หินก้อนนั้นถูกนำไปเก็บเอาไว้ในโกดัง โดยที่ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปใกล้โกดังนั้น สิ่งมีชีวิตไหนก็ตามที่เข้าไปใกล้ก้อนหินจะมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น
สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าถูกลดระดับลงมาเหลือแค่ราชัน นั่นเป็นบางสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แม้แต่เรดคลาวด์เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร และเธอก็ไม่ได้รู้สึกถึงอะไรที่เข้าไปในร่างกายของเธอ มันเหมือนกับว่าในตอนที่เธอหลับนั้น เธอได้ย้อนเวลากลับไปก่อนที่เธอจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า
ถึงแม้เธอจะยังมีจิตใจและสัมผัสระดับเทพเจ้า แต่พละกำลังและพลังของเธอถูกลดลงมาอยู่ในระดับราชัน มันเป็นเหตุการณ์ที่ประหลาดมากๆ
หานเซิ่นได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อเขามองดูเรดคลาวด์ เขาก็ตรวจเช็คเธออย่างละเอียด เขาเห็นว่าพลังชีวิตของเรดคลาวด์ลดลงไปอย่างมาก ในตอนที่เขามองเธอก่อนหน้านี้ มันมีเมฆมัวๆห่อหุ้มพลังของเธอเอาไว้ แต่ตอนนี้พวกมันหายไปแล้ว ตอนนี้เขามองเห็นพลังชีวิตของเธอได้อย่างชัดเจน เธอกลายเป็นแค่ระดับราชันคนหนึ่ง ในตอนนี้เธออ่อนแอกว่าฟอลลิ่งลีฟซะอีก
“เจ้าคิดว่ายังไง?” คุณหญิงมิร์เรอร์ถามหานเซิ่น
หานเซิ่นมองก้อนหินบนหน้าจอและสังเกตเห็นว่ามันมีสีดำเหมือนกับก้อนหินธรรมดาทั่วไป แต่มันมีขนาดและรูปร่างพอๆกับคนที่ยืนอยู่
แต่นั่นเป็นแค่รูปร่างคร่าวๆเท่านั้น ก้อนหินไม่ได้มีใบหน้าอยู่ และส่วนที่ดูเป็นแขนขาก็เชื่อมต่อกับส่วนตัวเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นมันเป็นก้อนหินก้อนเดียว มันดูเหมือนกับบางสิ่งที่ถูกตัดออกมาจากหินก้อนที่ใหญ่กว่าอย่างหยาบๆโดยเครื่องมือโบราณ
แต่หานเซิ่นรู้ว่ามันไม่มีทางถูกสร้างขึ้นมาได้ มันไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่ามันถูกสร้างขึ้นมาโดยสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก
แม้แต่ตัวอักษรที่อยู่บนมนุษย์หินก็ดูเป็นบางสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พวกมันไม่ได้ดูเหมือนกับการแกะสลักเลยสักนิดเดียว
หานเซิ่นสังเกตมันอยู่สักพัก แต่เขาไม่เจออะไรที่ผิดปกติเกี่ยวกับมัน และเขาก็ไม่รู้ว่าตัวอักษรที่ถูกสลักเอาไว้หมายความว่าอะไรเช่นกัน เขาไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อนและมันก็ไม่ได้เหมือนกับคิงอีซที่จะเข้าใจได้โดยสัญชาตญาณ
“ข้าบอกอะไรไม่ได้ถ้าดูแค่วิดีโอ” หานเซิ่นตอบ
“เจ้าอยากจะไปที่โกดังเพื่อดูมันไหม?” คุณหญิงมิร์เรอร์ถามขณะที่มองไปที่หานเซิ่น
“ถ้าพวกท่านยังบอกอะไรเกี่ยวกับหินนี้ไม่ได้ แบบนั้นข้าก็คงจะทำไม่ได้เช่นกัน” หานเซิ่นรีบพูด เขาไม่อยากจะเสี่ยงโดยไม่มีความจำเป็น
แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้ายังถูกลดระดับลงมาสู่ระดับราชันในชั่วข้ามคืน หานเซิ่นไม่อยากจะถูกลดระดับลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเพิ่งจะเลื่อนสู่ระดับราชัน
คำตอบของหานเซิ่นทำให้คุณหญิงมิร์เรอร์ประหลาดใจ เธอเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วอาณาเขตกษัตริย์ ราชาไป๋บอกข้าว่าให้เก็บมันเอาไว้ที่นี่และสืบหาว่ามันคืออะไรกันแน่”
หานเซิ่นไม่แปลกใจอะไรกับเรื่องนั้น ถ้าพวกเขาส่งมันกลับไปที่เอ็กซ์ตรีมคิงโดยไม่รู้ซะก่อนว่ามันคืออะไร ก้อนหินนี้ก็อาจจะดูดพลังของเอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าทั้งหมดไป หานเซิ่นคิดว่านั้นเป็นอะไรที่น่าขัน
ไนท์วินด์พูด “พวกเราไม่รู้ถึงประสิทธิภาพของสิ่งนี้ พวกเราคงจะต้องใช้สิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อมาทดลองและหาระยะส่งผลของมัน”
“องค์ชายสิบหก เจ้าอยากจะมีงานทำไม่ใช่หรอ? ข้าจะให้เจ้าจัดการเรื่องนี้” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด
“ข้า?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ นี่นั่นเป็นอะไรที่อันตรายเกินไป ดังนั้นเขาไม่คิดจะลองทดสอบมันด้วยตัวเอง ถ้าเป็นหานเซิ่น เขาก็จะเลือกให้คนงานสักคนไปลองแทนเขา
มันน่าประหลาดใจที่คุณหญิงมิร์เรอร์ปล่อยให้หานเซิ่นเป็นคนจัดการเรื่องนี้
“เจ้ามีปัญหาอย่างนั้นหรอ?” คุณหญิงมิร์เรอร์ถาม
“เปล่า แต่ข้าจะใช้คนจากไหน?” หานเซิ่นถาม
“เลือกคนงานคนไหนก็ได้ มันมีพวกเขาอยู่ตั้งมากมาย แต่เจ้าเลือกไปได้สูงสุดแค่ดยุกสิบคนเท่านั้น หรือเจ้าจะเลือกมาร์ควิสไปสิบคนก็ได้เช่นกัน” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด
“ข้าเข้าใจแล้ว” หานเซิ่นพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปทำงานได้ ข้าจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า” คุณหญิงมิร์เรอร์ยิ้ม
“ท่านหญิงไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง” หานเซิ่นตอบ
เมื่อหานเซิ่นจากไปแล้ว ไนท์วินด์ก็พูดขึ้นมา “คุณหญิง การให้องค์ชายสิบหกเป็นคนจัดการเรื่องนี้มันจะดีอย่างนั้นหรอ? ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเขา พวกเราจะบอกราชาไป๋ว่ายังไง?”
“ข้าจะรับผิดชอบเรื่องนั้นเอง ในตอนนี้ที่เรดคลาวด์สูญเสียพลังของนางไป เจ้าจะต้องเป็นคนรับผิดชอบทุ่งหินแทน ระวังตัวให้ดี” คุณหญิงมิร์เรอร์พูด
หานเซิ่นไปที่ทุ่งหินเพื่อเลือกคนงาน ซึ่งนั่นรวมถึงหนิงเยวี่ยด้วย เนื่องจากหานเซิ่นจำเป็นต้องยืนยันประสิทธิภาพของก้อนหินนั้น เขาก็ต้องส่งคนเข้าไปใกล้มัน ยิ่งคนๆหนึ่งเข้าก้อนหินมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะตกอยู่ในอันตรายมากเท่านั้น หานเซิ่นมีแผนที่จะให้หนิงเยวี่ยอยู่ห่างจากก้อนหินมากที่สุดเท่าที่ทำได้
ถ้าแม้แต่คนที่อยู่ไกลที่สุดก็ได้รับผลกระทบจากมัน แบบนั้นทุกคนในค่ายก็คงจะอยู่ในระยะส่งผลของก้อนหินเรียบร้อยแล้ว
หานเซิ่นเลือกขุนนาง 20 คนอย่างรวดเร็วและจัดเป็นสิบคู่ คู่หนึ่งจะประกอบไปด้วยมาร์ควิสคนหนึ่งและดยุกคนหนึ่ง เขาสั่งให้แต่ละคู่ยืนอยู่ห่างจากก้อนหินไประยะหนึ่ง คู่ที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นอยู่ในโกดัง ส่วนคู่อื่นๆอยู่นอกโกดัง เขาแบ่งระยะห่างระหว่างแต่ระคู่โดยจัดคู่ของหนิงเยวี่ยเอาไว้หลังสุด
หลังจากนั้นสิ่งที่หานเซิ่นต้องทำก็คือมองดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับทั้งสิบคู่ สมาชิกระดับสูงของสปริงเรนจะคอยบันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอาไว้ด้วยเช่นกัน
หลังจากผ่านไปหนึ่งคืน บางสิ่งก็เกิดขึ้นกับคู่ที่อยู่ใกล้กับก้อนหินมากที่สุด แต่มันแตกต่างไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรดคลาวด์ พวกเขาไม่ได้ลดระดับลง แต่เป็นเพิ่มระดับขึ้นแทน
คนที่เป็นระดับมาร์ควิสนั้นกลายเป็นดยุก และคนที่เป็นระดับดยุกกลายเป็นราชัน
มันไม่ได้น่าประหลาดใจเหมือนอย่างตอนที่เรดคลาวด์ถูกลดระดับลงมาเหลือราชัน แต่มันก็ยังคงเป็นอะไรที่น่าตกใจอยู่ดี ตอนนี้ทุกคนสงสัยว่าก้อนหินนั้นจะใช้เพื่อเพิ่มเกินระดับราชันขึ้นไปได้หรือเปล่า ถ้าพวกเขาสามารถใช้ก้อนหินเพื่อเปลี่ยนราชันคนหนึ่งไปสู่ระดับเทพเจ้าได้ นั่นก็จะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ
และถึงก้อนหินจะไม่สามารถเพิ่มระดับได้ถึงขนาดนั้น แต่การทำให้ดยุกคนหนึ่งพัฒนาไปสู่ระดับราชันก็เป็นอะไรที่สุดยอดอยู่ดี ถ้าพวกเขาสามารถใช้พลังของก้อนหินได้อย่างปลอดภัย แบบนั้นพวกเขาก็จะสามารถใช้มันเพื่อสร้างกองทัพราชันขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
หานเซิ่นไม่อนุญาตให้คน 2 คนที่เพิ่มระดับขึ้นทิ้งตำแหน่งของตัวเอง พวกเขายังคงประจำอยู่ในโกดังและรอคอยว่ามันจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นอีกไหม
3 วันผ่านไป มันไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นกับทั้ง 2 คนที่อยู่ในโกดัง แต่คู่ที่อยู่นอกโกดังใกล้ๆกับก้อนหินมากที่สุดนั้นเกิดความเปลี่ยนแปลง พวกเขาเพิ่มระดับขึ้นเหมือนกับคู่แรก
ตั้งแต่ที่ก้อนหินก้อนนี่ถูกพบ ทุกคนก็เพิ่มระดับขึ้นเมื่ออยู่ใกล้มัน มีเพียงแค่เรดคลาวด์เท่านั้นที่ถูกลดระดับลง
หานเซิ่นตรวจเช็คทั้งสิบคู่อยู่ทุกวัน และเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดคุยกับหนิงเยวี่ย แต่เขาพบว่ามันเป็นประสบการณ์ที่น่าขนลุก หนิงเยวี่ยดูเป็นผู้หญิงจริงๆ มันไม่ใช่แค่ร่างกายเท่านั้นที่เปลี่ยนไป แม้แต่ลักษณะนิสัยของหนิงเยวี่ยก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
หานเซิ่นแทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือหนิงเยวี่ยที่เขารู้จัก หนิงเยวี่ยเคยเป็นคนที่ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แต่ตอนนี้เขากลายเป็นเป็นหญิงสาวที่อ่อนไหว
“ฉันได้รับผลกระทบจากดาบนั่น”
หานเซิ่นไม่เคยลืมใบหน้าเมื่อหนิงเยวี่ยพูดแบบนั้น มันเหมือนกับผู้หญิงที่เพิ่งจะแต่งงานแต่สามีของเธอถูกฆ่าตายในทันทีหลังจากนั้น เขาดูสิ้นหวังและน่าสงสารอย่างมาก