Super God Gene – ตอนที่ 2480

หานเซิ่นถูกไล่ต้อนโดยยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพ ขณะที่ฝูงยูนิคอร์นวิ่งหนีไปอย่างเร็วที่สุด ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่สามารถใช้ความสามารถของดวงตาเพื่อหนีไปได้

 

ยูนิคอร์นสีทองระดับครึ่งเทพโจมตีใส่หานเซิ่นอย่างไม่ลดละ เห็นได้ชัดว่ามันต้องการจะปลิดชีวิตของเขาให้ได้

 

‘พวกแกจะไม่ปฏิบัติกับฉันด้วยความเคารพ นอกซะจากว่าฉันจะแสดงเขี้ยวของตัวเองอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นคิดอย่างเกรี้ยวโกรธ เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่มี หลังจากนั้นเขาก็ยกธันเดอร์ก็อตสไปค์ขึ้นและแทงเข้าใส่อาณาเขตของยูนิคอร์นสีทอง

 

อาณาเขตของยูนิคอร์นและธันเดอร์ก็อตสไปค์ปะทะกัน ทำให้เกิดเป็นประกายไฟที่น่ากลัว แรงจากการปะทะกันนั้นฉีกโครงสร้างของอวกาศ หานเซิ่นรู้สึกว่าธันเดอร์ก็อตสไปค์กำลังจะหลุดมือไปและร่างกายทั้งร่างของเขาก็ถูกผลักออกไปด้วยแรงมหาศาลจากการปะทะนั้น

 

หานเซิ่นจับธันเดอร์ก็อตสไปค์เอาไว้แน่นและกายหยกของเขาก็ทำงานจนถึงขีดสุด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่เพียงพอที่จะปัดป้องพลังของยูนิคอร์นสีทอง

 

หานเซิ่นใช้พลังทั้งหมดที่รวบรวมได้ เขาดึงเอาพลังทั้งหมดตั้งแต่หัวนิ้วโป้งเท้าขึ้นมา เลือดกลายพันธุ์ในร่างกายของหานเซิ่นกำลังเดือดและไหลเวียนผ่านเส้นเลือดราวกับรถไฟความเร็วสูง

 

ตูม!

 

ทันใดนั้นแรงบางอย่างก็สั่นคลอดหานเซิ่นจากภายใน เขาสัมผัสฟันเฟืองที่มองไม่เห็นตรงหน้า ร่างกายของเขาเป็นศูนย์กลางของฟันเฟืองสีแดงขนาดใหญ่

 

“ชีพจรโลหิตกำลังจะพัฒนาสู่ระดับราชัน!” หานเซิ่นแปลกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่าโลหิตชีพจรจะพัฒนาสู่ระดับราชันแบบนี้

 

ฟันเฟืองจักรวาลของวิชาโลหิตชีพจรเริ่มหมุน แต่เนื่องจากร่างกายของหานเซิ่นยังคงเคลื่อนไหว เขาจึงไม่สามารถเปิดประตูไปสู่คอร์แอเรียจักรวาลได้

 

แต่หลังจากที่ฟันเฟืองจักรวาลของโลหิตชีพจรเริ่มหมุน หานเซิ่นก็สังเกตได้ถึงบางสิ่งที่แปลกประหลาด

 

ฟันเฟืองจักรวาลอื่นๆของหานเซิ่นสามารถหมุนฟันเฟืองอื่นที่อยู่รอบๆพวกมันได้ ฟันเฟืองของกายหยกนั้นหมุนฟันเฟือง 7 อัน ในขณะที่ฟันเฟืองของศาสตร์ตงเสวียนสามารถหมุนฟันเฟืองเป็นจำนวนมาก

 

แต่ฟันเฟืองของชีพจรโลหิตนั้นไม่ได้หมุนฟันเฟืองจักรวาลที่อยู่ใกล้เคียง แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยังสัมผัสได้ว่าฟันเฟืองจักรวาลมากมายกำลังเชื่อมต่อกับมันอยู่

 

หานเซิ่นไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และเขาก็ไม่รู้เลยว่าพลังของอาณาเขตโลหิตชีพจรจะเป็นแบบไหน ในตอนที่เขาเปิดใช้งานอาณาเขตเลือดกลายพันธุ์ มันไม่มีอาณาเขตอะไรถูกปลดปล่อยออกมา

 

แต่ถึงอย่างนั้นความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในตอนนี้การต่อสู้กับยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปสำหรับเขา และตอนนี้เขายังเคลื่อนไหวได้เร็วพอที่จะหลบการโจมตีของพวกมัน

 

ปัง!

 

หานเซิ่นหมุนธันเดอร์ก็อตสไปค์ในมือและใช้มันแทงใส่อาณาเขตของยูนิคอร์นสีทอง หลังจากนั้นเขาก็กระโดดหลบแสงเลเซอร์ของยูนิคอร์นอีกตัว

 

รอยสักมังกรนรกปีศาจของเลอตู้สว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ ลมปราณมังกรสีม่วงที่ออกมาจากรอยสักนั้นก่อตัวเป็นโซ่สสาร มันกลายเป็นมังกรสีม่วงขนาดใหญ่บนร่างกายของเลอตู้

 

สีหน้าของยูนิคอร์นเทียนเซียดูถมึงทึง สีรุ้งในดวงตาของมันแว็บซ้ำๆราวกับว่าจักรวาลกำลังตายและเกิดขึ้นใหม่ภายในพวกมัน

 

เลอตู้คำรามและมังกรสีม่วงตัวใหญ่ก็สั่นสะเทือนทุกอย่างรอบๆตัวเขา มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังจะกลืนกินโลกทั้งใบนี้เข้าไป

 

แสงในดวงตาของยูนิคอร์นเทียนเซียเริ่มรวมเข้าด้วยกันจนกระทั่งทุกสีผสมผสานกันกลายเป็นสีเทา แสงสีเทาพุ่งออกมาและตรงเข้าไปหามังกรสีม่วงของเลอตู้

 

เมื่อแสงสีเทาและมังกรสีม่วงตัวใหญ่ปะทะกัน ทั้งโลกก็ดูเหมือนจะเงียบสงัดไป และในชั่วครู่มันก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น วังวนเล็กๆปรากฏขึ้นระหว่างพวกเขา หลังจากนั้นมันก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นจนกระทั่งมันปลดปล่อยแรงดูดที่ทรงพลังออกมา มันเหมือนกับว่าอวกาศเองก็กำลังตกลงไปสู่เหวลึก

 

หานเซิ่นและเหล่ายูนิคอร์นระดับครึ่งเทพยังคงทำการต่อสู้กัน แต่ทันใดนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกได้ว่าวังวนกำลังดึงดูดเขาไปทางเลอตู้และยูนิคอร์นเทียนเซีย

 

แต่หานเซิ่นไม่ใช่แค่คนเดียวเท่านั้นที่ถูกดูดเข้าไป ยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพ ฝูงยูนิคอร์นที่วิ่งหนีไปหรือแม้แต่ก้อนเมฆที่อยู่รอบๆก็ถูกดูดเข้าไปหาวังวนนั่นเช่นกัน

 

หานเซิ่นพยายามใช้พลังของตัวเอง แต่เขาไม่สามารถต้านแรงดูดที่กำลังดึงตัวเขาได้ แม้แต่ยูนิคอร์นระดับครึ่งเทพเองก็ไม่อาจจะหนีจากมัน ดังนั้นโอกาสที่หานเซิ่นจะหนีไปได้จึงเป็นศูนย์

 

เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังถูกดูดเข้าไปสู่วังวนอันมืดมิด หานเซิ่นก็เตรียมตัวที่จะหนีกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำแบบนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีใครบางคนมาจับแขนของเขาและดึงเขากลับออกมาจากวังวน

 

หานเซิ่นเงยหัวขึ้นและเห็นว่ามันคือเลอตู้ที่จับตัวเขาเอาไว้

 

ปัง!

 

หานเซิ่นได้ยินเสียงของบางสิ่งแตกร้าว ภายใต้พลังมหาศาลของวังวน กำแพงที่มองไม่เห็นก็เริ่มจะพังทลาย กำแพงนั้นแตกเหมือนกับแก้วและเริ่มจะถูกดูดเข้าไปในวังวนอันมืดมิด

 

“ไปซะ!” เลอตู้ตะโกนและดึงหานเซิ่นออกไปจากวังวน วินาทีต่อมาหานเซิ่นก็พบว่าตัวเองถูกกระชากไปไกลหลายพันไมล์

 

ขณะที่ถูกกระชากตัวออกไปนั้น หานเซิ่นได้ยินเสียงกรีดร้องจากระยะไกล แสงสีเทาของยูนิคอร์นเทียนเซียดูเหมือนกับเลเซอร์ที่สามารถจะทำลายทั้งจักรวาล มันพุ่งเข้าไปหาเลอตู้อีกครั้ง

 

เสียงคำรามของมังกรสั่นสะเทือนอวกาศรอบๆ และร่างกายทั้งร่างของเลอตู้ก็กลายเป็นมังกรม่วงยักษ์ที่ปะทะเข้ากับลำแสงสีเทา

หานเซิ่นมองเห็นแสงสีเทาทะลุผ่านร่างมังกรยักษ์ไป ทันใดนั้นร่างกายมังกรก็สลายกลายเป็นควันสีม่วง

 

เลอตู้ถูกส่งกระเด็นออกไปขณะที่ทิ้งควันนั่นเอาไว้ตามทาง ร่างกายของเขากำลังชักกระตุก เขากำลังจะตาย

 

หานเซิ่นรู้สึกตกใจ เขาคิดว่าที่เลอตู้โยนเขาออกมาเป็นเพราะชายคนนั้นเชื่อว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะยูนิคอร์นเทียนเซียได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้น

“ทำไมเขาถึงทำอะไรแบบนี้? เขาดูไม่เหมือนกับคนที่จะสนใจเกี่ยวกับชีวิตของคนอื่น ทำไมเขาถึงช่วยเรา?” หานเซิ่นพยายามคิดเกี่ยวกับมัน แต่เขาไม่สามารถเข้าใจได้

 

“แต่ทำไมเราถึงต้องไปสนใจด้วย? ยังไงซะเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรา”
หานเซิ่นเรียกพลังของตัวเองออกมาเพื่อส่งตัวเองให้ไปไกลจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

 

ร่างกายของเลอตู้ลอยตัวอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆ แสงของรอยสักมังกรนรกปีศาจกำลังจางลงไป มันจำเป็นต้องใช้พลังชีวิตเพื่อทำงาน

 

ในตอนนี้พลังชีวิตของเลอตู้เบาบางเกินกว่าที่เขาจะสนับสนุนรอยสักมังกรนรกปีศาจต่อไปได้ และรอยสักนั้นก็หลุดจากร่างกายของเขา

 

“ที่สุดแล้วข้าก็ยังไม่บรรลุขั้นสุดท้ายนั่น” เลอตู้มองเห็นยูนิคอร์นเทียนเซียกำลังตรงเข้ามาหาเขา เขาเห็นดวงตาของยูนิคอร์นเรืองสีเทา ลำแสงสีเทาที่ทรงพลังพุ่งออกมาจากดวงตาของมัน แต่เลอตู้ยังคงดูสงบนิ่ง มันเหมือนกับว่าเขาไม่สนใจว่าจะอยู่หรือจะตายแล้ว

 

เขาค่อยๆหลับตาลงและรอคอยวาระสุดท้ายของตัวเองอย่างสงบ สำหรับเขาแล้วความตายถือเป็นการปลดปล่อยที่หอมหวาน

 

ปัง!
ลำแสงสีเทาทลายท้องฟ้า แต่มันไม่ถูกร่างของเลอตู้ บางสิ่งดึงร่างกายของเขาออกจากวิถีของมัน ลำแสงสีเทาพุ่งผ่านร่างกายของเขาไป

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset