ในจังหวะนั้นใบหน้าของไป๋ว่านเจียและรอยัลไนท์ซีดเผือก พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน โดยที่ไม่เคลื่อนไหวดอลลาร์ลบล้างพลังของยอดฝีมือระดับราชันและครึ่งเทพนับร้อยในชั่วพริบตา สิ่งที่เขาทำเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
ใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน เธอไม่สามารถทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้ เธอได้แต่จ้องมองหานเซิ่นที่ยังคงนั่งเล่นหมากรุกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“วิชาไร้ศีลห้าม… เจ้าเป็นหนึ่งในเวรี่ไฮ!” ไป๋ว่านเจียพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ข้าไม่ใช่เวรี่ไฮ ข้าเป็นมนุษย์” หานเซิ่นพูดอย่างเรียบง่าย
ถึงแม้หานเซิ่นจะปฏิเสธ แต่ไป๋ว่านเจียก็ยังคงเชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
“ถ้าเจ้าเป็นเผ่าเวรี่ไฮ นี่ก็อยู่เหนือความสามารถของข้าที่จะจัดการ แต่ทางเอ็กซ์ตรีมคิงจะขอคำอธิบายจากผู้อาวุโสของเผ่าเวรี่ไฮ”
หลังจากนั้นไป๋ว่านเจียก็พาเหล่ารอยัลไนท์จากไป
หานเซิ่นรู้สึกสับสน เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนที่เขายกเลิกพลังของเหล่ารอยัลไนท์ เขาเพียงแค่ใช้อาณาเขตตงเสวียน เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับไป๋ว่านเจีย หลังจากที่ไป๋ว่านเจียประกาศว่าหานเซิ่นเป็นหนึ่งในเวรี่ไฮ ชายคนนั้นก็จากไปราวกับเด็กที่โกรธเคืองและขู่ที่จะฟ้องเรื่องของหานเซิ่นกับเผ่าเวรี่ไฮ
หลี่เคอเอ๋อไม่รู้ว่าเธอควรจะคิดยังไงกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เธอรู้สึกมึนงง เธอไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปได้ ไป๋ว่านเจียนั้นเชื่อว่าดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
มันมีเวรี่ไฮอยู่ที่นี่ก็จริง แต่เวรี่ไฮที่ว่านั่นคือหลี่เคอเอ๋อต่างหาก เธอรู้สึกค่อนข้างไม่พอใจที่ไป๋ว่านเจียสันนิษฐานว่าดอลลาร์เป็นเผ่าเวรี่ไฮ
‘แต่มันจะไปโทษไป๋ว่านเจียก็ไม่ถูก’ หลี่เคอเอ๋อคิดอย่างหดหู่
‘พลังที่ดอลลาร์ใช้นั้นคล้ายคลึงกับวิชาไร้ศีลธรรมของเวรี่ไฮ ถึงแม้พลังทั้ง 2 จะคล้ายคลึงกัน แต่พวกมันก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว’
หลี่เคอเอ๋อมีแผนที่จะเปิดเผยฐานะของตัวเองเพื่อสยบไป๋ว่านเจีย แต่ด้วยการสันนิษฐานว่าดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮซะแอง มันก็ทำให้เธอที่เป็นเผ่าเวรี่ไฮที่แท้จริงพูดอะไรไม่ออก
ตอนนี้ถ้าเธอพูดออกไปว่าตัวเองเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ ผลลัพธ์ที่เธอคาดหวังว่าจะได้รับก็หายไปแล้ว หานเซิ่นจะไม่ติดหนี้บุญคุณอะไรเธอ
“เจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อถามขณะที่มองไปที่หานเซิ่น เธอแกล้งทำเป็นว่าเธอตกใจกับเรื่องนั้น
“ข้าไม่ใช่คนเผ่าเวรี่ไฮ ข้าบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรอว่าข้าเป็นมนุษย์” หานเซิ่นพูดอย่างรำคาญ
หลี่เคอเอ๋อหัวเราะ “ถ้าเจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ เพียงแค่ชื่ออย่างเดียวก็จะทำให้ทุกคนตกใจ เวรี่ไฮนั้นเป็นเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่งในจักรวาล ถ้าข้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ ข้าก็จะภาคภูมิที่จะเผยมันออกมา”
“ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเวรี่ไฮ” หานเซิ่นพูด “ข้าเป็นมนุษย์และข้าก็ภาคภูมิกับมัน”
“พวกเราไปกันเถอะ” หานเซิ่นพูดและลุกขึ้นยืน
“มอบยีนคอร์ให้กับข้า” หลี่เคอเอ๋อยื่นมือของเธอออกมา
“ยีนคอร์อะไร?” หานเซิ่นแกล้งทำเป็นสับสนขณะที่เขามองไปที่หลี่เคอเอ๋อ
ถึงแม้เขาจะมียีนคอร์ซีสกายอายอยู่ เขาก็ลังเลที่จะมอบมันให้กับเธอ เขาสงสัยว่ามันจะคุ้มค่ากับส่วนสุดท้ายของกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจริงๆหรือเปล่า
นี่เป็นถึงวัตถุดิบหลักสำหรับการสร้างระบบป้องกันสกายอาย เขาคงจะหามันอีกอันไม่ได้
แถมมันยังมีความจริงที่เขาใช้วิญญาณอสูรขุนพลหุ่นยนต์ทองเพื่อขโมยยีนคอร์ของซีสกายอายอีก ถ้าเขามอบมันให้กับหลี่เคอเอ๋อ นั่นก็เท่ากับว่าเขายอมรับว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับขุนพลเกราะทอง ถ้าเรื่องนั้นไปถึงหูของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาก็คงจะมาตามล่าตัวดอลลาร์
ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่กลัวเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง แต่มันไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องทำบางสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
หลี่เคอเอ๋อยิ้มและพูด “ถึงข้าจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก แต่ข้ามีสายตาที่แหลมคม และข้ายังเก่งในเรื่องการอ่านสถานการณ์ ข้าเห็นเจ้าควบคุมขุนพลเกราะทองเพื่อขโมยยีนคอร์ซีสกายอายและเสาสกายก็อต ข้ายังเห็นเจ้าออกมาจากขุนพลเกราะทอง นี่เจ้าจะผิดสัญญาที่ให้เอาไว้อย่างนั้นหรอ?”
แต่เธอแค่พูดข่มหานเซิ่นเท่านั้น แน่นอนว่าเธอไม่ได้เห็นหานเซิ่นออกมาจากขุนพลเกราะทอง
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ หลี่เคอเอ๋อควรจะกำลังเล่นหมากรุกอยู่ที่นี่อยู่ตลอด ถ้าเธอบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ได้ เธอก็คงจะรู้อะไรบางอบ่าง
แต่หานเซิ่นไม่เชื่อว่าเธอจะเห็นเขาออกมาจากขุนพลเกราะทองจริงๆ เขาได้ใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อล็อคฟันเฟืองจักรวาลรอบตัว ถ้าใครบางคนกำลังมองดูเขาอยู่จริงๆ เขาก็ควรจะรู้สึกตัวถึงมัน
แต่หลี่เคอเอ๋อเป็นคนฉลาด เมื่อเธอเห็นหานเซิ่นดูแปลกใจ เธอก็รู้ว่าตัวเองพูดถูก เธอมองหานเซิ่นด้วยความประหลาดใจและพูด
“ข้าแค่คาดเดาเท่านั้น มันเป็นเจ้าจริงๆหรือเนี่ย?”
หานเซิ่นยักไหล่เล็กน้อย เขาไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธ เขาแค่นำยีนคอร์ซีสกายอายออกมาและมอบมันให้กับเธอ
ถ้าหลี่เคอเอ๋อคาดเดาได้แบบนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปฏิเสธ ถึงแม้ยีนคอร์ซีสกายอายจะเป็นของดี แต่เขาก็ไม่รู้วิธีที่จะนำมันไปสร้างระบบป้องกันสกายอายอยู่ดี มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะถือครองมันเอาไว้
แถมหานเซิ่นก็สนใจในส่วนสุดท้ายของกาแล็กซที่เทเลพอร์ตเทชั่น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงตัดสินใจจะแลกเปลี่ยนกับหลี่เคอเอ๋อ
ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะบอกคนอื่นว่าเขาเป็นคนที่ขโมยยีนคอร์ของซีสกายอาย มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาอะไรมากนัก เพราะยังไงซะมันก็ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วดอลลาร์เป็นใคร
“เจ้าทำแบบนั้นได้ยังไง? เจ้าควบคุมขุนพลเกราะทองได้อย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อถามขึ้นมา
“ส่วนสุดท้ายของกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอยู่ที่ไหน? พวกเราจะทำการแลกเปลี่ยนพร้อมๆกัน” หานเซิ่นดึงมือกลับและไม่ปล่อยให้หลี่เคอเอ๋อเอายีนคอร์ซีสกายอายไป
หลี่เคอเอ๋อลังเลขึ้นมา จริงๆแล้วเธอไม่ได้สนใจอะไรในยีนคอร์ซีสกายอาย ของสิ่งนั้นสามารถใช้สร้างระบบป้องกันสกายอายแบบจำลองเท่านั้น มันไม่ได้มีพลังเท่ากับของจริง บางทีเอ็กซ์ตรีมคิงอาจจะสนใจในของแบบนั้น แต่เวรี่ไฮไม่มีความจำเป็นต้องใช้มัน
แต่ถ้าหลี่เคอเอ๋อไม่ทำการแลกเปลี่ยน พวกเขาก็อาจจะต้องแยกทางกัน และนั่นเป็นบางสิ่งที่หลี่เคอเอ๋อไม่ต้องการ
“ส่วนสุดท้ายเป็นอะไรที่ซับซ้อน เจ้ายังไม่สำเร็จส่วนแรกของกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นด้วยซ้ำ ดังนั้นเจ้าจะไม่เข้าใจมัน ถึงแม้ข้าจะบอกส่วนสุดท้ายกับเจ้า แต่นั่นไม่เป็นไร ข้ายังมีเวลา ดังนั้นข้าจะค่อยๆสอนเจ้า” หลี่เคอเอ๋อพูดและหัวเราะ
หลี่เคอเอ๋อไม่ได้ขอให้หานเซิ่นมอบยีนคอร์ซีสกายอายให้กับเธอ ซึ่งนั่นทำให้เขาสบายใจขึ้นมาหน่อย เขาพาหลี่เคอเอ๋อไปออกล่าซีโน่เจเนอิคกับเขาต่อ
ก่อนที่หานเซิ่นจะไปได้ไกล ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ก็บินเข้ามาหาพวกเขา เดียร็อบเบอร์ดูดีใจอย่างมากขณะที่พูดขึ้นมา
“ดอลลาร์ เจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮหรอเนี่ย! มิน่าล่ะ เจ้าถึงได้แข็งแกร่งนัก”
“ข้ากังวลมากเกินไป ถ้าเจ้าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ มันก็ไม่สำคัญว่าไป๋ว่านเจียจะกล้าขนาดไหน เขาจะไม่กล้าแตะต้องเจ้าแม้แต่เส้นผม” ดราก้อนวันพูด
หานเซิ่นและหลี่เคอเอ๋อยิ้มแห้งๆออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่พวกเขาตอบสนองด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันอย่างมาก