ด้วยร่างโคลนวิชาจันทราระเบิด ตัวจริงของหานเซิ่นไปปรากฏที่ที่อีกด้านหนึ่ง โดยไม่ลังเลหาสนเซิ่นเปลี่ยนตัวเองเป็นเงาสีเลือดและเคลื่อนย้ายตัวเองเข้าไปในดวงตาของยูนิคอร์นระดับดยุกตัวหนึ่ง
ปัง!
ในจังหวะที่หานเซิ่นเพิ่งจะเข้าไปในดวงตายูนิคอร์นระดับดยุกนั้น มันก็มีแสงสีแดงพุ่งเข้ามาถูกตัวของยูนิคอร์นและระเบิดหัวของมันกลายเป็นก้อนเลือดที่กระจัดกระจายไปทั่ว
หานเซิ่นไม่หยุดอยู่แค่นั้น เขาเทเลพอร์ตเข้าไปในดวงตาของยูนิคอร์นระดับดยุกอีกตัว
ปัง!
แต่ผลที่ออกมานั้นเหมือนเดิม หัวกะโหลกของยูนิคอร์นระดับดยุกตัวนั้นถูกระเบิดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันถูกระเบิดด้วยแสงสีดำ
หานเซิ่นพยายามจะเคลื่อนย้ายไปรอบๆด้วยพลังดวงตา แต่เขาพบว่าทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น ยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพก็จะฆ่ายูนิคอร์นที่หานเซิ่นหนีเข้าไปอย่างไม่ลังเล
ยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพทั้ง 7 ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากนั้นยูนิคอร์นตัวอื่นก็หันหลังเพื่อวิ่งหนีไป เห็นได้ชัดว่าพวกมันเข้าใจการทำงานของดวงตาหานเซิ่นแล้ว พวกมันจึงไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ใช้พลังของมันอีก
เมื่อเห็นอย่างนี้ผู้ชมหลายคนก็ถอนหายใจออกมา “ดูเหมือนมันจะจบสิ้นแล้ว”
ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเห็นใจฝ่ายที่เป็นรอง ซึ่งหานเซิ่นและเลอตู้ถือเป็นที่สุดของที่สุดในระดับของพวกเขา แต่ตอนนี้ผู้คนต่างก็รู้สึกเห็นใจพวกเขาทั้ง 2 คน
เลอตู้มีบาดแผลทั่วตัว และมันดูเหมือนว่าเขาจะรอดได้อีกไม่นาน
พลังดวงตาของหานเซิ่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเอาตัวรอดมาได้จนถึงตอนนี้ ถ้าเขาไม่สามารถใช้มันได้ สถานการณ์ของเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าเลอตู้
“โคลเซ่ ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะปรากฏออกมาแล้ว ความคาดหวังของเจ้าในตัวคนทรยศคนนั้นมันสูงเกินไป” ดราก้อนวันจิบชาและยิ้มออกมา
“มันยังไม่จบ มันยังยากที่จะตัดสินได้ว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายชนะ” โคลเซ่ยังคงยิ้มออกมา
“อะไรกัน? นี่คนทรยศคนนั้นยังมีไพ่ตายอย่างอื่นซ่อนอยู่อีกอย่างนั้นหรอ?” ดราก้อนวันขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่เลอตู้
“ใครจะไปรู้? มันยากที่จะบอกได้ถูกไหม?” โคลเซ่พูด
ปัง!
การระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นและเลอตู้ก็ถูกส่งกระเด็นออกไปอีกครั้ง ในตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขาดูเลวร้ายมากๆ เขามีรู 3 รูอยู่ที่อกและยังมีบาดแผลตามร่างกายอีกนับไม่ถ้วน
อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสถึงขนาดที่ถ้าเป็นครึ่งเทพคนอื่นก็คงจะขยับร่างกายไม่ได้แล้ว แต่เลอตู้ยังคงเคลื่อนไหวราวกับว่าเขาไม่ได้รับความเจ็บปวดเลยแม้แต่นิดเดียว
ยูนิคอร์นสายรุ้งตรงเข้ามาหาเขาอีกครั้ง ดวงตาของมันเป็นเหมือนกับชิ้นของแก้วที่สะท้อนทั้งจักรวาล แสงสีรุ้งของมันพุ่งตรงเข้าไปหาเลอตู้อีกครั้ง
ร่างกายของเลอตู้เต้นระบำในอากาศ แต่เขาไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะหลบการโจมตีที่เข้ามาได้ทัน แสงสีรุ้งที่น่ากลัวกำลังจะเจาะทะลวงหัวของเขา
ทุกคนคิดว่านี่เป็นจังหวะที่เลอตู้จะถูกฆ่าตาย มันไม่สำคัญว่าร่างกายของเผ่าดราก้อนจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน มันไม่สามารถชุบชีวิตได้ถ้าหัวของพวกเขาถูกทำลาย มีดราก้อนน้อยคนนักที่จะสามารถชุบชีวิตตัวเองได้
ทันใดนั้นเลอตู้ก็คำรามราวกับมังกร แต่เมื่อหานเซิ่นมองเขาดูดีๆแล้ว หานเซิ่นสังเกตได้ว่าเสียงคำรามนั้นไม่ได้ออกมาจากปากของเลอตู้ มันออกมาจากหลังของเขา
รอยสักมังกรสีม่วงบนหลังของเลอตู้เริ่มเคลื่อนไหว มันแพร่ขยายเพื่อปกคลุมทั้งแผ่นหลังของเขา มันเรืองแสงสีม่วงออกมา ลมปราณสีม่วงถูกปล่อยออกมาจากรอยสักมังกร และทำให้มันดูเหมือนกับว่ารอยสักมังกรเป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆ
เลอตู้ลอยตัวอยู่บนอากาศ เขาชกหมัดออกไปใส่แสงสีรุ้งที่เข้ามา รอยสักมังกรสีม่วงส่องสว่างบนแผ่นหลังของเขา และลมปราณสีม่วงก็เข้าห่อหุ้มรอบแขนของเขา มันเหมือนกับว่ามีมังกรพันอยู่รอบๆหมัดที่ชกออกไป
มังกรสีม่วงพุ่งออกไปจากหมัดและชนเข้ากับแสงสีรุ้งของยูนิคอร์นระดับเทพเจ้า พลังทั้ง 2 ปะทะกันภายในก้อนเมฆ และทันใดนั้นอวกาศก็ถูกฉีกขาดจนเป็นรู หลุมดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาและเริ่มดูดเอาทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปข้างใน แต่มันไม่มีการระเบิด
“ฮะ? นั่นมันรอยสักมังกรนรกปีศาจของดราก้อนทูไม่ใช่หรอ? ทำไมมันถึงมาอยู่บนตัวของคนทรยศได้?” ดราก้อนวันจ้องไปที่รอยสักสีม่วงบนหลังของเลอตู้
“รอยสักมังกรนรกปีศาจนั้นมีพลังที่พิเศษมากๆ ตำนานบอกไว้ว่ามันมาจากดราก้อนทูของรุ่นก่อน ซึ่งเป็นอาจารย์ของเลอตู้ ดราก้อนทูนั้นสร้างมันขึ้นมาเพื่อหวังจะท้าชิงดราก้อนวัน มันน่าเสียดายที่เขาถูกตัดหัวโดยลูกศิษย์ของตัวเอง ก่อนที่เขาจะได้ใช้มัน” โคลเซ่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ดูเหมือนว่ารอยสักมังกรนรกปีศาจนั้นไม่ได้ถูกทำลาย คนทรยศคนนั้นเอามันไปเป็นของตัวเอง ดีมาก ดีมากๆ”
แทนที่จะรู้สึกเสียใจ ดราก้อนวันกลับรู้สึกดีใจ เขามองไปที่รอยสักมังกรนรกปีศาจด้วยความตื่นเต้น
ดราก้อนทูรุ่นก่อนหน้าต้องการจะท้าชิงดราก้อนวัน เขาใช้ร่างกายระดับเทพเจ้าของตัวเองเป็นฐานและกลั่นเลือดเป็นรอยสักที่ถูกรู้จักกันในชื่อรอยสักมังกรนรกปีศาจ มันถือเป็นสมบัติที่มีค่ามากๆ
ดราก้อนไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับสมบัตินั้น และไม่มีดราก้อนคนไหนที่ต้องการจะลองทำเหมือนๆกัน เพราะมันเป็นอะไรที่เจ็บปวดเกินไป
การใช้ร่างกายและเลือดมังกรของตัวเองเพื่อสร้างรอยสักมังกรนรกปีศาจขึ้นมานั้นหมายความว่าดราก้อนทูต้องเอาตัวเองเข้าไปในเตาเผาเพื่อหลอมตัวเอง ความเจ็บปวดนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครคนไหนจะสามารถทนได้ มันเหมือนกับการเดินทางสู่ขุมนรกที่ที่คนๆนั้นต้องทนต่อการทรมานที่ไม่มีที่สิ้นสุด นั่นเป็นเหตุผลที่มันถูกเรียกว่ารอยสักมังกรนรกปีศาจ
ดราก้อนทูรุ่นก่อนนั้นทุกข์ทรมานเป็นเวลาหมื่นๆปีเพื่อสร้างสมบัติที่เรียกว่ารอยสักมังกรนรกปีศาจนี้ขึ้นมา เขามีแผนที่จะใช้มันเพื่อขึ้นเป็นใหญ่ในเผ่าดราก้อน
ในตอนที่ดราก้อนถูกฆ่าตาย ดราก้อนคนอื่นคิดว่ารอยสักมังกรนรกปีศาจถูกทำลายไปด้วย เพราะยังไงซะรอยสักมังกรนรกปีศาจก็ถูกสร้างโดยดราก้อนทู มันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา
มันไม่มีใครคาดคิดว่าจริงๆแล้วรอยสักมังกรนรกปีศาจจะมาอยู่บนร่างกายของเลอตู้ แต่แค่นั้นยังไม่พอ มันดูเหมือนว่าเขาจะสามารถควบคุมมันได้อีกด้วย
เมื่อเห็นพลังของรอยสักมังกรนรกปีศาจ มันก็เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นบางสิ่งที่เป็นระดับเทพเจ้า
ตัวเลอตู้เองยังไม่ถึงระดับเทพเจ้า แต่เขาก็ยังสามารถทำให้รอยสักมังกรนรกปีศาจสำแดงพลังออกมาได้ถึงขนาดนั้น ถ้าเขากลายเป็นระดับเทพเจ้าและสามารถใช้พลังของรอยสักมังกรนรกปีศาจได้อย่างเต็มที่ พลังที่เขาปลดปล่อยออกมาก็จะน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
“เจ้ารู้ว่าเลอตู้มีรอยสักมังกรนรกปีศาจอย่างนั้นหรอ?” ดราก้อนวันถามขณะที่มองไปที่โคลเซ่
“เลอตู้จะฆ่าอาจารย์ของเขาได้ยังไง ถ้าอาจารย์ของเขามีรอยสักมังกรนรกปีศาจอยู่? นี่เจ้าไร้เดียงสาถึงขนาดที่คิดว่าครึ่งเทพคนหนึ่งจะฆ่าระดับเทพเจ้าได้ง่ายๆเลยอย่างนั้นหรอ?” โคลเซ่ถาม
ดราก้อนวันไม่ได้โกรธ เขาหัวเราะและพูด “ดี วันนี้ข้าจะเอารอยสักมังกรนรกปีศาจมา หลังจากนั้นความบาดหมางก็จะจบลง”
“อะไรกัน? ทั้งที่เป็นเผ่าดราก้อน เจ้ากลับไม่มีความมั่นใจในพลังของรอยสักมังกรนรกปีศาจอย่างนั้นหรอ?” โคลเซ่เลียริมฝีปากขณะที่พูดออกมา
“รอยสักนั่นทรงพลังก็จริง แต่ดราก้อนทูรุ่นก่อนสร้างได้แค่รอยสักต้นแบบเท่านั้น มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และเจ้าก็ประเมินพลังของยูนิคอร์นเทียนเซียต่ำเกินไป มันไม่ได้เป็นแค่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าธรรมดาๆ” ดราก้อนวันพูดอย่างหนักแน่น
ทันใดนั้นความกังวลก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโคลเซ่ เขามองไปที่ยูนิคอร์นระดับเทพเจ้าและเลอตู้