Super God Gene – ตอนที่ 2409

หานเซิ่นไม่รู้ว่าพวกเขามีแผนอะไร แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาบินไปรอบๆอยู่ราวหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่เขาจะพบคอร์ซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งที่กำลังบินผ่านความมืดมา

 

ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูไม่ปกติ มันลอยตัวอยู่บนพื้นหลังที่ว่างเปล่าของอวกาศราวกับเตาหลอมที่ร้อนแรง ร่างกายของมันดูเหมือนจะทำขึ้นมาจากเหล็กและร่างที่ประกอบไปด้วยฟันเฟืองของมันก็พันรอบด้วยโซ่จำนวนนับไม่ถ้วน คอร์สีแดงที่ร้อนแรงเรืองแสงออกมาจากด้านบนของมัน

 

หานเซิ่นบินตรงเข้าไปหาเตาหลอมขนาดใหญ่นั่น แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้ได้ เตาหลอมก็เปิดออกและปล่อยไฟมาใส่เขา มันดูเหมือนกับภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นมา คลื่นเพลิงขนาดมหึมาแพร่ขยายออกไป และไม่นานพื้นที่สิบกว่าไมล์ก็ถูกปกคลุมไปด้วยไฟที่ร้อนแรง

 

หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าร่างกายกำลังจะละลาย โดยไม่ลังเลเขาเรียกปืนเลเซอร์สีม่วงแดงออกมาและใส่พลังของตัวเองเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นเขาก็ยิงมันออกไปใส่เตาหลอมขนาดใหญ่

 

ปัง!

 

ร่างกายของเตาหลอมมีความกว้างสิบเมตร ลำแสงเลเซอร์ของหานเซิ่นเจาะทะลุเตาหลอมและแพร่กระจายออกจากบาดแผลเพื่อกลืนกินซีโน่เจเนอิคตัวนั้นทั้งตัว

 

“ปีนคอร์แมลงปีศาจมีพลังในการดูดกลืน! ไม่เลว นั่นมันไม่เลวเลย อย่างเดียวที่น่ารำคาญก็คือพลังในการดูดกลืนนั้นทำงานช้าและรัศมีของมันก็ไม่ได้กว้างเหมือนอย่างอาณาเขตของสิ่งมีชีวิตต้นกำเนิดของมัน” หานเซิ่นค่อนข้างชอบอาวุธใหม่นี้ของเขา

 

เตาหลอมพ่นไฟออกมาขณะที่มันหันกลับเพื่อจะหนีไป แต่ร่างกายของมันเป็นรูพรุนจากการถูกหานเซิ่นยิงใส่ซ้ำๆ ในที่สุดแล้วร่างกายของซีโน่เจเนอิคตัวนั้นก็ระเบิด ไฟที่อยู่ภายในเตาหลอมนั้นปะทุออกมาราวกับดอกไม้ไฟ

 

“คอร์ซีโน่เจเนอิคเตาหลอมโลหะระดับราชันถูกฆ่า คอร์ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”

 

หานเซิ่นบินเข้าไปและตัดคอร์สีแดงของมันออกมา ก่อนที่เขาจะบินต่อไปข้างหน้าเพื่อหาอะไรล่าต่อ

 

หลังจากที่บินไปอีกครึ่งชั่วโมง หานเซิ่นก็พบเตาหลอมอีกตัวหนึ่ง เขารีบบินเข้าไปหาเตาหลอมตัวนั้น

 

บริเวณนี้ดูเหมือนจะเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าเตาหลอม หลังจากการโบยบินอยู่เป็นเวลาสิบชั่วโมง หานเซิ่นก็ฆ่าเตาหลอมได้ทั้งหมด 6 ตัว

 

ถึงแม้พวกมันจะไม่ได้มอบวิญญาณอสูรให้กับเขา แต่เพียงแค่ได้ยีนซีโน่เจเนอิคนั้นก็ทำให้หานเซิ่นพึงพอใจแล้ว

 

“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เราก็จะร่ำรวยมากๆ” หานเซิ่นดีใจกับความคืบหน้าของเขาในตอนนี้ และด้วยเหตุนั้นเขาจึงมุ่งหน้าต่อไป

 

หลังจากเดินทางไปอีกไม่นาน หานเซิ่นก็พบสถานที่ที่เต็มไปด้วยดาวเคราะห์น้อยจำนวนมาก และเขาก็เห็นเตาหลอมอีกตัวกำลังบินอยู่

 

ขณะที่หานเซิ่นเข้าไปใกล้ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่าเตาหลอมนี้แตกต่างไปจากเตาหลอมตัวอื่นๆ เตาหลอมตัวอื่นมีความสูงราวสิบเมตร และพวกมันก็ถูกทำขึ้นมาจากเหล็กสีดำ

 

แต่ทว่าเตาหลอมนี้มีความสูงแค่ 3-4 เมตรเท่านั้น และมันก็ถูกทำขึ้นมาจากทองแดง คอร์ของเตาหลอมและไฟที่อยู่ข้างในก็เป็นทองแดงเช่นกัน แต่สิ่งที่แปลกที่สุดของเตาหลอมนี้ก็คือการที่มันมีดาบเล่มหนึ่งยื่นออกมาจากตัวของมัน

 

ดาบเล่มนั้นเกือบจะถูกกลืนกินโดยเปลวไฟ มันมีสีแดงมากๆและบางสิ่งเกี่ยวกับมันก็เป็นอะไรที่สะดุดตา

 

“นี่คือสายพันธุ์ย่อยของเตาหลอมบินได้อย่างนั้นหรอ? มันมีดาบเล่มหนึ่งอยู่ข้างในด้วย! เตาหลอมตัวนี้ดูจะมีระดับที่สูงกว่าเตาหลอมสีดำพวกนั้น แต่พลังที่เราสัมผัสได้ ดูไม่เห็นจะแข็งแกร่งกว่าอะไรมาก เตาหลอมตัวอื่นๆเป็นระดับราชันขั้น 1-2 แต่เจ้าตัวนี้อย่างมากก็เป็นระดับราชันขั้นที่ 3-4 เท่านั้น”
หานเซิ่นมาที่นี่เพื่อล่าซีโน่เจเนอิค ดังนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับพวกมันมากนัก เขาเอาปืนเลเซอร์ออกมาและยิงลำแสงสีม่วงแดงเข้าไปใส่เตาหลอม

 

เตาหลอมตัวนั้นกำลังนั่งอยู่บนดาวเคราะห์น้อย มันกำลังสูดลมหายใจเพื่อเอาพลังบางอย่างจากคอร์แอเรียจักรวาลเข้าไป ทุกการหายใจของมันทำให้ไฟในเตาหลอมสว่างไสวและร้อนแรงขึ้น ลำแสงสีม่วงแดงของหานเซิ่นพุ่งไปถูกเตาหลอมทองแดง และทำให้ส่วนหนึ่งของซีโน่เจเนอิคบุบเข้าไป เตาหลอมทองแดงนั้นกระเด็นออกไปชนดาวเคราะห์น้อยอื่น

 

ไฟของเตาหลอมถูกดาวเคราะห์น้อยด้วยเช่นกันและทิ้งรอยไหม้ของเปลวไฟเอาไว้เบื้องหลัง

 

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ ปืนคอร์แมลงปีศาจเป็นวิญญาณอสูรระดับราชันกลายพันธุ์ แต่ลำแสงเลเซอร์ของมันไม่สามารถตัดผ่านเตาหลอมทองแดงได้ มันทำได้แค่ทิ้งรอยบุบไว้บนผิวของซีโน่เจเนอิคเท่านั้น

 

ในที่สุดเตาหลอมทองแดงก็ทรงตัวได้ มันดูโกรธมากๆ มันพ่นไฟออกมาเป็นทางยาว

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกสงสารอะไร เขายิงปีนเลเซอร์อีกครั้งขณะที่ในหัวกำลังคิด
‘เราจำเป็นต้องจู่โจมอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเตาหลอมทองแดงนี้ไม่ได้อ่อนแอ แต่ถ้าเรายิงซ้ำหลายครั้งๆ เราก็ควรจะทำลายมันได้”

 

ลำแสงสีม่วงแดงพุ่งเข้าไปใส่เตาหลอมอีกครั้ง แต่เตาหลอมปล่อยแสงสีแดงของมันออกมาขัดขวางลำแสงเลเซอร์เอาไว้ มันดูเหมือนกับว่าแสงสีแดงที่ร้อนแรงนั้นมาจากดาบที่อยู่ภายในเตาหลอม

 

ปัง!

 

พลังทั้ง 2 ปะทะกันและเกิดเป็นประกายไฟที่สวยงาม

 

หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ต้องประหลาดใจที่ไม่เพียงแค่ดาบที่อยู่ภายในเตาหลอมจะไม่ถูกทำลาย แต่ลำแสงเลเซอร์ของปืนคอร์แมลงปีศาจกลับกระเด็นกระจัดกระจายออกไป

 

ดาบที่อยู่ในเตาหลอมส่งเสียงฉ่าออกมา ไฟภายในเตาหลอมทองแดงนั้นปะทุราวกับว่ามันกำลังพูดกับดาบเล่มนั้น

 

อาณาเขตเพลิงสีทองแดงเข้าปกคลุมทั้งกาแล็กซี่และห่อหุ้มหานเซิ่นเอาไว้

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกถึงความร้อน มันเหมือนกับว่าอาณาเขตเพลิงสีทองแดงเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา

 

อาณาเขตเพลิงทองแดงหนาแน่นขึ้นและดาบก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ มันเปลี่ยนเป็นทองที่โปร่งแสง และสัญลักษณ์ประหลาดก็ปรากฏขึ้นบนใบมีดของมัน

 

หานเซิ่นรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เขารีบยกปืนขึ้นและยิงออกไปอีกหลายครั้ง แต่ดาบบินและเต้นระบำพร้อมกันฟันดาบแสงออกไปใส่ทุกแสงเลเซอร์ที่เข้าไป

 

อาณาเขตเพลิงทองแดงยังคงปกคลุมเป็นวงกว้าง และดาบก็ยังคงดูดมันเข้าไปเรื่อยๆ ในที่สุดตัวดาบทองคำก็กลายเป็นคริสตัลสีเขียวและลุกไหม้ด้วยไฟสีทองแดง มันทั้งดูงดงามและน่ากลัว

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว ดาบนั้นดูทรงพลังมากๆ มันทรงพลังพอที่จะทำให้เขารู้สึกกลัว

 

“นี่เป็นซีโน่เจเนอิคที่แข็งแกร่ง ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ระดับราชันขั้น 3 หรือ 4 แต่พลังอาณาเขตของมันนั้นเสริมพลังให้กับดาบที่อยู่ภายในเตาหลอมถึงระดับที่ไม่น่าเชื่อ พลังของดาบในตอนนี้จะต้องเป็นระดับครึ่งเทพเป็นอย่างน้อย นี่เป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์!”
หานเซิ่นแปลกใจ แต่เขาไม่อยากจะถอยออกไปในตอนนี้ เขาเรียกอาณาเขตภูเขาออกมาเพื่อดูว่าซีโน่เจเนอิคเตาหลอมพิเศษนี้จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหน

 

ดาบคริสตัลลุกไหม้ด้วยไฟทองแดง ดาบส่งเสียงโหยหวนออกมา มันเทเลพอร์ตตรงเข้าไปที่หัวใจของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นชกหมัดออกไปใส่ดาบที่บินเข้ามา ชุดเกราะของเขาอาบไปด้วยอาณาเขตภูเขา ดังนั้นการป้องกันของเขาจึงแข็งแกร่งมากๆ หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องกลัวพลังของดาบเล่มนั้น

 

ปัง!

 

ปลายดาบปะทะกับหมัดของหานเซิ่น ดาบแทงทะลุชุดเกราะเข้าไปและเลือดจะเริ่มไหลออกมา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset