“หมอดู เจ้าจะหนีไปที่ไหนอีกละคราวนี้?” ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดจี้คอของชายแก่คนหนึ่ง
แค่ก แค่ก!
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? เจ้าลดมีดลงก่อน พวกเราเป็นเพื่อนเก่ากัน พวกเราควรจะคุยกันดีๆ” ชายคนนั้นพูด
“ถ้าข้าไม่ใช้มีดจี้คอของเจ้าเอาไว้ ข้ากลัวว่าเจ้าจะวิ่งหนีไปอีก” อี๋ซาพูดกับชายแก่
“ทำไมข้าถึงต้องทำอะไรแบบนั้น? การได้พบกับเจ้าอีกครั้งทำให้ข้าดีใจมากๆ แบบนั้นข้าจะวิ่งหนีทำไม?”
ชายแก่ฝืนยิ้มออกมา นิ้วของเขาพยายามจะดันมีดที่จี้คอของเขาออกไป
“เลิกพูดจาไร้สาระ ข้าตามหาตัวเจ้ามาเป็นเวลานาน เจ้าต้องทำตามข้อตกลงของพวกเรา” อี๋ซาพูดอย่างไร้อารมณ์ มีดของเธอยังคงจี้คอของชายแก่
“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องนั้นหรอกหรอ? เจ้าควรจะบอกข้าให้เร็วกว่านี้ ข้าพบมันเมื่อนานมาแล้ว แต่เพราะเจ้าไม่ได้มาตามหาข้า ข้าเลยคิดไปว่าเจ้าไม่ต้องการข้อมูลนั้นอีกต่อไปแล้ว” ชายแก่ดูเหมือนกับว่าเขาเพิ่งจะตื่นขึ้นมา
“เขาอยู่ที่ไหน?” อี๋ซาไม่เสียเวลาอธิบาย เธอตามหาชายแก่คนนี้เป็นเวลานาน การจะตามหาตัวเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ชายแก่ดูเศร้า และเขาพูดขึ้นมา “ข้าได้ทำการคำนวณไปเป็นเวลานาน ป่านนี้เขาคงจะหายตัวไปแล้ว”
เมื่อเห็นสีหน้าของเขาอี๋ซามืดลง ชายแก่ก็รีบพูดต่อ “แต่อย่าได้กังวล ข้าจะคำนวณให้กับเจ้าใหม่อีกครั้ง 3 นาที ข้าขอเวลาแค่ 3 นาทีและข้าจะบอกตำแหน่งของดอลลาร์ให้กับเจ้า”
เมื่อได้ยินชายแก่พูดแบบนั้น อารมณ์ของอี๋ซาก็ดีขึ้นเล็กน้อย
“ข้าจะเริ่มคำนวณเดี๋ยวนี้ เจ้าช่วยเอามีดออกไปก่อนได้ไหม เจ้าเป็นผู้หญิงที่งดงาม แต่มันจะไม่มีใครแต่งงานกับเจ้า ถ้าเจ้าทำตัวแบบนี้” ชายแก่ค่อยๆเอามือดันมีดออกไป
ครั้งนี้อี๋ซาไม่ได้ต่อต้าน เธอเก็บมีดเข้าฝักและพูด
“เจ้ามีเวลา 3 นาที ถ้าข้ายังไม่ได้รู้ที่อยู่ของดอลลาร์ใน 3 นาที ข้าจะให้เจ้าได้แต่งงาน”
“ข้าอย่างนั้นหรอ?” ชายแก่ดูสับสน เขาไม่เข้าใจว่าอี๋ซาหมายถึงอะไร
“ข้าจะให้เจ้าได้เป็นลูกเขยของราชาแห่งขุมนรก” อี๋ซาพูด
ชายแก่ยิ้มแห้งๆออกมา เขายกมือขึ้นและเริ่มการคำนวณ หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองอี๋ซาและพูด
“ข้าแพ้การเดิมพัน ดังนั้นข้าจะให้คำตอบกับเจ้า แต่ข้ามีที่อยู่ 2 ที่ หนึ่งคือที่อยู่ของดอลลาร์ ส่วนอีกหนึ่งคือที่อยู่ของลูกศิษย์ของเจ้า เจ้ารู้กฎ ข้าแพ้เพียงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นเจ้าเลือกได้เพียงที่อยู่ของคนๆเดียว เจ้าอยากจะรู้ที่อยู่ของใครมากกว่า?”
“หานเซิ่นยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรอ?” อี๋ซาขมวดคิ้ว
“สำหรับตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ แต่สถานการณ์ของเขาไม่ดีเท่าไหร่นัก ถ้าไม่มีใครไปช่วยเขา ข้ากลัวว่า…” ชายแก่หยุดพูดไป เขาแค่ส่ายหัวและถอนหายใจออกมา
“ยังพอช่วยเขาได้ไหม?” อี๋ซาถาม
“พอช่วยได้ ถ้าเจ้าไปที่นั่น” ชายแก่พยักหน้า
“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?” อี๋ซาถาม
…
“ท่านหญิง นี่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์คิดจะฆ่าขุนพลเกราะทองจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
ในคอร์แอเรีย สาวใช้เผ่าเคทมองไปที่ผู้หญิงในชุดสีเหลืองด้วยความสงสัย พวกเขากำลังอยู่บนยานอวกาศลำหนึ่ง
“พวกเขาได้กำลังคนไปเป็นจำนวนมากกับงานนี้ มันไม่มีทางเป็นแค่การแสดงไปได้”
ผู้หญิงในชุดเหลืองดูมีเสน่ห์และสำรวม เธอดูสาวและคงจะอายุไม่เกิน 20 ปี แต่ดวงตาของเธอดูหยั่งรู้ราวกับว่าเธอมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่าง
“ขุนพลเกราะทองนั้นแข็งแกร่งไม่ต่างอะไรไปจากซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของโลกภายนอก นี่พวกเขาคิดจริงๆหรือว่าจะฆ่ามันได้? ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาจ้างคนที่ชื่อดอลลาร์มา และพวกเขาก็ดูเหมือนจะคาดหวังในตัวคนๆนั้นสูงมากๆ แต่ข้าไม่เข้าใจ เขากำเนิดจากเผ่าพันธุ์เล็กๆที่ไร้ชื่อเสียง ถึงแม้เขาจะได้อันดับที่หนึ่งในการต่อสู้บัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน แต่การวิวัฒนาการของเขาก็ไม่ได้ดีอะไรมากนัก ทำไมอัจฉริยะอย่างดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ถึงได้ฝากความหวังเอาไว้กับคนแบบนั้น?” สาวใช้เผ่าเคทถาม เธอยังคงไม่เข้าใจ
ผู้หญิงชุดเหลืองหัวเราะและพูด “พวกเขารวบรวมกองกำลังทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ ของแพงมักจะมีประโยชน์ แต่พวกเราไม่รู้ว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ใช้ทรัพยากรได้อย่างถูกต้องหรือเปล่า”
“ท่านหญิง ผีเสื้อน้อยไม่เข้าใจ ในเขตแดนของท่านหญิง ท่านหญิงเลือกเหล่าอัจฉริยะของเอ็กซ์ตรีมคิงได้ และพวกเขาบางคนก็เป็นถึงระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้ว นั่นจะช่วยลดความลำบากของท่านหญิง ทำไมท่านถึงปล่อยตัวเลือกนั้นไป? ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์อาจจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็เทียบกับยอดฝีมือของเอ็กซ์ตรีมคิงในระดับเดียวกันไม่ได้อยู่ดี นี่ข้าเข้าใจผิดอย่างนั้นหรอ?” สาวใช้เผ่าเคทถามด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ผู้หญิงในชุดเหลืองกระพริบตาปริบๆและพูด “ข้าไม่ได้บอกว่าข้าจะเลือกเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงสักหน่อย ถึงสายเลือดของเอ็กซ์ตรีมคิงจะแข็งแกร่ง แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าเชื่อว่าพวกเขาถึงจุดสูงสุดแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะช่วยข้าได้ แต่พวกเขาก็พัฒนาไปมากกว่านั้นไม่ได้ ข้าอยากเลือกคนที่ยังพัฒนาได้เรื่อยๆ”
“นั่นมันจะแตกต่างกันยังไง? สุดท้ายพวกเขาก็จะไปจบลงที่ความแข็งแกร่งเท่ากับเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่ดี” ผีเสื้อน้อยไม่เข้าใจ
ผู้หญิงชุดเหลืองหัวเราะ “มันเหมือนกับการที่บางคนชอบการซื้อสุนัขที่โตเต็มวัยแล้วมาเฝ้าสวนของตัวเอง แต่ข้าชอบการซื้อตัวที่ยังเด็กและเลี้ยงมันด้วยตัวเอง การมองดูการเติบโตเป็นอะไรที่สนุก”
ผีเสื้อน้อยดูเหมือนจะเข้าใจ “ท่านหญิงหมายความว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เป็นเหมือนกับลูกสุนัข ขณะที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเป็นสุนัขที่โตเต็มวัยแล้วอย่างนั้นหรอ?”
“ทำนองนั้น” ผู้หญิงชุดเหลืองหัวเราะอีกครั้ง
“แต่มันไม่ใช่แค่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เท่านั้น เผ่าพันธุ์อื่นก็เช่นกัน มันมีเผ่าพันธุ์ต่างๆมากมายที่พยายามแข่งขันกัน เราแค่จำเป็นต้องหาคนที่มีศักยภาพมากที่สุด”
“ถ้าอย่างนั้นท่านคิดว่าใครที่มีศักยภาพมากกว่า? ดราก้อนวันหรือเดียร็อบเบอร์?” ผีเสื้อน้อยถามด้วยความสงสัย
“พวกเขาทั้งคู่ถือว่าไม่เลว ศักยภาพของพวกเขาไม่ได้แย่ไปกว่าขององค์ชายและองค์หญิงของเอ็กซ์ตรีมคิง แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่ดีที่สุด”
ผู้หญิงชุดเหลืองถอนหายใจ “จากคนทั้งหมดที่ข้าเคยเห็น ที่ดีที่สุดยังคงเป็นอวี้ซ่านซินของปราสาทนภา ไผ่เดียวดายเองก็ถือว่าไม่เลว แต่เขาถูกเอาไปแล้ว”
“นั่นถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายไม่ใช่หรอ?” ผีเสื้อน้อยถาม
“มันไม่ได้เลวร้ายอะไร จักรวาลนี้ไม่ได้ขาดแคลนอัจฉริยะ ข้าแค่จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อหาพวกเขา สำหรับตอนนี้พวกเราคอยดูดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ไปก่อน บางทีพวกเราอาจจะได้เรียนรู้บางสิ่งที่น่าสนใจ”
ดวงตาของผู้หญิงชุดเหลืองเป็นเหมือนกับดวงดาว เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคิดบางสิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาได้ เธอยิ้มออกมาและพูด
“ความรักที่ถูกลืมของเวรี่ไฮ ถึงแม้พวกเขาจะมีหัวใจที่ใหญ่โต แต่พวกเขานั้นน่าเบื่อ”
หลายเผ่าพันธุ์ชั้นสูงรู้ว่าดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์กำลังเตรียมการที่จะโค่นล้มขุนพลเกราะทอง ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงส่งคนมาจับตามอง
เมื่อถึงเวลา หานเซิ่นก็ติดตามเดียร็อบเบอร์และดราก้อนวันมุ่งหน้าไปยังระบบของขุนพลเกราะทอง
พวกเขามีครึ่งเทพ 11 คนและราชันอีกคนที่มากับพวกเขาด้วย พวกเขาเป็นคนเผ่าดราก้อนไม่ก็เดสทรอยเยอร์
ถึงแม้ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์จะสามารถรวบรวมครึ่งเทพมาเพิ่มได้อีก แต่พวกเขาไม่ได้ทำ ความสำเร็จของภารกิจครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคน ความเชื่อใจและการร่วมมือกันระหว่างนักสู้ทุกคนคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด