“เป็นดาบที่ทรงพลังจริงๆ” หานเซิ่นก้มหัวและมองดูกำปั้นของตัวเอง ถึงแม้จะอาบด้วยอาณาเขตภูเขา แต่ชุดเกราะที่ปกคลุมกำปั้นของเขาก็ยังคงถูกดาบตัดผ่านมาได้ นิ้วของเขามีเลือดไหลออกมา แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณที่กระดูกของเขาไม่ได้รับความเสียหายอะไร
ดาบที่ออกมาจากเตาหลอมแทงเข้าใส่หานเซิ่นเป็นครั้งที่ 2 แต่การแทงครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่าครั้งก่อน ดาบนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนหานเซิ่นแทบจะมองตามไม่ทัน
หานเซิ่นจับใบมีดของดาบที่ออกมาเตาหลอมเอาไว้ ซึ่งนั่นทำให้มีเลือดไหลออกมาจากมือของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็กำใบมีดเอาไว้แน่น
ดาบกำลังสั่นไหวราวกับว่ามันกำลังดันตัวเองเข้าไปที่หัวใจของหานเซิ่น แต่หานเซิ่นยังคงจับใบมีดเอาไว้แน่นและไม่ปล่อยให้มันหลุดมือเขาไปได้
เตาหลอมทองแดงพ่นไฟออกมาและอาณาเขตเพลิงของมันก็เข้าปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างอีกครั้ง ดาบเริ่มดูดซับไฟนั้นเข้าไป และดาบก็ดูโปร่งใสมากขึ้นอีก พลังของมันเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และมันก็เริ่มดันตัวเองเข้าไปสู่หัวใจของหานเซิ่นอีกครั้ง
ใบมีดตัดลึกเข้าไปในมือของหานเซิ่น แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยังไม่คิดจะปล่อยมือออกจากมัน เขาจับดาบเอาไว้แน่นยิ่งกว่าเดิมขณะที่พยายามจะดึงดาบออกไปจากหัวใจของเขา
ปลายดาบที่ออกมาจากเตาหลอมนั้นเกือบจะสัมผัสกับอกของหานเซิ่น ใบมีดคริสตัลสีเขียวดูเหมือนกับงูพิษ ขณะที่มันเขย่าตัวอยู่ในมือของหานเซิ่น มันพยายามจะแทงเข้าไปในหัวใจของเขา แต่การเคลื่อนไหวของมันก็ถูกหยุดเอาไว้
เตาหลอมทองแดงลอยขึ้นพร้อมกับดูดพลังงานจากกาแล็กซี่รอบๆตัว ไฟของมันร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ และอาณาเขตเพลิงทองแดงของมันก็เข้าปกคลุมทุกอย่างอีกครั้ง
ดาบที่ออกมาจากเตาหลอมดูดซับไฟของอาณาเขตเพลิงเข้าไป ทำให้มันได้รับพลังมหาศาล มันปลดปล่อยพละกำลังในระดับที่ยากจะจินตนาการออกมาและตัดผ่านมือของหานเซิ่นไป
ดาบเริ่มจะตัดผ่านชุดเกราะบริเวณอกของหานเซิ่น หานเซิ่นพยายามจะดันดาบที่ร้อนแรงกลับไป แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ตอนนี้เลือดไหลออกมาจากมือของหานเซิ่น และมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่มันจะตัดไปถึงกระดูกนิ้วมือของเขา
ในตอนนี้ปลายดาบฝังลึกเข้าไปในอกของหานเซิ่นกว่า 5 เซนติเมตรแล้ว และมันก็กำลังจะสัมผัสกับหัวใจของเขา
เตาหลอมทองแดงเต้นระบำอย่างมีความสุข และเปลวไฟที่อยู่ในเตาหลอมก็ก่อตัวเป็นอิโมจิรูปรอยยิ้มที่จ้องตรงมาที่หานเซิ่น
“นายแข็งแกร่งจริงๆ แต่มันคงจะต้องหยุดเพียงเท่านี้” หานเซิ่นพูดกับเตาหลอมโลหะขณะที่มือของเขายังคงกำดาบเอาไว้แน่น
ดาบที่ออกมาจากเตาหลอมนั้นทรงพลังมากๆ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปพลังที่น่ากลัวของมันก็ถูกถ่ายโอนไปที่ชุดเกราะตงเสวียน ในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปที่ดาบจะเจาะทะลุชุดเกราะตงเสวียน
หานเซิ่นรวบรวมพละกำลังเพื่อดันดาบออกไป มือของเขาที่กำดาบอยู่นั้นควรจะอ่อนแรงลงจากการเสียเลือด แต่ไม่ว่าดาบจะพยายามดิ้นหล่นยังไง มันก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากกำมือของหานเซิ่นได้
ไฟของเตาหลอมทองแดงปะทุขึ้นอีกครั้งเพื่อปลดปล่อยอาณาเขตเพลิงออกมา
ตัวอาณาเขตเพลิงเองไม่ได้เป็นอันตรายอะไร แต่มันช่วยเสริมพลังให้กับดาบอย่างมหาศาล ทุกครั้งที่อาณาเขตของเตาหลอมถูกดูดเข้าไป มันก็จะทำให้ดาบแข็งแกร่งขึ้นมา และการเสริมพลังนั้นดูจะไม่มีขีดจำกัด
เนื่องจากดาบที่ออกมาจากเตาหลอมนั้นแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้ง นั่นหมายความว่าพลังอาณาเขตของเตาหลอมทองแดงนั้นสามารถใช้ซ้อนๆกันได้
นี่เป็นอาณาเขตแรกที่หานเซิ่นเคยเห็นว่าสามารถทำอะไรแบบนั้นได้
ดวงตาของหานเซิ่นแข็งกร้าวขณะที่เขาจับดาบเอาไว้แน่น เขาดึงดาบออกมาจากอกของตัวเอง ขณะที่อาณาเขตเพลิงของเตาหลอมก็หายไปอย่างกะทันหัน นอกจากเปลวไฟที่ยังคงริบหรี่อยู่ภายในเตาหลอมทองแดงแล้ว มันไม่มีประกายไฟอื่นให้เห็นอีก
หานเซิ่นได้ใช้งานอาณาเขตตงเสวียนอย่างเต็มกำลังและบังคับให้ฟันเฟืองของเตาหลอมทองแดงหยุดหมุน ซึ่งนั่นทำให้อาณาเขตเพลิงของมันดับไป
เตาหลอมทองแดงตัวสั่นด้วยความกลัว ฟันเฟืองจักรวาลภายในเตาหลอมนั้นหมุนอย่างรวดเร็วเพื่อจะดึงพลังงานจากอวกาศรอบๆตัว แต่ไม่ว่ามันจะหมุนเร็วสักแค่ไหน เตาหลอมทองแดงก็ไม่สามารถปลดปล่อยอาณาเขตของมันออกมาได้ มันเหมือนการพยายามจุดไม้ขีดไฟที่เปียก
ตัวเตาหลอมทองแดงเองไม่ได้แข็งแกร่งอะไร มันคงจะเป็นแค่ซีโน่เจเนอิคระดับราชันขั้นที่ 3 หรือ 4 เท่านั้น แต่อาณาเขตเพลิงของมันที่ใช้เสริมพลังให้กับดาบเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ หลังจากการเสริมพลังหลายครั้ง ดาบที่ออกมาจากเตาหลอมก็มีพลังเทียบได้กับสิ่งมีชีวิตระดับครึ่งเทพ นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นเคยเห็นซีโน่เจเนอิคแบบนี้
เตาหลอมทองแดงต้องการจะพ่นไฟออกมาเพิ่ม แต่ไม่ว่ามันจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถปล่อยแม้แต่ควันออกมา
“ตอนนี้ถึงตาฉันบ้าง” ขณะที่จับดาบไว้ในมือข้างหนึ่ง หานเซิ่นก็ยกปืนคอร์แมลงปีศาจในมืออีกข้างขึ้นและกระหน่ำยิงเข้าไปใส่เตาหลอมทองแดง
เนื่องจากอาณาเขตภูเขา ความเร็วในการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นจึงเชื่องช้ามากๆ มันไม่มีทางที่เขาจะโจมตีเจ้าเตาหลอมทองแดงได้ด้วยมือเปล่า แต่ความเร็วในการยิงของปืนคอร์แมลงปีศาจนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ลำแสงสีม่วงแดงพุ่งใส่เตาหลอมทองแดงและส่งมันกระเด็นออกไป บนผิวเตาหลอมเต็มไปด้วยรอยบุบขณะที่มันกระเด็นไปชนดาวเคราะห์น้อยรอบๆ
“ทำไมร่างกายของเจ้าตัวนี้ถึงได้แข็งนัก?” หานเซิ่นแปลกใจ เขาใช้ปืนคอร์แมลงปีศาจยิงใส่มันเป็นเวลานาน แต่ถึงอย่างนั้นแสงเลเซอร์ก็ยังไม่สามารถเจาะทะลุผิวของมันได้ และพลังกลืนกินก็ไม่สามารถเข้าปกคลุมมันได้เช่นกัน
เตาหลอมทองแดงตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ แต่มันได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อยเท่านั้น มันยังไม่ได้รับบาดแผลที่สาหัสอะไร
“ซีโน่เจเนอิคระดับราชันที่มีอาณาเขตที่ประหลาด และร่างกายของมันยังแข็งมากๆอีก นี่มันประหลาดจริงๆ” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
แต่ในตอนนี้หานเซิ่นมาไกลเกินกว่าที่จะปล่อยทุกอย่างไป เขาใช้ปีนคอร์แมลงปีศาจยิงใส่เตาหลอมทองแดงไปเรื่อยๆ
การยิงที่แม่นยำของหานเซิ่นยังคงพุ่งไปถูกเจ้าเตาหลอมโดยไม่พลาดเป้า เตาหลอมทองแดงยังคงพยายามบินไปเรื่อยๆ แต่แทนที่จะหนีไปจากหานเซิ่น มันกลับกำลังมุ่งหน้าเข้ามาหาเขา
ดาบที่ออกมาจากเตาหลอมก็ยังคงพยายามดิ้นรนภายในมือของหานเซิ่น แต่มันไม่สามารถหลุดออกมาได้
ปัง!
หลังจากที่ยิงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ในที่สุดด้านหนึ่งของเตาหลอมทองแดงก็รับความเสียหายมากเกินไปและลำแสงเลเซอร์สีม่วงแดงก็เจาะทะลุผิวของมันจนเป็นรูได้สำเร็จ
รูนั่นไม่ได้ใหญ่อะไรมาก แต่มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจขึ้นมา ขนาดของรูไม่ใช่ปัญหาอะไร ถ้าเขาสามารถเจาะทะลุผิวของมันได้ แบบนั้นเขาก็สามารถทำลายมันได้
หานเซิ่นมีแผนที่จะยิงต่อไปเรื่อยๆ แต่เตาหลอมทองแดงเริ่มจะส่งเสียงหวีดที่เหมือนกับการร้องไห้ออกมา อาณาเขตตงเสวียนยังคงล็อคฟันเฟืองทั้งหมดในบริเวณรอบๆเอาไว้ และไม่ว่ามันจะพยายามสักแค่ไหน มันก็ไม่สามารถสร้างอาณาเขตเพลิงได้อีก
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงหวีดร้องที่ดังมาก แต่เสียงนี้ไม่ได้มาจากเจ้าเตาหลอมทองแดง
หานเซิ่นหันหน้าไปทางที่เสียงดังมาและเขาก็เห็นเตาหลอมขนาดใหญ่ยักษ์กำลังตรงเข้ามาทางเขา มันใหญ่โตราวกับดวงดาว และดาบนับพันก็บินวนอยู่รอบๆมันราวกับแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ทุกดาบเหมือนกับดาบที่ออกมาจากเตาหลอมทองเดง พวกมันกำลังลุกไหม้ด้วยไฟสีเขียว กาแล็กซี่นั้นถูกปกคลุมไปด้วยดาบจนสุดลูกหูลูกตา และโลกนี้ก็กลายเป็นทะเลแห่งดาบ