หลี่เคอเอ๋อตัดสินใจว่าจะไม่เข้าไปช่วยหานเซิ่น เพราะเขายังคงไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่เธอต้องขมวดคิ้วขณะที่มองไปที่เขา
“เขาเป็นอะไร? ก่อนหน้านี้เขาแข็งแกร่งเหมือนกับเทพ? แต่ทำไมตอนนี้เขาทำตัวเหมือนกับคนขี้ขลาดตาขาว?”
หลี่เคอเอ๋อไม่เข้าใจว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไรกันแน่ และเธอก็สังเกตเห็นว่าเทพหมาป่าเริ่มจะดูรำคาญ มันเงยหน้าและหอนขึ้นไปบนท้องฟ้า ร่างกายของมันเริ่มเบลอและเปลี่ยนเป็นหมอกหนา ร่างโคลนของเทพหมาป่าพากันวิ่งออกมาจากหมอกนั่น ในเวลาเพียงแค่หนึ่งวินาที เทพหมาป่าหลายสิบตัวก็เข้ามาล้อมหานเซิ่นจากทุกทิศทาง
“ร่างโคลนพวกนี้มันต่างออกไป พวกมันจะต้องมีพลังอย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ของเทพหมาป่าตัวจริง” หานเซิ่นมองไปที่เทพหมาป่ารอบๆอย่างประทับใจ
วิชาจันทราของหานเซิ่นสามารถสร้างร่างโคลนที่ดูเหมือนจริงได้เพียงแค่นั้น เขาไม่สามารถทำให้พวกมันต่อสู้ได้
แต่ร่างโคลนของเทพหมาป่านั้นต่างออกไป ร่างโคลนแต่ละร่างเป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่ง และพวกมันก็มีพลังเกือบจะเท่ากับเทพหมาป่าตัวจริง แถมพวกมันแต่ก็ตัวก็สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นได้เห็นพลังในการสร้างร่างโคลนแบบนี้
ร่างโคลนของเทพหมาป่าพุ่งเข้าหาหานเซิ่นพร้อมกัน พวกมันทั้งหมดรวดเร็วอย่างน่าตกใจ พวกมันช้ากว่าเทพหมาป่าตัวจริงเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น
หานเซิ่นใช้ศาสตร์ตงเสวียนจนถึงขีดสุด ทักษะในการหลบหลีกทั้งหมทดของเขาถูกนำมาใช้งาน ท่ามกลางการโจมตีของร่างโคลนทั้งหมด หานเซิ่นเป็นเหมือนกับผีเสื้อที่กำลังเต้นระบำ ร่างโคลนของเทพหมาป่าหลายสิบตัวไม่สามารถทำอะไรศัตรูของพวกมันได้เลย
หลังจากที่เทพหมาป่านำเอาร่างโคลนของมันออกมา หลี่เคอเอ๋อก็สับสนว่าควรจะเข้าไปช่วยหานเซิ่นดีไหม เพราะยังไงซะเธอก็ไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่คาดหวัง แต่เมื่อหลี่เคอเอ๋อได้เห็นหานเซิ่นใช้วิชาเพื่อไคท์หลบศัตรูทั้งหมด เธอก็อึ้งไป การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นดูเหมือนกับว่าเขาไม่ต้องออกแรงอะไรขณะที่เขาจูงจมูกศัตรูรอบๆตัว
“นั่น…นั่นเป็นไปได้ยังไง? นี่มันสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นของเวรี่ไฮเซ้นส์? เป็นไปไม่ได้ เผ่าพันธุ์อื่นจะมีวิชาของเวรี่ไฮได้ยังไง? ทำไมเขาถึงใช้สกายแอนท์บีอิ้งคอมบิเนชั่นได้?” หลี่เคอเอ๋อมองดูหานเซิ่นเต้นระบำอยู่ในฝูงหมาป่า เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
“ไม่ นี่ไม่ใช่สกายและบีอิ้งคอมบิเนชั่นของเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่มันเป็นบางสิ่งที่คล้ายคลึงกันมากๆ มันเกือบจะเหมือนกัน แต่มันต่างออกไป มันคล้ายคลึงกับตำราไร้อักษรของเผ่านภา แต่มันก็แตกต่างออกไปเช่นกัน… นี่มันแปลกจริงๆ… นี่มันวิชาจีโนแบบไหนกันแน่?” ใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อดูสับสนอย่างมาก
เธอพยายามคิดอย่างรวดเร็ว แต่นอกจากตำราไร้อักษรของเผ่านภาแล้ว เธอก็ไม่สามารถคิดหาวิชาจีโนอื่นที่คล้ายคลึงกับเวรี่ไฮเซ้นส์ถึงขนาดนี้ได้ ถึงแม้มันจะมีวิชาจีโนที่คล้ายคลึงกันของเผ่าพันธุ์อื่นอยู่ แต่ความคล้ายคลึงต่อวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ของพวกมันก็เป็นแค่ผิวเผินเท่านั้น
แต่วิชาที่หานเซิ่นกำลังใช้ไม่ได้เป็นอะไรที่ผิวผืนหรืออ่อนแอเลยสักนิดเดียว หลี่เคอเอ๋อรู้ว่าแม้แต่การเคลื่อนไหวและความสามารถของเธอก็ไม่ได้ดีเท่ากับหานเซิ่น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นี่ดอลลาร์เป็นหนึ่งในเวรี่ไฮอย่างนั้นหรอ? หรือว่าเขาจะเป็นหนึ่งในเผ่านภากัน? แต่จากที่เรารู้ ผู้นำของปราสาทนภาถ่ายทอดตำราไร้อักษรให้กับไผ่เดียวดายเท่านั้น อวี้ซ่านซินเองก็เคยฝึกตำราไร้อักษร แต่เขาเรียนรู้มันได้ไม่ดีนัก เขาเดินไปในเส้นทางของตัวเอง ดอลลาร์ไม่มีทางเป็นหนึ่งใน 2 คนนั้นไปได้ แถมในตอนที่ดอลลาร์อยู่ในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน เขาได้ต่อสู้กับไผ่เดียวดาย ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางเป็นคนเดียวกันได้…” หลี่เคอเอ๋อรู้สึกสับสน
ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะคิดจนสมองระเบิด เธอก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าวิชาจีโนของหานเซิ่นเป็นสิ่งที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจากจักรวาลอื่นที่ต่างออกไป ที่เธอกำลังเห็นคือวิชาที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยสำนักเสวียน
ถึงแม้ศาสตร์ตงเสวียนจะไม่ใช่เวรี่ไฮเซ้นส์ แต่บางส่วนของพวกมันก็ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ถึงแม้พวกมันทั้ง 2 จะเหมือนกันในทางปฏิบัติ แต่พวกมันถูกพัฒนาไปในทิศทางที่แตกต่างกัน
แถมวิชาทั้ง 2 ยังสามารถใช้ในวิธีต่างๆนาๆ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าวิชาไหนที่อ่อนแอหรือแข็งแกร่งกว่ากัน
เวรี่ไฮเซ้นส์เป็นผลงานที่ถูกวิจัยโดยยอดฝีมือของเวรี่ไฮหลายรุ่น มันเป็นวิชาจีโนที่ดีที่สุดในจักรวาลจีโน
ศาสตร์ตงเสวียนเองก็เป็นวิชาที่ดีที่สุดของก็อตแซงชัวรี่เช่นกัน แต่ทว่ามันยังถูกพัฒนาไม่เสร็จสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับเวรี่ไฮเซ้นส์แล้ว ศาสตร์ตงเสวียนเป็นเหมือนกับวิชาจีโนต้นแบบที่อยู่ในระยะแรกของการเรียนรู้
จนกว่าศาสตร์ตงเสวียนจะเสร็จสมบูรณ์ มันก็ไม่มีใครบอกได้ว่ามันหรือเวรี่ไฮเซ้นส์ที่แข็งแกร่งกว่ากัน แต่ทว่ามันมีเพียงแค่อย่างเดียวที่รู้แน่ชัดในตอนนี้ ซึ่งก็คือความจริงที่ว่าหลี่เคอเอ๋ออ่อนแอกว่าหานเซิ่น
ขณะที่หลี่เคอเอ๋อมองดูหานเซิ่น ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เธอคิดว่าจะเข้าไปช่วยหานเซิ่นในตอนที่เขาตกอยู่ในอันตราย แต่นั่นดูจะไม่จำเป็นอีกต่อไป หานเซิ่นมีวิชาที่คล้ายคลึงกับสกายแอนท์บีอิ้งคอมบิเนชั่น ซึ่งทำให้ร่างโคลนของเทพหมาป่าไม่สามารถทำอะไรเขาได้ มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่หลี่เคอเอ๋อจะเข้าไปช่วย
แต่นั่นทำให้หลี่เคอเอ๋ออยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ดวงตาที่งดงามดูสว่างไสวยิ่งกว่าที่เคย
“ดอลลาร์เป็นใครกัน? เขากำลังใช้วิชาจีโนแบบไหนกันแน่?”
ขณะที่หานเซิ่นต่อสู้กับร่างโคลนของเทพหมาป่านั้น เขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่น่าสนใจ หลังจากที่เทพหมาป่าสร้างร่างโคลนขึ้นมา ถึงแม้ร่างโคลนจะมีพลังที่คล้ายคลึงกับเทพหมาป่าตัวจริง แต่พวกมันไม่ได้มีพลังเท่ากับเทพหมาป่าตัวจริงร้อยเปอร์เซ็นต์
‘นั่นหมายความว่าร่างโคลนของเทพหมาป่าแบ่งออกมาจากร่างที่แท้จริงของมันอย่างนั้นหรอ? พวกมันเป็นบางสิ่งที่มากกว่าร่างโคลนใช่ไหม?’ หานเซิ่นคิด
ร่างโคลนของเทพหมาป่าเป็นอะไรที่ทรงพลังมากๆ แต่สำหรับหานเซิ่นแล้ว พวกมันไม่ได้เป็นอันตรายเหมือนอย่างการที่เทพหมาป่าใช้พลังทั้งหมดในร่างเดียว
การต่อสู้กับศัตรูเป็นกลุ่มนั้นเป็นสิ่งที่หานเซิ่นกลัวน้อยที่สุด แถมชุดเกราะตงเสวียนก็มอบพลังงานที่ไม่จำกัดให้กับเขา เขาไม่ต้องกังวลว่าพลังจะหมด มันไม่สำคัญว่าจะมีร่างโคลนเข้ามาล้อมเขาสักกี่ตัว พวกมันไม่สามารถทำร้ายหานเซิ่นได้
‘น่าเสียดายที่เราไม่มีมีดเขี้ยวร้อยสักมังกร ไม่อย่างนั้นบางทีเราอาจจะไม่ต้องใช้วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองด้วยซ้ำในการฆ่าเทพหมาป่านี่’
หานเซิ่นไม่ใช่ธันเดอร์ก็อตสไปค์ ถึงแม้เขาจะโจมตีด้วยอาวุธนั้น เขาก็ทำได้แค่ทำให้เทพหมาป่าเป็นอัมพาตชั่วขณะ เขาไม่สามารถใช้มันทำลายร่างกายของเทพหมาป่าได้
ธันเดอร์ก็อตสไปค์และมีดเขี้ยวรอยสักมังกรเป็นสมบัติระดับเทพเจ้าเหมือนกัน หนึ่งเป็นธาตุสายฟ้า ขณะที่อีกหนึ่งเป็นอาวุธที่โฟกัสที่พลังทำลายล้าง ธันเดอร์ก็อตสไปค์สามารถทำให้เทพหมาป่าเป็นอัมพาตโดยที่ไม่ทำลายร่างกายของมัน ส่วนมีดเขี้ยวรอยสักมังกรมีโอกาสที่จะทำลายร่างกายของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้ แต่มันไม่มีพลังที่จะทำให้พวกมันเป็นอัมพาต
พวกมันมีการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่สำหรับตอนนี้พลังทำลายล้างของมีดเขี้ยวรอยสักมังกรเป็นสิ่งที่จำเป็นกับหานเซิ่นมากกว่า