หานเซิ่นก้าวถอยออกไป 2 ก้าวด้วยความประหลาดใจ ที่ศูนย์กลางของต้นเศรษฐีเรือนนอกมีดวงไฟสีขาวอยู่ แต่เมื่อหานเซิ่นดูใกล้ๆ เขาก็เห็นว่าจริงๆแล้วมันไม่ใช่ดวงไฟแต่เป็นวงแหวน
ในศูนย์กลางของวงแหวนนั้นมีแมลงสีดำที่ดูเหมือนกับจิ้งหรีด แมลงสีดำนั้นมีขนาดเล็กเหมือนกับจิ้งหรีดทั่วๆไปและมันก็มีหนวดที่แกว่งไปมา 2 หนวด มันปีนขึ้นมาบนต้นเศรษฐีเรือนนอก
เมื่อมันมาถึงที่ปลายสุดของต้นเศรษฐีเรือนนอก น้ำหนักของมันก็กดใบไม้ให้ย่อต่ำลง หลังจากนั้นเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยก็อ้าปากของมัน ฟันที่แหลมคมฝังลงไปในใบไม้ที่ละเอียดอ่อนของต้นต้นเศรษฐีเรือนนอก
เจ้าจิ้งหรีดใช้เวลากินอยู่สักพัก และหลังจากที่มันกินจนพอใจแล้ว เจ้าจิ้งหรีดก็เริ่มปีนกลับเข้าไปในต้นเศรษฐีเรือนนอก
ขณะที่เจ้าแมลงตัวนั้นเคลื่อนไหว หมอกควันสีขาวก็ถูกปล่อยออกมา หมอกควันสีขาวก่อตัวกลายเป็นก้อนเมฆสีขาวน้ำนม ก้อนเมฆลอยขึ้นจากหลังของเจ้าแมลงทีละก้อนๆ
ตอนนี้หานเซิ่นรู้แล้วว่าก้อนเมฆนั้นไม่ได้ออกมาจากต้นเศรษฐีเรือนนอกจริงๆ ความจริงแล้วพวกมันคือสิ่งที่จิ้งหรีดสีดำปล่อยออกมา
ขณะที่จิ้งหรีดสีดำกำลังจะกลับเข้าไปต้นเศรษฐีเรือนนอก หานเซิ่นก็ยื่นมือออกไปคว้าตัวมันมา จิ้งหรีดสีดำพยายามดิ้นรนในมือของเขาและมันก็แข็งแรงอย่างน่าประหลาดใจ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าระดับราชัน ดังนั้นมันจึงหนีไปจากกำมือของหานเซิ่นไม่ได้
จิ้งหรีดสีดำรู้ว่าไม่สามารถหนีไปได้ ดังนั้นมันจึงปล่อยหมอกควันสีขาวออกมาห่อหุ้มตัวของมันเอาไว้
หานเซิ่นกำก้อนเมฆนั่นเอาไว้ราวกับว่าเขากำลังกำซาลาเปาลูกใหญ่
โชคดีที่ตามใดที่เขาค่อยๆกำอย่างช้าๆ เขาก็สามารถกดมือลงในเมฆสีน้ำนมได้ จิ้งหรีดไม่สามารถหนีไปจากกำมือของหานเซิ่นได้ด้วยวิธีแบบนี้
‘จิ้งหรีดตัวนี้ไม่ได้ทรงพลังไปกว่าระดับมาร์ควิส แต่ก้อนเมฆที่มันผลิตออกมาเป็นอะไรที่ค่อนข้างมหัศจรรย์ แม้แต่พลังของเราก็ทำลายพวกมันไม่ได้’ หลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นก็ตัดสินใจเก็บจิ้งหรีดเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา
หลังจากนั้นเขาก็หันความสนใจไปที่ต้นเศรษฐีเรือนนอก เขาพยายามจะสัมผัสถึงพลังชีวิตที่อยู่ภายใน ต้นเศรษฐีเรือนนอกนั้นมีพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่มาก แต่มันไม่เหมือนกับจิ้งหรีด หานเซิ่นไม่สามารถกินมันได้ เขาตรวจสอบต้นเศรษฐีเรือนนอกอย่างละเอียด แต่เขาไม่สังเกตเห็นอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับมัน เขาตัดสินใจเอาต้นเศรษฐีเรือนนอกเก็บเอาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตาเช่นเดียวกัน
หลังจากที่ออกมาจากก้อนเมฆ หานเซิ่นก็ครุ่นคิดอยู่อีกสักครู่ หลังจากนั้นเขาก็เก็บก้อนเมฆทั้งก้อนเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาด้วย เมื่อทำเสร็จแล้วเขาก็บินออกไปจากที่นั่นและเริ่มค้นหาเป่าเอ๋อต่อ
แต่หลังจากที่บินไปได้ไม่นาน หานเซิ่นก็เห็นกลุ่มคลาวด์บีสต์มุ่งตรงมาทางเขา
พวกมันเป็นฝูงสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนกับนกกระเรียน พวกมันมีกันอย่างน้อยเป็นพันตัว พวกมันส่วนใหญ่เป็นระดับมาร์ควิส แต่มันก็มีระดับดยุกปะปนอยู่ด้วยเช่นกัน จ่าฝูงของพวกมันเป็นระดับราชัน
หานเซิ่นค่อนข้างดีใจเมื่อพวกมันปรากฏตัวออกมา เขาชักมีดออกมาและบินตรงเข้าไปในฝูงของพวกมัน ยังไงซะคลาวด์บีสต์ก็เป็นซีโน่เจเนอิค การฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับราชันจะช่วยเติมเต็มยีนระดับราชันของเขา
หานเซิ่นมีวิชาจีโนถึง 4 วิชา และทุกครั้งที่เขาจะเพิ่มระดับของพวกมันหนึ่งระดับ มันก็จำเป็นต้องใช้ยีนระดับราชันถึงหนึ่งร้อยยีน ด้วยเหตุนั้นจำนวนยีนระดับราชันที่เขาจำเป็นต้องใช้จึงสูงมากๆ เขาจำเป็นต้องเก็บสะสมยีนระดับระชันให้ได้มากที่สุดเมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีโอกาส
เหล่าคลาวด์บีสต์ไม่อาจจะต่อกรกับหานเซิ่นได้ เมื่อเขาบินไปถึงพวกมัน เขาก็ตัดหัวจ่าฝูงของพวกมันจนขาด
“ซีโน่เจเนอิคกระเรียนเมฆระดับราชันราชาถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
หานเซิ่นดึงเอายีนซีโน่เจเนอิคออกมาจากร่างกายของราชากระเรียนเมฆอย่างไม่รีบไม่ร้อน เขาคิดว่าฝูงนกกระเรียนเมฆที่เหลืออยู่จะหนีแตกตื่นไปหลังจากที่ราชาของพวกมันถูกฆ่าตาย แต่พวกมันทั้งหมดกลับเข้ามาจู่โจมหานเซิ่นอย่างไม่เกรงกลัวความตาย เหมือนกับว่าพวกมันต้องการจะล้างแค้นให้กับราชากระเรียนเมฆให้ได้ ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเองก็ตาม
แต่หานเซิ่นไม่คิดจะเสียเวลาฆ่าเหล่าคลาวด์บีสต์ระดับต่ำ เขาบินจากไปด้วยความเร็วสูงสุด ซึ่งเหล่านกกระเรียนเมฆระดับต่ำนั้นไม่สามารถไล่ตามได้ทัน ดังนั้นไม่นานหานเซิ่นก็สลัดพวกมันได้
แต่ในจังหวะที่หานเซิ่นคิดว่าตัวเองหนีมาได้แล้ว เขาก็ไปเห็นคลาวด์บีสต์อีกกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามา พวกมันดูเหมือนกับเสือและมันก็มีระดับราชันหลายตัวอยู่ท่ามกลางฝูงของพวกมัน
‘ฮ่าๆ! วันนี้เราโชคดีจริงๆ!’ หานเซิ่นคิดด้วยรอยยิ้ม เขาบินตรงเข้าไปหาพวกมันพร้อมกับมีดเขี้ยวผีสิงในมือ
พวกมันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับราชันที่มีอาณาเขตแห่งราชันขั้นที่ 2 หรือ 3 เท่านั้น หานเซิ่นจำเป็นต้องโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวเพื่อฆ่าพวกมันแต่ละตัว
“ซีโน่เจเนอิคเสือเมฆระดับราชันถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรเสือเมฆ”
หานเซิ่นฆ่าเสือเมฆระดับราชันตัวที่ 5 และได้รับวิญญาณอสูรของมันมา
มันมีคลาวด์บีสต์อยู่ทั่วทั้งระบบเทียนเซีย แต่การจะหาซีโน่เจเนอิคระดับราชันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และหลังจากที่ฆ่าซีโน่จเนอิคราชันหนึ่งตัวไป หานเซิ่นก็พบซีโน่เจเนอิคระดับราชันเพิ่มอีก เขาโชคดีมากๆ
เสือเมฆที่เหลือรอดพยายามจะไล่ล่าหานเซิ่น แต่เขาเมินเฉยต่อพวกมันและบินต่อไปข้างหน้า
หานเซิ่นบินต่อไปได้อีกสักพัก ก่อนที่เขาจะพบกับคลาวด์บีสต์อีกกลุ่มหนึ่ง แต่ครั้งนี้มันไม่มีซีโน่เจเนอิคระดับราชันอยู่ในกลุ่มของพวกมัน จ่าฝูงของคลาวด์บีสต์พวกมันเป็นแค่ระดับดยุกเท่านั้น
หานเซิ่นคิดว่าเพียงแค่หมัดเดียวก็คงจะขู่ให้พวกมันหนีไป แต่ไม่นานเขาก็ได้รู้ว่านั่นไม่เป็นความจริง หานเซิ่นชกใส่คลาวด์บีสต์เป็นสิบตัว แต่พวกมันก็ยังคงพากันเข้ามาหาเขา
หานเซิ่นสลัดการไล่ตามของพวกมันและบินต่อไปข้างหน้า แต่เขาเริ่มจะรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เขาเจอฝูงคลาวด์บีสต์หลายครั้งติดต่อกันในช่วงเวลาอันสั้น และคลาวด์บีสต์ทั้งหมดต่างไม่กลัวความตาย พวกมันพยายามเข้ามาโจมตีหานเซิ่นราวกับว่าเขาเป็นศัตรูคู้แค้นของพวกมัน และไม่ว่าหานเซิ่นจะฆ่าพวกมันไปมากเท่าไหร่ มันก็ไม่มีคลาวด์บีสต์ตัวไหนที่คิดจะถอยออกไป
หานเซิ่นขมวดคิ้วและตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางของตัวเอง เขาอยากจะลองดูว่ายังจะเจอกับฝูงคลาวด์บีสต์อีกไหม
ผลที่ออกมายังคงเป็นเหมือนเดิม เขาไปพบกับกลุ่มคลาวด์บีสต์อีกกลุ่มหนึ่ง
หานเซิ่นลองเปลี่ยนเส้นทางอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็พบกับฝูงคลาวด์บีสต์ทุกครั้ง เหล่าคลาวด์บีสต์ทั้งหมดมีดวงตาสีแดง และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันเห็นเขา พวกมันก็จะกระโดดเข้าหาเขาอย่างหิวกระหาย
“นี่มันแปลกจริงๆ” ถึงแม้หานเซิ่นจะฆ่าคลาวด์บีสต์ระดับราชันได้เป็นจำนวนมาก แต่เขาไม่ได้ยินดีกับความสำเร็จของตัวเอง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
หลังจากที่หยุดคิดอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นก็ตัดสินใจบินกลับไปทางที่เข้ามา สิ่งแรกที่เขาจำเป็นต้องทำก็คือออกไปจากบริเวณทะเลเมฆสีน้ำนม ที่แห่งนี้มันแปลกประหลาด และคลาวด์บีสต์ก็ดุร้ายเกินไป เขารู้สึกไม่สบายใจที่จะอยู่ที่นั่นต่อ
ในระหว่างทางกลับ เขาเผชิญหน้ากับกลุ่มคลาวด์บีสต์ก่อนหน้านี้ ดวงตาของพวกมันทุกตัวมีสีแดง เห็นได้ชัดว่าพวกมันต้องการจะแก้แค้นหานเซิ่นให้ได้
ครั้งนี้มันใช้เวลาสักพักกว่าที่หานเซิ่นจะสลัดการไล่ตามของพวกมันได้ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับออกมาจากทะเลเมฆสีน้ำนมและบินไปสู่ทะเลเมฆสีฟ้าอ่อน
“ในที่สุดฉันก็ออกมาจากทะเลเมฆต้องสาปนั่น”
หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจ แต่หลังจากนั้นเขาก็เห็นเงาคนๆหนึ่งตรงเข้ามาทางเขา คนๆนั้นก็คือเอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าเหมิงเลี่ย