Super God Gene – ตอนที่ 2544

เมื่อฟันเฟืองจักรวาลของจันทราสวรรค์เปลี่ยนแปลง ยีนในร่างกายของเธอก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย จิตแห่งดาบของเธอแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆและค่อยๆเข้าใกล้จิตแห่งดาบของสิ่งมีชีวิตที่เธอและกู่ชิงเฉิงสร้างขึ้นมาเมื่อรวมร่างกัน

 

ร่มสีฟ้าถูกปลดปล่อยออกมา มันกางตัวเองเหนือหัวของจันทราสวรรค์โดยอัตโนมัติ จิตแห่งดาบพลุ่งพล่านทั่วร่างกายของจันทราสวรรค์และทำให้ร่างกายของเธอเปลี่ยนแปลงไปยิ่งกว่าเดิม

 

กู่ชิงเฉิงทั้งตกใจและดีใจ ถึงแม้เธอจะไม่มีพลังของอาณาเขตตงเสวียนที่จะแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เธอก็สามารถบอกได้ว่าร่างกายของจันทราสวรรค์แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม มันกลายเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตแห่งดาบของเธอ มันคือภาพแฟรี่แห่งดาบที่เธอฝึก แต่ต่างออกไป จันทราสวรรค์ในตอนนี้เป็นเหมือนกับแฟรี่แห่งดาบที่เธอเคยจินตนาการ เพียงแต่แทนที่จะถือดาบ เธอกลับถือร่มกระดาษแทน

 

ร่มนั้นเป็นเหมือนกับดาบเล่มหนึ่ง กลีบแต่ละกลีบของร่มก็เป็นคมดาบแต่ละคม และพวกมันทั้งหมดก็รวมกันเป็นดาบร่มที่มหัศจรรย์ ขณะที่ดาบร่มเปลี่ยนแปลง ร่างกายของจันทราสวรรค์ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน จิตแห่งดาบเกือบจะกลายเป็นอะไรที่จับต้องได้ ดาบร่มสร้างดาบแสงที่สว่างเหมือนกับดวงอาทิตย์มาห่อหุ้มร่างกายของจันทราสวรรค์เอาไว้ภายใน

 

เมื่อดาบแสงสีฟ้าจางหายไปแล้ว หานเซิ่นและกู่ชิงเฉิงก็ได้เห็นแฟรี่สีฟ้าที่เยือกเย็น เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นและกำลังถือร่มสีฟ้าอยู่ในมือ มันดูเหมือนกับว่าเธอไม่จำเป็นต้องกินอาหารอีกต่อไป เธอเป็นเหมือนกับเทพธิดาจากปราสาทจันทรา

 

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ ในตอนนี้เขาไม่สามารถรู้สึกถึงจิตแห่งดาบของจันทราสวรรค์ได้อีกต่อไป แต่ความจริงที่เธอซ่อนมันจากการตรวจจับของเขาได้นั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่า

เมื่อหานเซิ่นมองจันทราสวรรค์ในตอนนี้ เขาก็รู้สึกว่าเธอไม่ได้อ่อนแอไปกว่าผู้หญิงในตอนที่เธอรวมร่างกับกู่ชิงเฉิง

 

นอกจากการมีร่างกายขั้นสุดยอดแค่ร่างเดียวแล้ว พลังของเธอก็ควรจะแข็งแกร่งเทียบได้กับตอนที่พวกเธอรวมร่างกัน แต่ธรรมชาติของมันแตกต่างไปจากพลังที่การรวมร่างของพวกเธอมี

 

‘วิชาโลหิตชีพจรเป็นวิชาจีโนที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้ แต่ทำไมเราถึงใช้มันกับตัวเองไม่ได้?’
หานเซิ่นรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้ วิชาจีโนที่เขาฝึกนั้นสามารถส่งผ่านยีนไปสู่ลูกหลานของเขาเพื่อช่วยพวกเขาในการวิวัฒนาการ แต่ตัวเขาเองได้รับผลประโยชน์เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น และเขาก็ไม่สามารถใช้มันเพื่อเพิ่มระดับของตัวเองขึ้นได้

 

ความจริงแล้วหานเซิ่นเข้าใจแนวคิดของวิชาจีโนผิดไป ทุกครั้งที่เขาฝึกวิชาโลหิตชีพจร มันค่อยๆปรับปรุงยีนของเขาอย่างช้าๆ วิชาโลหิตชีพจรช่วยให้ยีนของเขาพัฒนาได้ดีขึ้น แต่มันทำงานอย่างเชื่องช้า ในตอนที่หานเซิ่นใช้พลังกับคนอื่น ผลลัพธ์ของมันรวดเร็วและง่ายที่จะสังเกตเห็น

 

มันดูอ่อนแอราวกับว่ามันไม่ได้ส่งผลประโยชน์ต่อตัวหานเซิ่นเอง และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้วิชาโลหิตชีพจรน่ากลัว

 

ผลลัพธ์ของวิชาโลหิตชีพจรอยู่เหนือขอบเขตของตัววิชาจีโนไป

จุดประสงค์ที่แท้จริงของวิชาโลหิตชีพจรคือการทำลายขีดจำกัดของสายเลือดตัวเอง ด้วยเหตุนั้นมันจึงเป็นวิชาจีโนที่ไม่ถูกจำกัดด้วยเทคนิคหรือชุดกระบวนท่า วิชาโลหิตชีพจรนั้นมีศักยภาพที่จะขยายการฝึกฝนของคนๆหนึ่งอย่างไร้ที่สิ้นสุด

 

ปกติคนส่วนใหญ่จะไม่ประสบความสำเร็จอะไรมากนักในชีวิต พวกเขาจะทำงานเท่าที่จำเป็นเพื่อความอยู่รอด และพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในขีดจำกัดที่ถูกกำหนดเอาไว้ คนส่วนใหญ่พึงพอใจกับสิ่งที่เป็น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไป

 

แต่บุคคลที่พิเศษจะทำในสิ่งที่คนอื่นคิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ความสำเร็จของพวกเขาไม่ใช่อะไรที่ถูกรับประกัน

 

วิชาโลหิตชีพจรทำให้ผู้คนก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลที่มันไม่มีขีดจำกัดต่อคนที่ทำการฝึกมัน และไม่เหมือนกับมนุษย์ที่บ่อยครั้งจะท่อแท้กับความล้มเหลว วิชาโลหิตชีพจรนั้นจะไม่มีวันหยุดการพัฒนา

 

ถ้าให้อธิบายอย่างทันสมัย มันก็บอกได้ว่าการที่หานเซิ่นฝึกวิชาโลหิตชีพจร ทำให้เขาอยู่ในจุดสูงสุดที่เทคโนโลยีจะบรรลุได้ ผู้คนที่สืบทอดวิชาโลหิตชีพจรต่อจากเขาก็จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีจะมอบให้ได้ แต่ทว่าคนๆนั้นจะได้รับเทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่หานเซิ่นค้นพบเท่านั้น เขาไม่สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เขาเองไม่เคยค้นพบได้

 

“มันได้ผลไหม?” หานเซิ่นมองจันทราสวรรค์ที่เสร็จสิ้นการวิวัฒนาการ

 

จันทราสวรรค์ส่ายหัว “ร่างกายของข้าแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่ข้ายังรู้สึกได้ถึงการเชื่อมต่อกับนาง”

 

หานเซิ่นหันไปมองกู่ชิงเฉิง กู่ชิงเฉิงส่ายหัวและพูด “ความรู้สึกนั่นยังคงอยู่”

 

หานเซิ่นปลอบพวกเธอ “บางทีมันอาจจะเป็นเพราะยีนของเธอยังไม่เสร็จการซ่อมแซม นั่นเป็นเหตุผลที่ความรู้สึกนั้นยังคงอยู่ บางทีเธอจำเป็นต้องรอจนกระทั่งยีนของเธอซ่อมตัวเองเสร็จก่อนความรู้สึกนั้นถึงจะหายไป”

 

กู่ชิงเฉิงสับสน แต่เธอไม่ได้ต่อต้านพลังของหานเซิ่น เหมือนกับจันทราสวรรค์ เธอเดินมาตรงหน้าหานเซิ่นและรับพลังของวิชาโลหิตชีพจร

 

ฟันเฟืองจักรวาลของเธอแตกต่างไปจากของจันทราสวรรค์ ฟันเฟืองจักรวาลของกู่ชิงเฉิงนั้นมีสีเขียว มันมีสัญลักษณ์ที่เริ่มจะเรืองแสงขึ้นบนฟันเฟืองเช่นเดียวกัน ถึงแม้หานเซิ่นจะแปลความหมายของพวกมันไม่ได้ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าสัญลักษณ์หมายถึง “ดาบ”

 

กระบวนการวิวัฒนาการของกู่ชิงเฉิงนั้นคล้ายคลึงกับจันทราสวรรค์ ร่างกายของเธอเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จิตแห่งดาบของเธอเองก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เมื่อดาบทองแดงเก่าๆปรากฏขึ้น จิตแห่งดาบที่แข็งแกร่งก็ห่อหุ้มตัวของเธอ

 

แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเธอแตกต่างไปจากที่จันทราสวรรค์ประสบ กู่ชิงเฉิงเป็นผู้หญิงที่ดูศักดิ์สิทธิ์มากอยู่แล้ว และเมื่อเธอเปลี่ยนแปลง ออร่าของเธอก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน

 

ออร่าที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นยังคงอยู่ แต่ตอนนี้มันยากขึ้นกว่าเดิมที่จะสัมผัส มันเป็นอะไรที่ลึกลับมากขึ้น

 

ถ้ากู่ชิงเฉิงเคยเป็นแฟรี่ ในตอนนี้เธอก็กลายเป็นเทพธิดาที่ปกคลุมในหมอก ตัวตนของเธอกึ่งโปร่งใส มันทำให้คนอื่นอยากจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ

 

เธอนั้นงดงาม แต่เธอก็ดูเบลอๆ เธอทั้งงดงามและลึกกลับ แม้แต่หานเซิ่นที่จ้องมองเธอก็คิดกับตัวเองว่า ‘เป็นผู้หญิงที่งดงามและอันตรายอะไรอย่างนี้ ถ้านี่เป็นสมัยโบราณ เธอก็คงจะทำลายประเทศไม่ต่างจากต๋าจี๋’

 

‘ไม่สิ นี่คือยุคสมัยของจักรวาลจีโน ถ้ายอดฝีมือที่น่ากลัวของจักรวาลเห็นเธออย่างนี้ มันจะไม่นำมาซึ่งการทำลายล้างของประเทศ มันอาจจะจุดชนวนสงครามที่ทำลายระบบจักรวาลหนึ่งระบบ’ หานเซิ่นมองเธอได้เพียงแค่ไม่กี่นาที หลังจากนั้นเขาก็หันหน้าหนี

 

“เธอรู้สึกยังไง?” หานเซิ่นถาม

 

กู่ชิงเฉิงถอนหายใจและพูด “ฉันกลัวว่านายจะทำให้เรื่องนี้เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม ร่างกายของฉันและจันทราสวรรค์วิวัฒนาการไปยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้ถ้าพวกเรารวมร่างกัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมเป็นพันเท่า”

 

ใบหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนั้น เห็นได้ชัดว่าการเชื่อมต่อของพวกเธอยังคงอยู่

 

แต่หานเซิ่นยังไม่คิดจะยอมแพ้ “ถึงแม้การเชื่อมต่อของพวกเธอจะยังคงอยู่ แต่ถ้าพวกเธอหยุดการชราภาพ พวกเธอก็ไม่มีความจำเป็นต้องรวมร่าง ทุกอย่างก็จะไม่เป็นอะไร”

 

“ข้าไม่รู้ พวกเราจำเป็นต้องรอดูไปอีกสักพักเพื่อดูว่าพวกเราจะแก่ลงไปหรือเปล่า” จันทราสวรรค์พูด

 

“ถ้าอย่างนั้นก็รอดูสัก 2-3 วัน ถ้าวิธีการนี้ไม่ได้ผล พวกเราก็ค่อยมาหาวิธีอื่นอีกครั้ง” หานเซิ่นพูดและภาวนาในใจขอให้การชราภาพอย่างรวดเร็วของพวกเธอหายไป ถ้าวิธีการนี้ล้มเหลวล่ะก็ เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset