Super God Gene – ตอนที่ 2503

อัศวินไอซ์บลูมองดูด้วยความโกรธขณะที่วาฬขาวบินหนีไป ถึงแม้อาวุธและปืนจะพร้อมยิงออกไปทุกเมื่อ แต่ไม่มีใครกล้าโจมตีใส่วาฬขาว พวกเขาได้แต่จ้องมองวาฬขาวบินจากไป

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูรู้สึกสิ้นหวังเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ในขณะเดียวเขาก็รู้สึกค่อนข้างดีใจ ถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดออกมา แต่ความจริงที่หานเซิ่นจับตัวไป๋อู๋ฉางไปเป็นตัวประกันก็ทำให้ผู้บังคับบัญชาของราชาอัศวินไอซ์บลูไม่บังคับให้เขาไล่ล่าตัวหานเซิ่นอีก เพราะยังไงซะพวกเขาก็ไม่ต้องการให้ไป๋อู๋ฉางถูกฆ่าตาย และนั่นทำให้ราชาอัศวินไอซ์บลูรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย

 

ถึงแม้เขาจะได้มีโอกาสต่อสู้กับหานเซิ่นจริงๆ แต่ในตอนที่ราชาอัศวินไอซ์บลูได้เห็นหานเซิ่นในครั้งนี้ เขาก็รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา มันพลังมีลึกลับปกคลุมตัวหานเซิ่นอยู่ พลังของหานเซิ่นดูเหมือนจะมีอะไรมากกว่าที่พวกเขารู้ และนั่นเป็นอะไรที่น่ากลัว

 

ถ้าต้องต่อสู้กับหานเซิ่น ราชาอัศวินไอซ์บลูก็มีความรู้สึกว่าเขาและคนของเขาจะจบลงในสภาพที่น่าอนาถ

 

“อี๋ซา เจ้ารับลูกศิษย์ที่น่ากลัวมากคนหนึ่งมา” ราชาอัศวินไอซ์บลูพูดพร้อมกับถอนหายใจ หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้คนของเขาคอยจับตาดูเส้นทางการบินของหานเซิ่นเอาไว้

 

หานเซิ่นมองดูทรัพยากรมากมายบนยานอย่างรู้สึกดี พวกมันเป็นวัสดุที่เขาจำเป็นต้องใช้ในการซ่อมแซมวาฬขาว ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นมีพวกมันอยู่ในครอบครอง การหนีก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น

 

ฟางชิงอวี่และเหล่าโจรสลัดรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังฝันไป พวกเขาถูกดักหน้าโดยหน่วยอัศวินไอซ์บลูของเอ็กซ์ตรีมคิง แต่ไม่เพียงแค่พวกเขาจะหนีมาได้โดยไม่มีรอยขีดข่วน พวกเขายังได้รับทรัพยากรจำนวนมากอีก

 

‘นี่สิที่พวกเราเรียกว่าโจรสลัดที่แท้จริง! พวกเราเพิ่งจะปล้นเสปียงจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเรากล้าหาญยิ่งกว่าเผ่าโจรสลัดจริงๆซะอีก’
เหล่าโจรสลัดคิด พวกเขาเริ่มจะคิดว่าการติดตามหานเซิ่นไม่ใช่ไอเดียที่เลวร้ายอะไร

 

แต่พวกเขารู้ว่าหลังจากที่หานเซิ่นทำแบบนั้น ทางเอ็กซ์ตรีมคิงก็จะโกรธยิ่งกว่าเดิม มันไม่มีทางที่ราชาไป๋จะปล่อยให้พวกเขาเดินทางไปอย่างราบรื่น หนทางข้างหน้าจะต้องเต็มไปด้วยอันตราย

 

หานเซิ่นจัดแบ่งทรัพยากรที่ได้รับมา พวกมันบางส่วนเป็นอาหาร ดังนั้นมันจะมีเสบียงเพียงพอให้ทุกคนกินดื่มได้อย่างหนำใจ ตัวหานเซิ่นเองไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับอาหารที่ปล้นมาได้ แต่มันถือเป็นเรื่องดีที่จะตอบสนองความต้องการของลูกเรือ

 

ส่วนวัสดุที่จะใช้สำหรับการซ่อมแซมวาฬขาวนั่น หานเซิ่นให้เหล่าโจรสลัดนำพวกมันไปใส่ในเครื่องปฏิกรณ์คริสตัล หลังจากนั้นวาฬขาวก็ทำการซ่อมแซมตัวเอง

 

มันไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองก่อนหน้านี้ได้ ก็เพราะเครื่องปฏิกรณ์คริสตัลนั้นขาดเชื้อเพลิงที่จำเป็น

 

ตอนนี้เมื่อมันมีเชื้อเพลิงเพียงพอ วาฬขาวก็สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่กว่าที่มันจะกลับมาสมบูรณ์ดีอีกครั้งยังคงต้องใช้เวลาอีกสักพัก

 

“กัปตัน มีใครบางคนตามพวกเรามาจากด้านหลัง!” โจรสลัดคนหนึ่งวิ่งมาหาหานเซิ่น

 

“ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา เดินหน้าต่อไป” หานเซิ่นพูดอย่างไม่ประหลาดใจอะไร มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะสั่งให้ราชาอัศวินไอซ์บลูติดตามพวกเขา

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้สนใจอะไร เมื่อวาฬขาวซ่อมแซมตัวเองเสร็จแล้ว มันก็จะทรงพลังเหมือนอย่างสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า ในตอนนั้นมันก็จะไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะกำจัดหน่วยอัศวินไอซ์บลู ถ้าพวกเขาพยายามจะทำอะไรบางอย่าง

 

“ที่นี่ใกล้กับจุดที่ราชาไนท์ริเวอร์เคยประจำการ” หานเซิ่นคิดขณะที่มองไปรอบๆ

 

หานเซิ่นสนใจอย่างมากเกี่ยวกับไดอารี่ของราชาไนท์ริเวอร์ แต่ครั้งก่อนที่เขามาสำรวจที่นี่ เขาไม่ได้มีโอกาสที่จะดูรอบๆมากนัก มันใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าที่วาฬขาวจะซ่อมแซมตัวเองเสร็จ และในระหว่างนั้นเขาก็ไม่สามารถจัดการกับพวกราชาอัศวินไอซ์บลูได้ ดังนั้นเนื่องจากเขามีเวลา เขาก็คิดว่าน่าจะลองค้นหาถึงสิ่งที่ราชาไนท์ริเวอร์พูดถึงในไดอารี่

 

ราชาอัศวินไอซ์บลูคิดว่าหลังจากที่หานเซิ่นได้ทรัพยากรที่ร้องขอไปแล้ว เขาจะรีบหนีไปอย่างเร็วที่สุด แต่หานเซิ่นกลับตัดสินใจอยู่ดูรอบๆต่อ แทนที่จะรีบหนีไป เขาเดินทางไปยังตำแหน่งที่ใกล้กับสถานีประจำการของอัศวินไอซ์บลู

 

“ตอนนี้เจ้านั่นกำลังคิดจะทำอะไรอีกล่ะ?” ราชาอัศวินไอซ์บลูรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้า การพาตัวหานเซิ่นมาจากแนร์โรว์มูนเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เขาทำในชีวิต

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้สนใจอะไรราชาอัศวินไอซ์บลู เขาขับวาฬขาวไปยังชายแดนของระบบไอซ์บลูและตรงไปยังดวงดาวที่ราชาไนท์ริเวอร์เคยประจำการ เมื่อหานเซิ่นไปถึง เขาก็พบว่าราชาอัศวินไอซ์บลูได้มาเข้ารวมกับผู้คนที่ประจำการอยู่ที่นั่น

 

“หานเซิ่น ทำไมเจ้าถึงยังไม่ไป เจ้ายังต้องการอะไรอีก?”
ราชาอัศวินไอซ์บลูมองไปที่หานเซิ่นและกัดฟัน ถ้าเขาทำได้ เขาก็อยากที่จะฆ่าหานเซิ่นซะตรงนี้

 

“ข้าไม่ได้ต้องการอะไร ข้าแค่เหนื่อยๆและคิดจะพักที่นี่สักหน่อยเท่านั้น พวกเจ้ากลับไปทำธุระของพวกเจ้าเถอะ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องคอยคุ้มกันข้า ข้าจะพักบนดาวดวงนี้เพียงไม่นานก่อนที่จะออกเดินทางต่อ” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“ใครต้องการที่จะคุ้มกันเจ้า?” ด้วยลักษณะนิสัยของราชาอัศวินไอซ์บลู เขาอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

 

ถึงแม้เขาจะโมโหมากๆ แต่ไป๋อู๋ฉางยังคงอยู่ในมือกำมือของหานเซิ่น เขาจึงไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้ เขาสั่งให้เหล่าอัศวินไอซ์บลูไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับหานเซิ่น

 

หานเซิ่นได้รับอนุญาตให้นำวาฬขาวลงจอดบนดาวที่ราชาไนท์ริเวอร์เคยประจำการ เขามองไปรอบๆดวงดาว แต่มันไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตที่ถูกพูดถึงในไดอารี่ของราชาไนท์ริเวอร์ และมันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับหมายเลขพวกนั้นเช่นกัน

 

จากที่ราชาไนท์ริเวอร์บรรยาย ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตนั้นจะเป็นตัวอะไรก็ตาม มันต้องเป็นสีม่วงและควรจะมีสิ่งที่มีหมายเลขอยู่ แถมพวกมันทั้งหมดเป็นระดับราชัน ดังนั้นพวกมันไม่ควรจะเป็นอะไรที่หายากจนเกินไป

 

ถ้ามันมีสิ่งมีชีวิตระดับราชันหลายสิบตัวอยู่ที่นี่ หานเซิ่นก็ควรจะหาพวกมันเจออย่างง่ายดาย แต่หานเซิ่นไม่พบสิ่งมีชีวิตระดับราชันสักตัวเดียว มันมีแค่อัศวินไอซ์บลู 2 คนที่เป็นระดับราชันที่คอยประจำการอยู่บนดวงดาว แต่พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหมายเลข

 

มันไม่มีซีโน่จเนเอิคระดับราชันอยู่ที่นี่ เนื่องจากอัศวินไอซ์บลูได้ทำการเก็บกวาดดวงดาวเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นถึงแม้มันจะยังมีซีโน่เจเนอิคเหลือรอดอยู่ พวกมันก็เป็นเพียงซีโน่เจเนอิคระดับต่ำ การจะหาซีโน่เจเนอิคระดับราชันนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้

 

หานเซิ่นเดินทางไปยังส่วนที่ราชาไนท์ริเวอร์ประจำการ แต่มันไม่มีอะไรผิดปกติ หานเซิ่นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่เป็นเวลานานเกินไปเช่นกัน ถ้าคนอย่างเหมิงเลี่ยมาตามล่าตัวเขา สิ่งต่างๆก็จะจบลงไม่สวยนัก

 

“ถ้าสิ่งประหลาดที่ราชาไนท์ริเวอร์เขียนเอาไว้ในไดอารี่ไม่ได้เกิดขึ้นใกล้กับจุดที่เขาประจำการ แบบนั้นเราก็ไม่มีทางจะหามันได้เจอ ดาวดวงนี้ใหญ่โตเกินไปที่จะค้นหาได้ทั่วในเวลา 1-2 วัน”
ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยว่าควรจะยอมแพ้ดีหรือเปล่า เป่าเอ๋อก็วิ่งเข้ามาหาเขา เธอดึงแขนเสื้อของหานเซิ่น

 

“เป่าเอ๋อ มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นก้มหัวลงไปมองเป่าเอ๋อด้วยความสับสน

 

เป่าเอ๋องอนิ้วมือ และหานเซิ่นก็รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร เขาย่อตัวลงไปข้างๆเป่าเอ๋อ

 

เป่าเอ๋อกระซิบข้างหูหานเซิ่น “พ่อ มันมีสมบัติอยู่ที่นี่”

 

หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา แต่เขาไม่ได้แสดงมันออกมา เขาถามเป่าเอ๋อ
“หนูรู้ไหมว่าสมบัติอยู่ที่ไหน

 

เป่าเอ๋อพยักหน้าและนี่ทำให้หานเซิ่นดีใจยิ่งกว่าเดิม เขาอุ้มเป่าเอ๋อขึ้นมาและพูดกับหนึ่งในโจรสลัด
“คอยจับตาดูไป๋อู๋ฉางเอาไว้ ข้าจะพาเป่าเอ๋อไปเดินเล่นสักหน่อย”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset