หานเซิ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับการที่ราชครูกู่เยวียนสามารถคำนวณเส้นทางหนีของเขาได้อย่างแม่นยำ การบอกให้ไป๋อู๋ฉางมารอเขาอยู่ที่นี่อาจจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร ถ้าราชครูกู่เยวียนเป็นคนฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเดินทางของหานเซิ่นไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น ผู้คนมากมายไล่ล่าตัวเขาอยู่ตลอดเวลา และมันก็ทำให้เขาระวังตัวเป็นพิเศษ
“เลิกพูดจาให้เสียเวลา! มาสู้กับข้า ครั้งนี้ข้าจะเป็นฝ่ายชนะ”
ไป๋อู๋ฉางพูดขณะที่พลังภายในตัวเขาระเบิดออกมา ร่างกายทั้งร่างของเขาเรืองแสงสีทองออกมา มันคือร่างกายแห่งราชันภูติผีของเขา
“นี่เจ้ากลายเป็นระดับครึ่งเทพแล้วหรือเนี่ย?” หานเซิ่นมองไปที่ไป๋อู๋ฉางด้วยความตกใจ ความเร็วในการพัฒนาของไป๋อู๋ฉางเป็นอะไรที่รวดเร็วเกินไป
ไป๋อู๋ฉางพูด “ข้าได้ผ่านการฝึกที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายบนภูเขาเอ็กซ์ตรีม ข้าไม่เหมือนกับคนก่อนอีกแล้ว ครั้งนี้ข้าจะไม่แพ้”
“ข้าต้องขอโทษด้วยที่ต้องพูดตรงๆ ถึงเจ้าจะเป็นครึ่งเทพ แต่ข้าก็คิดว่าเจ้าจะต้องผิดหวังถ้าหวังว่าจะเอาชนะข้าได้ด้วยร่างกายแห่งราชันภูติผี” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปที่ไป๋อู๋ฉาง
ไป๋อู๋ฉางจ้องไปที่หานเซิ่น เขาตอบอย่างช้าๆทีละคำ “มาสู้กับข้า อย่างที่ข้าบอก ข้าจะไม่แพ้”
หานเซิ่นไม่พูดอะไร เขาแค่ชักมีดเขี้ยวผีสิงออกมา เขาใช้มันฟันใส่ไปทางไป๋อู๋ฉาง นอกเหนือจากพลังเขี้ยวในมีดแล้ว เขายังใช้พลังแข็งตัวของมนตราอีกด้วย
ร่างกายแห่งราชันภูตผีของไป๋อู๋ฉางสามารถเมินเฉยต่อการโจมตีทางกายภาพและทางพลังงานทั้งหมดได้ แต่มันไม่สามารถป้องกันพลังแข็งตัวของอีเทอร์นีตี้ได้
ฟางชิงอวี่นำรูบิคว่านเจียที่หานเซิ่นคืนให้กับเขาออกมา เขาเริ่มจะถ่ายภาพการต่อสู้ระหว่างหานเซิ่นและไป๋อู๋ฉาง แต่มันเป็นเพียงแค่การเก็บบันทึกเอาไว้เท่านั้น เขาไม่ได้ถ่ายทอดสดมันไปให้คนอื่นดู
ฟางชิงอวี่รู้ว่าเขาไม่สามารถเสี่ยงเปิดเผยตำแหน่งของตัวเองออกไปได้ เพราะถ้าเขาทำแบบนั้น ทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็จะส่งคนมาจับตัวพวกเขา
ไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วเมื่อเห็นการฟันของหานเซิ่น เขาใช้มือดึงเอามีดยาวสีฟ้าออกมาความว่างเปล่า หลังจากนั้นเขาก็ใช้มันฟันไปปะทะกับมีดเขี้ยวผีสิงของหานเซิ่น
หานเซิ่นเห็นมีดของคู่ต่อสู้ฟันเข้ามาหามีดเขี้ยวผีสิง และดวงตาของเขาก็หลี่ลงอย่างกะทันหัน แทนที่จะฟันต่อไปข้างหน้า เขาหมุนมีดเขี้ยวผีสิงเพื่อป้องกันด้านซ้ายของตัวเอง
ฟางชิงอวี่และเหล่าโจรสลัดจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง พวกเขาคิดว่าหานเซิ่นคงจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หานเซิ่นเลือกจะไม่ปัดป้องมีดของไป๋อู๋ฉางและหมุนมีดของตัวเองเพื่อป้องกันด้านซ้ายของลำคอตัวเอง
ไม่ว่าพวกเขาจะดูยังไง หานเซิ่นก็ดูบ้าไปแล้ว การทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้เขาถูกฆ่าตาย
แต่วินาทีต่อ มาพวกเขาก็ได้ยินเสียงการปะทะกันของมีดโลหะ
ไป๋อู๋ฉางเห็นหานเซิ่นฟันออกไปข้างหน้า แต่หลังจากนั้นมีดนั่นก็ไปปรากฏอยู่ด้านข้างคอของหานเซิ่นทันเวลาที่จะป้องกันมีดที่แท้จริงของไป๋อู๋ฉาง ถ้าหานเซิ่นช้ากว่านั้นแม้แต่นิดเดียว การโจมตีนั้นก็คงจะตัดคอของหานเซิ่นไปแล้ว
ฟางชิงอวี่และคนอื่นๆตกตะลึง พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังได้เห็น
ไป๋อู๋ฉางเริ่มฟันออกไปอีกครั้ง มีดยาวของเขานั้นแปลกประหลาดมากๆ มันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ที่จะมองตามวิถีของมีด ทุกครั้งที่มีดถูกฟันออกไป มันจะไปปรากฏในอีกที่หนึ่ง มันเหมือนกับว่ามีดนั้นสามารถเทเลพอร์ตผ่านช่องว่างของอวกาศได้
สายตาของฟางชิงอวี่ไม่เร็วพอที่จะมองตามสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทัน สำหรับตอนนี้เขาจึงถ่ายมันเก็บเอาไว้เพื่อนำมันไปชะลอความเร็วลงในภายหลัง แต่เขายังคงไม่เข้าใจว่าวิชามีดของไป๋อู๋ฉางคืออะไรกันแน่
มีดของไป๋อู๋ฉางสามารถปรากฏออกมาจากช่องว่างของอวกาศได้ทุกหนทุกแห่ง และมันก็ไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงการมาของมีดนั้น ซึ่งทำให้มันน่ากลัวยิ่งกว่าผี มันเหมือนกับเคียวของยมทูต มันจะเกี่ยวเอาชีวิตก่อนที่เหยื่อจะรู้สึกตัวถึงการมาของมัน
ฟางชิงอวี่ชะลอความเร็ววิดีโอลง และเขาก็เริ่มดูมันอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงไม่เข้าใจถึงการฟันของไป๋อู๋ฉาง
แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือการที่หานเซิ่นสามารถป้องกันทุกการโจมตีของไป๋อู๋ฉาง ไม่ว่ามีดของไป๋อู๋ฉางจะปรากฏจากตรงไหน มีดเขี้ยวผีสิงก็สามารถไปปรากฏอยู่ในที่เดียวกันเพื่อป้องกันมันได้
ถ้าวิชามีดของไป๋อู๋ฉางเป็นผีที่คาดเดาไม่ได้ แบบนั้นวิชามีดของหานเซิ่นก็เป็นเทพที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ร่างกายของไป๋อู๋ฉางเดี๋ยวปรากฏเดี๋ยวหายไป เขากระหน่ำโจมตีหานเซิ่นอย่างไม่หยุด มีดของเขาแว็บไปแว็บมาทุกหนทุกแห่งโดยอยู่เหนือตรรกะและเหตุผล
หานเซิ่นลอยตัวอยู่ในอวกาศและใช้มีดเขี้ยวผีสิงป้องกันทั้งซ้ายและขวา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงป้องกันมีดของศัตรูได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาเหมือนกับเทพที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง วิชามีดประหลาดนั้นไม่ได้สั่นคลอนอะไรเขา
“กัปตันนี่แข็งแกร่งจริงๆ! ถ้าเป็นข้า หัวของข้าก็คงจะถูกตัดขาดไปนานแล้ว และข้าคงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายได้ยังไง”
“กัปตันเป็นเหมือนกับเทพที่รู้แจ้ง เขาคาดเดาตำแหน่งของมีดนั่นได้ยังไงกัน? กัปตันแข็งแกร่งเกินไป”
“องค์ชายไป๋อู๋ฉางของเอ็กซ์ตรีมคิงที่มีพรสวรรค์คนนี้ดูไม่เอาไหนไปเลยเมื่อเทียบกับกัปตัน เขาไม่มีทางต่อสู้กับกัปตันของพวกเราได้”
“กัปตันจงเจริญ…อ้า…กัปต้นน้อยจงเจริญเช่นกัน! จงเจริญ! จงเจริญ!”
เมื่อพวกโจรสลัดเห็นว่าเป่าเอ๋อมองมาที่พวกเขา พวกเขาก็รีบพูดสรรเสริญเธอไปด้วย
ถึงอย่างไรก็ตามความก้าวหน้าที่ไป๋อู๋ฉางแสดงออกมานั้นเป็นอะไรที่น่าตกใจ ในตอนที่เขาเสี่ยงชีวิตฝึกฝนอยู่บนภูเขาเอ็กซ์ตรีมคิง เขาได้ผลักดันร่างกายแห่งราชันภูติผีไปจนถึงขีดสุด และเขาก็ได้เรียนรู้วิชามีดภูติผีที่แท้จริงมา
วิชามีดภูติผีของเขาสามารถเคลื่อนที่ผ่านยมโลกอย่างง่ายดายราวกับมันเคลื่อนที่ผ่านโลกจริงๆ คนอื่นอาจจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามีดนั้นจะปรากฏเมื่อไหร่และจากตรงไหน แต่หานเซิ่นสามารถมองผ่านมิติต่างๆ ไม่ว่ามีดจะมาจากตรงไหน เขาก็สามารถป้องกันมันได้
ไป๋อู๋ฉางใช้วิชามีดภูตผีจนถึงขีดสุด แต่เขาก็ยังทำอะไรหานเซิ่นไม่ได้
ทันใดนั้นไป๋อู๋ฉางก็ดึงมีดกลับไป เขามองไปที่หานเซิ่นและพูด
“เจ้าแข็งแกร่งมากๆ เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้”
“เจ้าเองก็ไม่เลวเช่นกัน เจ้าแข็งแกร่งขึ้นมาก” หานเซิ่นตอบ
ผู้คนปกติจะมองไม่เห็นมีดภูตผีที่โผล่ออกมาจากช่องว่างของอวกาศ แต่อาณาเขตตงเสวียนของหานเซิ่นสามารถมองเห็นทุกความเปลี่ยนแปลงของฟันเฟืองที่อยู่ในบริเวณรอบๆ ในตอนที่มีดภูติผีปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า มันก็ไปกระตุ้นฟันเฟืองจักรวาลที่เชื่อมต่อกับมัน นั่นหมายความว่าหานเซิ่นจะได้รับสัญญาณเตือนทุกครั้ง ดังนั้นวิชามีดภูติของไป๋อู๋ฉางจึงใช้ไม่ได้ผลกับเขา
และถ้าหานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อล็อคฟันเฟืองจักรวาลในอาณาเขตของเขา มีดของไป๋อู๋ฉางก็จะไม่สามารถปรากฏออกมาจากช่องว่างของอวกาศได้
หานเซิ่นอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับวิชามีดภูติผีของไป๋อู๋ฉาง และนั่นเป็นเหตุผลที่เขายังไม่โต้ตอบ เขาปล่อยให้ไป๋อู๋ฉางใช้วิชามีดภูติผีใส่เขาซ้ำๆเพื่อที่เขาจะได้สังเกตมัน
“ตอนนี้ข้าใช้วิชานี้โดยไม่ต้องกังวลอีก” ไป๋อู๋ฉางทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินหานเซิ่น เขามองลงไปที่มีดของเขา
“วิชาอะไร?” หานเซิ่นถาม
“วิชาที่ข้าเรียนรู้จากยอดภูเขาเอ็กซ์ตรีม มันเป็นวิชาที่ตัดสินความเป็นความตาย”
ไป๋อู๋ฉางพูดอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาดูเหมือนกำลังลุกเป็นไฟ พลังประหลาดพลุ่งพล่านออกมาจากร่างกายและมีดของเขา