หานเซิ่นไม่รู้ว่าพวกเขามีแผนอะไร แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาบินไปรอบๆอยู่ราวหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่เขาจะพบคอร์ซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งที่กำลังบินผ่านความมืดมา
ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูไม่ปกติ มันลอยตัวอยู่บนพื้นหลังที่ว่างเปล่าของอวกาศราวกับเตาหลอมที่ร้อนแรง ร่างกายของมันดูเหมือนจะทำขึ้นมาจากเหล็กและร่างที่ประกอบไปด้วยฟันเฟืองของมันก็พันรอบด้วยโซ่จำนวนนับไม่ถ้วน คอร์สีแดงที่ร้อนแรงเรืองแสงออกมาจากด้านบนของมัน
หานเซิ่นบินตรงเข้าไปหาเตาหลอมขนาดใหญ่นั่น แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้ได้ เตาหลอมก็เปิดออกและปล่อยไฟมาใส่เขา มันดูเหมือนกับภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นมา คลื่นเพลิงขนาดมหึมาแพร่ขยายออกไป และไม่นานพื้นที่สิบกว่าไมล์ก็ถูกปกคลุมไปด้วยไฟที่ร้อนแรง
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าร่างกายกำลังจะละลาย โดยไม่ลังเลเขาเรียกปืนเลเซอร์สีม่วงแดงออกมาและใส่พลังของตัวเองเข้าไปข้างใน หลังจากนั้นเขาก็ยิงมันออกไปใส่เตาหลอมขนาดใหญ่
ปัง!
ร่างกายของเตาหลอมมีความกว้างสิบเมตร ลำแสงเลเซอร์ของหานเซิ่นเจาะทะลุเตาหลอมและแพร่กระจายออกจากบาดแผลเพื่อกลืนกินซีโน่เจเนอิคตัวนั้นทั้งตัว
“ปีนคอร์แมลงปีศาจมีพลังในการดูดกลืน! ไม่เลว นั่นมันไม่เลวเลย อย่างเดียวที่น่ารำคาญก็คือพลังในการดูดกลืนนั้นทำงานช้าและรัศมีของมันก็ไม่ได้กว้างเหมือนอย่างอาณาเขตของสิ่งมีชีวิตต้นกำเนิดของมัน” หานเซิ่นค่อนข้างชอบอาวุธใหม่นี้ของเขา
เตาหลอมพ่นไฟออกมาขณะที่มันหันกลับเพื่อจะหนีไป แต่ร่างกายของมันเป็นรูพรุนจากการถูกหานเซิ่นยิงใส่ซ้ำๆ ในที่สุดแล้วร่างกายของซีโน่เจเนอิคตัวนั้นก็ระเบิด ไฟที่อยู่ภายในเตาหลอมนั้นปะทุออกมาราวกับดอกไม้ไฟ
“คอร์ซีโน่เจเนอิคเตาหลอมโลหะระดับราชันถูกฆ่า คอร์ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
หานเซิ่นบินเข้าไปและตัดคอร์สีแดงของมันออกมา ก่อนที่เขาจะบินต่อไปข้างหน้าเพื่อหาอะไรล่าต่อ
หลังจากที่บินไปอีกครึ่งชั่วโมง หานเซิ่นก็พบเตาหลอมอีกตัวหนึ่ง เขารีบบินเข้าไปหาเตาหลอมตัวนั้น
บริเวณนี้ดูเหมือนจะเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าเตาหลอม หลังจากการโบยบินอยู่เป็นเวลาสิบชั่วโมง หานเซิ่นก็ฆ่าเตาหลอมได้ทั้งหมด 6 ตัว
ถึงแม้พวกมันจะไม่ได้มอบวิญญาณอสูรให้กับเขา แต่เพียงแค่ได้ยีนซีโน่เจเนอิคนั้นก็ทำให้หานเซิ่นพึงพอใจแล้ว
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เราก็จะร่ำรวยมากๆ” หานเซิ่นดีใจกับความคืบหน้าของเขาในตอนนี้ และด้วยเหตุนั้นเขาจึงมุ่งหน้าต่อไป
หลังจากเดินทางไปอีกไม่นาน หานเซิ่นก็พบสถานที่ที่เต็มไปด้วยดาวเคราะห์น้อยจำนวนมาก และเขาก็เห็นเตาหลอมอีกตัวกำลังบินอยู่
ขณะที่หานเซิ่นเข้าไปใกล้ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่าเตาหลอมนี้แตกต่างไปจากเตาหลอมตัวอื่นๆ เตาหลอมตัวอื่นมีความสูงราวสิบเมตร และพวกมันก็ถูกทำขึ้นมาจากเหล็กสีดำ
แต่ทว่าเตาหลอมนี้มีความสูงแค่ 3-4 เมตรเท่านั้น และมันก็ถูกทำขึ้นมาจากทองแดง คอร์ของเตาหลอมและไฟที่อยู่ข้างในก็เป็นทองแดงเช่นกัน แต่สิ่งที่แปลกที่สุดของเตาหลอมนี้ก็คือการที่มันมีดาบเล่มหนึ่งยื่นออกมาจากตัวของมัน
ดาบเล่มนั้นเกือบจะถูกกลืนกินโดยเปลวไฟ มันมีสีแดงมากๆและบางสิ่งเกี่ยวกับมันก็เป็นอะไรที่สะดุดตา
“นี่คือสายพันธุ์ย่อยของเตาหลอมบินได้อย่างนั้นหรอ? มันมีดาบเล่มหนึ่งอยู่ข้างในด้วย! เตาหลอมตัวนี้ดูจะมีระดับที่สูงกว่าเตาหลอมสีดำพวกนั้น แต่พลังที่เราสัมผัสได้ ดูไม่เห็นจะแข็งแกร่งกว่าอะไรมาก เตาหลอมตัวอื่นๆเป็นระดับราชันขั้น 1-2 แต่เจ้าตัวนี้อย่างมากก็เป็นระดับราชันขั้นที่ 3-4 เท่านั้น”
หานเซิ่นมาที่นี่เพื่อล่าซีโน่เจเนอิค ดังนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับพวกมันมากนัก เขาเอาปืนเลเซอร์ออกมาและยิงลำแสงสีม่วงแดงเข้าไปใส่เตาหลอม
เตาหลอมตัวนั้นกำลังนั่งอยู่บนดาวเคราะห์น้อย มันกำลังสูดลมหายใจเพื่อเอาพลังบางอย่างจากคอร์แอเรียจักรวาลเข้าไป ทุกการหายใจของมันทำให้ไฟในเตาหลอมสว่างไสวและร้อนแรงขึ้น ลำแสงสีม่วงแดงของหานเซิ่นพุ่งไปถูกเตาหลอมทองแดง และทำให้ส่วนหนึ่งของซีโน่เจเนอิคบุบเข้าไป เตาหลอมทองแดงนั้นกระเด็นออกไปชนดาวเคราะห์น้อยอื่น
ไฟของเตาหลอมถูกดาวเคราะห์น้อยด้วยเช่นกันและทิ้งรอยไหม้ของเปลวไฟเอาไว้เบื้องหลัง
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ ปืนคอร์แมลงปีศาจเป็นวิญญาณอสูรระดับราชันกลายพันธุ์ แต่ลำแสงเลเซอร์ของมันไม่สามารถตัดผ่านเตาหลอมทองแดงได้ มันทำได้แค่ทิ้งรอยบุบไว้บนผิวของซีโน่เจเนอิคเท่านั้น
ในที่สุดเตาหลอมทองแดงก็ทรงตัวได้ มันดูโกรธมากๆ มันพ่นไฟออกมาเป็นทางยาว
แต่หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกสงสารอะไร เขายิงปีนเลเซอร์อีกครั้งขณะที่ในหัวกำลังคิด
‘เราจำเป็นต้องจู่โจมอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเตาหลอมทองแดงนี้ไม่ได้อ่อนแอ แต่ถ้าเรายิงซ้ำหลายครั้งๆ เราก็ควรจะทำลายมันได้”
ลำแสงสีม่วงแดงพุ่งเข้าไปใส่เตาหลอมอีกครั้ง แต่เตาหลอมปล่อยแสงสีแดงของมันออกมาขัดขวางลำแสงเลเซอร์เอาไว้ มันดูเหมือนกับว่าแสงสีแดงที่ร้อนแรงนั้นมาจากดาบที่อยู่ภายในเตาหลอม
ปัง!
พลังทั้ง 2 ปะทะกันและเกิดเป็นประกายไฟที่สวยงาม
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ต้องประหลาดใจที่ไม่เพียงแค่ดาบที่อยู่ภายในเตาหลอมจะไม่ถูกทำลาย แต่ลำแสงเลเซอร์ของปืนคอร์แมลงปีศาจกลับกระเด็นกระจัดกระจายออกไป
ดาบที่อยู่ในเตาหลอมส่งเสียงฉ่าออกมา ไฟภายในเตาหลอมทองแดงนั้นปะทุราวกับว่ามันกำลังพูดกับดาบเล่มนั้น
อาณาเขตเพลิงสีทองแดงเข้าปกคลุมทั้งกาแล็กซี่และห่อหุ้มหานเซิ่นเอาไว้
แต่หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกถึงความร้อน มันเหมือนกับว่าอาณาเขตเพลิงสีทองแดงเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
อาณาเขตเพลิงทองแดงหนาแน่นขึ้นและดาบก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ มันเปลี่ยนเป็นทองที่โปร่งแสง และสัญลักษณ์ประหลาดก็ปรากฏขึ้นบนใบมีดของมัน
หานเซิ่นรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เขารีบยกปืนขึ้นและยิงออกไปอีกหลายครั้ง แต่ดาบบินและเต้นระบำพร้อมกันฟันดาบแสงออกไปใส่ทุกแสงเลเซอร์ที่เข้าไป
อาณาเขตเพลิงทองแดงยังคงปกคลุมเป็นวงกว้าง และดาบก็ยังคงดูดมันเข้าไปเรื่อยๆ ในที่สุดตัวดาบทองคำก็กลายเป็นคริสตัลสีเขียวและลุกไหม้ด้วยไฟสีทองแดง มันทั้งดูงดงามและน่ากลัว
หานเซิ่นขมวดคิ้ว ดาบนั้นดูทรงพลังมากๆ มันทรงพลังพอที่จะทำให้เขารู้สึกกลัว
“นี่เป็นซีโน่เจเนอิคที่แข็งแกร่ง ถึงมันจะเป็นเพียงแค่ระดับราชันขั้น 3 หรือ 4 แต่พลังอาณาเขตของมันนั้นเสริมพลังให้กับดาบที่อยู่ภายในเตาหลอมถึงระดับที่ไม่น่าเชื่อ พลังของดาบในตอนนี้จะต้องเป็นระดับครึ่งเทพเป็นอย่างน้อย นี่เป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์!”
หานเซิ่นแปลกใจ แต่เขาไม่อยากจะถอยออกไปในตอนนี้ เขาเรียกอาณาเขตภูเขาออกมาเพื่อดูว่าซีโน่เจเนอิคเตาหลอมพิเศษนี้จะแข็งแกร่งถึงขนาดไหน
ดาบคริสตัลลุกไหม้ด้วยไฟทองแดง ดาบส่งเสียงโหยหวนออกมา มันเทเลพอร์ตตรงเข้าไปที่หัวใจของหานเซิ่น
หานเซิ่นชกหมัดออกไปใส่ดาบที่บินเข้ามา ชุดเกราะของเขาอาบไปด้วยอาณาเขตภูเขา ดังนั้นการป้องกันของเขาจึงแข็งแกร่งมากๆ หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องกลัวพลังของดาบเล่มนั้น
ปัง!
ปลายดาบปะทะกับหมัดของหานเซิ่น ดาบแทงทะลุชุดเกราะเข้าไปและเลือดจะเริ่มไหลออกมา