ไป๋ว่านเจียไม่ได้คาดคิดว่าดราก้อนวันและคนอื่นจะจริงจังกับการฆ่าขุนพลเกราะทอง แต่จากที่เขาได้รู้ ดูเหมือนว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ตั้งใจจะโค่นล้มขุนพลเกราะทองจริงๆ
“องค์ชาย ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ดูเหมือนจะไม่ได้ล้อเล่น ข้าคิดว่าพวกเขากำลังวางแผนจะต่อสู้กับขุนพลเกราะทองจริงๆ พวกเราควรจะเตรียมตัวด้วยไหม? พวกเราควรจะรีบเตรียมตัว ถ้าพวกเราต้องการจะแย่งฆ่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง?” อัศวินไนท์แมร์ถามไป๋ว่านเจีย
“พวกเราจำเป็นต้องเตรียมตัว แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ปล่อยให้พวกเราไปก่อน ถ้านั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ นี่พวกเขาคิดจริงๆหรือว่าดอลลาร์จะช่วยพวกเขาเอาชนะขุนพลเกราะทองได้จริงๆ? ไร้เดียงสายิ่งนัก”
ไป๋ว่านเจียหัวเราะและพูดต่อ “ถึงแม้ข้าต้องการจะโค่นล้มขุนพลเกราะทอง แต่ข้ายังคงต้องขอความช่วยเหลือจากอวี้ซ่านซิน ซึ่งมันจะเป็นอะไรที่มีราคาสูง แถมข้ายังจำเป็นต้องรวบรวมครึ่งเทพในกองกำลัง ถ้าข้าแค่พอมีหวังที่จะเอาชนะขุนพลเกราะทอง ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ก็กำลังฝันลมๆแล้งๆ”
หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ ไป๋ว่านเจียก็พูดต่อ “ปล่อยให้พวกเขาไปก่อน เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้แล้ว พวกเราจะดำเนินการต่อสู้ต่อจากพวกเขา มันจะช่วยประหยัดแรงพวกเรา อย่างนั้นแล้วมีเหตุผลอะไรที่พวกเราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาลงมือก่อน? ไปสืบมาว่าพวกเขาจะเริ่มโจมตีขุนพลเกราะทองเมื่อไร”
“ทราบแล้ว ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” อัศวินไนท์แมร์พูดและเดินออกไป
ในฐานทัพของดราก้อนและเดสทรอยเยอร์ ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์กำลังอธิบายแผนการของพวกเขาให้หานเซิ่นฟัง
“ด้วยพลังของพวกเรา พวกเราควรจะจำกัดการเคลื่อนไหวของขุนพลเกราะทองได้ 2-3 วินาที ในช่วงเวลานั้นพวกเราต้องการให้เจ้าใช้มีดเล่มนี้แทงใส่ดวงตาของขุนพลเกราะทอง เจ้ามีเวลาไม่มากนักและเจ้ามีเพียงแค่มีดเล่มนี้เล่มเดียว มันเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าต้องเข้าไปใกล้ขุนพลเกราะทอง ขณะที่พวกเราหยุดมันเอาไว้และทำลายตาทั้ง 2 ข้างของมัน ถ้าเจ้าทำพลาด ความพยายามทั้งหมดของพวกเราก็จะสูญเปล่า เจ้าทำได้ใช่ไหม?”
ดราก้อนวันถามอย่างจริงจัง ขณะที่ส่งมีดที่ขาวเหมือนกับหิมะให้หานเซิ่น
“ทำไมต้องแทงใส่ตาของมันด้วย?” หานเซิ่นรับมีดมาและลูบมันด้วยนิ้วมือของเขา
“ร่างของขุนพลเกราะทองนั้นห่อหุ้มด้วยเกราะสีทองทั้งตัว พลังป้องกันของมันสูงเกินกว่าที่พวกเราจะเจาะทะลวงได้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับครึ่งเทพที่เก่งกาจที่สุดก็เจาะทะลวงชุดเกราะของสัตว์ประหลาดตัวนั้นไม่ได้ ขุนพลเกราะทองมีจุดอ่อนอยู่ที่ดวงตา ดวงตาของมันถูกปกป้องโดยคริสตัลเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นครึ่งเทพธรรมดาก็ทำลายพวกมันไม่ได้อยู่ดี หนทางเดียวที่จะทะลวงผ่านการป้องกันคริสตัลนั้นคือให้ครึ่งเทพคนหนึ่งใช้มีดเขี้ยวรอยสักมังกรที่เป็นสมบัติของเผ่าดราก้อนเล่มนี้” ดราก้อนวันอธิบาย
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ ดราก้อนวันก็พูดต่อ “จากคำของคนที่เคยไปล่าขุนพลเกราะเหล็กและขุนพลเกราะเงิน พวกมันถึงจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า แต่สัมผัสของพวกมันไม่ได้ดีอะไร พวกมันพึ่งพาแค่ดวงตาเท่านั้น ถ้าดวงตาของพวกมันถูกทำลาย ขุนพลเกราะทองก็จะไม่เป็นอันตรายสำหรับพวกเราอีกต่อไป แถมเมื่อดวงตาของมันถูกทำลายไปแล้ว พวกเราก็จะโจมตีซ้ำใส่บาดแผลนั้นและฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย”
“นั่นหมายความว่าพวกเจ้ายังมีอาวุธอีกอย่างหนึ่งสำหรับฆ่ามันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่มีดเขี้ยวรอยสักมังกร
มีดนั้นมีสีขาวเหมือนกับหิมะ มันแวววาวราบกับหยก และทั้ง 2 ด้านของมีดสลักรูปของมังกรน้ำแข็งเอาไว้ รอยแกะสลักนั้นดูละเอียดอ่อนและงดงาม
ในขณะที่หานเซิ่นถือมีดในมือ เขาก็รู้สึกหนาวเย็น เขาสามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณของมังกรอมตะที่คำรามจากภายในอาวุธ
ถึงแม้มันจะไม่ได้เป็นหนึ่งในสมบัติระดับเทพเจ้าที่ดีที่สุดในจักรวาล แต่มีดเขี้ยวรอยสักมังกรนี้เหมาะสมกับหานเซิ่นอย่างมาก การใช้มันไม่จำเป็นต้องใช้พละกำลังมากอะไร เพราะมีดนั้นคมพอที่จะตัดผ่านมิติได้
“ใช่ มีดนี้แค่ทำลายดวงตาของขุนพลเกราะทองได้เท่านั้น มันไม่ทรงพลังที่จะฆ่าซีโน่เจเนอิคนั่นได้ พวกเราได้เตรียมอะไรอย่างอื่นเอาไว้ แต่ภารกิจของเจ้าคือทำลายดวงตาของมัน เจ้าแค่ต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ ไม่ว่าสุดท้ายพวกเราจะฆ่าขุนพลเกราะทองได้หรือไม่ เจ้าก็จะได้รับยีนซีโน่เจเนอิค 1000 ยีนตามที่ตกลงกัน” ดราก้อนวันพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนั้น” หานเซิ่นพูดขณะที่วางมีดลง
“อะแฮ่ม ดอลลาร์ เจ้าถือครองมีดไปได้สำหรับตอนนี้ แต่สิ่งนี้เป็นสมบัติของเผ่าดราก้อน เจ้าจะจะนำมันไปไกลจากพวกเราไม่ได้” ดราก้อนพูดพร้อมกับไอออกมา
“จนกว่าจะฆ่าขุนพลเกราะทองได้ ข้าจะไม่ไปไหน” หานเซิ่นพูด
“ขอบคุณที่เจ้าเข้าใจดอลลาร์ มันยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เจ้าต้องจำไว้ เจ้าจะต้องใช้มีดเล่มนี้แทงใส่ดวงตาของมันโดยตรง การใช้วิชาอย่างดาบแสงจะไม่ได้ผลกับดวงตาของสิ่งมีชีวิตตัวนี้” ดราก้อนวันพูด
“ข้าจะจำเอาไว้” หานเซิ่นพยักหน้าขณะที่หมุนมีดเขี้ยวรอยสักมังกรในมือ
หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องฝึกซ้อมในเรื่องการฆ่าศัตรู แต่ครั้งนี้เขาจะล่าศัตรูที่เป็นระดับเทพเจ้า มันอาจจะอ่อนแอกว่าระดับเทพเจ้าของโลกภายนอก แต่เขาก็รู้ว่าจะชะล่าใจไม่ได้ ดังนั้นหานเซิ่นจำเป็นต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับงานนี้
แน่นอนว่าหานเซิ่นไม่ได้ทำงานนี้เพราะยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนเพียงอย่างเดียว เขายังอยากจะลองดูว่าสามารถฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวนี้เพื่อเอาวิญญาณอสูรได้ไหม
สมบัติซีโน่เจเนอิคเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม แต่สำหรับผู้คนที่มาจากก็อตแซงชัวรี่แล้ว วิญญาณอสูรเป็นอะไรที่ดีกว่า
หานเซิ่นทำตามสัญญาที่ให้เอาไว้และไม่ออกไปจากฐานทัพ เขาอยู่ที่นั่นและใช้เวลาไปกับการฝึกใช้มีดเขี้ยวรอยสักมังกร ดราก้อนวันรู้สึกพอใจที่เห็นแบบนี้ ไม่ว่าเขาจะดูยังไง เขาก็เห็นว่าดอลลาร์เป็นคนที่เคารพในงานของตัวเอง
ดราก้อนทรีเดินเข้ามาหาดราก้อนวันและร่วมดูการฝึกของหานเซิ่น
“ท่านพี่ ท่านพี่คิดว่าดอลลาร์จะทำสำเร็จไหม? เขาจำเป็นต้องเข้าไปใกล้ขุนพลเกราะทองในเวลาอันสั้นและทำลายดวงตาของมัน แม้แต่ครึ่งเทพของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ และดอลลาร์ยังเป็นแค่ระดับราชัน… ท่านพี่ ถ้าท่านพี่ต้องการ ข้าจะขอให้อวี้ซ่านซินช่วย ด้วยการช่วยเหลือของเขา โอการสำเร็จของพวกเราก็จะสูงขึ้นมาก”
ดราก้อนวันส่ายหัว “การจะจ้างอวี้ซ่านซินไม่ใช่เรื่องง่ายแบบนั้น ถ้าทางเอ็กซ์ตรีมคิงต้องการจะจ้างเขา มันก็ต้องจ่ายด้วยราคาที่สูง ซึ่งพวกเราไม่ได้มีทรัพยากรมากขนาดนั้น”
หลังจากนั้นดราก้อนวันก็มองไปที่หานเซิ่น สีหน้าของเขากลายเป็นอะไรที่ดูห่างเหินอย่างประหลาด เขาพูดขึ้นว่า
“ดอลลาร์นั้นอาจจะเป็นอวี้ซ่านซินคนต่อไป หรือบางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วยซ้ำ”
ดราก้อนทรีมองดราก้อนวันด้วยความตกใจ เขาหันกลับไปมองชายที่กำลังฝึกอยู่ มันไม่ได้มีร่องรอยของการล้อเล่นอยู่ในโทนเสียงของดราก้อนวัน
ดราก้อนวันเปรียบเทียบดอลลาร์กับอวี้ซ่านซินผู้ยิ่งใหญ่ และเขายังบอกอีกว่าดอลลาร์อาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า นั่นถือเป็นคำชมที่หาได้ยากสำหรับคนอย่างดราก้อนวัน
อวี้ซ่านซินถูกเรียกว่าเป็นครึ่งเทพที่น่ากลัวที่สุดในจักรวาล แม้แต่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเองก็ไม่มีครึ่งเทพเลยสักคนที่จะเทียบชั้นกับอวี้ซ่านซินได้
ดราก้อนวันเองก็ไม่อาจจะเทียบกับอวี้ซ่านซินได้เช่นกัน ถ้าเขาสามารถพูดอะไรแบบนี้ออกมาด้วยความมั่นใจ มันก็แสดงว่าเขายอมรับว่าตัวเองด้อยกว่าดอลลาร์ มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าดราก้อนวันผู้ภาคภูมินั้นจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา
เมื่อเห็นสีหน้าที่ตกตะลึงของดราก้อนทรี ดราก้อนวันก็หัวเราะออกมา
“ข้าแค่บอกว่าเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าอวี้ซ่านซินเมื่อเขาเลื่อนระดับขึ้นแล้ว ตอนนี้เขายังไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนั้น แต่พวกเราจ้างอวี้ซ่านซินไม่ได้ ดังนั้นพวกเราจึงทำได้แต่พึ่งพาเขา”