เลอตู้ทิ้งเครื่องหมายเอาไว้บนตัวหานเซิ่นก็เพื่อไม่ให้หานเซิ่นหนีไป แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องลบเครื่องหมายนั้นเพื่อสื่อสารกับหานเซิ่น นั่นทำให้หานเซิ่นรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้นั้นเลวร้ายขนาดไหน เลอตู้ไม่ได้แค่พูดขู่เขา
หานเซิ่นลอยตัวอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ฝูงของยูนิคอร์นจึงหาตัวเขาพบอีกครั้ง พวกมันวิ่งตรงเข้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่ง
ครั้งนี้หานเซิ่นไม่ได้ใช้พลังของวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อต แต่เขาหยิบมีดเขี้ยวผีสิงและธันเดอร์ก็อตสไปค์ออกมาแทน หลังจากนั้นเขาก็บินเข้าไปปะทะกับฝูงยูนิคอร์น ในเวลาไม่กี่วินาทีเขาก็สังหารยูนิคอร์นไปหลายสิบตัว
“ซีโน่เจเนอิคยูนิคอร์นขาวระดับดยุกถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรยูนิคอร์นขาว”
หลังจากที่ฆ่ายูนิคอร์นเพิ่มอีก หานเซิ่นก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นในหัว หานเซิ่นเหลือบมองในจิตและสังเกตเห็นว่ามันเป็นวิญญาณอสูรประเภทสัตว์ขี่
ในสถานการณ์แบบนี้การใช้สัตว์ขี่เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ มันมีเหล่ายูนิคอร์นอยู่มากเกินไป ในตอนนี้ความคล่องตัวถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆและการใช้สัตว์ขี่ก็เป็นภาระมากกว่าเป็นตัวช่วย
ยูนิคอร์นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 สีที่แตกต่างกัน สีที่เขาได้เห็นมาจนถึงตอนนี้คือสีดำ สีขาว สีม่วง สีแดง สีทอง สีฟ้าและสีเขียว ซึ่งยูนิคอร์นแต่ละสีนั้นมีพลังอาณาเขตที่แตกต่างกันออกไป
เหมือนกับใบเสมาราชาแมลงปีศาจที่หานเซิ่นเคยใช้ พลังอาณาเขตของยูนิคอร์นสามารถทับซ้อนกันได้ แต่ในขณะที่ใบเสมาราชาแมลงปีศาจสามารถใช้ป้องกันได้อย่างเดียว อาณาเขตของยูนิคอร์นนั้นสามารถใช้โจมตีได้อีกด้วย
หานเซิ่นจำเป็นต้องรับมือกับฝูงของยูนิคอร์นและต่อสู้กับยูนิคอร์นระดับราชัน 7 ตัวพร้อมๆกัน มันเป็นการต่อสู้ที่โกลาหลมากๆ
มันมียูนิคอร์นอยู่มากเกินไป ถึงแม้หานเซิ่นจะสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าตรงๆกับยูนิคอร์นระดับราชันได้ แต่มือของเขาก็ยังคงยุ่งอยู่กับการฆ่าฟันยูนิคอร์นที่อ่อนแอกว่าที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างไม่หยุด ไม่นานมือของหานเซิ่นก็เริ่มเมื่อยล้า
“เวรเอ้ย! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หานเซิ่นหันไปมองเลอตู้ที่กำลังต่อสู้กับยูนิคอร์นระดับเทพเจ้าอยู่
หานเซิ่นอยู่ไกลจากเลอตู้ ดังนั้นเขาไม่สามารถเห็นการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน แต่เขารู้ว่ายูนิคอร์นระดับเทพเจ้าเป็นฝ่ายที่กำลังได้เปรียบ และเลอตู้ก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการจะรับการโจมตีของยูนิคอร์นตัวนั้น
“หวังว่าตำนานเกี่ยวกับเขาจะเป็นเรื่องจริง และหวังว่าเขาจะเอาชนะซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้านั่นได้” หานเซิ่นกัดฟัน
ขณะที่หานเซิ่นและเลอตู้กำลังต่อสู้อยู่นั้น มันมีเต่าตัวใหญ่ลอยตัวอยู่เหนือหมู่เมฆ เต่าตัวใหญ่แบกศาลาเอาไว้บนหลังของมัน ดราก้อนชายและเดสทรอยเยอร์ระดับเทพเจ้าคนหนึ่งกำลังดื่มชาร่วมกัน
ด้านหลังดราก้อนชายคนนั้นมีดราก้อนสาวใช้ถือรูบิคว่านเจียอยู่ในมือ มันกำลังถ่ายภาพการต่อสู้ของหานเซิ่นและเลอตู้
ทุกคนในจักรวาลจีโนกำลังมองดูการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ราวกับว่ามันเกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขา
“โคลเซ่ ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังจะเป็นฝ่ายแพ้” ดราก้อนชายยกชาขึ้นมาจิบและยิ้มให้กับเดสทรอยเยอร์ระดับเทพเจ้าคนนั้น
“ชนะหรือแพ้ มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับข้า ถ้าข้าแพ้ เจ้าก็เอาชีวิตของเลอตู้และหานเซิ่นไป ข้าจะไม่เข้าไปขวางทางเจ้า แต่ถ้าเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ เจ้าคงจะไม่ผิดคำสัญญาหรอกใช่ไหม ดราก้อนวัน?”
ดวงตาทั้ง 6 ของโคลเซ่มองไปที่ดราก้อนชายขณะที่พูด
“พวกเราดราก้อนรักษาสัญญาเสมอ ถ้าเลอตู้และหานเซิ่นฆ่ายูนิคอร์นพวกนี้ได้ทั้งหมดและรอดชีวิตไปได้ เผ่าดราก้อนจะเดินทางออกจากระบบเทียนเซียและจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก” ดราก้อนวันพูดอย่างหนักแน่น
ถึงแม้ดราก้อนชายคนนี้จะถูกเรียกว่าดราก้อนวัน แต่เขาไม่ใช่ดราก้อนวันคนเดียวกับที่หานเซิ่นเคยพบ ชายคนนี้คือดราก้อนวันรุ่นก่อนหน้า
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รอคอยให้ผลออกมา” โคลเซ่ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ เขาดูค่อนข้างผ่อนคลาย
ดราก้อนวันเห็นว่าโคลเซ่ดูไม่ได้กังวลเลยแม้แต่นิดเดียว เขายิ้มและถาม
“เจ้าไม่กลัวว่าเลอตู้จะถูกยูนิคอร์นระดับเทพเจ้านั่นฆ่าตายอย่างนั้นหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้นเจ้าจะกลับไปบอกกับกษัตริย์ของเดสทรอยเยอร์ยังไง?”
“เขาเป็นแค่ทาสรับใช้คนหนึ่ง ถ้าเขาไปเข้าร่วมกับเอ็กซ์ตรีมคิง เขารู้ว่าอาจจะต้องสละความสัมพันธ์กับเดสทรอยเยอร์ไป” โคลเซ่พูดอย่างช้าๆ ใบหน้าของเขาดูสงบนิ่ง
แต่หลังจากนั้นสีหน้าของโคลเซ่ก็ดูสนใจขึ้นมา เขามองไปที่ดราก้อนวันและพูด
“ข้ากลัวว่านี่จะเป็นโอกาสดีที่สุดของเผ่าดราก้อนที่จะจับตัวเลอตู้ ถ้าเจ้าล้มเหลว เจ้าจะกลับไปอธิบายเรื่องนี้กับกษัตริย์ของดราก้อนยังไง?”
“เลอตู้จะต้องตาย เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเขาจะเอาชนะสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าได้ตามลำพังน่ะ?” ดราก้อนวันพูดอย่างเย้ยหยัน
“หานเซิ่นยังอยู่ที่นั่นอีกคน” โคลเซ่หัวเราะ
“เขาเป็นแค่ยอดฝีมือระดับราชันขั้นแรกคนหนึ่ง มันไม่สำคัญว่าเขาจะมีฝีมือมากสักแค่ไหน เขาไม่ได้มากไปกว่ามดที่แข็งแกร่งตัวหนึ่ง” ดราก้อนวันพูด
โคลเซ่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหันไปมองดราก้อนสาวใช้ที่ถือรูบิคว่านเจียอยู่และพูด
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่แข็งแกร่งและชาญฉลาดอย่างเจ้าจะใช้การถ่ายสดของสหพันธ์1000สมบัติเพื่อผลประโยชน์”
“ไม่ว่าจะทรัพยากรแบบไหน ข้าก็มีหนทางที่จะใช้มัน” ดราก้อนวันพูดและยิ้มอย่างน่าขนลุก
ทุกคนในจักรวาลจีโนจะมองดูการถ่ายทอดสดนี้ถ้าพวกเขามีเวลา
แต่วิดีโอที่ดราก้อนวันถ่ายทอดออกไปไม่ได้ผ่านการตัดต่อเป็นอย่างดีเหมือนอย่างวิดีโอจากผู้อาวุโสแยกสมบัติ เขาไม่มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะตัดต่อวิดีโอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงถ่ายทอดวิดีโอไปตรงๆโดยไม่ผ่านการตัดต่อ
เพราะแบบนั้นหลายคนจึงไม่สามารถมองตามการต่อสู้ของเลอตู้และยูนิคอร์นระดับเทพเจ้าได้ทัน พวกเขาเห็นแค่แสงแว็บไปแว็บมาบนหน้าจอ
ด้วยเหตุนั้นผู้ชมส่วนใหญ่จึงเปลี่ยนไปดูการต่อสู้ของหานเซิ่นแทน ยอดฝีมือระดับราชันและระดับดยุกชั้นสูงสามารถมองการต่อสู้ที่เกิดขึ้นได้
ยอดฝีมือที่ทรงพลังบางคนโฟกัสไปที่เลอตู้และการต่อสู้ของเขากับยูนิคอร์นระดับเทพเจ้า พวกเขารู้ว่าการต่อสู้ของเลอตู้นั้นเป็นตัวตัดสินว่าเขาและหานเซิ่นจะอยู่หรือตาย
และพวกเขาก็ยังอยากจะรู้ว่าจริงๆแล้วเลอตู้แข็งแกร่งถึงขนาดไหน ถึงแม้เลอตู้จะเคยฆ่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้ามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่หลายคนก็เชื่อว่ามันมีอะไรมากกว่าที่ตำนานกล่าวเอาไว้ เพราะยังไงซะอาจารย์ของเลอตู้ก็ไม่ใช่แค่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าธรรมดาๆ
“นี่มันน่ากลัวจริงๆ หานเซิ่นคนนั้นถูกล้อมโดยซีโน่เจเนอิคระดับราชันและครึ่งเทพ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ เขายังคงฆ่าพวกยูนิคอร์นได้เป็นจำนวนมาก แถมยูนิคอร์นระดับราชัน 2 ตัวก็ถูกเขาฆ่าตายไปเรียบร้อยแล้ว”
“มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย ถ้าเขาไม่ทำอะไรบ้าๆอย่างการไปฆ่าองค์ชายของเอ็กซ์ตรีมคิง เขาก็คงจะกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วจักรวาล”
“ข้าคิดว่าอี๋ซาคงจะเป็นคนที่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยีนของหานเซิ่นนั้นไม่เสถียร แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ช่วยเหลือเขาจนเขาพัฒนาถึงระดับราชันได้สำเร็จ ข้าไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าทรัพยากรมากมายขนาดไหนกันที่ถูกใช้ไป แต่ตอนนี้มันกำลังจะสูญเปล่า”
“อี๋ซาเป็นคนฉลาด ในตอนที่หานเซิ่นได้รับขนนกระดับเทพเจ้าจากข่งเฟย ยอดฝีมือส่วนใหญ่ต่างก็ไม่ต้องการจะรับตัวเขาไป แต่อี๋ซาตัดสินใจรับตัวเขาไปและช่วยให้เขาพัฒนาจนถึงระดับราชัน ไม่มีใครคาดคิดหานเซิ่นจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ข้าเดิมพันว่ายอดฝีมือคนอื่นๆคงจะเสียใจที่ไม่ได้รับตัวเขาไป”
“ทำไมพวกเขาจะต้องเสียใจ? มันไม่สำคัญว่าเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาก็เป็นแค่ระดับราชัน แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็หนีไปจากสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ ยอดฝีมือระดับราชันคนหนึ่งนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย”