หว่านเอ๋อหลับไหลเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน และมันก็ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะตื่นขึ้นมาในเร็วๆนี้ นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
พวกเขายังคงใช้ชีวิตอยู่ในวาฬขาวเหมือนเดิม พวกเขายังคงไม่มีหนทางที่จะหนีออกไปจากที่นี่ และเสือขาวก็ยังคงหวาดกลัวเกินกว่าที่จะเข้ามาใกล้พวกเขา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝูงงูขึ้นมาบนเกาะ เจ้าเสือขาวก็จะออกมาเพื่อไล่พวกมันไป
ทุกคนยังคงมีเห็ดอยู่บนหัว แต่พวกมันไม่ได้ทำร้ายอะไรพวกเขา ทุกครั้งที่หานเซิ่นกลับออกมาจากคอร์แอเรีย บนหัวของเขาก็จะมีเห็ดงอกขึ้นมาใหม่ และก่อนที่จะเข้าไปในคอร์แอเรียทุกครั้ง เขาจะใช้พลังของร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์เพื่อกำจัดเห็ดไปจากหัวของเขา
เป่าเอ๋อปล่อยเหล่าอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงที่ถูกจับตัวมาให้ไปทำงานในฐานะลูกเรือ พวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งเพราะการทำแบบนั้นเป็นอะไรที่ไร้ความหมาย ยังไงซะพวกเขาก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้
เป่าเอ๋อมีของเล่นใหม่ ดังนั้นเธอจึงไม่เบื่ออีกต่อไป เธอถือแครอทขนาดใหญ่ที่เธอเรียกว่าโสมไปไหนมาไหนด้วยตลอด และเธอก็มีกลุ่มของอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงที่สามารถออกคำสั่งได้ตามใจชอบ อัศวินระดับราชันหรือแม้แต่ครึ่งเทพถูกใช้งานราวกับเป็นคนที่เพิ่งมาทำงานใหม่ๆ
ลูกเรือของวาฬขาวรู้สึกกลัวเป่าเอ๋อยิ่งกว่าที่พวกเขากลัวหานเซิ่นหรือนกแดงน้อยซะอีก เมื่อไหร่ก็ตามที่ชื่อของเธอถูกพูดถึง ผู้คนบนยานก็จะตัวสั่น
หานเซิ่นเก็บสะสมยีนระดับราชันจนครบหนึ่งร้อย และเขาก็เลื่อนอาณาเขตตงเสวียนไปสู่ขั้นที่ 4 โดยไม่ลังเล ตอนนี้เมื่อเขามียีนซีโน่เจเนอิคมากพอ เขาก็มีแผนที่จะพัฒนาอาณาเขตตงเสวียนก่อนเป็นอันดับแรก
เนื่องจากวิชาโลหิตชีพจรและเรื่องราวของยีนนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนักในการต่อสู้ หานเซิ่นจึงเลือกแค่ระหว่างกายหยกกับศาสตร์ตงเสวียน ศาสตร์ตงเสวียนนั้นยากที่จะพัฒนามากกว่ากายหยก และมันก็จำเป็นต้องใช้พลังจากฟันเฟืองจักรวาลของเขามากกว่า แต่ทว่าการเสริมพลังให้กับอาณาเขตของศาสตร์ตงเสวียนนั้นเป็นอะไรที่มีประโยชน์มากกว่า
เมื่อไหร่ก็ตามที่หานเซิ่นเพิ่มระดับอาณาเขตของตัวเองขึ้นหนึ่งระดับ ความแข็งแกร่งและพลังของอาณาเขตก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่หานเซิ่นไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ
ซึ่งนั่นตรงกับสิ่งที่เขาถูกบอกมา เขาจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อเขากลายเป็นครึ่งเทพ เมื่อถึงจุดนั้นมันก็เหมือนกับการที่อาณาเขตทั้ง 9 ขั้นรวมกันเป็นอาณาเขตเดียว
มันเกือบถึงเวลาที่จะกลับเข้าไปในคอร์แอเรีย ป่านนี้เดียร็อบเบอร์ควรจะร้อนรนที่จะพบกับเขาแล้ว หานเซิ่นใช้ฟันเฟืองจักรวาลของศาสตร์ตงเสวียนเพื่อเปิดประตูสู่คอร์แอเรีย
หานเซิ่นคิดว่าหลังจากการต่อสู้กับขุนพลเกราะทอง หลายฝ่ายก็จะมาหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ และเดียร็อบเบอร์ก็จะเป็นหนึ่งในนั้น
แต่เมื่อหานเซิ่นเข้ามาในคอร์แอเรีย เขาก็ไม่เห็นใครเลยสักคน เขาบินไปรอบๆหลายพันเมตร แต่เขาก็ยังไม่พบแม้แต่เส้นผมของเดียร็อบเบอร์
“แปลกจริงๆ ทำไมถึงไม่มีใครมาหาเรา? นี่มันไม่ปกติ นี่ค่าตัวของเราแพงเกินไปทำให้ผู้คนกลัวที่จะจ้างเราอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นมองไปรอบด้วยความสับสน ความสามารถที่เขาแสดงออกมานั้นเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์ แต่คนอื่นกลับไม่ต้องการตัวเขาได้ยังไงกัน?
ถึงแม้หานเซิ่นจะหดหู่กับความโดดเดี่ยว แต่เขาก็จำเป็นต้องฆ่าซีโน่เจเนอิคสักหน่อยก่อนที่จะเดินทางกลับ แต่เขาไม่คุ้นเคยกับซีโน่เจเนอิคในคอร์แอเรีย และหลังจากที่คิดอยู่สักพัก เขาก็มีแผนที่จะเรียกเตาหลอมทองแดงมา มันควรจะคุ้นเคยกับที่แห่งนี้ ดังนั้นงานของเขาจะง่ายขึ้นถ้าให้มันเป็นคนนำทาง นั่นจะดีกว่าการเตร็ดเตร่ไปรอบๆอย่างไร้จุดหมาย
หลังจากที่หานเซิ่นกลับไปที่ดาวของเตาหลอมทองแดง ในที่สุดเขาก็พบเจ้าเตาหลอม แต่มันดูจะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ผู้หญิงชุดเหลืองเผ่านภาคนหนึ่งกำลังซ้อมมันจนน่วม มันพยายามจะหนีจากเธอ และมันก็ตกอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร
‘เจ้าตัวน้อยนี่โชคร้ายจริงๆ มันถูกเราอัดไปครั้งหนึ่ง และตอนนี้มันก็ถูกอัดโดยผู้หญิงคนนี้อีก’ หานเซิ่นคิด
เมื่อเตาหลอมทองแดงเห็นหานเซิ่น มันก็รีบบินมาหาเขาขณะที่ร้องห่มร้องไห้ มันไปซ่อนตัวด้านหลังหานเซิ่น
ผู้หญิงชุดเหลืองบินมาอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น เธอมองมาที่เขาและพูด
“นี่เจ้าคิดจะขโมยเหยื่อของข้าอย่างนั้นหรอ?”
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้คิดจะทำอะไรแบบนั้น”
หานเซิ่นมองไปที่ผู้หญิงชุดเหลืองและพูดต่อ “เตาหลอมนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของข้า ได้โปรดเห็นแก่ข้าและละเว้นชีวิตของมันด้วย ยีนคอร์ซีโน่เจเนอิคนี้ถือเป็นของขวัญสำหรับความเมตตาของเจ้า”
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เอาคอร์คริสตัลออกมามอบให้กับผู้หญิงชุดเหลือง
ครั้งหนึ่งหานเซิ่นเคยศึกษาอยู่ภายในปราสาทนภา และเขาก็มีแผนที่จะไปขอการคุ้มครองจากพวกเขา ผู้หญิงชุดเหลืองคนนี้เป็นหนึ่งในเผ่านภา ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเป็นศัตรูกับเธอ
ผู้หญิงชุดเหลืองไม่รับยีนคอร์ซีโน่เจเนอิคจากหานเซิ่น เธอมองไปที่เขาและพูด
“ข้าจำเป็นใช้วัตถุดิบจากคอร์เตาหลอมนี่เพื่อทำสมบัติซีโน่เจเนอิค มันไม่มียีนซีโน่เจเนอิคไหนแทนได้”
“นี่เจ้าจะต้องฆ่ามันจริงๆอย่างนั้นหรอ? มันไม่มีทางอื่นเลยหรือยังไง?” หานเซิ่นถามอย่างอดทน
“มันมีทางอื่นอยู่ แต่มันเป็นอะไรที่น่ารำคาญ” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด
“นั่นเป็นเรื่องดี! ตราบใดที่มันมีทางอื่น พวกเราก็ตกลงกันได้ บอกข้ามาว่ามันคืออะไร และข้าจะทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยเจ้า” หานเซิ่นหัวเราะ
ผู้หญิงชุดเหลืองชี้ไปที่เตาหลอมทองแดงและพูด “เจ้าไม่ได้กำลังช่วยข้า เจ้ากำลังช่วยชีวิตมัน”
“เจ้าพูดถูก ข้าผิดเอง บอกมาว่าข้าต้องทำอะไรเพื่อช่วยชีวิตมัน?” หานเซิ่นยังคงมอบรอยยิ้มให้กับเธอ
“เจ้าดูไม่ใช่คนเลว ถ้าเจ้าไปล่าคอร์ไตรพอดทองแดงร่วมกับข้า ข้าก็จะปล่อยเตาหลอมทองแดงนั่นไป” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด
“นั่นไม่มีปัญหา แต่เจ้ารู้ไหมว่าคอร์ไตรพอดทองแดงอยู่ที่ไหน?” หานเซิ่นถาม
ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่หานเซิ่นและถาม “คอร์ไตรพอดทองแดงไม่ได้หายากอะไร แต่พวกมันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับครึ่งเทพ เจ้าฆ่ามันได้ใช่ไหม? อย่าได้ไปที่นั่นและพาตัวเองไปถูกฆ่า”
“ข้าไม่ได้ประเมินความสามารถของตัวเองสูงมากนัก แต่ข้าคิดว่าพอจะฆ่าคอร์ไตรพอดทองแดงตัวหนึ่งได้ แถมเจ้าจะช่วยข้าอีกคนถูกไหม?” หานเซิ่นถาม
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ” ผู้หญิงชุดเหลืองพูดและบินออกไป
“ถ้าไม่รังเกียจ ข้าขอถามชื่อของเจ้าได้ไหม?” หานเซิ่นส่งสัญญาณบอกให้เตาหลอมทองแดงตามพวกเขาไป เตาหลอมทองแดงยังคงหวาดกลัวผู้หญิงชุดเหลือง และมันก็ไม่กล้าจะเข้าไปใกล้เธอ มันยังคงหลบอยู่ด้านหลังหานเซิ่น
“ข้าเองก็ยังไม่รู้จักชื่อของเจ้า” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด
“ชื่อของข้าคือดอลลาร์” หานเซิ่นบอกเธอ
“นั่นฟังดูไม่เหมือนกับชื่อ มันฟังดูเหมือนกับสมญานาม” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด
“ชื่อทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่สมญานามไม่ใช่หรอ?” หานเซิ่นพูด
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เรียกข้าว่าชุดเหลือง ยังไงซะมันก็เป็นแค่สมญานาม” ผู้หญิงชุดเหลืองพูด
“หญิงชุดเหลือง นี่เจ้าเป็นศิษย์ของปราสาทนภาอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นไม่ได้บอกชื่อที่แท้จริงกับเธอ ดังนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องบอกชื่อจริงของเธอกับเขาเช่นกัน
ผู้หญิงชุดเหลืองยิ้มและพูด “อะไร? ข้าไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้า และเจ้าจะมาถามชื่อของข้าอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นคิดว่าอารมณ์ของผู้หญิงคนนี้แปลกๆ การที่จะร่วมเดินทางกับเธอดูจะเป็นเรื่องยาก
ผู้หญิงชุดเหลืองพูดต่อ “คอร์ไตรพอดทองแดงที่พวกเราจะไปล่านั้นแตกต่างออกไป ครึ่งเทพปกติจะเอาชนะมันไม่ได้ เจ้าอาจจะถูกฆ่าตายในชั่วพริบตา ให้ข้าดูก่อนว่าวิชาจีโนและอาณาเขตของเจ้ามีดีอะไร ข้าไม่อยากพาเจ้าไปตายและมาโทษข้า”