การต่อสู้นี้จะกลายเป็นตำนานของจักรวาลจีโน ตลอดวันนั้นการต่อสู้เป็นที่พูดถึงไปทั่วจักรวาลจีโน
มันน่ามหัศจรรย์ที่เลอตู้สามารถเอาชนะยูนิคอร์นเทียนเซียได้ แต่การกระทำของหานเซิ่นดึงความสนใจของทุกคนไป หานเซิ่นเปลี่ยนการต่อสู้ของเลอตู้กลายเป็นแค่เรื่องรอง
ก่อนวันนั้น หานเซิ่นเป็นแค่ยอดฝีมือระดับราชันคนหนึ่งที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมาก ในจักรวาลที่เต็มยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ เขาไม่ถือว่าพิเศษอะไร ถ้าหานเซิ่นไม่ได้ไปฆ่าไป๋อี้และถูกตามล่าตัวโดยเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง หลายคนก็คงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
ถึงแม้เขาจะเป็นผู้หลบหนี เขาก็ยังเป็นแค่ยอดฝีมือระดับราชันนคนหนึ่ง น้อยคนนักที่จะพูดว่ามันมีบางสิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับเขา
แต่หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ เขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำของเทพทั้งปวง ในวันอื่นๆความจริงที่ชื่อนั้นถูกใช้พูดถึงยอดฝีมือระดับราชันคนหนึ่งจะเป็นอะไรที่แปลกมากๆ
บางคนนั้นมอบสมญานามบิดาของเหล่าเทพให้กับหานเซิ่น
แต่ชื่อนั้นถูกใช้เป็นความลับเท่านั้น ถ้ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนไหนได้ยินมัน พวกเขาก็คงจะคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่ารำคาญ ไม่มีใครต้องการจะทำลายชีวิตของตัวเองด้วยการทำให้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งโกรธ
แต่จะยังไงก็ตามการต่อสู้นั้นทำให้หานเซิ่นกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากๆ ในตอนนี้ทุกคนในจักรวาลจีโนรู้เกี่ยวกับเรื่องของเขา ดังนั้นมันไม่มีใครที่จะปฏิบัติกับเขาในฐานะยอดฝีมือระดับราชันธรรมดาๆอีกต่อไป
หานเซิ่นไม่ใช่ระดับเทพเจ้า แต่ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาลึกลับยิ่งกว่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งซะอีก
หานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ เพราะยังไงซะเขาก็สามารถทำให้ครึ่งเทพคนหนึ่งกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จ เขาไม่ได้รับชื่อบิดาของเหล่าเทพมาโดยเปล่าๆ เหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนั้นพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาแตกต่างไปจากคนส่วนใหญ่
แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าและผู้นำของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงรู้ว่าหานเซิ่นไม่สามารถทำให้ใครคนไหนกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้อย่างตามใจชอบ พวกเขาสันนิษฐานว่ามันต้องมีปัจจัยอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องในการที่เลอตู้กลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จ
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังสนใจในตัวหานเซิ่น ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่สามารถทำให้คนหนึ่งกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ดังใจ แต่เขาก็มีอิทธิพลต่อการวิวัฒนาการของเลอตู้ พวกเขาอยากจะรู้ว่าหานเซิ่นมีพลังแบบไหนกันแน่
ถึงแม้พลังนั้นไม่สามารถทำให้คนๆหนึ่งกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะเร่งกระบวนการวิวัฒนาการ ซึ่งพลังอะไรก็ตามที่สามารถช่วยเหลือการพัฒนาของครึ่งเทพได้นั้นจะเป็นที่แสวงหาโดยทุกเผ่าพันธุ์ของจักรวาลจีโน
“ดราก้อนวัน ดูเหมือนว่าข้าจะชนะการเดิมพันครั้งนี้” โคลเซ่พูดขณะที่มองไปที่ดราก้อนวัน
“พวกเราดราก้อนรักษาคำพูด ดราก้อนทุกคนจะเดินทางออกจากระบบเทียนเซียในทันที” ดราก้อนวันพูดอย่างไม่พอใจ และเขาก็สั่งให้เต่าใหญ่ยักษ์เดินทางออกไปจากระบบเทียนเซีย
โคลเซ่ไม่คิดจะไปส่งดราก้อนวัน เขารีบบินไล่ตามหลังเลอตู้และหานเซิ่นไป
ในตอนนี้หานเซิ่นมีค่ามากกว่าค่าหัวที่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงเสนอ ถึงแม้มันจะดูเหมือนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าหานเซิ่นสามารถทำให้ครึ่งเทพคนหนึ่งกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้จริงๆ แบบนั้นเขาก็กลายเป็นบุคคลที่ประเมินค่าไม่ได้
หานเซิ่นและเลอตู้ขี่ยูนิคอร์นเทียนเซียผ่านหมู่เมฆสีฟ้า บาดแผลของยูนิคอร์นเกือบจะฟื้นตัวแล้ว แต่เขาที่หักของมันจะไม่งอกกลับมาใหม่เป็นเวลาสักพัก
ยูนิคอร์นเทียนเซียดูเศร้ามากๆ และมันไม่พอใจที่มีหานเซิ่นนั่งอยู่บนหลังของมัน แต่มันไม่ต้องการจะขัดคำสั่งของเลอตู้
หลังจากเดินทางไปได้สักพัก หานเซิ่นก็กระโดดออกจากหลังของยูนิคอร์นและมองไปที่เลอตู้
“ตามที่พวกเราได้ตกลงกัน ตอนนี้ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?”
“เจ้าไปไม่ได้” เลอตู้พูด
“เจ้าจะผิดสัญญาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว แต่เขาคิดเอาไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ประหลาดใจอะไร
แต่ถ้าเลอตู้ตัดสินใจที่จะจับตัวเขาเอาไว้จริง มันก็จะทำให้ชีวิตของเขาตกที่นั่งลำบาก
โคลเซ่หัวเราะและบินเข้ามาทางพวกเขา เขามาหยุดตรงหน้าหานเซิ่นและพูด
“สัญญานั้นไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขา เจ้าไม่รู้หรือว่าเขาฆ่าอาจารย์ของตัวเอง?”
ชายคนนั้นมี 3 หัว ซึ่งบ่งบอกว่าเขาเป็นหนึ่งในเผ่าเดสทรอยเยอร์ หานเซิ่นสามารถบอกได้ทันทีว่าโคลเซ่เป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้า แต่หานเซิ่นไม่ได้สนใจอะไรเขาและยังคงมองไปที่เลอตู้เพื่อรอคอยคำตอบ
ถึงแม้หานเซิ่นจะเตรียมตัวสำหรับเรื่องนี้เอาไว้ แต่เขาไม่คิดว่าเลอตู้จะเป็นคนที่ทำอะไรแบบนั้น ลักษณะนิสัยของพวกเขาอาจจะแตกต่างกันมาก แต่หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าพวกเขามีบางสิ่งที่คล้ายคลึงกัน
“เลอตู้ เจ้าทำงานได้ดีมาก! ไม่เพียงแค่เจ้าจะจับตัวหานเซิ่นมาได้ แต่เจ้ายังกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้สำเร็จและจับตัวยูนิคอร์นเทียนเซียมาได้อีกด้วย เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ข้าจะเอามันไปใช้ให้เกิดประโยชน์”
โคลเซ่ปล่อยโซ่สสารมาทางหานเซิ่นเพื่อมัดตัวเขาเอาไว้
แต่โซ่สสารไปไม่ถึงตัวหานเซิ่น โซ่สสารที่เหมือนกับมังกรสีม่วงพุ่งเข้ามาปกป้องหานเซิ่นเอาไว้ มันกลืนกินพลังของโคลเซ่เข้าไป
ดวงตาของโคลเซ่เบิกกว้าง หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่เลอตู้และถาม
“เลอตู้ เจ้ากำลังทำอะไร?”
“ข้าให้สัญญากับเขาว่าจะปล่อยเขาไปจากที่นี่” เลอตู้พูด
“เอางั้นก็ได้ เจ้าไปตามทางของเจ้า ส่วนข้าจะพาเขากลับไปด้วยตัวเอง” โคลเซ่พูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ข้าสัญญาว่าจะปล่อยเขาไปจากที่นี่” ใบหน้าของเลอตู้ยังคงสงบนิ่ง สีหน้าของเขาดูไร้อารมณ์ความรู้สึกราวกับก้อนหิน
“ไม่เลว ไม่เลว สัญญาของพวกเราคือข้าจะถูกปล่อยไปจากที่นี่ ไม่ตายที่นี่หรือถูกใครคนอื่นพาตัวไป” หานเซิ่นหัวเราะและปรบมือ
“เลอตู้ นี่เจ้าคิดจะทรยศผู้ปกครองของพวกเราอย่างนั้นหรอ?” โซ่สีดำและขาวเริ่มลอยขึ้นรอบๆตัวของโคลเซ่
“ข้าแค่รักษาสัญญาที่ได้ทำเอาไว้” เลอตู้พูด
“เจ้าจะต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีๆ ถ้าเจ้าปล่อยหานเซิ่นไปจากที่นี่ แบบนั้นเจ้าก็จะเป็นคนทรยศของเดสทรอยเยอร์ เจ้ารู้ว่าพวกเราจะจัดการกับคนทรยศยังไง”
โคลเซ่ยิ้มอย่างข่มขู่ และเขาก็พูดต่อ “แถมตอนนี้เผ่าดราก้อนก็เกลียดชังเจ้า ถ้าเจ้าทรยศพวกเราเดสทรอยเยอร์อีกล่ะก็ เจ้าคิดว่ามันจะมีเผ่าพันธุ์อื่นในจักรวาลนี้ที่จะยอมรับเจ้าอย่างนั้นหรอ?”
“ผู้ชายที่ไปตามกระแสคือคนที่ฉลาด เจ้าไม่ใช่เด็กที่ไร้เดียงสา การทำลายอนาคตของตัวเองเพื่อสัญญาที่ให้ไว้กับคนๆหนึ่งไม่ใช่ความคิดที่ดี แต่ข้าจะไม่หยุดเจ้า ถ้าเจ้าต้องการจะจากไป เจ้าเชิญไปได้ แต่หานเซิ่นคนนี้เป็นของข้า ข้าจะพาตัวเขากลับไป” โคลเซ่ยื่นมือออกไปคว้าตัวหานเซิ่น
“ข้าบอกเจ้าแล้วยังไงว่าข้าจะปล่อยเขาไปจากที่นี่ ใครก็ตามที่หยุดเขาจะต้องหยุดข้าด้วยอีกคน” เลอตู้พูด ดวงตาของเขาจ้องไปที่โคลเซ่
สีหน้าของโคลเซ่ดูถมึงทึงขณะที่เขาจ้องกลับไปที่เลอตู้
“เลอตู้ เจ้าคิดว่าการกลายเป็นระดับเทพเจ้าจะทำให้เจ้าทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรอ? เจ้าควรจะรู้ว่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเผ่าเดสทรอยเยอร์ พวกเรายังคงจะฆ่าเจ้าได้อย่างง่ายดาย”
“ทางเดสทรอยเยอร์อาจจะฆ่าข้าได้ แต่เจ้าทำไม่ได้ ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว” เลอตู้พูด เสียงของเขาดูแข็งราวกับหินแกรนิต
คำพูดของเลอตู้ทำให้โคลเซ่รู้สึกโกรธ ถึงตัวเขาจะไม่ได้อ่อนแออะไร แต่เขารู้ว่าไม่สามารถต่อสู้กับเลอตู้ที่มีรอยสักมังกรนรกปีศาจและยูนิคอร์นเทียนเซียอยู่ข้างกายได้ ถ้าเขาต่อสู้เลอตู้ในตอนนี้ มันก็จะเหมือนกับการต่อสู้หนึ่งต่อ 3 เขาไม่มีโอกาสที่จะชนะเลย
“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้” โคลเซ่พูด หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปในชั่วพริบตา
“ตอนนี้เมื่อเขาจากไปแล้ว เจ้าก็กลายเป็นคนทรยศของเดสทรอยเยอร์ใช่ไหม?” หานเซิ่นถามด้วยตาปริบๆ
“นี่ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่ข้ากลายเป็นคนทรยศ” ใบหน้าของเลอตู้ดูไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก เขาสั่งให้ยูนิคอร์นเทียนเซียพาพวกเขาออกไปจากระบบเทียนเซีย