2 วันต่อมา กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ก็มารายงานกับหานเซิ่นว่าพวกเธอไม่ได้แก่ตัวลงอย่างรวดเร็วอีกแล้ว ถึงแม้การเชื่อมต่อระหว่างพวกเธอจะยังคงอยู่ แต่พวกเธอก็ไม่มีความจำเป็นต้องรวมร่างกัน
หานเซิ่นถอนหายใจออกมา นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เขาหวัง ถ้าปัญหาไม่ถูกแก้ไขหลังจากที่เขาซ่อมแซมยีนของพวกเธอ เขาก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยวิธีไหน เมื่อปัญหาถูกแก้ไขแล้ว หานเซิ่นก็ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกบิ๊กเดสทรอยเยอร์ และเพื่อให้การฝึกบิ๊กเดสทรอยเยอร์ปลอดภัยที่สุด เขาจึงไม่ได้ใช้พลังกับบิ๊กเดสทรอยเยอร์อย่างเต็มที่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากที่เขาฝึกมันมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็สามารถสร้างแสงของบิ๊กเดสทรอยเยอร์ขึ้นมาได้ แต่แสงบิ๊กเดสทรอยเยอร์ที่เขาสร้างขึ้นมาก็ยังคงไม่พอที่จะฆ่าดยุกคนหนึ่ง นั่นหมายความว่าเขายังไม่สามารถใช้มันกับยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้
แต่ความคืบหน้าก็คือความคืบหน้า แค่นั้นก็ทำให้หานเซิ่นดีใจแล้ว ถ้าเขาสามารถเปิดใช้แสงแห่งเทพของบิ๊กเดสทรอยเยอร์ได้สำเร็จ นั่นก็หมายความว่าการพัฒนาของพลังก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
หานเซิ่นฝึกฝนวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์ต่อไป และยิ่งเขาคุ้นเคยกับการทำงานของแสงแห่งเทพของบิ๊กเดสทรอยเยอร์มากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น
หนึ่งเดือนต่อมา แสงแห่งเทพบิ๊กเดสทรอยเยอร์ของหานเซิ่นก็สามารถย่อยสลายยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้ มันเปลี่ยนยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันกลายเป็นผงกองหนึ่ง
หานเซิ่นใช้วิชาคอนซูมเพื่อกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันที่ถูกย่อยสลายโดยบิ๊กเดสทรอยเยอร์เข้าไป หลังจากนั้นเขาก็สังเกตได้ว่าความเร็วในการย่อยของตัวเองเพิ่มขึ้น ในเวลาหนึ่งวันเขาสามารถกินยีนซีโน่เจเนอิคที่กลายเป็นผุยผงได้เป็นสิบยีน
‘ฮ่าๆๆ! วิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์สร้างความแตกต่างจริงๆ และในตอนนี้เรายังคงไม่ได้ฝึกมันจนเชี่ยวชาญด้วยซ้ำ ถ้าเราฝึกวิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์จนถึงจุดสูงสุดเมื่อไหร่ เราก็คิดคงจะกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันได้เร็วมากๆ เราอาจจะกินยีนซีโน่เจเนอิคหนึ่งร้อยยีนได้ในวันเดียว’
หานเซิ่นดีใจ ในเวลาไม่กี่วันอาณาเขตตงเสวียนของเขาก็เลื่อนไปอีกขั้นหนึ่ง
จันทราสวรรค์และกู่ชิงเฉิงต้องการจะเข้าไปในคอร์แอเรียเพื่อล่าซีโน่เจเนอิค เมื่อพวกเธอบอกหานเซิ่นว่าพวกเธออยู่ที่ไหน เขาก็พบว่าพวกเธออยู่ใกล้ๆกับจุดที่กายหยกส่งเขาเข้าไป เขาจึงบอกให้พวกเธอรอเขาอยู่ที่นั่น เมื่อหานเซิ่นพบกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ พวกเขาก็ออกไปล่าคอร์ซีโน่เจเนอิคด้วยกัน
คนส่วนใหญ่นั้นไม่เคยที่จะกังวลเกี่ยวกับอนาคน พวกเขาแค่กังวลเกี่ยวกับปัจจุบัน หานเซิ่นมียีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันอยู่เป็นจำนวนมาก แต่วิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์และวิชาคอนซูมของเขากำลังแข็งแกร่งขึ้น ถ้าเขาสามารถกินยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยยีนได้ในวันเดียว การกินยีนซีโน่เจเนอิคหนึ่งพันยีนที่เขามีอยู่ก็จะใช้เวลาเพียงแค่อาทิตย์ครึ่งเท่านั้น
กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์เป็นระดับราชันขั้นแรก แต่พลังของพวกเธออยู่เหนือกว่าระดับราชันขั้นแรกทั่วๆไป พลังของพวกเธอเรียกได้ว่าเหมือนกับหานเซิ่นในตอนที่เขาอยู่ระดับราชันขั้นแรก ด้วยเหตุนั้นการฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับราชันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับพวกเธอ
แต่ความเร็วในการย่อยของพวกเธอนั้นช้ากว่าหานเซิ่นที่มีวิชาคอนซูม ถึงแม้หานเซิ่นจะใช้วิชาบิ๊กเดสทรอยเยอร์เพื่อย่อยสลายยีนซีโน่เจเนอิคให้กับพวกเธอ พวกเธอก็กินได้แค่หนึ่งยีนต่อวันเท่านั้น หานเซิ่นไม่ได้รีบร้อนอะไร แต่หลี่เคอเอ๋อกำลังร้อนรน เธอรอคอยดอลลาร์มาเป็นเดือนแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา มันเหมือนกับว่าเขาไม่มีแผนที่จะกลับเข้ามา
“เจ้านั่น” หลี่เคอเอ๋อนั่งอยู่ในยานขณะที่กัดฟันด้วยความโกรธ
“น้องเคอเอ๋อ เวรี่ไฮควรจะไร้อารมณ์ความรู้สึก แต่ตอนนี้เจ้ากำลังถูกความโกรธครอบงำ”
ผู้หญิงที่งดงามปรากฏตัวบนยานของหลี่เคอเอ๋อ เธอยืนออยู่ด้านหลังและมองมาที่หลี่เคอเอ๋อ
“พี่สาม ทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” หลี่เคอเอ๋อหันไปเห็นผู้หญิงชุดเขียวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ด้านหลังของเธอ ผู้หญิงคนนั้นงดงาม แต่เธอไร้ซึ่งความรู้สึก ใบหน้าของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
“พี่ได้ยินว่าเจ้าเลือกคนมาเป็นตัวไหมได้แล้ว พี่เลยอยากเห็นว่าตัวไหมของเจ้าเป็นยังไง” ผู้หญิงชุดเขียวพูด
“เรื่องนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพี่” หลี่เคอเอ๋อแบะปาก
เมื่อเห็นใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อ ผู้หญิงชุดเขียวก็ส่ายหัว
“เจ้าแสดงอารมณ์ออกมามากเกินไป การฝึกฝนของเจ้ายังคงไม่ถึงขั้น พี่กังวลว่าเจ้าจะล้าหลังคนอื่นหรือตัดสินใจเลือกตัวไหมที่แย่จนทำอะไรให้กับเผ่าเวรี่ไฮไม่ได้”
“จะดีหรือแย่ มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของพี่” หลี่เคอเอ๋อพูด
ผู้หญิงชุดเขียวไม่ได้โกรธ เธอทำเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ยินอะไรที่หลี่เคอเอ๋อพูด
“มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะยอมหรือไม่ พี่เป็นพี่ของเจ้า พี่จะไม่ปล่อยให้เจ้าล้มเหลว”
ก่อนที่หลี่เคอเอ๋อจะได้ตอบอะไรกลับไป ผู้หญิงชุดเขียวก็พูดต่อ
“โอเค ตอนนี้บอกพี่มาว่าคนที่เจ้าเลือกอยู่ที่ไหน? ให้พี่ดูว่าเขามีความสามารถพอจะรับใช้เผ่าเวรี่ไฮหรือเปล่า”
“ตอนนี้เขาไม่อยู่ที่นี่” หลี่เคอเอ๋อพูด
“ทำไมไม่เรียกเขามา” ผู้หญิงชุดเขียวพูด
“ข้ายังไม่ได้บอกเขาว่าข้าต้องการตัวเขา ข้าเลยไม่มีวิธีติดต่อกับเขา ถ้าพี่ฉลาดมากนัก ทำไมพี่ไม่ไปหาตัวเขามาให้ข้าล่ะ?” หลี่เคอเอ๋อพูดแดกดัน
“เจ้ายังไม่ได้บอกเขาอีกอย่างนั้นหรอ? นี่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้ามัวทำอะไรอยู่?” ผู้หญิงชุดเขียวขมวดคิ้ว เธอไม่ค่อยพอใจกับความล่าช้าของหลี่เคอเอ๋อ
หลี่เคอเอ๋อหน้าแดง เธอพยายามจะโน้มน้ามหานเซิ่นอยู่นาน แต่มันไม่ได้ผลอย่างที่เธอหวังเอาไว้ และเธอก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกเขาว่าเธอเป็นใคร
ผู้หญิงชุดเขียวมองใบหน้าของหลี่เคอเอ๋อ แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา บางสิ่งในดวงตาของเธอหมุนวนราวกับว่ากาแล็กซี่กำลังหมุนอยู่ภายในดวงตาของเธอ
“บอกพี่มาว่าเป้าหมายของเจ้าคือใคร” ดวงตาของผู้หญิงชุดเขียวดูน่าอัศจรรย์
“ถ้าพี่ฉลาดมากนัก ทำไมพี่ไม่เดาเองล่ะว่าคนๆนั้นเป็นใคร?” หลี่เคอเอ๋อพูดด้วยอารมณ์บูดบึ้ง
ผู้หญิงชุดเขียวยังไม่โกรธ เธอแค่ยื่นมือออกมาจับหนึ่งในเส้นผมของหลี่เคอเอ๋อ หลังจากนั้นเธอก็จ้องมองเส้นผมนั้นด้วยดวงตาที่เป็นประกายของเธอ
ดวงตาที่เหมือนกับกาแล็กซี่ที่กำลังหมุนของเธอแสดงภาพของหลี่เคอเอ๋อออกมา และภาพนั้นก็เริ่มย้อยหลังไปราวกับว่าผู้หญิงชุดเขียวกำลังย้อนเวลาเพื่อดูสิ่งที่หลี่เคอเอ๋อทำ ทุกสิ่งทุกอย่างที่หลี่เคอเอ๋อทำในหลายวันที่ผ่านมาถูกแสดงในดวงตาของผู้หญิงชุดเขียว กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งถึงตอนที่หลี่เคอเอ๋อแยกทางกับหานเซิ่น
“เขาคือเป้าหมายของเจ้าใช่ไหม? ดอลลาร์ ข้าเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน ใช่แล้ว เขาคือคนที่เอาชนะไผ่เดียวดายและได้อันดับที่หนึ่งในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน”
ผู้หญิงชุดเขียวพูด หลังจากนั้นเธอก็หยุดมองและดวงตาของนางก็กลับเป็นปกติ เส้นผมเส้นนั้นสลายกลายเป็นผุยผงในมือของเธอ
“พี่สาว พี่สามอ่านอดีตของข้าโดยไม่ขออนุญาตจากข้าได้ยังไงกัน?” หลี่เคอเอ๋อฟังดูรำคาญ
“พฤติกรรมแบบนี้ไม่เหมาะสมสำหรับเผ่าเวรี่ไฮ” ผู้หญิงชุดเขียวส่ายหัวต่อการประท้วงของหลี่เคอเอ๋อ หลังจากนั้นดวงตาของเธอก็เริ่มหมุนอีกครั้งและพูด
“ให้พี่ช่วยดูว่าดอลลาร์คนนี้กำลังทำอะไรอยู่ พี่จะช่วยดูว่าเขาเป็นตัวไหมของเจ้าได้หรือไม่”
ดวงตาของเธอหมุนวนและแสงก็แว็บขึ้นมา หลังจากนั้นเงาของหานเซิ่นก็เริ่มปรากฏให้เห็น