หานเซิ่นอยากจะถามหว่านเอ๋ออีกหลายอย่าง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะหลับไปอีกครั้ง เธอดูอ่อนล้า แต่บนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข เธอนอนคดตัวข้างหานเซิ่นราวกับแมวน้อยที่เบิกบาน
หานเซิ่นพยายามจะปลุกเธอ แต่เธอไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เธอคงจะหลับลึกมากๆ
แต่หานเซิ่นยังคงประคองหว่านเอ๋อเอาไว้ เขาไม่ได้พาเธอไปวางลงบนเตียง ถ้าหานเซิ่นวางเธอลงที่ไหนสักแห่งที่ไกลจากเขา เธอก็จะกลับเข้าสู่โหมดผมทองอีกครั้ง
หานเซิ่นลังเล แต่สุดท้ายเขาก็พาเธอกลับเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา เธอสามารถหลับอย่างอิสระภายในนั้น
ตอนนี้หานเซิ่นมีเวลาว่างที่จะตรวจช็อควิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทอง
“วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทอง : ชุดเกราะ”
หานเซิ่นไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร เขารู้ว่าวิญญาณอสูรชุดเกราะนี้แตกต่างไปจากวิญญาณอสูรชุดเกราะอื่นๆ
หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองออกมาเพื่อดูว่ามันเป็นวิญญาณอสูรแบบไหนกันแน่
วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองบินออกมาตรงหน้าหานเซิ่นในทันที ร่างกายสีทองของมันลอยตัวอยู่ตรงหน้าของเขา ในมือของมันถือดาบใหญ่สีทองเหมือนกับตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ ผ้าคลุมสีแดงของมันปลิวไสว
แต่วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองนั้นเป็นเหมือนกับเงา มันไม่ได้เป็นรูปธรรม
แต่วินาทีต่อมา วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองก็กลายเป็นรูปธรรมขึ้นมา มันเหมือนกับว่าขุนพลเกราะทองนี้กลับมามีชีวิตจริงๆ มันลอยตัวอยู่ตรงหน้าหานเซิ่นโดยไม่เคลื่อนไหว
ในขณะที่หานเซิ่นยังคงตกตะลึง ร่างกายสีทองของวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองก็แยกตัวออกจากกัน มันกลายเป็นชิ้นส่วนโลหะที่บินตรงเข้ามาหาหานเซิ่น มันเริ่มประกอบตัวเองรอบตัวหานเซิ่น ไม่นานมันก็ประกอบตัวเป็นรูปร่างของขุนพลเกราะทองรอบตัวหานเซิ่น
ตอนนี้หานเซิ่นอยู่ภายในขุนพลเกราะทอง เขารู้สึกราวกับว่าจิตใจของตัวเองนั้นเชื่อมต่อกับชุดเกราะ ตอนนี้เขาสามารถควบคุมมันได้เหมือนกับเป็นร่างกายของตัวเอง
หานเซิ่นรู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่าขุนพลเกราะทองทำให้เขานึกถึงอะไร และการรู้สึกตัวนี้ก็ทำให้เขายิ้มออกมา
“นี่มันเหมือนกับวอร์เฟรมของสหพันธ์ แต่การควบคุมของเครื่องจักรนี้เป็นธรรมชาติมากกว่าของวอร์เฟรม ตอนนี้เมื่อเราเป็นคนขับขุนพลเกราะทอง เราก็จะมีพลังของขุนพลเกราะทอง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็แตกต่างไปจากวิญญาณอสูรเปลี่ยนร่าง ในขณะที่เราควบคุมขุนพลเกราะทอง เราจะใช้ได้แค่พลังของมันเท่านั้น”
แต่การมีพลังของวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทอง ทำให้เขาสามารถเทียบชั้นได้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า หานเซิ่นไม่จำเป็นต้องใช้พลังของตัวเองด้วยซ้ำ
“ขุนพลหุ่นยนต์ทองนี้จะใช้ในคอร์แอเรียได้ไหมนะ? ถ้าทำได้ เราก็คงจะร่ำรวยเหนือจินตนาการ ถ้าเราเก็บกวาดทุกอย่างในคอร์แอเรีย”
หานเซิ่นกลับเข้าไปในคอร์แอเรียเพื่อลองดู
ครั้งนี้หานเซิ่นไม่ได้ใช้ฟันเฟืองของศาสตร์ตงเสวียนเพื่อเข้าไปในคอร์แอเรีย เนื่องจากมันต้องมีผู้คนมากมายรออยู่ในจุดที่เขาจากไปครั้งก่อน ซึ่งมันจะเป็นปัญหาถ้าเขาไปปรากฏตัวที่นั่นอีกครั้ง
ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงใช้ฟันเฟืองของกายหยกเพื่อเข้าไปในคอร์แอเรีย ภายใต้พลังของกายหยก เขาไปปรากฏตัวในสถานที่อื่นภายในคอร์แอเรีย
หานเซิ่นพบสถานที่ที่เงียบสงบที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ หลังจากนั้นเขาก็เรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองออกมา เขาค้นพบว่าสามารถใช้มันได้ วิญญาณอสูรนั้นไม่ได้ถูกจำกัดภายในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งหมายความว่าวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ไม่ใช่แค่วิญญาณอสูรเดียวที่เขาสามารถใช้ได้ แม้แต่ชุดคลุมของราชานกยูงก็นำมาใช้ในคอร์แอเรียได้
“ฮ่าๆ! เทพอยู่ข้างเดียวกับเรา ในที่สุดเวลาที่เราจะได้เฉิดฉายก็มาถึง การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าที่เก่าแก่ในโลกภายนอกอาจจะยังเป็นเรื่องยาก แต่การจะเก็บกวาดพวกมันที่อยู่ในคอร์แอเรียควรจะเป็นงานที่ไม่ยากจนเกินไป” หานเซิ่นอยากจะตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อปลดปล่อยความตื่นเต้น
แต่หานเซิ่นไม่ได้ออกเดินทางเพื่อไปล่าซีโน่เจเนอิคในทันที คอร์แอเรียนั้นทอดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเขายังไม่คุ้นเคยกับที่แห่งนี้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้จากที่ไหน
แถมตอนนี้เขาได้ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนมาเรียบร้อยแล้ว ยังไงซะเขาก็ไม่สามารถกินมันได้ในเวลาอันสั้น เขาสามารถกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้แค่ 2-3 ยีนต่อวันเท่านั้น และนั่นเพราะเขาใช้วิชาคอนซูม การจะกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนให้หมดนั้นเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน
‘มันยังมีวิชาจีโนอื่นอีกไหมที่จะช่วยให้เราย่อยยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้เร็วขึ้น’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง แต่เขาไม่มีคำตอบ
“บางทีเผ่า1000สมบัติอาจจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราควรไปถามฟางชิงอวี่”
หานเซิ่นกลับมาที่วาฬขาว และเขาก็ไปถามฟางชิงอวี่เกี่ยวกับเรื่องที่กำลังสงสัย
แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดออกไปตรงๆว่าจะกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน เขาแค่ถามฟางชิงอวี่ว่ามันยังมีวิชาจีโนที่คล้ายคลึงกับวิชาคอนซูมแต่ดีกว่าไหม
ฟางชิงอวี่คิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “ในวิชาประเภทนี้วิชาคอนซูมของคอนซูมมิ่งแอนท์นั้นดีที่สุดแล้ว การจะหาวิชาจีโนที่ดีกว่าวิชาคอนซูมคงจะเป็นเรื่องยาก แต่มันมีวิชาจีโนที่มีชื่อเสียงมากอยู่อีกหนึ่งวิชา”
“วิชาจีโนนั้นคืออะไร?” หานเซิ่นรีบถาม
“บิ๊กเดสทรอยเยอร์” ฟางชิงอวี่พูด
“บิ๊กเดสทรอยเยอร์? นั่นเป็นวิชาจีโนทำลายล้างสูงไม่ใช่หรอ?”
หานเซิ่นเคยได้ยินเกี่ยวกับวิชาจีโนนี้มาก่อน และเขาได้ยินมาว่ามันเป็นวิชาใช้พลังทำลายล้างสูง แม้แต่ในหมู่เดสทรอยเยอร์ก็น้อยคนที่จะสามารถใช้วิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้
แม้แต่ยอดฝีมืออย่างบาร์ก็ไม่สามารถฝึกบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้ เดียร็อบเบอร์ถูกกล่าวขานว่ามีพรสวรรค์ที่จะใช้มัน แต่หานเซิ่นไม่เคยเห็นคนๆนั้นใช้มันมาก่อน
“ใช่แล้ว บิ๊กเดสทรอยเยอร์เป็นวิชาจีโนทำลายล้างสูง” ฟางชิงอวี่พูด “
สหพันธ์1000สมบัติได้ค้นคว้าเกี่ยวกับบิ๊กเดสทรอยเยอร์มาก่อน และพวกเราก็ค้นพบว่ามันเป็นวิชาจีโนที่พังทลายสสารและนำพวกมันกลับไปสู่สภาพดั้งเดิม สสารไหนที่ถูกวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์จะแตกสลายและกลับสู่รูปแบบพื้นฐาน ถ้าเจ้ากินผลลัพธ์ที่ออกมาเหล่านั้น มันก็อาจจะเป็นอะไรที่ง่ายกว่าสำหรับเจ้าที่จะย่อยพวกมัน”
หลังจากที่พูดจบ ฟางชิงอวี่ก็หัวเราะออกมา “แต่ข้าขอบอกเจ้าก่อนว่านอกจากวิชานั่นแล้ว ข้าไม่คิดว่ามันวิชาจีโนตัวไหนที่เหนือกว่าวิชาคอนซูมในเรื่องนี้ วิชาคอนซูมนั้นคือที่สุดแล้ว มันมีวิชาที่คล้ายคลึงวิชาคอนซูมอยู่บ้าง แต่พวกมันเหมือนๆกันหมด”
หานเซิ่นคิดว่าบิ๊กเดสทรอยเยอร์อาจจะได้ผล เขาถามฟางชิงอวี่
“ข้าจะหาวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้จากที่ไหน? ข้าจะซื้อมันจากสหพันธ์1000สมบัติได้ไหม?”
“มันเป็นวิชาลับของเดสทรอยเยอร์ เจ้าจำเป็นต้องมีร่างกายของเดสทรอยเยอร์เพื่อเรียนรู้มัน สหพันธ์1000สมบัติไม่เคยมีวิชาแบบนั้น” ฟางชิงอวี่พูดขณะที่ส่ายหัว
‘ดูเหมือนว่าเราต้องไปถามกับเผ่าเดสทรอยเยอร์โดยตรง’
หานเซิ่นคิด ‘เดียร็อบเบอร์ต้องการจะจ้างเราไปล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอีกตัว แต่ไม่รู้ว่าเขาจะยินดีมอบวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ที่เป็นความลับของเผ่าพันธุ์เป็นการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า’
หานเซิ่นไม่มีแผนจะไปตามหาเดียร็อบเบอร์ นั่นจะทำให้เดียร็อบเบอร์เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบในการต่อลอง หานเซิ่นตั้งใจจะรอคอยสักพักก่อนที่จะกลับเข้าไปในคอร์แอเรียอีกครั้ง แบบนั้นเดียร็อบเบอร์ก็จะเป็นฝ่ายมาหาเขาเอง