หว่านเอ๋อยังคงหมดสติอยู่ หานเซิ่นตัดสินใจวางเธอลงกับพื้น
หานเซิ่นต้องการจะลองดูว่าถ้าเขากับหว่านเอ๋ออยู่ห่างจากกันแล้ว เขาจะสามารถเปิดใช้งานร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดได้ไหม
หลังจากที่ปล่อยหว่านเอ๋อไป หานเซิ่นก็เปิดใช้งานโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดอีกครั้ง แสงสีขาวห่อหุ้มร่างกายของเขา
สีแดงหายไปจากดวงตาของเขาภายใต้แสงสีขาวอันศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้หานเซิ่นสามารถคงร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเอาไว้ได้และพลังของเขาก็ไม่ได้จางหายไป
“นี่หว่านเอ๋อเป็นสาเหตุที่ทำให้พลังของเราหายไปจริงๆอย่างนั้นหรอ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? มันเป็นไปได้ยังไงกันที่ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดจะได้รับผลกระทบจากเธอ?”
หานเซิ่นมองไปที่หว่านเอ๋อด้วยความแปลกใจ เขาสังเกตเห็นว่าร่างกายของเธอเองก็เรืองแสงสีทอง นอกจากนั้นดวงตาและผมของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีทอง
แต่ในตอนนี้หานเซิ่นไม่มีเวลามามัวกังวลถึงเรื่องนั้น เขารวบรวมพลังเพื่อใช้ท่าตบขั้นสุดยอดอีกครั้งและชกหมัดเข้าไปหาดวงตาของรูปปั้น
แต่ในจังหวะที่หานเซิ่นเข้าไปใกล้ โซ่สสารสีแดงก็ปรากฏขึ้นมาและฟาดเข้าใส่หานเซิ่น
ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของหานเซิ่นเมินเฉยต่อแสงสีเลือดอย่างสมบูรณ์ แสงสีเลือดผ่านเขาไปราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน เหมือนกับว่าเขาเป็นแค่วิญญาณ
แต่เมื่อหมัดของหานเซิ่นชกไปถูกดวงตาของรูปปั้น คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นก็ซัดหานเซิ่นกระเด็นกลับไปด้านหลัง ท่าตบขั้นสุดยอดนั้นทำลายดวงตาของรูปปั้นไม่สำเร็จ
“นี่มันแข็งยิ่งกว่าแมลงประหลาดระดับเทพเจ้าตัวนั้นซะอีก”
เมื่อคิดได้แบบนั้นมันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมา แต่เขาเองก็คาดเอาไว้แล้วว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้
เขาไม่สามารถทำลายรูปปั้นได้ นั่นหมายความว่าเขาจะไม่สามารถไขความลับของพลังที่ทำให้ดวงตาทุกคนเปลี่ยนเป็นสีแดงได้ แบบนั้นถึงพลังของมันจะไม่มีผลกระทบต่อเขา เนื่องจากเขามีร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด แต่ถ้าคนอื่นได้รับอาการตาสีแดงนี้ เขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรคนพวกนั้นได้
หานเซิ่นหันหลังกลับและเริ่มเดินจากไป แต่ทันใดนั้นรูปปั้นก็เริ่มเคลื่อนไหว จู่ๆร่างกายที่ใหญ่โตของมันก็ลุกขึ้นยืนและมองมาที่หานเซิ่น ทั้งห้องโถงสั่นสะเทือนขณะที่รูปปั้นลุกขึ้นมา
“มันมีชีวิต!” หานเซิ่นไม่ได้ประหลาดใจอะไรนัก เขารีบกระโดดเข้าไปหาหว่านเอ๋อเพื่อจะคว้าตัวเธอมาก่อนที่จะวิ่งหนีไป
แต่หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นว่าหว่านเอ๋อพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้น เส้นผมกับดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีทอง ตอนนี้เธอดูเหมือนกับตอนแรกที่หานเซิ่นได้เห็นเธอ
ดวงตาของเธอเปิดขึ้นมา แต่พวกมันขาดการโฟกัสราวกับว่าเธอกำลังเหม่อลอย
รูปปั้นก้าวออกมาข้างหน้าและส่งมือที่เหมือนกับปีศาจลงมาตบหานเซิ่น แต่ว่ามันถูกหยุดเอาไว้ก่อนที่มาถึงตัวของหานเซิ่น
หว่านเอ๋อเทเลพอร์ตไปตรงหน้ารูปปั้น หลังจากนั้นเธอก็สะบัดมือและตัดหัวของรูปปั้นจนขาด
ตูม!
หัวขนาดใหญ่ของรูปปั้นตกลงมาสู่พื้นทำให้เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ในบริเวณที่มันตกลงมา
หานเซิ่นตกตะลึง หว่านเอ๋อมีร่างกายที่อ่อนแออย่างมาก แต่หลังจากที่เธอเปลี่ยนเป็นสีทอง พลังของเธอก็กลายเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว
นี่ต่างไปจากภาพที่ 6 บนฉากกั้นโดยสิ้นเชิง ภาพที่ 6 บนฉากกั้นนั้นแสดงถึงบุคคลไร้ใบหน้าคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น ขณะที่บุคคลไร้ใบหน้าอีกคนคุกเข่าภาวนาต่อรูปปั้น
แต่ถึงหัวของรูปปั้นจะถูกตัดขาด รูปปั้นก็ยังคงไม่พังทลาย ร่างกายของมันเริ่มดิ้นไปมาและมือทั้งหนึ่งพันก็เริ่มเคลื่อนไหว ดวงตาสีแดงเริ่มเรืองแสงออกมาและปกคลุมทั้งห้องโถงด้วยแสงสีแดง โซ่สสารสีแดงนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาและเลื้อยเข้าไปหาร่างกายของหว่านเอ๋อ
พลังของหว่านเอ๋อเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ แต่ร่างกายของเธอยังคงได้รับความเสียหายได้ เธอไม่ได้มีร่างกายที่เป็นอมตะเหมือนอย่างร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของหานเซิ่น
โซ่สสารนับไม่ถ้วนพันรอบร่างกายของหว่านเอ๋อ ขณะเดียวกันรอยยิ้มที่ชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของรูปปั้นที่อยู่บนพื้น หลังจากนั้นมันก็ลอยขึ้นมาและพยายามจะกลืนกินหว่านเอ๋อเข้าไป
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อจะช่วยหว่านเอ๋อ แต่ทันใดนั้นแสงสีทองที่ออกมาจากร่างกายของเธอก็สว่างยิ่งขึ้นกว่าเดิม โซ่สสารที่พันร่างกายอยู่เริ่มจะละลาย เธอยกมือข้างหนึ่งขึ้นและยื่นออกไปสัมผัสหัวของรูปปั้นที่เข้ามา หลังจากนั้นหัวของรูปปั้นก็ระเบิดราวกับดอกไม้ไฟ
หัวของรูปปั้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ แต่รูปปั้นก็ยังคงไม่ตาย ถึงอย่างนั้นมันก็ดูตกใจอย่างมาก ร่างกายที่ใหญ่โตของมันหันกลับหลังและพยายามจะวิ่งหนีไป
ร่างกายของหว่านเอ๋อแว็บหายไป และเธอก็ไปปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านข้างของรูปปั้น เธอยื่นมือออกไปและวางลงบนร่างกายรูปปั้น
ปัง!
ร่างกายของรูปปั้นระเบิดและกลายเป็นเศษหินที่ร่วงหล่นลงมา แขนของมันกระจัดกระจายไปทั่ว
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!” หานเซิ่นตกตะลึงกับพลังที่เธอแสดงออกมา แม้แต่รูปปั้นที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ก็ยังถูกเธอทำลายในชั่วพริบตา
แขนส่วนใหญ่ที่ตกลงมาบนพื้นถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี และดวงตาที่อยู่บนมือแต่ละข้างก็ถูกทำลายไปเช่นกัน ดวงตาบางดวงที่ยังไม่ถูกทำลายมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก พวกมันกำลังจะตายไปในอีกไม่ช้า แขนของรูปปั้นที่ยังไม่ถูกทำลายนั้นดิ้นไปมาบนพื้นราวกับงูที่กำลังจะตาย
หนึ่งในลูกตานั้นพุ่งออกมาจากมือและกลายเป็นแสงสีเลือดที่พยายามหนีออกไปจากห้องโถง
หานเซิ่นยืนอยู่ที่ทางออกของห้องโถงและมองดูดวงตาสีเลือดที่พุ่งเข้ามา เขาใช้ท่าตบขั้นสุดยอดเพื่อตบใส่มันร่วงกลับลงไปบนพื้น
เมื่อดวงตานั้นแตกกระจาย ชิ้นส่วนของรูปปั้นที่ดิ้นอยู่ก็หยุดนิ่งไปในที่สุด
“ซีโน่เจเนอิคบลัดอายอีวิลก็อตระดับเทพเจ้ากลายพันธุ์ถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อต”
เมื่อหานเซิ่นได้ยินเสียงประกาศ เขาก็รู้สึกแปลกใจอย่างมาก เขาไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรขณะที่ตบใส่ลูกตา เขาแค่ไม่ต้องการให้มันหนีไปได้ เขาไม่ได้คิดว่าจะได้รับรางวัลจากมัน
ก่อนที่หานเซิ่นจะมีเวลาตรวจเช็ควิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อต หว่านเอ๋อก็เทเลพอร์ตเข้ามาหาเขา ดวงตาสีทองของเธอมองมาทางเขา แต่พวกมันการขาดโฟกัส ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเธอกำลังมองมาที่เขาจริงๆหรือเปล่า
หลังจากนั้นหว่านเอ๋อก็ยื่นมือเข้ามาหาหานเซิ่น หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าพลังที่มหาศาลของหว่านเอ๋อกำลังจะฆ่าเขา ความรู้สึกอันตรายที่ท่วมท้นกดลงบนไหล่ของหานเซิ่น ความรู้สึกนี้รุนแรงจนเกือบจะทำให้เขาหายใจไม่ออก