หานเซิ่นนำร่างของราชานกยูงเทียนเซียเข้ามาไว้ในวาฬขาว ส่วนเป่าเอ๋อก็ใช้น้ำเต้าน้อยของเธอเพื่อดูดก้อนเมฆสีน้ำนมเข้าไปข้างใน
ความเสียหายที่วาฬขาวได้รับค่อนข้างหนัก ถึงมันจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าที่มันจะซ่อมแซมตัวเองจนกลับมาสมบูรณ์ ในตอนนี้มันแทบจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้และมันก็มีรูโหว่อยู่ทั่วยาน โครงสร้างของวาฬขาวดูเหมือนจะพังทลายได้ทุกเมื่อ
“หานเซิ่น นั่นมันหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์จริงๆอย่างนั้นหรอ? ข้าขอดูหน่อยได้ไหม?”
ฟางชิงอวี่ถามหานเซิ่นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“เจ้ารู้ว่าหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์คืออะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
ฟางชิงอวี่พยักหน้า “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับมัน แต่ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน แม้แต่ภายในสหพันธ์1000สมบัติมันก็มีเพียงแค่เรื่องเล่าและตำนานเกี่ยวกับการมีอยู่ของมันเท่านั้น รายละเอียดของมันยังคงเป็นความลับ และพวกเราก็ไม่มีรูปภาพของมันด้วยซ้ำ”
“นั่นหมายความว่าหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เป็นบางสิ่งที่มีค่ามากใช่ไหม?” หานเซิ่นรู้สึกดีใจ
“มันไม่ใช่แค่มีค่า แม้แต่ฝ่ายที่ทรงอำนาจอย่าง1000สมบัติก็ยังอยากจะได้หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ถ้านี่เป็นของจริงล่ะก็ หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ใช้แลกเปลี่ยนกับความเป็นเจ้าของระบบจักรวาลได้หลายระบบเลย”
“หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ใช้ทำอะไรได้กัน?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน
เท่าที่หานเซิ่นรู้ หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น นอกจากดึงดูดเหล่าซีโน่เจเนอิค
ถึงแม้การกินมันเข้าไปจะทำให้คนๆนั้นกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ นั่นก็ไม่ควรจะมีค่าเท่ากับระบบจักรวาลขนาดใหญ่หลายระบบ
“ข้ารู้จักตำนานเกี่ยวกับมันแค่นิดหน่อยเท่านั้น แต่ข้าไม่รู้ว่าพวกมันเป็นความจริงหรือไม่ จากบันทึกของสหพันธ์1000สมบัติ การกินหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เข้าไปจะมอบสิทธิ์ในการเข้าไปสู่ซีโน่เจเนอิคสเปชลึกลึบที่ถูกรู้จักกันในชื่ออาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ มันจะไม่มีความป่วยหรือความตายในที่แห่งนั้น และเมื่อเจ้าเข้าไปข้างใน มันก็จะทำให้เจ้ากลายเป็นอมตะ” ฟางชิงอวี่พูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่
เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกค่อนข้างผิดหวัง เขารู้ว่าคำกล่าวนั้นไม่มีทางเป็นเรื่องจริงไปได้
ถ้าการเป็นอมตะเป็นเรื่องง่ายๆ ผู้นำเซเคร็ดก็คงจะไม่พยายามอย่างหนักเพื่อยืดอายุขัยของตัวเอง เขาคงจะไม่ใช้เวลาเกี่ยวกับการวิจัยเพื่อหาทางฆ่าพระเจ้า
สำหรับหานเซิ่นแล้ว การเข้าไปในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ฟังดูไม่เป็นความจริงเลยสักนิดเดียว ถ้าการกินพืชต้นหนึ่งเข้าไปจะทำให้คนๆนั้นเข้าไปในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นได้ แบบนั้นจิ้งหรีดดำก็คงจะไปที่นั่นเรียบร้อยแล้ว ทำไมมันถึงจะยังอยู่ที่นี่อีก?
“โอ้ไม่นะ เป่าเอ๋อ! เอาก้อนเมฆนั่นออกมาจากน้ำเต้าของหนู” หานเซิ่นรีบบอกเป่าเอ๋อเมื่อนึกถึงจิ้งหรีดดำขึ้นมาได้
จิ้งหรีดดำยังคงซ่อนตัวอยู่ในก้อนเมฆสีขาวนั่น หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันกินหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วหรือยัง
เป่าเอ๋อปล่อยก้อนเมฆออกมา หานเซิ่นเดินเข้าไปข้างในและเห็นว่าหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ในนั้น เขาใช้มือปัดใบของหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ และเขาก็เห็นว่ารากของหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เป็นบางสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนกับลูกบอล มันมีรูเล็กๆอยู่ในสิ่งที่รูปร่างเหมือนลูกบอล ซึ่งจิ้งหรีดดำคงจะทำบ้านอยู่ภายในนั้น
รูนั้นเล็กเกินกว่าที่หานเซิ่นจะแหย่นิ้วเข้าไป เขาไม่รู้วิธีที่จะเอาเจ้าจิ้งหรีดดำออกมาโดยไม่ทำให้หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ได้รับความเสียหาย
“พี่ฟาง เจ้าคิดว่านี่คือหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของจริงไหม? หานเซิ่นมอบหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ให้กับฟางชิงอวี่
ฟางชิงอวี่รับมันไปตรวจดู หลังจากที่สังเกตอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมา
“ภายในสหพันธ์1000สมบัติไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์มากนัก แต่พืชนี้ดูเหมือนกับในภาพวาดที่ข้าเคยเห็น ถ้านี่เป็นหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของจริง เจ้าก็ควรจะหาทางซ่อนมันให้ดี หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์จะดึงดูดซีโน่เจเนอิคที่อยู่รอบๆ และพวกมันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ไป”
ใบหน้าของหานเซิ่นดูหม่นหมอง เขาไม่รู้ว่านี่เป็นหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์จริงๆหรือเปล่า แต่มันดึงดูดซีโน่เจเนอิคจำนวนมากเข้ามาเรียบร้อยแล้ว มันดึงดูดมาแม้กระทั่งซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอย่างราชานกยูงเทียนเซีย แม้แต่หอคอยแห่งโชคชะตาก็ไม่สามารถตัดการดึงดูดซีโน่เจเนอิคของมันได้
“พ่อ หนูจะช่วยพ่อเก็บมันเอง” เป่าเอ๋อพูด
“เอาสิ ถ้าอย่างนั้นหนูก็เก็บมันเอาไว้ก่อน” หานเซิ่นรู้ว่าเป่าเอ๋อนั้นชอบพืช
หานเซิ่นไม่เคยหวงทรัพยากรที่จะมอบให้กับลูกสาว แถมเขาก็ไม่รู้วิธีที่จะจัดการกับหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นมันไม่เสียหายอะไรที่จะปล่อยให้เป่าเอ๋อเก็บมันไปก่อน
เป่าเอ๋อดีใจอย่างมากกับเรื่องนี้ เธอรีบเอาหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์และก้อนเมฆกลับเข้าไปในน้ำเต้าของเธอ
“เป่าเอ๋อ ภายในหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์มีจิ้งหรีดดำอยู่ ก่อนหน้านี้มันทำให้ท้องของราชานกยูงเทียนเซียแตกได้ หนูจำเป็นต้องระวังเจ้าตัวนั้นเอาไว้” หานเซิ่นเตือนเธอ
“จิ้งหรีดเป็นสัตว์โปรดของหนู! หนูควรจะหามันมาอีกตัวเพื่อให้มันต่อสู้กัน” เป่าเอ๋อพูดอย่างมีความสุข
“พ่อพยายามจะบอกหนูว่าจิ้งหรีดดำนั้นกินหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เป็นอาหาร หนูอย่าปล่อยให้มันกินหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์จนหมด” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“พวกเราควรปล่อยให้มันกินไป พวกเรากินหญ้าไม่ได้ มันจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อมันกินหญ้านั่นเข้าไป” เป่าเอ๋อพูด
“หนูรู้หรือว่ามันคืออะไร?” หานเซิ่นถามเป่าเอ๋อด้วยความแปลกใจ
เป่าเอ๋อคิดและพูด “หนูไม่รู้ว่าทำไม แต่หนูรู้ว่าถ้ามันกินหญ้าจนเสร็จแล้ว มันจะพาพวกเราไปในสถานที่ที่เรียกว่าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์”
‘เป่าเอ๋อคงจะต้องมีพลังในการทำนายบางอย่างแน่ๆ’ หานเซิ่นคิด เขารู้ว่าเป่าเอ๋อไม่ได้พูดโกหก แต่เป่าเอ๋อดูเหมือนจะมีคำตอบของคำถามที่แปลกประหลาดที่สุด มันยากที่จะจินตนาการว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่
ถึงแม้วาฬขาวจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่หานเซิ่นก็ได้รับอะไรมากมายจากการเดินทางเข้ามาในระบบเทียนเซีย นอกจากหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์และจิ้งหรีดดำแล้ว เขายังได้รับร่างของราชานกยูงเทียนเซียและวิญญาณอสูรของมันอีก ซึ่งพวกมันก็ต่างเป็นของที่ประเมินค่าไม่ได้
หานเซิ่นไม่รู้ว่าน้ำเต้าของเป่าเอ๋อมีพลังแบบไหนกันแน่ แต่หลังจากที่หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ถูกดูดเข้าไปข้างใน มันก็ไม่มีคลาวด์บีสต์เข้ามาหาพวกเขาอีก หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
หานเซิ่นหาโอกาสที่จะเคลื่อนย้ายร่างของนกยูงเทียนเซียเข้าไปเก็บเอาไว้ในก็อตแซงชัวรี่ ในตอนนี้เขาไม่สามารถกินเนื้อของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้ ดังนั้นเขาทำได้แค่เก็บมันเอาไว้ก่อน
หานเซิ่นขับวาฬขาวผ่านระบบเทียนเซียไป ตลอดหลายวันที่ผ่านมา การเดินทางของพวกเขาเป็นไปอย่างราบรื่น พวกเขาเจอกับคลาวด์บีสต์ระดับราชันไม่กี่ตัว ซึ่งพวกมันก็ถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วโดยหานเซิ่น
ในตอนที่มีเวลาว่าง หานเซิ่นก็พยายามจะผลักดันฟันเฟืองจักรวาลของวิชาเรื่องราวของยีน
ฟันเฟืองจักรวาลของเรื่องราวของยีนนั้นเป็นเหมือนกับของวิชาโลหิตชีพจร พวกมันแยกตัวและไม่เชื่อต่อกับฟันเฟืองจักรวาลอื่น แต่ทว่ามันไม่เหมือนกับโลหิตชีพจรที่สามารถเชื่อมต่อกับฟันเฟืองจักรวาลของผู้อื่นได้ ฟันเฟืองของวิชาเรื่องราวของยีนนั้นเป็นเอกราช
มันแตกต่างไปจากศาสตร์ตงเสวียน ฟันเฟืองของศาสตร์ตงเสวียนเชื่อมต่อกับทุกฟันเฟืองในจักรวาล แต่ฟันเฟืองของเรื่องราวของยีนนั้นไม่ได้ทำงานร่วมกับฟันเฟืองไหนเลย
ตามทฤษฎีแล้ว ยิ่งฟันเฟืองจักรวาลเชื่อมต่อกับฟันเฟืองอื่นน้อยเท่าไหร่ มันก็จะถูกผลักดันให้หมุนง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะยังไงซะมันก็จำเป็นต้องใช้พลังเพื่อหมุนทุกฟันเฟือง ดังนั้นยิ่งฟันเฟืองที่จำเป็นต้องหมุนมีจำนวนมาก พลังที่ต้องใช้ก็จะมากตามไปด้วย
แต่ด้วยพลังของหานเซิ่นในตอนนี้ เขายังไม่สามารถผลักดันฟันเฟืองจักรวาลของเรื่องราวของยีนให้หมุนได้ มันเหมือนกับว่าฟันเฟืองนั้นถูกล็อค หรือบางทีมันไม่ควรจะถูกขยับเขยื้อนอย่างไรอย่างนั้น
หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนและสังเกตเห็นว่าฟันเฟืองของวิชาเรื่องราวของยีนนั้นไม่ได้ใหญ่อะไร ฟันเฟืองสีขาวของมันมีสัญลักษณ์แปลกๆอยู่ หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าพวกมันเหมือนกับสัญลักษณ์บนหน้าผากของมนตรา พวกมันอาจจะหมายถึงอีเทอร์นิตี้