Super God Gene – ตอนที่ 2496

หานเซิ่นนำร่างของราชานกยูงเทียนเซียเข้ามาไว้ในวาฬขาว ส่วนเป่าเอ๋อก็ใช้น้ำเต้าน้อยของเธอเพื่อดูดก้อนเมฆสีน้ำนมเข้าไปข้างใน

 

ความเสียหายที่วาฬขาวได้รับค่อนข้างหนัก ถึงมันจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าที่มันจะซ่อมแซมตัวเองจนกลับมาสมบูรณ์ ในตอนนี้มันแทบจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้และมันก็มีรูโหว่อยู่ทั่วยาน โครงสร้างของวาฬขาวดูเหมือนจะพังทลายได้ทุกเมื่อ

 

“หานเซิ่น นั่นมันหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์จริงๆอย่างนั้นหรอ? ข้าขอดูหน่อยได้ไหม?”
ฟางชิงอวี่ถามหานเซิ่นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

 

“เจ้ารู้ว่าหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์คืออะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

ฟางชิงอวี่พยักหน้า “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับมัน แต่ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน แม้แต่ภายในสหพันธ์1000สมบัติมันก็มีเพียงแค่เรื่องเล่าและตำนานเกี่ยวกับการมีอยู่ของมันเท่านั้น รายละเอียดของมันยังคงเป็นความลับ และพวกเราก็ไม่มีรูปภาพของมันด้วยซ้ำ”

 

“นั่นหมายความว่าหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เป็นบางสิ่งที่มีค่ามากใช่ไหม?” หานเซิ่นรู้สึกดีใจ

 

“มันไม่ใช่แค่มีค่า แม้แต่ฝ่ายที่ทรงอำนาจอย่าง1000สมบัติก็ยังอยากจะได้หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ถ้านี่เป็นของจริงล่ะก็ หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ใช้แลกเปลี่ยนกับความเป็นเจ้าของระบบจักรวาลได้หลายระบบเลย”

 

“หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ใช้ทำอะไรได้กัน?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน

 

เท่าที่หานเซิ่นรู้ หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น นอกจากดึงดูดเหล่าซีโน่เจเนอิค

 

ถึงแม้การกินมันเข้าไปจะทำให้คนๆนั้นกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ นั่นก็ไม่ควรจะมีค่าเท่ากับระบบจักรวาลขนาดใหญ่หลายระบบ

 

“ข้ารู้จักตำนานเกี่ยวกับมันแค่นิดหน่อยเท่านั้น แต่ข้าไม่รู้ว่าพวกมันเป็นความจริงหรือไม่ จากบันทึกของสหพันธ์1000สมบัติ การกินหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เข้าไปจะมอบสิทธิ์ในการเข้าไปสู่ซีโน่เจเนอิคสเปชลึกลึบที่ถูกรู้จักกันในชื่ออาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ มันจะไม่มีความป่วยหรือความตายในที่แห่งนั้น และเมื่อเจ้าเข้าไปข้างใน มันก็จะทำให้เจ้ากลายเป็นอมตะ” ฟางชิงอวี่พูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่

 

เมื่อได้ยินแบบนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกค่อนข้างผิดหวัง เขารู้ว่าคำกล่าวนั้นไม่มีทางเป็นเรื่องจริงไปได้

 

ถ้าการเป็นอมตะเป็นเรื่องง่ายๆ ผู้นำเซเคร็ดก็คงจะไม่พยายามอย่างหนักเพื่อยืดอายุขัยของตัวเอง เขาคงจะไม่ใช้เวลาเกี่ยวกับการวิจัยเพื่อหาทางฆ่าพระเจ้า

 

สำหรับหานเซิ่นแล้ว การเข้าไปในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ฟังดูไม่เป็นความจริงเลยสักนิดเดียว ถ้าการกินพืชต้นหนึ่งเข้าไปจะทำให้คนๆนั้นเข้าไปในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นได้ แบบนั้นจิ้งหรีดดำก็คงจะไปที่นั่นเรียบร้อยแล้ว ทำไมมันถึงจะยังอยู่ที่นี่อีก?

 

“โอ้ไม่นะ เป่าเอ๋อ! เอาก้อนเมฆนั่นออกมาจากน้ำเต้าของหนู” หานเซิ่นรีบบอกเป่าเอ๋อเมื่อนึกถึงจิ้งหรีดดำขึ้นมาได้

 

จิ้งหรีดดำยังคงซ่อนตัวอยู่ในก้อนเมฆสีขาวนั่น หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันกินหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วหรือยัง

 

เป่าเอ๋อปล่อยก้อนเมฆออกมา หานเซิ่นเดินเข้าไปข้างในและเห็นว่าหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ในนั้น เขาใช้มือปัดใบของหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ และเขาก็เห็นว่ารากของหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เป็นบางสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนกับลูกบอล มันมีรูเล็กๆอยู่ในสิ่งที่รูปร่างเหมือนลูกบอล ซึ่งจิ้งหรีดดำคงจะทำบ้านอยู่ภายในนั้น

 

รูนั้นเล็กเกินกว่าที่หานเซิ่นจะแหย่นิ้วเข้าไป เขาไม่รู้วิธีที่จะเอาเจ้าจิ้งหรีดดำออกมาโดยไม่ทำให้หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ได้รับความเสียหาย

 

“พี่ฟาง เจ้าคิดว่านี่คือหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของจริงไหม? หานเซิ่นมอบหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ให้กับฟางชิงอวี่

 

ฟางชิงอวี่รับมันไปตรวจดู หลังจากที่สังเกตอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมา
“ภายในสหพันธ์1000สมบัติไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์มากนัก แต่พืชนี้ดูเหมือนกับในภาพวาดที่ข้าเคยเห็น ถ้านี่เป็นหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของจริง เจ้าก็ควรจะหาทางซ่อนมันให้ดี หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์จะดึงดูดซีโน่เจเนอิคที่อยู่รอบๆ และพวกมันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ไป”

 

ใบหน้าของหานเซิ่นดูหม่นหมอง เขาไม่รู้ว่านี่เป็นหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์จริงๆหรือเปล่า แต่มันดึงดูดซีโน่เจเนอิคจำนวนมากเข้ามาเรียบร้อยแล้ว มันดึงดูดมาแม้กระทั่งซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอย่างราชานกยูงเทียนเซีย แม้แต่หอคอยแห่งโชคชะตาก็ไม่สามารถตัดการดึงดูดซีโน่เจเนอิคของมันได้

 

“พ่อ หนูจะช่วยพ่อเก็บมันเอง” เป่าเอ๋อพูด

 

“เอาสิ ถ้าอย่างนั้นหนูก็เก็บมันเอาไว้ก่อน” หานเซิ่นรู้ว่าเป่าเอ๋อนั้นชอบพืช

 

หานเซิ่นไม่เคยหวงทรัพยากรที่จะมอบให้กับลูกสาว แถมเขาก็ไม่รู้วิธีที่จะจัดการกับหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นมันไม่เสียหายอะไรที่จะปล่อยให้เป่าเอ๋อเก็บมันไปก่อน

 

เป่าเอ๋อดีใจอย่างมากกับเรื่องนี้ เธอรีบเอาหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์และก้อนเมฆกลับเข้าไปในน้ำเต้าของเธอ

 

“เป่าเอ๋อ ภายในหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์มีจิ้งหรีดดำอยู่ ก่อนหน้านี้มันทำให้ท้องของราชานกยูงเทียนเซียแตกได้ หนูจำเป็นต้องระวังเจ้าตัวนั้นเอาไว้” หานเซิ่นเตือนเธอ

 

“จิ้งหรีดเป็นสัตว์โปรดของหนู! หนูควรจะหามันมาอีกตัวเพื่อให้มันต่อสู้กัน” เป่าเอ๋อพูดอย่างมีความสุข

 

“พ่อพยายามจะบอกหนูว่าจิ้งหรีดดำนั้นกินหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เป็นอาหาร หนูอย่าปล่อยให้มันกินหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์จนหมด” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

 

“พวกเราควรปล่อยให้มันกินไป พวกเรากินหญ้าไม่ได้ มันจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อมันกินหญ้านั่นเข้าไป” เป่าเอ๋อพูด

 

“หนูรู้หรือว่ามันคืออะไร?” หานเซิ่นถามเป่าเอ๋อด้วยความแปลกใจ

 

เป่าเอ๋อคิดและพูด “หนูไม่รู้ว่าทำไม แต่หนูรู้ว่าถ้ามันกินหญ้าจนเสร็จแล้ว มันจะพาพวกเราไปในสถานที่ที่เรียกว่าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์”

 

‘เป่าเอ๋อคงจะต้องมีพลังในการทำนายบางอย่างแน่ๆ’ หานเซิ่นคิด เขารู้ว่าเป่าเอ๋อไม่ได้พูดโกหก แต่เป่าเอ๋อดูเหมือนจะมีคำตอบของคำถามที่แปลกประหลาดที่สุด มันยากที่จะจินตนาการว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่

 

ถึงแม้วาฬขาวจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่หานเซิ่นก็ได้รับอะไรมากมายจากการเดินทางเข้ามาในระบบเทียนเซีย นอกจากหญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์และจิ้งหรีดดำแล้ว เขายังได้รับร่างของราชานกยูงเทียนเซียและวิญญาณอสูรของมันอีก ซึ่งพวกมันก็ต่างเป็นของที่ประเมินค่าไม่ได้

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าน้ำเต้าของเป่าเอ๋อมีพลังแบบไหนกันแน่ แต่หลังจากที่หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ถูกดูดเข้าไปข้างใน มันก็ไม่มีคลาวด์บีสต์เข้ามาหาพวกเขาอีก หญ้าอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

 

หานเซิ่นหาโอกาสที่จะเคลื่อนย้ายร่างของนกยูงเทียนเซียเข้าไปเก็บเอาไว้ในก็อตแซงชัวรี่ ในตอนนี้เขาไม่สามารถกินเนื้อของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้ ดังนั้นเขาทำได้แค่เก็บมันเอาไว้ก่อน

 

หานเซิ่นขับวาฬขาวผ่านระบบเทียนเซียไป ตลอดหลายวันที่ผ่านมา การเดินทางของพวกเขาเป็นไปอย่างราบรื่น พวกเขาเจอกับคลาวด์บีสต์ระดับราชันไม่กี่ตัว ซึ่งพวกมันก็ถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วโดยหานเซิ่น

 

ในตอนที่มีเวลาว่าง หานเซิ่นก็พยายามจะผลักดันฟันเฟืองจักรวาลของวิชาเรื่องราวของยีน

 

ฟันเฟืองจักรวาลของเรื่องราวของยีนนั้นเป็นเหมือนกับของวิชาโลหิตชีพจร พวกมันแยกตัวและไม่เชื่อต่อกับฟันเฟืองจักรวาลอื่น แต่ทว่ามันไม่เหมือนกับโลหิตชีพจรที่สามารถเชื่อมต่อกับฟันเฟืองจักรวาลของผู้อื่นได้ ฟันเฟืองของวิชาเรื่องราวของยีนนั้นเป็นเอกราช

 

มันแตกต่างไปจากศาสตร์ตงเสวียน ฟันเฟืองของศาสตร์ตงเสวียนเชื่อมต่อกับทุกฟันเฟืองในจักรวาล แต่ฟันเฟืองของเรื่องราวของยีนนั้นไม่ได้ทำงานร่วมกับฟันเฟืองไหนเลย

 

ตามทฤษฎีแล้ว ยิ่งฟันเฟืองจักรวาลเชื่อมต่อกับฟันเฟืองอื่นน้อยเท่าไหร่ มันก็จะถูกผลักดันให้หมุนง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะยังไงซะมันก็จำเป็นต้องใช้พลังเพื่อหมุนทุกฟันเฟือง ดังนั้นยิ่งฟันเฟืองที่จำเป็นต้องหมุนมีจำนวนมาก พลังที่ต้องใช้ก็จะมากตามไปด้วย

 

แต่ด้วยพลังของหานเซิ่นในตอนนี้ เขายังไม่สามารถผลักดันฟันเฟืองจักรวาลของเรื่องราวของยีนให้หมุนได้ มันเหมือนกับว่าฟันเฟืองนั้นถูกล็อค หรือบางทีมันไม่ควรจะถูกขยับเขยื้อนอย่างไรอย่างนั้น

 

หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนและสังเกตเห็นว่าฟันเฟืองของวิชาเรื่องราวของยีนนั้นไม่ได้ใหญ่อะไร ฟันเฟืองสีขาวของมันมีสัญลักษณ์แปลกๆอยู่ หานเซิ่นรู้สึกตัวว่าพวกมันเหมือนกับสัญลักษณ์บนหน้าผากของมนตรา พวกมันอาจจะหมายถึงอีเทอร์นิตี้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset