ด้วงสีดำบินไปในตำแหน่งสุดท้ายที่แสดงในวิดีโอ เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น พวกเขาก็พบอสูรเมฆามากมายกำลังอยู่ท่ามกลางการต่อสู้
เป่าฉินออกคำสั่งให้หยุดด้วงสีดำเอาไว้ หลังจากนั้นเขาก็หันไปหาบัตเลอร์แก่
“อย่าเพิ่งเข้าไปใกล้สนามต่อสู้มากเกินไป ก่อนที่พวกเราจะเข้าไป พวกเราควรส่งคนไปดูลาดเลาซะก่อน”
ก่อนที่บัตเลอร์แก่จะรับคำสั่ง มันก็มีวาฬขาวตัวใหญ่ออกมาจากหมู่เมฆและตรงเข้ามาหาพวกเขา
เหล่าอสูรเมฆานั้นตามวาฬขาวมาติดๆ พวกมันดูโกรธมากๆ
“เตรียมตัวต่อสู้!” เป่าฉินตะโกน เขาขมวดคิ้วขณะที่วาฬขาวตรงเข้ามาหาพวกเขา
เหล่าอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงจัดรูปขบวนเพื่อเตรียมตัวรับการต่อสู้อย่างรวดเร็ว วาฬขาวตัวใหญ่เคลื่อนที่เข้ามาด้วยความเร็วสูง แต่แทนที่จะชนเข้ากับด้วงสีดำ วาฬขาวกลับรอดผ่านใต้ยานรบของพวกเขาไป
เป่าฉินและหล่าอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงต่างสงสัยว่าทำไมวาฬขาวถึงตัดสินใจผ่านพวกเขาไปแบบนั้น แต่พวกเขาไม่มีเวลาจะมามัวคิดเกี่ยวกับมัน เพราะฝูงอสูรเมฆาที่ไล่ตามวาฬขาวมานั้นกำลังโหมกระหน่ำเข้ามาราวกับคลื่น
กลุ่มมังกรเมฆระดับราชันบินตามหลังพวกอสูรเมฆามา แต่พวกมันก็ดูอ่อนแอเมื่อเทียบกับสิ่งที่ตามพวกมันมาอีกที
เหล่ามังกรเมฆยักษ์นั้นกำลังลากรถม้าสีรุ้งที่ทำขึ้นมาจากเมฆหิน แม้แต่มังกรเมฆที่ทรงพลังและดุร้ายก็ยังถูกใช้เป็นเหมือนกับสุนัขลากเลื่อน
“เวรแล้ว! นั่นมันรถม้าปีศาจทะเล! พวกเราต้องรีบหนีไปจากที่นี่!” ใบหน้าของเป่าฉินซีดไป เขาพูดออกมาอย่างเร่งรีบ
แต่มันสายเกินไปแล้ว ตอนนี้อสูรเมฆาห้อมล้อมพวกเขาเอาไว้ และมังกรเมฆยักษ์ก็กำลังลากรถม้าเข้ามา เหล่าอัศวินเอ็กซ์ตรีมคิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าต่อสู้กับอสูรเมฆา
…
“ทำได้ดีมากทุกคน!” หานเซิ่นพูดกับฟางชิงอวี่และคนอื่นๆขณะที่มองดูเหล่าเอ็กซ์ตรีมคิงต่อสู้กับเหล่าอสูรเมฆา
“มันถือเป็นเกียรติของพวกเราที่ได้ทำงานเพื่อกัปตันและกัปตันน้อย”
หนึ่งในโจรสลัดพูดพร้อมโค้งคำนับอย่างประจบสอพลอ
“กัปตันและกัปตันน้อยเป็นคนที่ชาญฉลาดที่สุดในจักรวาล เหล่าเอ็กซ์ตรีมคิงพวกนั้นไม่คู่ควรที่จะมาเลียเท้าของพวกท่านด้วยซ้ำ”
“กัปตันนั้นหล่อเหลา ส่วนกัปตันน้อยก็งดงาม จักรวาลนั้นอยู่ในกำมือพวกท่านทั้งคู่ และทุกการตัดสินใจของพวกท่านก็เป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์”
“ขอให้กัปตันและกัปตันน้อยมีอายุขัยยืนยาว! ขอให้กัปตันและกัปตันน้อยมีอายุขัยยืนยาว!”
หานเซิ่นมองเหล่าโจรสลัดที่พูดสรรเสริญเขากับเป่าเอ๋อและรู้สึกอดไม่ได้ที่จะยอมรับว่ามันรู้สึกดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป่าเอ๋อนั้นดูดีใจอย่างมาก
‘ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนต้องการเป็นทรราชที่มีมือขวาที่ชั่วร้าย นี่มันเป็นอะไรที่เยี่ยมจริงๆ’ หานเซิ่นคิด
โชคดีที่หานเซิ่นไม่ได้หลงตัวเองมากพอที่จะคิดว่านี้เป็นไอเดียของเขาจริงๆ ฟางชิงอวี่เป็นคนคิดแผนการขึ้นมา และหานเซิ่นก็แค่ใช้ประโยชน์จากแผนการของฟางชิงอวี่เท่านั้น
มันเป็นอย่างที่ฟางชิงอวี่พูดเอาไว้ ระบบเทียนเซียนั้นเต็มไปด้วยอันตราย และการจะผ่านมันไปได้อย่างปลอดภัยก็เป็นเหมือนการคิดเพ้อฝัน เพราะยังไงซะพวกเขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะไปเผชิญหน้ากับมังกรเมฆที่น่ากลัว
หานเซิ่นไม่กล้าต่อสู้กับเหล่ามังกรเมฆ เขาจึงให้เป่าเอ๋อขับวาฬขาวหนีจากพวกมัน หลังจากนั้นเขาก็อนุญาตให้ฟางชิงอวี่สร้างสถานการณ์เพื่อล่อทีมค้นหาของเอ็กซ์ตรีมคิงเข้ามา เหล่ามังกรเมฆไม่พอใจที่มีผู้บุกรุกเข้ามาในเขตแดนของมัน
หานเซิ่นไม่รู้ว่ารถม้าหินคืออะไร แต่หลังจากที่ฟางชิงอวี่ใช้รูบิคว่านเจียเพื่อติดต่อกับพ่อบุญธรรมของเขา หานเซิ่นก็ได้รู้ว่ามันคือรถม้าปีศาจทะเลในตำนาน ถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลจากเผ่า1000สมบัติ หานเซิ่นก็คงจะหนีจากรถม้าหินนั่นไม่ทัน
ผู้อาวุโสของเผ่า1000สมบัติใช้รูบิคว่านเจียเพื่อบอกพวกหานเซิ่นว่ารถม้าปีศาจทะเลนั้นเป็นซีโน่เจเนอิคที่ลึกลับและน่ากลัวที่สุดในระบบเทียนเซีย ตำนานบอกเอาไว้ว่าเหล่ามังกรเมฆยักษ์นั้นลากรถม้าที่มีผู้นำของระบบเทียนเซียนั่งอยู่
แต่มีน้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้เห็นสิ่งที่อยู่ในรถม้า และเมื่อไหร่ก็ตามที่รถม้าปีศาจทะเลเปิดออก ใครก็ตามที่ได้เห็นมันก็มักจะถูกฆ่าตาย
วาฬขาวลอยตัวอยู่ห่างจากสนามต่อสู้ไประยะหนึ่ง พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในหมู่เมฆ ฟางชิงอวี่กำลังทำการถ่ายภายการต่อสู้ที่ดุเดือนระหว่างเอ็กซ์ตรีมคิงและอสูรเมฆาอย่างตื่นเต้น เขาส่งวิดีโอกลับไปให้พ่อบุญธรรมของเขา
มันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นรถม้าปีศาจทะเล ดังนั้นฟางชิงอวี่จึงไม่คิดที่จะพลาดโอกาสที่จะถ่ายวิดีโอเก็บเอาไว้
เขาหวังว่าจะมีโอกาสได้ถ่ายข้างในของรถม้าปีศาจทะเล ข้อมูลนั่นอาจจะเป็นอะไรที่มีค่าที่สุดสำหรับเขา
แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่ข้อมูลเท่านั้นที่มีราคาที่สูง วิดีโอที่ถูกถ่ายเองก็มีมูลค่ามหาศาลเช่นกัน พ่อบุญธรรมของฟางชิงอวี่ได้เริ่มเตรียมการในกรณีที่พวกเขาได้ภาพของสิ่งที่อยู่ในรถม้าปีศาจทะเลเอาไว้แล้ว และภาพวิดีโอนั้นก็จะกลายเป็นเครื่องทำเงินให้กับพวกเขา
แต่วิดีโอที่ถ่ายไปจำเป็นต้องผ่านการตัดต่อซะก่อน ถึงจะถูกนำปล่อยให้กับคนอื่น
หานเซิ่นรู้สึกทึ่งกับความเฉียบแหลมทางด้านธุรกิจของเผ่า1000สมบัติ แถมด้วยการที่ฟางชิงอวี่ติดต่อกับพ่อบุญธรรมของเขาอย่างต่อเนื่อง ทาง1000สมบัติก็จะบอกข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาเจอภายในระบบเทียนเซีย นั่นทำให้หานเซิ่นสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายต่างๆได้ง่ายขึ้น พวกเขาจะอ้อมผ่านบริเวณที่มีอัตราการตายสูง
“มันจะออกมาแล้ว!” ฟางชิงอวี่ตะโกนอย่างตื่นเต้น
หานเซิ่นมองไปที่สนามต่อสู้และเห็นเหล่ามังกรเมฆหลีกทางไปจากประตูรถม้าที่ถูกเปิดออก หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที บางสิ่งก็ก้าวออกมาจากประตู
ทุกสายตาจับจ้องไปยังสิ่งที่ออกมาใหม่นี้ หานเซิ่นไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตแบบนี้มาก่อน ร่างกายของมันเป็นเมฆสีดำที่มีเรือนร่างของปีศาจสีดำอยู่ข้างใน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตนั้นอย่างชัดเจน แต่มันมีรูปร่างเหมือนกับมนุษย์
แต่ดูเหมือนมันจะมีหางที่เป็นเหมือนเงาและเส้นผมที่ลุกโชนเหมือนกับเปลวไฟ ในดวงตาคู่ของมันมีเมฆสีดำที่กำลังลุกไหม้ด้วยเปลวไฟสีม่วงแดง มีเพียงแค่ดวงตาของมันเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ขณะที่ทุกอย่างเกี่ยวกับเรือนร่างของมันถูกปกคลุมด้วยเมฆสีดำ
เป่าฉินยืนอยู่บนปราสาทและมองออกไปยังสิ่งมีชีวิตที่ออกมาจากรถม้าหิน
“เดม่อนสปิริต พวกเราเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นไม่เคยล่วงละเมิดอะไรเจ้า พวกเราแค่ไล่ตามคนๆหนึ่งผ่านมาทางนี้เท่านั้น…”
สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวนั้นไม่ได้ตอบอะไร ดวงตาของมันเรืองแสงอย่างชั่วร้ายและมันก็ชกหมัดออกไปใส่เป่าฉิน
ตูม!
หานเซิ่นมองไม่เห็นหมัดนั้น แต่เขาเห็นด้วงสีดำขนาดใหญ่ยักษ์ระเบิดภายใต้คลื่นกระแทกของหมัด เลือดกระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่งราวกับสายฝน และย้อมเมฆสีฟ้ารอบๆมันเป็นสีแดง
เอ็กซ์ตรีมคิงบางส่วนหนีจากด้วงสีดำไม่ทัน ร่างกายของพวกเขาถูกทำลายและสลายกลายเป็นหมอกสีแดง
เป่าฉินลอยตัวอยู่ในอากาศ และเดม่อนสปิริตก็เทเลพอร์ตไปอยู่ตรงหน้าเขา
“มันเริ่มแล้ว” ดวงตาของหานเซิ่นเป็นประกายด้วยความคาดหวัง สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าทั้ง 2 กำลังจะต่อสู้กัน ถ้านักสู้ทั้ง 2 ต่อสู้กันจนบาดเจ็บทั้งคู่ หานเซิ่นก็จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อฆ่าพวกเขาทั้งคู่