ตอนที่ 2573 ศักยภาพของยีน
“นี่เจ้าวิเคราะห์ไม่ผิดแน่นะ? นางไม่ใช่คนเผ่านภาอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นถามกราสเซสในใจ เขาพยายามจะเก็บความประหลาดใจเอาไว้ขณะที่อ่านรายงานการวิเคราะห์ที่เหลือ
“เป้าหมาย: เวรี่ไฮเพศหญิง อายุยีน: 23 ปี”
“ระดับยีน: ราชันขั้นที่ 9”
“ศักยภาพยีน: 5 ดาว”
“ฐานข้อมูลคริสตัลเฟอร์เนสมีข้อมูลยีนมากมายเกี่ยวกับเผ่าเวรี่ไฮ จากการวิเคราะห์ยีนของเป้าหมาย ยีนของเธอตรงกับยีนของเวรี่ไฮ 87.675 เปอร์เซ็นต์ ยีนของเธอเชื่อมโยงกับเผ่านภาแค่ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นโอกาสที่เป้าหมายจะเป็นสมาชิกเผ่าเวรี่ไฮคือ 99.99 เปอร์เซ็นต์” กราสเซสตอบ
หานเซิ่นรู้อยู่แล้วว่าเอ็กซ์ควิสิทเป็นระดับราชันขั้นที่ 9 ซึ่งนั่นพิสูจน์ว่ากราสเซสไม่ได้พูดออกมาอย่างมั่วๆ
“อย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะเราถึงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทในปราสาทนภา ที่แท้พวกก็ไม่ใช่คนเผ่านภา” หานเซิ่นสรุป
“ถ้าอย่างนั้นศักยภาพยีนหมายความว่ายังไง? จำนวนดาวสูงที่สุดคือเท่าไหร่?” หานเซิ่นถาม
“ศักยภาพยีนหมายถึงความยากง่ายที่สิ่งมีชีวิตหนึ่งจะเจริญเติบโต จากฐานข้อมูลคริสตัลเฟอร์เนส จำนวนดาวสูงสุดคือสิบดาว” กราสเซสตอบ
“ไม่มีทาง จำนวนดาวสูงสุดคือสิบดาวและสมาชิกของเผ่าเวรี่ไฮได้แค่ 5 ดาวเนี่ยนะ?”
หานเซิ่นคลางแคลงใจอย่างมากกับผลลัพธ์นี้ เพราะเผ่าเวรี่ไฮถูกยกให้เป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลจีโน ถึงแม้ยีนของพวกเขาจะไม่ได้ดีที่สุด แต่มันก็ไม่ควรจะต่ำแบบนี้
“นี่เจ้ากำลังทำอะไร?” เอ็กซ์ควิสิทถามพร้อมกับขมวดคิ้ว หานเซิ่นยืนอยู่ที่เดิมและจ้องมาที่เธออยู่เป็นเวลานาน
“ไม่มีอะไร ข้าแค่กำลังคิดวิธีที่จะหนีออกไปจากที่นี่” หานเซิ่นพูด
“เจ้าคิดวิธีได้หรือยัง?” เอ็กซ์ควิสิท
“ยังไม่ได้” หานเซิ่นส่ายหัว
“ถ้าอย่างนั้นก็รอการช่วยเหลืออยู่เฉยๆ พวกเราหายตัวมาเป็นเวลาสักพักแล้ว ตอนนี้คนของพวกเราคงจะกำลังคิดหาหนทางมาช่วยพวกเรา” เอ็กซ์ควิสิทพูด หลังจากนั้นเธอก็เดินจากไป
หานเซิ่นอ้าปาก เขาอยากจะถามเธอว่าเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮจริงๆหรือไม่ แต่ถ้าเธอเลือกจะไม่เปิดเผยข้อมูลของตัวเองออกมา มันก็ต้องมีเหตุผลอยู่ ตัวเขาเองก็รู้เรื่องนั้นเป็นอย่างดี เพราะเขาเองก็ไม่ได้บอกคนอื่นไปทั่วว่าเขาเป็นมนุษย์ เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ถาม
“สำหรับระดับราชัน ศักยภาพยีนสูงที่สุดคือ 5 ดาว มีแค่ระดับเทพเจ้าที่เริ่ม 6 ดาวในการวิเคราะห์” กราสเซสตอบ
“ถ้าอย่างนั้นข้าได้กี่ดาว?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้
“ดำเนินการเก็บข้อมูล…ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล…ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล…” กราสเซสเริ่มการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล เว้นแต่ครั้งนี้มันใช้เวลานาน
“ยีนไม่เสถียร…ไม่สามารถยืนยัน…ไม่สามารถยืนยัน…” การวิเคราะห์ข้อมูลดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่ามันจะไม่มีการเสร็จสิ้น
“ช่างเถอะ มันไม่มีความจำเป็นต้องวิเคราะห์ต่อ” หานเซิ่นพูด กราสเซสพูด‘ไม่สามารถยืนยัน’ซ้ำๆจนทำให้หานเซิ่นรู้สึกรำคาญ
กราสเซสหยุดพูดและข้อมูลบนเลนส์ของแว่นตาก็หายไป
‘จริงด้วย เราควรจะไปเพื่อให้แว่นตานี้วิเคราะห์ว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าใหญ่และจระเข้น้อยอยู่ระดับไหน’ หานเซิ่นคิด หัวใจของเขาเริ่มจะเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม ขณะที่เขาตรงไปที่สระว่ายน้ำ
หานเซิ่นเห็นว่าจระเข้ระดับเทพเจ้าใหญ่ยังคงนอนหลับบนเก้าอี้อาบแดดขณะที่หลี่เคอเอ๋อนวดหัวของมัน ด้วยความอยากรู้หานเซิ่นก็ลองทำการทดสอบกับหลี่เคอเอ๋อก่อน
ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคล้ายคลึงกับเอ็กซ์ควิสิท ผลที่ออกมานั้นบอกว่าหลี่เคอเอ๋อเองก็เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮเช่นกัน และเธอเองก็ได้แค่ 5 ดาว แต่เธอเด็กกว่า จากการคำนวณอายุยีนของคริสตัลไลเซอร์ หลี่เคอเอ๋อยังอายุแค่ 16 ปี
“ครั้งนี้ข้าเชื่อเจ้า” หานเซิ่นหันไปมองที่จระเข้ระดับเทพเจ้าตัวใหญ่ เขาเห็นตัวเลขเคลื่อนผ่านเลนส์ของแว่นขณะที่มันเริ่มวิเคราะห์ข้อมูล แต่หลังจากผ่านไปสักพัก ผลลัพธ์ก็ยังคงไม่ออกมา
“ไม่มีทางที่เจ้าจะวิเคราะห์มันไม่ได้” หานเซิ่นเริ่มจะสงสัยในการทำงานของแว่นตานี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็เห็นภาพและข้อมูลของจระเข้ระดับเทพเจ้าปรากฏขึ้นมา
“เป้าหมาย: จระเข้แรงโน้มถ่วง เพศเมีย อายุยีน: 1.365 พันล้านปี”
“ระดับยีน: เทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่น”
“ศักยภาพยีน: 7 ดาว”
“การวิเคราะห์ของเจ้านี่ไม่แม่นยำเอาซะเลย ระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นมีศักยภาพยีนแค่ 7 ดาวเนี่ยนะ?” หานเซิ่นเริ่มจะสงสัยในการผลการวิเคราะห์ของกราสเซส
“ศักยภาพยีนของจระเข้แรงโน้มถ่วงคือ 4 ดาว มันมีขีดจำกัดของระดับที่จะบรรลุได้ แม้จะปรับปรุงแล้ว ศักยภาพยีนของมันก็ขึ้นไปอยู่ที่ 7 ดาวเท่านั้น มันไม่อาจจะก้าวข้ามขั้นทรานส์มิวเทชั่นไปได้ ถ้ามันไม่มีการกลายพันธุ์ของยีน โอกาสที่จะไปถึงขั้นลาร์วาคือหนึ่งในพันล้าน”
“เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรอ? นี่เจ้ามีข้อมูลเกี่ยวกับระดับเทพเจ้าเพื่อใช้เปรียบเทียบมากขนาดนั้นเลย?” หานเซิ่นถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“นี่เป็นผลลัพธ์หลังจากการเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าอื่น จากฐานข้อมูล ถ้าไม่มีศักยภาพยีนถึง 9 ดาว สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้านั้นก็ไม่อาจจะไปถึงขั้นทรูก็อตได้” กราสเซสตอบ
หานเซิ่นหันไปมองที่จระเข้ระดับเทพเจ้าน้อย และกราสเซสก็เริ่มการทำงานอีกครั้ง
หลังจากผ่านไปสักพัก หานเซิ่นก็อ่านผลลัพธ์ที่ออกมา
“เป้าหมาย: จระเข้แรงโน้มถ่วงเพศผู้ อายุยีน: 1เดือน 7 วัน”
“ระดับยีน: เทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ”
“ศักยภาพยีน: 9 ดาว”
“นี่มันอะไรกัน เจ้าตัวน้อยนี้เป็นลูกของจระเข้ระดับเทพเจ้าแรงโน้มถ่วงนั้น แต่ทำไมมันถึงได้ 9 ดาว?” หานเซิ่นถาม
“จระเข้แรงโน้มถ่วงตัวนี้เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด ยีนของมันกลายพันธุ์จนเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า จากยีนของจระเข้แรงโน้มถ่วงทั้ง 2 ตัว พวกมันจะต้องเป็นแม่ลูกกัน”
“จริงหรือเนี่ย? เจ้าตัวน้อยนี้มีศักยภาพพอที่จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต?” หานเซิ่นมองไปที่จระเข้น้อย
จระเข้น้อยรู้สึกตัวว่าหานเซิ่นจ้องมาที่มัน ดังนั้นมันจึงมองมาที่หานเซิ่นด้วยความดูถูก แต่เอ็กซ์ควิสิทยังคงขัดเกล็ดของมัน ดังนั้นมันจึงไม่ได้ทำอะไร
“ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า 9 ดาวกลายเป็นขั้นทรูก็อตได้ แต่มันไม่มีอะไรรับประกัน” กราสเซสตอบ
หานเซิ่นเมินเฉยต่อสิ่งที่กราสเซสพูด ขณะที่เขาพยายามคิดหาหนทางที่จะลักพาตัวจระเข้น้อยไป
แต่หานเซิ่นนึกขึ้นมาได้ว่าไม่สามารถพาซีโน่เจเนอิคออกไปจากที่นี่ได้ ดังนั้นการลักพาตัวเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์
หลังจากที่คำนึงเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ของกราสเซส หานเซิ่นก็ตัดสินใจเชื่อในตัวมัน ถ้าคริสตัลไลเซอร์ออกแบบเครื่องมือนี้มาด้วยตัวพวกเขาเอง พวกเขาก็คงจะไม่สามารถเก็บข้อมูลของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าได้มากนัก
แต่คนของคริสตัลไลเซอร์ได้ช่วยเหลือผู้นำเซเคร็ดในการวิจัยเรื่องราวของยีน และท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เข้าควบคุมก็อตแซงชัวรี่ต่อจากผู้นำเซเคร็ด หานเซิ่นจึงเชื่อว่าพวกเขาต้องได้รับข้อมูลมาจากเซเคร็ด
สำหรับคนอย่างผู้นำเซเคร็ดแล้ว มันคงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรในการเก็บรวบรวมข้อมูลของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า ในยุคสมัยนั้นเผ่าเวรี่ไอและแอนเชี่ยนท์ก็อตต้อยต่ำกว่าเซเคร็ดมาก
แม้แต่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงเองก็ยังเป็นแค่ทาสรับใช้ของเซเคร็ด ถ้าผู้นำเซเคร็ดต้องการข้อมูลยีนของพวกเขา มันก็เป็นเรื่องง่ายมากที่เขาจะเก็บรวบรวมพวกมัน
เพราะยังไงซะการรวบรวมข้อมูลยีนก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้านั้นๆ มันแค่จำเป็นต้องใช้เส้นผมหรือตัวอย่างทางดีเอ็นเออื่นๆ ถ้าผู้นำเซเคร็ดต้องการเส้นผมสักเส้น ใครกันที่กล้าจะปฏิเสธคำขอของเขา
ตอนนี้หานเซิ่นอยากจะกลับไปที่บ้านและลองใช้มันวิเคราะห์หลิงเอ๋อลูกสาวของเขา เขาอยากรู้ว่าเธอมีศักยภาพยีนมากแค่ไหน
แต่ตราบใดที่เขาอยู่ภายใต้การควบคุมของจระเข้ระดับเทพเจ้าทั้ง 2 เขาก็ไม่สามารถไปที่ไหนได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงต้องอดทนเอาไว้และเก็บกวาดป้อมปราการต่อไปเผื่อในกรณีที่มันยังมีอะไรอย่างอื่นอีก กราสเซสสามารถทำได้แค่สแกน วิเคราะห์และเปรียบเทียบ มันไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นได้