ตอนที่ 2592 การต่อสู้ที่เลวร้าย
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเปลวไฟ และพวกมันทั้งหมดก็ตรงเข้าไปหาเหมิงเลี่ย เหมิงเลี่ยแกว่งมีดและทะเลไฟก็แยกออกราวกับว่าถูกตัดด้วยกรรไกร
ทันใดนั้นแสงของมีดสีทองก็บินตรงมาทางนกแดงน้อย ถ้านกแดงน้อยหลบไม่ทัน ร่างกายของมันก็คงจะถูกตัดจนขาดครึ่ง
“เหมิงเลี่ยทรงพลังอะไรขนาดนี้ ร่างกายแห่งราชันโกลโซลเยอร์แข็งแกร่งมากๆ” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะชื่นชมคู่ต่อสู้
เหมิงเลี่ยเป็นระดับเทพเจ้าขั้นทรานมิวเทชั่น และเมื่อเขาเปลี่ยนซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งให้กลายเป็นทหาร ความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีก แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟก็ยากจะต่อสู้กับคนอย่างเขาได้
ร่างกายของหานเซิ่นเรืองแสงสีรุ้งออกมา ระหว่างนิ้วมือของเขาถือลูกธนูที่อาบด้วยแสงสีรุ้งนั่น เขาดึงสายคันธนูงูหกคอร์ไปด้านหลังและยิงลูกธนูออกไปใส่เหมิงเลี่ย
ในจังหวะที่ลูกธนูแสงสีรุ้งถูกปล่อยจากนิ้วมือของหานเซิ่น มันก็หายลับไป เมื่อมันปรากฏอีกครั้ง มีดหัวสิงโตทองของเหมิงเลี่ยก็ฟันถูกหัวลูกธนูแสงสีรุ้ง มันทำลายลูกธนูอย่างง่ายดาย ซึ่งทำให้หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ
ด้วยเหตุผลบางอย่างเหมิงเลี่ยมองเห็นลูกธนูขณะที่มันเทเลพอร์ต เขาทำลายลูกธนูได้อย่างง่ายดาย พลังของเขาเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัว
“พลังขั้นทรานมิวเทชั่นน่ากลัวถึงขนาดนั้นเลย? ถ้าอย่างนั้นขั้นทรูก็อตจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน?” หานเซิ่นถอนหายใจ เหมิงเลี่ยฟันใส่หานเซิ่นราวกับเทพสีทองที่ปกครองทั้งท้องฟ้า
มีดนั่นกลืนกินทั้งอวกาศ และมันก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขาไม่สามารถหลบหลีกมันได้
ถ้าหานเซิ่นฝึกก็อตส์วอนเดอร์ถึงขั้นสูงสุด เขาก็สามารถเทเลพอร์ตไปได้ทุกหนทุกแห่งที่เขาต้องการ เขาอยากจะเทเลพอร์ตหนีไปจากมีดแสงสีทอง แต่การทำแบบนั้นอยู่เหนือความสามารถของเขาในตอนนี้
ดวงตาของเขาเป็นเหมือนกับสายฟ้า ขณะที่เขานำแส้เหล็กทองแดงสีม่วงออกมาและใช้มันฟาดขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
ปัง!
มีดเส้นไหมของเขาถูกทำลายโดยมีดแสงสีทองที่น่ากลัว และหานเซิ่นกับแส้เหล็กทองแดงสีม่วงก็ถูกส่งกระเด็นออกไป แส้เหล็กทองแดงสีม่วงสั่นอย่างรุนแรงและแขนของหานเซิ่นก็เกือบจะถูกตัดจนขาด กล้ามเนื้อในมือของเขาเกิดแผลลึกจนกระดูกเผยให้เห็นผ่านรอยแผล
“เจ้าป้องกันมีดแสงของข้าได้โดยที่อาวุธไม่แตกกระจาย นั่นคงจะต้องเป็นอาวุธระดับเทพเจ้าที่ดีมากๆ นี่เจ้ามีอาวุธระดับเทพเจ้าอยู่กี่ชิ้นกันแน่?” เหมิงเลี่ยมองแส้เหล็กทองแดงสีม่วงในมือหานเซิ่นด้วยความแปลกใจ
หานเซิ่นไม่ได้ตอบอะไร เขาขมวดคิ้วและมองไปที่แส้เหล็กทองแดงสีม่วง
‘เจ้าสิ่งนี้ใช้ได้ผลกับแค่เจ้ามอนสเตอร์ที่อยู่ในกระเพาะของแมงมุมหลุมดำหรือยังไง?’
แส้เหล็กทองแดงสีม่วงเป็นอาวุธเผ่าพันธุ์ มันอาวุธทรงพลังเท่ากับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต แต่ตอนนี้แส้เหล็กทองแดงสีม่วงดูห่วยแตกมากๆ
แต่หานเซิ่นก็คาดเดาไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ เขายังไม่รู้ว่าแส้เหล็กมีพลังแบบไหนกันแน่ ดังนั้นพลังที่แท้จริงของมันจึงยังไม่ถูกแสดงออกมา
แถมหานเซิ่นยังอ่อนแอเกินไป เขาไม่สามารถใช้แส้เหล็กอย่างเต็มประสิทธิภาพของมันได้ และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดด้วย
“หานเซิ่น เจ้าคงจะรู้ว่าข้าออมมือให้กับเจ้าในการโจมตีครั้งแรก ถ้าเจ้ายังไม่เข้าใจ การโจมตีครั้งต่อไปจะไม่ได้เบาแบบนั้น” เหมิงเลี่ยพูดขณะที่ค่อยๆเข้าไปหาหานเซิ่น
ทุกสิ่งที่อยู่รอบๆสั่นสะเทือนภายใต้เสียงของเหมิงเลี่ย แม้แต่ร่างกายของหานเซิ่นก็สั่นเล็กน้อย
แต่หานเซิ่นไม่ได้สั่นเพราะหวาดกลัว มันเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของเขาเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง เขาตื่นเต้นที่จะได้ต่อสู้และปลดปล่อยพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวออกมา
นี่เป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี และมันเป็นการต่อสู้ที่เขาต้องชนะเท่านั้น เขาจะแพ้ไม่ได้ เพราะถ้าเขาพ่ายแพ้ ผู้คนทั้งหมดที่ติดตามเขาก็จะถูกฆ่าตายไปด้วย
หานเซิ่นมองเหมิงเลี่ยที่กำลังเข้ามาข้างหน้าราวกับเทพ วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงของเขาหมุนอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่เหมิงเลี่ยจะโจมตีอีกครั้ง กลาสเซสก็วิเคราะห์ชายคนนั้นให้กับเขา
“เป้าหมาย: เอ็กซ์ตรีมคิงชาย อายุยีน: 12,300 ปี”
“ระดับยีน: เทพเจ้าขั้นทรานมิวเทชั่น”
“ศักยภาพยีน: 8ดาว”
หานเซิ่นแปลกใจ ดูเหมือนเกณฑ์การประเมินศักยภาพยีนจะสูงกว่าที่เขาคาดเอาไว้ แม้แต่เทพเจ้าขั้นทรานมิวเทชั่นของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังได้แค่ 8 ดาว ศักยภาพยีนของเผ่าพันธุ์ที่ต่ำกว่าก็คงจะต่ำลงไปยิ่งกว่านี้ ดังนั้นการที่อี๋ซาได้ถึง 8 ดาวถือว่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจ
แต่ในตอนนี้หานเซิ่นไม่มีเวลามาสนใจว่าเหมิงเลี่ยจะได้รับดาวกี่ดาว ตอนนี้เหมิงเลี่ยคือศัตรูระดับเทพเจ้าขั้นทรานมิวเทชั่นที่เขาต้องกำจัดให้ได้
“เป้าหมาย: ไลอ้อนเพศผู้ อายุยีน: 163,000 ปี”
“ระดับยีน: เทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ”
“ศักยภาพยีน: 6 ดาว”
นี่เป็นข้อมูลของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่กลายเป็นมีด แต่ข้อมูลนั้นไม่ได้มีความหมายอะไร ภายใต้อิทธิพลของร่างกายแห่งราชันโกลโซลเยอร์ของเหมิงเลี่ย ซีโน่เจเนอิคที่กลายเป็นมีดก็ได้รับพลังที่มากกว่าที่เคยมีมาก่อน
การโจมตีอีกครั้งกำลังตรงเข้ามา มีดแสงสีทองฉีกผ่านจักรวาลและตัดผ่านอวกาศอย่างง่ายดาย ดวงตาของหานเซิ่นแว็บแสงสีแดงและร่างกายทั้งร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเช่นกัน ในจังหวะที่มีดแสงสีทองมาถึง ตัวของเขาก็หายลับไป
เหมิงเลี่ยขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้มองไปรอบๆ เขารู้ว่าหานเซิ่นหายไปไหน เขาใช้มือข้างซ้ายเพื่อควักลูกตาของตัวเองออกมา
ปัง!
ดวงตาของเหมิงเลี่ยระเบิด และสายธารสีทองที่เหมือนกับเลือดก็ไหลออกมา หานเซิ่นร่วงออกมาพร้อมกับมัน
หานเซิ่นใช้พลังของวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อตเพื่อส่งตัวเองเข้าไปในดวงตาของเหมิงเลี่ย เขาไม่รู้ว่าเหมิงเลี่ยจะเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อผลลัพธ์ เขายินดีที่จะทำลายดวงตาตัวเองเพื่อทำให้หานเซิ่นออกมา
“หานเซิ่น เลิกใช้ลูกไม้กับข้าได้แล้ว พวกมันไม่มีผลกับคนอย่างข้า”
ดวงตาของเหมิงเลี่ยยังคงมีเลือดสีทองไหลออกมาเล็กน้อย แต่ทว่าบาดแผลยังไม่ได้ฟื้นตัวจนสมบูรณ์ ซึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้หานเซิ่นเข้าไปข้างในดวงตาอีกครั้ง
เหมิงเลี่ยตาบอดไป แต่เขาก็ยังคงเห็นหานเซิ่น มันเหมือนกับว่าเขาเห็นทุกการเคลื่อนไหวที่หานเซิ่นทำ
เหมิงเลี่ยแกว่งมีดหัวสิงโตทองอีกครั้ง และมีดแสงสีทองก็พุ่งออกไปใส่หานเซิ่น มันเหมือนกับว่าทั้งกาแล็กซี่กำลังจะพังทลาย
เสือคลุมวิญญาณราชานกยูงกางปีกออกมา โซ่สสารสีรุ้งของมันห้อมล้อมหานเซิ่น มันเชื่อมต่อกับแส้เหล็กทองแดงสีม่วงที่หานเซิ่นใช้เป็นลูกธนู
หานเซิ่นดึงสายธนูงูหกคอร์ไปไกลที่สุดเท่าที่ทำได้และยิงแส้เหล็กทองแสงสีม่วงออกไป
แส้เหล็กทองแดงสีม่วงหายลับไปในแสงสีรุ้ง และเมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันก็ปะทะเข้ากับมีดแสงสีทองที่น่ากลัว
หานเซิ่นไม่ได้กังวลว่าแส้เหล็กทองแดงสีม่วงจะถูกทำลาย เพราะยังไงซะอาวุธเผ่าพันธุ์ก็ไม่ใช่อะไรที่จะถูกทำลายง่ายๆ และถึงมันจะถูกทำลายไป หานเซิ่นก็ไม่ได้เสียใจมากนัก เพราะเขาไม่ต้องการจะมีหางและหูจิ้งจอก
ปัง!
แส้เหล็กทองแดงสีม่วงและมีดแสงสีทองปะทะกัน มันเหมือนกับดวงอาทิตย์เพิ่งจะระเบิดและเกิดเป็นคลื่นกระแทกที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ
หานเซิ่นมองดูการระเบิดครั้งใหญ่และเห็นแส้เหล็กทองแดงสีม่วงหมุนควงกลับมา หานเซิ่นรับมันเอาไว้ และเขาก็ต้องประหลาดใจที่เห็นว่ามันไม่มีรอยขีดข่วนเลย
เหมิงเลี่ยมองไปที่แส้เหล็กทองแดงสีม่วงด้วยความตกใจ เขาใช้พลังไปมากกับการโจมตีครั้งนี้ แต่แส้เหล็กกลับระเบิดมีดแสงของเขาได้โดยที่มันไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย นั่นเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
“มันเป็นอาวุธระดับเทพเจ้าที่เหมือนกับโล่เมดูซ่าส์เกซอย่างนั้นหรอ?” เหมิงเลี่ยจ้องมองไปที่แส้เหล็กทองแดงสีม่วงของหานเซิ่น
หานเซิ่นมองดูสภาพที่ไร้รอยขีดข่วนของแส้เหล็กทองแดงสีม่วงด้วยความดีใจ
‘ไม่รู้ว่าพลังที่แท้จริงของแส้เหล็กนี้คืออะไร แต่ดีมากๆที่มันป้องกันมีดแสงของเหมิงเลี่ยได้’
ขณะที่หานเซิ่นคิดอยู่นั้น เขาก็ใส่แส้เหล็กกลับไปที่สายของธนูงูหกคอร์และเล็งไปที่เหมิงเลี่ย