั่งต้องการจะเลือกข้าไหม?”
“มันมีผู้คนมากมายในเอ็กซ์ตรีมคิง ดาบคลั่งไม่จำเป็นต้องสิงคนที่มีพรสวรรค์ ดังนั้นมันไม่มีเหตุผลที่เขาต้องเลือกองค์ชายคนหนึ่ง เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” ไซเรนเวอร์จิ้นพูด
ถึงเธอจะพูดแบบนั้น แต่หานเซิ่นก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย มันทำให้เขารู้สึกกังวลขึ้นมา
โชดดีที่ในตอนที่ฝนดาบแสงหยุด มันไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นบนดาววอเทอร์โซน แต่ทว่าหานเซิ่นหวาดระแวงตลอดช่วงเวลาที่ฝนดาบแสงตกลงมา
เนื่องจากฝนดาบแสง การสอบรอบต่อไปจึงถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และถึงฝนดาบแสงจะหยุดลงแล้ว การสอบก็ยังคงไม่ถูกจัดขึ้นอีกครั้ง
บรรยากาศของทั้งอาณาจักรกษัตริย์เป็นไปอย่างตึงเครียด ทั้งดินแดนถูกล็อคดาวน์และแม้แต่ดาววอเทอร์โซนของหานเซิ่นก็มีคนของหลายหน่วยงานลงมาสืบสวน
ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้บอกว่ามาสืบหาอะไร แต่หานเซิ่นคาดเดาได้ว่าพวกเขาคงจะกำลังค้นหาจิตของดาบคลั่ง
‘เป็นบุคคลที่น่ากลัวจริงๆ แค่เขาทิ้งจิตเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นการปรากฏตัวของมันก็ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาดนี้ เราคงจะตายอย่างมีความสุขถ้าเรามีอิทธิพลถึงขนาดนั้น’ หานเซิ่นถอนหายใจหลังจากที่ส่งเจ้าหน้าที่ที่มากลับ
หานเซิ่นไม่ได้เดินทางออกไปไหน เขาใช้เวลาไปกับการฝึกศาสตร์ตงเสวียน เขาต้องการจะพัฒนามันไปสู่ระดับราชันให้เร็วที่สุด
ถึงแม้วิชากายหยกและโลหิตชีพจรจะเป็นอะไรที่ง่ายกว่า แต่หานเซิ่นก็ยังอยากจะเพิ่มระดับของศาสตร์ตงเสวียนก่อนเป็นอันดับแรก หานเซิ่นสัมผัสได้ว่าหายนะกำลังเข้ามาใกล้และศาสตร์ตงเสวียนเป็นวิชาที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด มันเป็นบางสิ่งที่เขาสามารถพึ่งพาได้
พลังของศาสตร์ตงเสวียนไม่สามารถหาอะไรมาแทนที่ได้ ในการต่อสู้จริงๆหานเซิ่นสามารถต่อสู้โดยปราศจากวิชากายหยกและโลหิตชีพจร แม้แต่เรื่องราวของยีนก็เช่นกัน การทำแบบนั้นจะไม่ส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้ของหานเซิ่นอะไรมากนัก
แต่ถ้าไม่ใช้ศาสตร์ตงเสวียน ความสามารถในการต่อสู้ของหานเซิ่นก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
วิชาจีโนทั้ง 3 เป็นวิชาที่แข็งแกร่งเช่นกัน แต่ศาสตร์ตงเสวียนเข้ากันได้ดีที่สุดกับคนอย่างหานเซิ่น มันเข้าคู่กับลักษณะนิสัยของเขา นั่นเป็นเหตุผลหลักที่หานเซิ่นมักจะพึ่งพาศาสตร์ตงเสวียนเมื่อเผชิญกับวิกฤต มันเป็นสิ่งที่เขาวางใจที่สุด
เมื่อวิกฤตการณ์กำลังจะมาถึงและยังมีสัญญาที่จะไปช่วยหนิงเยวี่ยอีก เขาจำเป็นต้องมีพลังมากกว่านี้ ซึ่งหนทางที่ดีที่สุดก็คือการพัฒนาศาสตร์ตงเสวียนสู่ระดับราชัน
หานเซิ่นฝึกฝนอยู่ตลอดทั้งเดือนโดยที่เขาใช้ศาสตร์ตงเสวียนอยู่ตลอดเวลา ร่างกายของเขารู้สึกเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องจักร
ใช่แล้ว มันเป็นเครื่องจักร
จากมุมมองของหานเซิ่น ศาสตร์ตงเสวียนทำให้ทั้งจักรวาลเป็นเหมือนกับเครื่องจักรขนาดใหญ่เครื่องหนึ่ง หญ้า ป่า หิน น้ำ แมลง ปลา ทุกอย่างนั้นล้วนแต่เป็นเฟืองของเครื่องจักรนี้
แต่ละฟันเฟืองมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป แต่พวกมันทั้งหมดเข้ากันได้อย่างพอดิบพอดี พวกมันทั้งหมดเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน เมื่อฟันเฟืองหนึ่งหมุน ฟันเฟืองใหม่ก็จะหมุนฟันเฟืองถัดไปอีก มันจะเป็นอย่างนั้นไปเรื่อยๆ
หานเซิ่นเป็นแค่ชิ้นส่วนชิ้นหนึ่งท่ามกลางเครื่องจักรที่กว้างใหญ่ แต่ทว่าด้วยพลังของศาสตร์ตงเสวียน หานเซิ่นมีมุมมองของฟันเฟืองของจักรวาลที่กว้างขึ้นและเห็นว่าฟันเฟืองแต่ละอันเชื่อมต่อกันยังไง
การใช้ศาสตร์ตงเสวียนเป็นอะไรที่รู้สึกมหัศจรรย์ วัตถุ 2 อย่างในโลกจริงนั้นอาจจะไม่มีการเชื่อมต่ออะไรให้เห็น แต่หานเซิ่นเห็นพลังงานที่ถ่ายโอนระหว่างพวกมัน อย่างเดียวที่หานเซิ่นไม่รู้ก็คือจะส่งผลต่อการเชื่อมต่อของพวกมันได้ยังไง
หานเซิ่นเข้าใจว่าถ้าต้องการจะเปลี่ยนแปลงการถ่ายทอดพลังงานของฟันเฟือง เขาจำเป็นต้องมีพลังของอาณาเขตแห่งราชัน
ทุกอาณาเขตแห่งราชันจะส่งผลต่อการหมุนของฟันเฟือง อาณาเขตแห่งราชันหนึ่งสามารถทำให้พวกมันหมุนเร็วขึ้น ช้าลงหรือแม้แต่หมุนกลับได้ ทุกฟันเฟืองที่อยู่ใกล้เคียงจะได้รับผลนั้นไปด้วยและสร้างอาณาเขตพิเศษขึ้นมา
หานเซิ่นพยายามจะควบคุมฟันเฟืองของตัวเองและเปลี่ยนวิธีการหมุนของมัน แต่เขาไม่สามารถทำได้ เขาไม่สามารถส่งผลต่อกลไกที่ควบคุมทั้งจักรวาลและสร้างอาณาเขตแห่งราชันใหม่ขึ้นมา