“เธอเห็นเรา!” หานเซิ่นรู้ว่านี่มันแย่มาก แต่เขารู้อยู่แล้วว่าในที่สุดก็ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ถ้าสิ่งมีชีวิตที่หานเซิ่นแฝงตัวอยู่นั้นอยู่ใกล้เคียงกับผิวที่สามารถสะท้อนได้ หานเซิ่นก็รู้ว่าตัวตนของเขาจะถูกเปิดโปงในไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แตกตื่น
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นความผิดปกติในดวงตาของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้แตกตื่นอะไร เธอยิ้มและพูด “น่าสนใจ เจ้ากล้ามาใช้เล่ห์กลกับดวงตาของคนอย่างข้าอย่างนั้นหรอ? เจ้ากล้ามาก”
หลังจากพูดแบบนั้น เธอก็ปลดปล่อยแสงสีทองที่ร้อนแรงในดวงตา มันเริ่มจากในรูม่านตาและแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งดวงตาของเธอ แสงนั่นค่อยๆต่อสู้กับสีแดงที่ปกคลุมดวงตาของเธอและเปลี่ยนมันให้กลายเป็นสีทอง
หานเซิ่นรู้สึกใจคอไม่ดี เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังใช้พลังแบบไหนกันแน่ แต่หลังจากที่แสงสีทองกลืนกินดวงตาของเธอ ผู้หญิงคนนั้นก็เรียกพลังของเธอกลับไป แต่ทันทีที่เธอทำแบบนั้นสีแดงก็เข้าปกคลุมดวงตาของเธออีกครั้ง
“ฮะ โกลเด้นอายของข้าไม่ได้ผลหรอเนี่ย” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นสีในดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ครั้งนี้สีดำเข้าปกคลุมทั้งลูกตาของเธอ
เมื่อดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็หยุดส่งพลังไปที่ดวงตา แต่เมื่อเธอหยุดส่งพลัง สีแดงก็กลับมาสู่ดวงตาของเธออีกครั้ง
“ดาร์คเนสอายก็ไม่ได้ผลเช่นกัน น่าสนใจจริงๆ”
ผู้หญิงคนนั้นยังคงใช้เทคนิคต่างๆเพื่อขับไล่หานเซิ่นออกไป แต่ดูเหมือนจะไม่มีพลังอะไรที่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อต
หานเซิ่นดีใจกับความสามารถของวิญญาณอสูร “พลังของวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้ากลายพันธุ์นี่สุดยอดจริงๆ แม้แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ทำอะไรเราไม่ได้”
“ช่างน่าสนใจอะไรขนาดนี้” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มกว้างออกมา แทนที่จะโมโหกับความล้มเหลว เธอกลับดูตื่นเต้นขึ้นมา
หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ใช้วิชาดวงอะไรอีก เธอยกนิ้วมือขึ้นและเริ่มรวบรวมแสงบางอย่าง แสงจากปลายนิ้วของเธอเปลี่ยนเป็นกระจกที่ลอยอยู่ตรงหน้าของเธอ
แต่มันไม่มีภาพสะท้อนของมนุษย์อยู่ภายในกระจกนั้น ผิวของกระจกเงินหมุนวนด้วยแสงประหลาด และในที่สุดแล้วมันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม หลังจากนั้นไม่นานสีแดงที่หมุนวนก็เปลี่ยนเป็นรูปของบลัดอายอีวิลก็อต
“อ้า มันคือบลัดอายอีวิลก็อต ไม่แปลกใจเลยที่วิชาดวงตาของเราใช้ไม่ได้ผล”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นรูปภาพของบลัดอายอีวิลก็อต เธอก็ยิ้มอย่างเข้าใจในอะไรบางอย่าง เธอยกนิ้วมือขึ้นและกดลงบนหน้าผาก หลังจากนั้นแสงจากปลายนิ้วก็พุ่งเข้าไปในตัวของเธอ
ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นที่หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่แตกกระจายเหมือนกับแก้ว ซึ่งทำให้หานเซิ่นถูกขับไล่ออกมาข้างนอก เขาร่วงลงบนพื้นและพยายามที่จะกระโดดหนีออกไปจากบ้านในทันที
“นี่มันอะไรกัน? นั่นมันไม่ใช่บลัดอายอีวิลก็อต” ผู้หญิงคนนั้นพึมพำอย่างประหลาดใจ ดวงตาของเธอฟื้นฟูกลับมาในชั่วพริบตาและมือของเธอก็ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหว เธอยกมือข้างหนึ่งขึ้นและปล่อยลูกคริสตัลไปทางหานเซิ่นเพื่อกักขังเขาเอาไว้
หานเซิ่นเคลื่อนที่เพื่อหลบลูกคริสตัล แต่ผู้หญิงนั้นขยับตำแหน่งมือและปล่อยแสงประหลาดพุ่งมาถูกตัวเขาอย่างแม่นยำ ทำให้ร่างกายของหานเซิ่นหนักขึ้นกว่าเดิม ความเร็วของเขาลดลงไปอย่างมาก เขารู้สึกหมดเรี่ยวแรงและสายตาของเขาก็เบลอๆไป เขาไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นใช้วิชาจีโนแบบไหนใส่เขากันแน่
หานเซิ่นปลดปล่อยอาณาเขตกายหยก ซึ่งเปลี่ยนร่างกายของเขาเป็นน้ำแข็งที่เหมือนกับหยก หลังจากที่ทำแบบนั้นวิชาจีโนที่ทำให้อ่อนกำลังของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่มีผลต่อหานเซิ่นอีกต่อไป ทำให้เขาสามารถหลบการโจมตีของลูกคริสตัลครั้งที่ 2 ได้ หลังจากนั้นเขาก็กระโดดข้ามรั้วบ้านไป
ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนกับใบหน้าของแมวที่กำลังไล่ล่าหนู มันดูเหมือนกับว่าเธอได้เจออะไรที่น่าสนใจ
หานเซิ่นต้องการจะบินหนีออกไปจากเกาะ แต่ในทันทีที่เขาพยายามจะทำแบบนั้น เขาก็เห็นลูกคริสตัลพุ่งเข้ามาทางเขา
หานเซิ่นหลบหลีกมัน แต่ลูกคริสตัลนั้นระเบิดและกลายเป็นตาข่ายคริสตัลขนาดยักษ์ที่ปกคลุมทั่วทั้งเกาะ ทำให้หานเซิ่นไม่สามารถหนีไปไหนได้
หานเซิ่นกวัดแกว่งนิ้วมืออย่างบ้าคลั่งเพื่อใช้ดาบเส้นไหมค้ำยันตาข่ายคริสตัลเอาไว้ และในขณะเดียวกันเขาก็พยายามคิดหาหนทางที่จะเอาตัวรอดไปจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้
หลังจากที่รับการโจมตีของเธอหลายครั้ง หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เขาคาดคิดเอาไว้ในตอนแรก อย่างมากเธอก็มีพลังระดับราชันเท่านั้น แต่เธอมีวิชาจีโนที่หลากหลาย ทำให้เธอสามารถทำได้เกือบทุกอย่าง
เมื่อเธอเห็นว่าคริสตัลตาข่ายของเธอไม่สามารถจับตัวหานเซิ่นได้ เธอก็เปลี่ยนวิธีการ นิ้วมือของเธอกลายเป็นเหมือนกับใบมีด และเธอก็ใช้วิชาจีโนหลายๆอย่างเพื่อโจมตีใส่หานเซิ่น หานเซิ่นพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะรับมือเธอ
หานเซิ่นเคยเผชิญกับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากมายในชีวิตของเขา และบางคนนั้นก็มีวิชาที่หลากหลาย แต่ผู้หญิงคนนี้สามารถใช้ได้แทบจะทุกอย่าง เธอสามารถรวมหลายสิบวิชาในการโจมตีครั้งเดียว เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
การโจมตีของเธออาจจะเริ่มจากพลังไฟ แต่เมื่อพวกมันเข้ามาใกล้หานเซิ่น พวกมันอาจจะเปลี่ยนเป็นพลังทองหรือพลังน้ำ การโจมตีนั้นอาจจะพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างดุร้าย แต่หลังจากนั้นพวกมันก็กลายเป็นอะไรที่อ่อนราวกับการจุมพิต
ทั้งนิ้วมือ ฝ่ามือ มีดและดาบของเธอไม่ปล่อยให้หานเซิ่นได้พักหายใจ นี่ไม่ใช่การต่อสู้ มันดูเหมือนกับว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังแสดงศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลาย
หานเซิ่นต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเอง แต่เขาไม่สามารถเอาชนะเธอได้ และด้วยการที่ตาข่ายคริสตัลครอบคลุมเกาะแห่งนี้เอาไว้ เขาก็รู้ว่าไม่สามารถหนีไปได้
แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ดูตกใจเช่นเดียวกัน เธอรู้สึกว่าวิชาการต่อสู้ของหานเซิ่นเป็นอะไรที่คุ้นๆ แต่พวกมันแตกต่างไปจากที่เธอเคยรู้จัก
“ดูเหมือนว่าเขาจะฝึกตำราไร้อักษรของปราสาทนภา แต่ตำราไร้อักษรของเขาไม่เหมือนซะทีเดียว… นี่มันน่าสนใจจริงๆ…” ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกหลงไหลในวิชาที่หานเซิ่นแสดงออกมา
ผู้หญิงคนนั้นรู้จักวิชาจีโนมากเกินไป หานเซิ่นพยายามใช้วิชาที่เขาคิดว่าสามารถใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของเธอได้ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็จะใช้วิชาจีโนที่คาดไม่ถึงเพื่อหนีจากวิกฤตได้เสมอ
“ข้าต้องขอโทษด้วย! ข้าไม่ได้คิดจะล่วงละเมิดเจ้า ข้ามาที่นี่เพราะเหตุการณ์มันพาไปเท่านั้น ข้าไม่ได้คิดที่จะทำร้ายอะไรเจ้า ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย” หานเซิ่นร้องขอขณะที่ต่อสู้
“ใช้วิชาจีโนอื่น ข้าเคยเห็นวิชาพวกนี้มาก่อนแล้ว” ผู้หญิงคนนั้นพูด แต่มันไม่ได้เป็นการตอบรับคำร้องขอของหานเซิ่น
หานเซิ่นรู้วิชาจีโนหลายอย่าง แต่เขาไม่คิดว่าพวกมันจะเหมาะสมกับสถานการณ์ใตอนนี้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเลือกใช้วิชาที่สามารถโต้กลับการโจมตีของเธอได้
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่าหานเซิ่นเลือกใช้แค่วิชาที่สามารถทำลายวิชาจีโนของเธอได้ เธอก็ดูรำคาญขึ้นมา
ผู้หญิงคนนั้นสะบัดมือและคริสตัลตาข่ายก็ฉีกดาบเส้นไหมของหานเซิ่นจนขาดและร่วงลงมาจับตัวเขา ภายในคริสตัลตาข่ายนั้นมีโซ่สสารมากมายแฝงอยู่
“เจ้าเป็นระดับเทพเจ้า!” หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าผู้หญิงคนนั้นออมมือให้กับเขา จนถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริง