Super God Gene – ตอนที่ 2447

“พวกเจ้ากำลังทำอะไร? ถอยไปให้หมด! อย่าได้เสียมารยาทกับพี่หาน”
ฟางชิงอวี่ตะโกน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ

 

แต่คนอื่นดูไม่คิดจะถอยออกไป เดสทรอยเยอร์ที่เป็นผู้นำหัวเราะออกมาและพูด
“มิสเตอร์ฟาง พวกเราทำแบบนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของมิสเตอร์ฟางเอง นกเมฆสายลมที่เป็นสัตว์ขี่ของพวกเราถูกซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้านั่นกลืนกินไป ซึ่งถ้าไม่มีพาหนะพวกเราก็ผ่านออกไปจากระบบเทียนเซียไม่ได้ และตอนนี้เมื่อมียานลำหนึ่งมาอยู่ตรงหน้า พวกเราก็คงจะปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปไม่ได้”

 

“ถ้าพวกเจ้าพยายามทำอะไรแบบนั้น พวกเจ้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าโจรสลัด” ฟางชิงอวี่พูดอย่างไม่พอใจ

 

“ฮ่าๆ! มิสเตอร์ฟาง ท่านพูดถูก พวกเราเป็นโจรสลัด ไม่อย่างนั้นท่านคิดหรือว่าพวกเราจะกล้าเดินทางผ่านดินแดนอย่างระบบเทียนเซียน่ะ?”
พวกเขาแลกเปลี่ยนส่ายตากันและหัวเราะออกมา

 

พวกเขามีแผนที่จะปล้นฟางชิงอวี่และลักพาตัวกู่ชิงเฉิงกับจันทราสวรค์ตั้งแต่แรกแล้ว

 

แต่พวกเขาโชคไม่ดีเท่าไหร่นัก หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในระบบเทียนเซียได้เพียงไม่กี่นาที พวกเขาก็ไปเจอกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าซะก่อน ทำให้พวกเขาไม่สามารถดำเนินแผนการที่วางเอาไว้ได้

 

“พวกเจ้า…” สีหน้าของฟางชิงอวี่เปลี่ยนไป เขาโกรธเกินกว่าจะพูดอะไรได้อีก

 

เมื่อได้ยินอย่างนั้นหานเซิ่นก็คิดว่าสถานการณ์นั้นสมเหตุสมผลมากขึ้น มันไม่ปกติที่ทหารรับจ้างจะตกลงพาฟางชิงอวี่มาในสถานที่ที่อันตรายแบบนี้ การเข้ามาในระบบเทียนเซียเป็นอะไรที่เสี่ยงเกินไป ถ้าใครบางคนยินดีจะไปที่นั่น มันก็มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะเป็นโจรสลัดอวกาศหรือเป็นคนที่กำลังถูกตามล่าอย่างหานเซิ่น

 

“เรียกพวกเราว่า ‘พวกเจ้า’ อย่างนั้นหรอ? นี่มิสเตอร์ฟางไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับโจรสลัดหรือยังไง? พวกเราเป็นโจรสลัดที่แท้จริง ถ้ามิสเตอร์ฟางรู้แล้วว่าพวกเราเป็นใคร อย่างนั้นก็แสดงความเคารพบ้าง พวกเราต้องการแค่เงินเท่านั้น ถ้าพวกเราไม่ได้ล่ะก็….”
เดสทรอยเยอร์ระดับราชันหัวเราะขณะที่คำพูดของเขาตัดขาดไป

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวอ้างของเดสทรอยเยอร์คนนั้น หานเซิ่นก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เขากำลังพูดเกทับ โจรสลัดจริงๆนั้นเป็นฝ่ายอำนาจที่ทรงพลังและพวกเขาก็มีกันอยู่เป็นจำนวนมาก

 

ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะปล้นบุคคลที่ร่ำรวยและมีฐานะสูง พวกเขามักจะเข้าไปในซีโน่เจเนอิคสเปชของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงเพื่อโจมตีเหยื่อ โจรสลัดที่แท้จริงนั้นจะปล้นจากคนที่อ่อนแอด้วยวิธีการที่ลับๆล่อแบบนี้

 

เมื่อโจรสลัดเริ่มล้อมหานเซิ่นเอาไว้ กู่ชิงเฉิงก็ขมวดคิ้วและชักดาบของเธอออกมา แต่หานเซิ่นหยุดเธอเอาไว้

 

หานเซิ่นมองไปที่เหล่าโจรสลัดและยิ้มออกมา “มันเป็นเรื่องดีที่พวกเจ้าไม่จากไป พวกเรากำลังจำเป็นต้องการคนเพิ่มอยู่พอดี พวกเราจำเป็นต้องมีคนคอยทำความสะอาดยานและทำอาหาร ถ้าพวกเจ้าต้องการอยู่ที่นี่ พวกเจ้าก็จำเป็นต้องทำหน้าที่เหล่านั้น”

 

เมื่อเหล่าโจรสลัดได้ยินที่หานเซิ่นพูด พวกเขาก็หัวเราะจนน้ำตาไหลออกมา ชายเผ่าเดม่อนดูอวดดีเป็นพิเศษ เขาพูดขึ้นมา
“รีเบทและราชินีแห่งมีดอาจจะมีชื่อเสียง แต่พวกเราไม่สนใจ แถมเจ้าก็เป็นแค่ลูกศิษย์ของนาง เจ้ากล้าดียังไงมาเสนอให้พวกเราเป็นคนงานของเจ้า!”

 

“หยุดพูดกับเขา!” หนึ่งในโจรสลัดพูด

 

พวกเขาไร้ซึ่งความกลัว พวกเขาเห็นภายในยานรบจากด้านหน้าถึงท้ายสุด ยานลำนี้มีแค่หานเซิ่น เด็กและผู้หญิงที่ท่าทางหวาดกลัวอีกคนเท่านั้น นอกจากพวกเขาแล้วมันก็มีแค่นกแดงน้อยอีกตัว

 

“ให้ข้าเป็นคนลงมือ” ชายเผ่าเดม่อนพูดด้วยรอยยิ้ม เขาปลดปล่อยอาณาเขตและเดินเข้ามาหาหานเซิ่นขณะที่พูด
“เจ้าต้องการจะออกไปหรือเจ้าต้องการให้ข้าช่วย? ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าช่วย เจ้าจะ…”

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบ หานซิ่นก็ชกใส่หน้าชายคนนั้น

 

“เจ้า!” ชายเผ่าเดม่อนคนนั้นดูโกรธขึ้นมา เขายกกำปั้นขึ้นและชกหมัดที่อาบไปด้วยพลังมารนภาออไป เผ่าเดม่อนไม่มากนักที่จะใช้พลังนั้นได้และคนส่วนใหญ่ที่ใช้ได้ก็จะเป็นเผ่าเดม่อนสายเลือดบริสุทธิ์

 

ความจริงที่ชายเผ่าเดม่อนคนนี้สามารถใช้พลังมารนภาได้ ทำให้หานเซิ่นประหลาดใจเล็กน้อย

 

แต่พลังมารนภาเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์กับหานเซิ่น

 

ชายเผ่าเดม่อนอึ้งไป เมื่อหมัดของเขาปะทะกันกับหมัดของหานเซิ่น เขาใช้พลังทั้งหมดไปกับหมัดนั้น แต่หานเซิ่นกลับป้องกันมันได้อย่างง่ายดาย

 

ร่างกายทั้งร่างของชายเผ่าเดม่อนคนนั้นหยุดเคลื่อนไหวไป หลังจากนั้นก้อนน้ำแข็งก็ก่อตัวขึ้นเพื่อห่อหุ้มร่างกายของเขา

 

โจรสลัดคนอื่นตกตะลึง ถึงเดม่อนชายคนนั้นจะไม่ได้เป็นราชันที่เก่งกาจที่สุด แต่พลังมารนภาของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่ราชันธรรมดาจะป้องกันได้ แต่หานเซิ่นไม่เพียงแค่ป้องกันพลังมารนภาเอาไว้ได้ เขายังแช่แข็งเดม่อนชายในหมัดเดียว นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาทุกคนประหลาดใจ

 

โจรสลัดหลายคนชักมีดของพวกเขาออกมา หานเซิ่นวิ่งเข้าไปหาพวกเขาและชกหมัดออกไปทำลายอาณาเขตและพลังของพวกเขาแต่ละคน โจรสลัดถูกแช่แข็งตามๆกันไปและกลายเป็นรูปปั้นที่ยืนแข็งทื่อด้วยความสับสน

 

เหล่าโจรสลัดตกตะลึง พวกเขาเป็นแค่กลุ่มนอกกฎหมายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเผ่าโจรสลัดจริงๆ พวกเขาไม่เคยได้เห็นยอดฝีมือระดับราชันที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้มาก่อน

 

“หยุดอยู่ตรงนั้น! อย่าได้ก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว! ถ้าเจ้าเข้ามาใกล้ล่ะก็ ข้าจะฆ่านางซะ”
เดสทรอยเยอร์ระดับราชันปฏิกิริยารวดเร็ว ทันทีที่เขาเห็นว่าคนของเขาถูกแช่แข็ง เขาก็รีบเข้าไปหาเป่าเอ๋อและใช้มีดจี้คอของเธอ

 

หานเซิ่นแช่แข็งโจรสลัดคนอื่นไปจนหมดแล้ว เมื่อเขาหันไปเห็นเดสทรอยเยอร์ระดับราชันกำลังใช้มีดจี้คอของเป่าเอ๋ออยู่ เขาก็หัวเราะออกมา

 

เดสทรอยเยอร์ระดับราชันมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เดม่อนชายและพวกพ้องของเขาอีก 2 คนเป็นระดับราชัน แต่หานเซิ่นจัดการกับพวกเขาได้อย่างง่ายดายราวกับว่าเขากำลังรับมือกับเหล่าดยุก พวกเขาทุกคนถูกหานเซิ่นแช่แข็งในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

 

หานเซิ่นยิ้มให้กับเดสทรอยเยอร์ระดับราชันคนนั้น แต่เขาไม่ได้เดินเข้าไปใกล้

 

“อย่าได้ก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปจะเป็นความผิดของเจ้าเอง”
เดสทรอยเยอร์ระดับราชันหัวใจเริ่มจะเต้นรัว ขณะที่หานเซิ่นจ้องมองเขา เดสทรอยเยอร์ก็ดึงเป่าเอ๋อเข้าไปใกล้และต้องการจะใช้เธอเป็นตัวประกัน สำหรับตอนนี้เขาต้องการเพียงแค่ออกไปจากที่นี่ ยิ่งเขาไปได้ไกลเท่าไหร่มันก็ยิ่งดี

 

“ลุง” เสียงของเด็กดังขึ้นมาจากอ้อมแขนของเดสทรอยเยอร์ระดับราชัน เขาก้มหัวลงไปและพบว่ามันมาจากเด็กผู้หญิงที่เขากำลังใช้เป็นตัวประกัน

 

เด็กหญิงตัวน้อยถูกมีดจอคอเอาไว้ แต่เธอดูไม่หวาดกลัวเหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่วไป เธอยิ้มให้กับเขาด้วยท่าทางมีความสุข หลังจากนั้นเธอก็เริ่มหัวเราะออกมา

 

“หยุดหัวเราะ!” เดสทรอยเยอร์ระดับราชันตะโกนใส่เด็กผู้หญิงตัวน้อยด้วยความโกรธ เขารู้สึกว่านั่นเป็นการดูถูกเหยียดหยามเขา

 

แต่ก่อนที่เขาจะคิดคำข่มขู่ใหม่ได้ ดวงตาของเดสทรอยเยอร์ระดับราชันก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจและความหวาดกลัว

 

นกแดงน้อยบนไหล่ของเด็กผู้หญิงบินขึ้นสู่อากาศและเปลวไฟสีแดงก็เริ่มแพร่กระจายออกมาจากปีกของมัน มันเหมือนกับภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นมา ภายใต้ความร้อนแรงนั้นมีดของเดสทรอยเยอร์ระดับราชันเริ่มละลายกลายเป็นของเหลว แต่ไฟในดวงตาของนกแดงน้อยตัวนั้นไม่ได้จางลงไป ความจริงแล้วนกแดงน้อยเกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อยๆ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset