หานเซิ่นและหลี่เคอเอ๋อบินผ่านอวกาศไปร่วมกัน ขณะที่เตาหลอมทองแดงตามอยู่ด้านหลังโดยทิ้งระยะห่างพอสมควร มันยังคงไม่กล้าเข้าไปใกล้หลี่เคอเอ๋อ
ถ้าหลี่เคอเอ๋อยินดีจะนำทางให้ หานเซิ่นก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธข้อเสนอของเธอ ถ้าเธอสามารถหาซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้ หานเซิ่นก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยเธอสังหารคอร์ไตรพอดทองแดง
หานเซิ่นยังคงไม่ชอบลักษณะนิสัยของหลี่เคอเอ๋อ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากนัก แต่หลี่เคอเอ๋อนั้นชาญฉลาดและพูดเก่ง หานเซิ่นค้นพบว่าเธอยังมีอารมณ์ขันอีกด้วย เขาพบว่ามันยากที่จะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเธอ
ในตอนแรกที่พวกเขาพบกัน หลี่เคอเอ๋อมองหานเซิ่นราวกับว่าเธอเหนือกว่าเขา มันเหมือนกับมนุษย์กำลังพูดอยู่กับวัวตัวหนึ่ง โดยปกติแล้วมนุษย์จะไม่เสียเวลาพูดกับวัว เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดคุยกับสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาต่ำกว่า พวกเขาแค่จะสอนวัวว่าต้องทำอะไรแทน
แต่ตั้งแต่การเดิมพันกัน หลี่เคอเอ๋อก็รู้สึกตัวว่าหานเซิ่นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ด้อยไปกว่าเธอ เขาเทียบเท่ากับเธอหรือบางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าในบางเรื่อง หลี่เคอเอ๋อไม่สามารถคิดกับหานเซิ่นราวกับว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่โง่เขลาได้อีกต่อไป
แต่มันจะโทษหลี่เคอเอ๋อไม่ได้ที่เธอสันนิษฐานแบบนั้นในตอนแรก เพราะทุกสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์ความรู้สึกนั้นมักจะสันนิษฐานเกี่ยวกับคนอื่นที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ของตัวเองแบบเดียวกันนี้ แม้แต่มนุษย์เองก็เช่นกัน
“มันมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ข้าเห็นเมื่อไม่นานมานี้ มันคือเทพหมาป่า ข้าไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนัก แต่ข้าได้ยินมาว่ามันไม่ได้แข็งแกร่งมาก เมื่อเทียบกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่ในคอร์แอเรีย”
หลี่เคอเอ๋อบินต่อไปข้างหน้าขณะที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับซีโน่เจเนอิคให้หานเซิ่นฟัง
ขณะที่พูด หลี่เคอเอ๋อก็กำลังคิดอยู่ในใจ ‘ข้าไม่ได้พูดโกหก เทพหมาป่าไม่ได้แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่ในคอร์แอเรียจริงๆ ความแข็งแกร่งของมันถือว่าอยู่ในระดับปานกลางถึงระดับต่ำ แต่มันมีอาณาเขตเทพหมาป่าอยู่ อาณาเขตนั้นไม่เพียงแค่อัญเชิญฝูงหมาป่าออกมา ฝูงหมาป่าที่มันอัญเชิญออกมานั้นไม่ใช่แค่หมาป่าธรรมดาๆ พวกมันเป็นร่างโคลนของเทพหมาป่า และความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวเทพหมาป่ามากนัก มาดูกันสิว่าเจ้าจะรับมือกับคู่ต่อสู้แบบนี้ยังไง’
หลี่เคอเอ๋อไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อจะทำร้ายหานเซิ่น แต่เธออยากจะเห็นวิธีการของหานเซิ่นที่จะใช้รับมือกับปัญหาที่เข้ามา ถ้าเขาตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะเข้าไปช่วยเขา แบบนั้นเธอก็จะสามารถสร้างความประทับใจต่อเขาไปพร้อมกัน หลังจากนั้นหานเซิ่นก็จะยินดีรับฟังคำพูดของเธอมากขึ้น และเธอก็จะรับเขาในฐานะตัวไหมของเธอ
ด้วยการนำทางของหลี่เคอเอ๋อ หานเซิ่นบินลงไปสู่ดาวดวงหนึ่ง หลี่เคอเอ๋อชี้ออกไปทางภูเขาและพูด
“ข้าเห็นเทพหมาป่าบนภูเขาลูกนั้น ข้าอ่อนแอเกินกว่าที่จะต่อสู้กับมัน ดังนั้นข้าคงจะไม่ไปที่นั่นอย่างแน่นอน”
“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็รออยู่ตรงนี้ ถ้ามันมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าจริงๆ ข้าจะช่วยเธอจัดการกับคอร์ไตรพอดทองแดง ไม่ว่าข้าจะฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าตัวนี้ได้หรือไม่ก็ตาม” หานเซิ่นพูด
“ข้าจะรอฟังข่าวดี” หลี่เคอเอ๋อพูดด้วยรอยยิ้ม
หานเซิ่นพยักหน้าและบินไปทางภูเขา เตาหลอมทองแดงรอเขาอยู่กับหลี่เคอเอ๋อตามคำสั่งของหานเซิ่น มันไม่ได้ตรงไปที่ภูเขาพร้อมกับเขา
ดวงตาของหลี่เคอเอ๋อมองออกไปที่ภูเขา ถึงเธอจะอยู่ห่างไกลออกไป แต่เธอก็เห็นต้นไม้ทุกต้น ดอกไม้ทุกดอกที่กระจายตัวกันอยู่บนภูเขาลูกนั้น
สัมผัสของหลี่เคอเอ๋อตรวจพบเทพหมาป่าบนภูเขาได้อย่างรวดเร็ว มันแตกต่างไปจากหมาป่าปกติที่อยู่กันเป็นฝูง เทพหมาป่านั้นอาศัยอยู่ตามลำพัง แต่ร่างกายของมันแทบจะไม่ได้ใหญ่โตไปกว่าหมาป่าปกติ
เทพหมาป่ามีสีเทาและด้วยแถบสีดำเส้นหนึ่งที่ลากเป็นเส้นตรงบนขนของมัน ขนของมันไม่ปกติและดูเหมือนกับว่ามันทำขึ้นมาจากโลหะประหลาดบางอย่าง ขนโลหะของมันเรียบและดูจะไม่ส่งผลอะไรต่อความคล่องแคล่วของมัน
ขณะที่กำลังหลี่เคอเอ๋อมองดู หานเซิ่นก็หาเทพหมาป่าเจออย่างรวดเร็ว เทพหมาป่าเป็นซีโน่เจเนอิคที่หวงเขตแดน และทันทีที่หานเซิ่นเข้าไปในหุบเขา เทพหมาป่าก็เผยตัวออกมา ขนของมันตั้งตรงและดวงตาหมาป่าสีเขียวก็มองตรงมาที่หานเซิ่น
เทพหมาป่าย่อตัวลงและกระโดดออกมาข้างหน้า แต่หลังจากนั้นมันก็หายตัวไป
เทพหมาป่าหายไปจากสายตาของหานเซิ่น ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้มองมันชัดๆ ดวงตาของเขาก็ไม่สามารถตามความเร็วของเทพหมาป่าได้
โดยไม่ลังเลหานเซิ่นใช่ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด หลังจากนั้นเทพหมาป่าก็กระโดดเข้าใส่เขา
แต่แทนที่จะถูกตัวของหานเซิ่น เทพหมาป่ากลับกระโดดผ่านตัวเขาไป มันรีบหันกลับมามองที่หานเซิ่น
หานเซิ่นเพิ่งจะเปิดใช้งานร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด แต่เขาก็สังเกตได้ว่าพลังของร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดนั้นเริ่มจะจางหายไป ถึงแม้หว่านเอ๋อจะหลับใหลอยู่ แต่ผลกระทบของเธอต่อร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดยังคงรุนแรง
หลี่เคอเอ๋อมีแผนที่จะมองดูการต่อสู้ระหว่างหานเซิ่นกับเทพหมาป่า หลังจากนั้นเธอก็จะเข้าไปช่วยเขาในจังหวะสำคัญ แต่ทั้งๆที่การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น หานเซิ่นก็วิ่งหนีออกมาเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่หานเซิ่นบินออกไปจากดวงดาว เธอก็เห็นว่าเขากำลังหนีไปอย่างเต็มกำลัง เขาไม่ได้ลังเลหรือครุ่นคิดเกี่ยวกับทิศทางที่เขาหนีออกไป หลี่เคอเอ๋ออึ้งไปเมื่อเธอเห็นเขาทำแบบนั้น เธอไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปช่วยเขาดีหรือเปล่า
ถึงแม้นี่จะเป็นผลลัพธ์ที่เธอต้องการ แต่เธอไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้ เธอตั้งใจจะใช้เทพหมาป่าเพื่อทดสอบพลังที่แท้จริงของหานเซิ่น แต่ตอนนี้เธอยังไม่ทันได้เห็นอะไร หานเซิ่นก็วิ่งหนีเรียบร้อยแล้ว
หลี่เคอเอ๋อสับสนอย่างมาก ดูเหมือนว่าหานเซิ่นไม่มีหนทางที่จะเอาชนะเทพหมาป่า เทพหมาป่ากระโดดขึ้นสู่อากาศและฉีกร่างกายของหานเซิ่นด้วยเขี้ยวของมัน
ปัง!
ร่างกายของหานเซิ่นถูกฉีกขาด แต่มันเป็นแค่ร่างโคลนของวิชาจันทรา ตัวจริงของหานเซิ่นได้ออกไปสู่อวกาศเรียบร้อยแล้ว และเขาก็ยังคงหนีต่อไปอีก
หานเซิ่นแค่ต้องการจะยืนยันว่ามันมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่บนดาวจริงๆ เขาไม่คิดจะเรียกวิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองออกมาต่อหน้าเธอ
แต่เทพหมาป่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายมาก และมันก็ไล่ตามหลังหานเซิ่นไป ถึงแม้มันจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอย่างขุนพลเกราะทอง แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่หานเซิ่นจะต่อสู้กับมัน เขาใช้ร่างโคลนจันทราซ้ำๆเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของเทพหมาป่า
หานเซิ่นสังเกตได้ว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของคอร์แอเรียมีข้อบกพร่องบางอย่างอยู่ พวกมันอาจจะเป็นระดับเทพเจ้า แต่ในทางใดทางหนึ่งพวกมันอ่อนแอกว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่แท้จริงมาก
ยกตัวอย่างเช่นขุนพลเกราะทอง ขณะที่พลังป้องกันและพลังโจมตีของมันเป็นระดับเทพเจ้า แต่ความเร็วของมันเทียบได้กับระดับราชัน แถมมันยังต่อสู้เหมือนกับระดับราชัน มันไม่ได้มีความสามารถที่จะพบเห็นได้จากระดับเทพเจ้าที่แท้จริง
และในขณะที่ความเร็วของเทพหมาป่าอยู่ในระดับเทพเจ้า ไหวพริบและการตัดสินใจของมันยังไม่ถึงขั้น การโจมตีของมันเทียบได้กับระดับราชันทั่วๆไป ดังนั้นหานเซิ่นจึงคิดว่าเทพหมาป่านั้นอ่อนแอกว่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่แท้จริงมากนัก
‘ไม่แปลกใจเลยที่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าของคอร์แอเรียถูกเรียกว่าระดับเทพเจ้าปลอม พวกมันทั้งหมดต่างก็มีข้อบกพร่อง’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
การต่อสู้ที่ดุเดือดที่หลี่เคอเอ๋อหวังจะได้เห็นกลับกลายเป็นหมาป่าที่หิวกระหายวิ่งไล่มนุษย์ที่กำลังวิ่งหนีเอาตัวรอด หานเซิ่นใช้ร่างโคลนและทักษะการเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกศัตรู ทักษะการเคลื่อนไหวของเขานั้นสุดยอด แม้แต่เทพหมาป่าที่มีความเร็วเหนือกว่าไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แต่นั่นก็ยังคงไม่ใช่สิ่งที่หลี่เคอเอ๋ออยากจะเห็น