ราชานกยูงเทียนเซียกระพือปีกอย่างบ้าคลั่ง พลังของมันฉีกผ่านท้องผ้าและทิ้งรอยแยกไว้ตามทางที่มันเคลื่อนที่ไป
แต่ความพยายามของมันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ ท้องของมันยังคงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ราชานกยูงเทียนเซียกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หานเซิ่นและคนอื่นๆมองดูอย่างตกตะลึง ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นท้องของราชานกยูงเทียนเซียก็พองโตเหมือนกับลูกโป่ง และมันยังคงขยายใหญ่ขึ้นอีก ผิวของมันถูกยืดจนกลายเป็นอะไรที่โปร่งใส
ไม่นานท้องของราชานกยูงก็ระเบิดด้วยเสียงที่ดังลั่นราวกับฟ้าร้อง มันมีรูโหว่อยู่ที่ท้องของเจ้านกยูง
ก้อนเมฆสีน้ำนมก้อนใหญ่ลอยออกมาจากท้องมัน ซึ่งมันคือสิ่งนุ่มนิ่มสีขาวที่จิ้งหรีดดำปลดปล่อยออกมา
“มันแข็งแกร่งถึงขนาดนั้นเลย?” หานเซิ่นตกใจ เขาไม่รู้มาก่อนว่าก้อนเมฆสีน้ำนมจะมีพลังมากถึงขนาดนั้น เขาไม่ได้คิดว่ามันจะแข็งแรงพอที่จะทำให้ท้องของราชานกยูงเทียนเซียระเบิด เจ้านกยูงตัวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าที่แข็งแกร่ง แต่ท้องของมันเพิ่งจะถูกฉีกเปิดออกราวกับถุงพลาสติก
“เราควรจะดูสิ่งที่ตัวเองกินเข้าไป ราชานกยูงเทียนเซียคือตัวอย่างของสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าดูไม่ดี มันกลืนอาหารอันโอชะเข้าไปโดยไม่ตรวจสอบดูให้ดีซะก่อน… และตอนนี้ท้องของมันก็ระเบิด”
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาหยุดวาฬขาวและมองไปที่ราชานกยูงเทียนเซีย
หลังจากที่ท้องของราชานกยูงเทียนเซียระเบิด เลือดสีรุ้งของมันก็ไหลลงมาสู่ก้อนเมฆ เจ้านกยูงลอยตัวอยู่บนอากาศและร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง มันกระพือปีกพยายามจะไปจากที่นี่ แต่แสงแห่งเทพสีรุ้งของมันมืดมัวลงเรื่อยๆ พวกมันกลายเป็นอะไรที่ยากจะมองเห็น
ก้อนเมฆสีน้ำนมเมินเฉยต่อราชานกยูงเทียนเซียและบินกลับมาทางหานเซิ่น
“นี่เป็นโอกาสดี เป่าเอ๋อ หนูมาคอยควบคุมวาฬขาว!”
หานเซิ่นพูดด้วยความดีใจ เขาคว้าตัวนกแดงน้อยและออกจากวาฬขาวไป เขาตรงเข้าไปหาราชานกยูงเทียนเซียที่บาดเจ็บสาหัส
“นกแดงน้อย ถึงเวลาของนายแล้ว!” หานเซิ่นโยนนกแดงน้อยไปทางราชานกยูงเทียนเซีย
นกแดงน้อยกรีดร้องอย่างเศร้าใจขณะที่ร่างกายของมันเปลี่ยนเป็นฟินิกซ์เพลิง แต่มันก็ทำตามคำสั่งของหานเซิ่นและพ่นไฟออกไปทางราชานกยูงเทียนเซียที่น่าสงสาร
เปลวไฟปกคลุมท้องฟ้าขณะที่มันพุ่งตรงเข้าไปเผาผลาญราชานกยูงเทียนเซีย เจ้านกยูงที่บาดเจ็บปางตายอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ไม่สามารถทนต่อเพลิงฟินิกซ์ของนกแดงน้อยได้ เจ้านกยูงกรีดร้องออกมาขณะที่ถูกเผา แต่น่าเศร้าที่มันบาดเจ็บเกินกว่าที่จะหนีไปได้
มันบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเหมิงเลี่ยอยู่ก่อนแล้ว และตอนนี้ท้องของมันยังระเบิดอีก ไส้ของมันหลุดออกมาและหนึ่งในขาของมันก็เละเทะ
ถ้าราชานกยูงเทียนเซียสามารถหาที่ปลอดภัยเพื่อพักรักษาตัวได้ มันก็คงจะฟื้นตัวได้ในที่สุด แต่ในตอนนี้มันไม่อยู่ในสภาพที่จะต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าตัวอื่นได้
ขณะที่ราชานกยูงเทียนเซียถูกเผา ขนและเนื้อหนังของมันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม มันเหมือนกับแท่งเหล็กที่ถูกความร้อน
เจ้านกยูงยังคงพยายามดิ้นรนต่อไป แต่น่าเศร้าที่มันไม่สามารถหนีไปได้ นกแดงน้อยไล่ตามมันไปและส่งเปลวไฟที่ร้อนแรงไปใส่ร่างกายของมัน
พลังชีวิตของราชานกยูงเทียนเซียเกือบจะดับลงแล้ว เมื่อเห็นแบบนั้นหานเซิ่นก็เคลื่อนที่ไปด้านหลังนกแดงน้อยและตะโกน
“ปล่อยเจ้านกยูงไป ให้ฉันเป็นคนปิดชีวิตมัน”
หานเซิ่นยกธันเดอร์ก็อตสไปค์ขึ้นและบินเข้าไปหาราชานกยูงเทียนเซียที่หมดสติ เขาทุบใส่มันอย่างเต็มแรงโดยเล็งไปที่สมองของมัน
ธันเดอร์ก็อตสไปค์ฟาดไปถูกหัวกะโหลกของราชานกยูงเทียนเซียอย่างรุนแรง ถึงมันจะไม่สามารถเจาะทะลวงกะโหลกของเจ้านกยูงได้ แต่สายฟ้าสีเงินก็ไหลไปทั่วร่างของมัน ราชานกยูงเทียนเซียที่หมดสติถูกช็อตไฟฟ้าและเริ่มจะชักกระตุกอย่างรุนแรง
หานเซิ่นฟาดใส่มันซ้ำๆ ร่างกายของราชานกยูงเทียนเซียยังคงชักกระตุก แต่หานเซิ่นยังไม่ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นมา
“การฆ่านี้ต้องเป็นของฉัน เง็กเซียนฮ่องเต้ พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พวกท่านต้องมอบวิญญาณอสูรให้กับฉัน!” หานเซิ่นทุบใส่หัวนกยูงขณะที่สวดภาวนา
ราชานกยูงเทียนเซียแน่นิ่งไป แต่หานเซิ่นยังคงไม่ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงกัดฟันและทุบใส่หัวของมันต่อไป
“ซีโน่เจเนอิคราชานกยูงเทียนเซียระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรราชานกยูงเทียนเซีย”
ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยว่าจะถูกนกแดงน้อยแย่งฆ่าหรือเปล่า จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นมา ในจังหวะนั้นหานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขาถูกส่งตรงไปที่สรวงสวรรค์ เขาครางออกมาด้วยความปิติยินดี
“วิญญาณอสูรระดับเทพเจ้า! ฉันได้รับวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้า…”
หานเซิ่นยิ้มอย่างกับคนบ้า เขารีบหันไปดูว่าวิญญาณอสูรที่เขาได้รับมาเป็นวิญญาณอสูรประเภทไหน
“อาวุธ ได้โปรดมอบอาวุธให้กับฉันด้วยเถอะ ฉันขอแค่อาวุธก็พอ…” หานเซิ่นภาวนาในใจ
วิญญาณอสูรระดับเทพเจ้าราชานกยูงเทียนเซีย : ชุดเกราะวิญญาณ(เสีย)
“ประเภทชุดเกราะวิญญาณ? โอ้! นั่นมันดีกว่าอาวุธซะอีก รวย ฉันรวยแล้ว!” หานเซิ่นดีใจอย่างมากจนเกือบจะกระโดดขึ้นมา
มันเป็นชุดเกราะวิญญาณระดับเทพเจ้า ดังนั้นมันจะมีพลังป้องกันระดับเทพเจ้า แถมมันยังมีพลังเสริมที่จะมาพร้อมกับชุดเกราะอีก ถึงแม้มันจะไม่ใช่วิญญาณอสูรเปลี่ยนร่าง แต่การได้รับพลังเสริมระดับเทพเจ้าก็ทำให้การโจมตีของเขารุนแรงเหมือนอย่างสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า
ตอนนี้เมื่อเขามีชุดเกราะวิญญาณนี่อยู่ เขาก็สามารถต่อกรกับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าได้
“เดี๋ยวก่อนนะ… เสีย นี่มันหมายความว่ายังไง? มันเป็นวิญญาณอสูรที่เสียอย่างนั้นหรอ? ไม่นะ… ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับวิญญาณอสูรที่เสียมาก่อน” เมื่อหานเซิ่นเห็นคำว่าเสีย ความรู้สึกดีใจของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว
หานเซิ่นเรียกชุดเกราะวิญญาณอสูรราชานกยูงเทียนเซียออกมา และชุดสีเทาก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา มันทำมาจากขนนกยูงสีเทาทั้งชุด
มันดูไม่เหมือนกับชุดเกราะ แต่ดูเหมือนกับชุดคลุมมากกว่า ชุดคลุมขนนกสีเทาปกคลุมหานเซิ่นทั้งตัว และด้านหลังเสื้อคลุมขนนกสีเทาก็มีภาพของนกยูงอยู่ มันเป็นภาพใบหน้าของราชาขนนกเทียนเซียที่หางหุบอยู่
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว แสงแห่งเทพสีรุ้งส่องภายในชุดคลุม มันก่อตัวเป็นเงาของนกยูงที่หางกางออกอย่างเต็มที่ พลังที่น่ากลัวพลุ่งพล่านภายในตัวหานเซิ่นและมันก็กลายเป็นโซ่สสารสีรุ้งที่เสริมพลังให้กับร่างกายของเขา
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากลัวในตัว หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่าเขาสามารถทำลายทั้งจักรวาลได้ในหมัดเดียว
“แปลกจริงๆ วิญญาณอสูรของราชานกยูงเทียนเซียก็ไม่ได้เสียอะไร แบบนั้นทำไมมันถึงบอกว่าเสียกัน?” หานเซิ่นไม่เข้าใจ