ตอนที่ 2594 โล่เมดูซ่าส์เกซ
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้บางสิ่งเกี่ยวกับแส้เหล็กเทพเสน่หา แต่เจ้ารู้หรือว่าพลังของมันคืออะไร?”
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวๆ เหมิงเลี่ยอาจจะบอกเขาได้ว่าแส้เหล็กทองแดงสีม่วงนั้นมีพลังแบบไหนกันแน่
เหมิงเลี่ยมองหานเซิ่นราวกับรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังพูดออกมา
“เจ้าคงจะต้องผิดหวังแล้ว แส้เหล็กเทพเสน่หาเป็นอาวุธเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นอาวุธเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุด มันแข็งแกร่งก็เพราะมันมีพลังในการเสริมความมีเสน่ห์ให้กับผู้ใช้ อัลฟ่าของเผ่าจิ้งจอกใช้มันเพื่อทำให้ทุกคนหลงเสน่ห์ ถ้าใช้มันอย่างถูกวิธี มันก็จะทำให้เผ่านับพันยอมเชื่อฟัง และที่ข้าบอกว่ามันเป็นอาวุธเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุด นั่นก็เป็นเพราะมันไม่มีพลังทำลายล้าง”
“เจ้าจะบอกว่าเพราะมันไม่มีพลังทำลายล้าง มันจึงเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นไม่เชื่อ
เขายิงมันออกไปใส่เหมิงเลี่ย คลื่นกระแทกเกิดขึ้นในอวกาศและแส้เหล็กก็หายลับไป
ในตอนที่หานเซิ่นใช้แส้เหล็กจัดการกับเจ้ามอนสเตอร์ที่อยู่ในท้องของแมงมุมหลุมดำ มันเผยพลังที่แท้จริงออกมา หานเซิ่นจึงไม่เชื่อว่ามันจะขาดพลังทำลายล้าง
เมื่อการโจมตีของหานเซิ่นออกมา เหมิงเลี่ยก็ฟันใส่ไปที่แส้เหล็ก การโจมตีของเขาส่งแส้เหล็กทองแดงสีม่วงพุ่งกลับไป
สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไป เขายื่นมือออกไปเพื่อจะจับแส้เหล็กเอาไว้ แต่พลังของอาวุธยังคงอยู่ หานเซิ่นพยายามจะจับมันเอาไว้ แต่แส้เหล็กก็ยังพุ่งมาถูกอกของเขา หานเซิ่นถูกส่งกระเด็นออกไปราวกับอุกกาบาตร เขาถูกตรึงกับภูเขาลูกหนึ่ง หานเซิ่นก้มหัวลงและมองแส้เหล็กที่ปักอยู่ที่อก ก่อนหน้านี้แส้เหล็กเพิ่งจะปักอกของเหมิงเลี่ยไป เขาไม่ได้คิดว่ากรรมจะตามสนองเร็วถึงขนาดนี้
หานเซิ่นจับด้ามของแส้เหล็กเอาไว้แน่นและพยายามจะดึงมันออกมา แต่ก่อนที่เขาจะออกแรง ร่างกายสีทองของเหมิงเลี่ยก็มาปรากฏต่อหน้าเขา เหมิงเลี่ยโจมตีด้วยมีดหัวสิงโตทอง มีดแสงสีทองดูเหมือนกับว่ากำลังจะตัดดวงดาวจนขาดครึ่ง
นกแดงน้อยร้องคำราม มันพ่นไฟออกมาเป็นทะเลเพลิงที่โหมกระหน่ำลงมาใส่เหมิงเลี่ย มันพยายามจะหยุดเหมิงเลี่ยจากการโจมตีหานเซิ่น
แต่นกแดงน้อยเป็นแค่เทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น และมีดในมือขวาของเหมิงเลี่ยก็เป็นระดับเดียวกัน เขารวบรวมพลังให้กลายเป็นโล่ที่ปกคลุมท้องฟ้าเพื่อดับเปลวไฟของนกแดงน้อย
เมื่อเห็นแบบนั้น คุณหญิงมิร์เรอร์ก็ถอนหายใจออกมา
“ที่สุดแล้วหานเซิ่นก็ยังต้องตาย มันจะดีกว่าถ้าเขาแค่ฆ่าไป๋อี้ เขาอาจจะถูกไว้ชีวิต แต่ตอนนี้เขามีโล่เมดูซ่าส์เกซขั้นทรูก็อตและอาวุธเผ่าพันธุ์ของเผ่าจิ้งจอก เขาจะต้องตาย”
ตูม!
มีดแสงสีทองที่น่ากลัวถูกปล่อยออกไปและดาวทั้งดวงก็ระเบิด แรงระเบิดที่เกิดจากมีดแสงสีทองนั้นสว่างไสวและคลื่นกระแทกก็ซัดไปทั้งระบบจักรวาล
“หานเซิ่น” อี๋ซากำลังต่อสู้กับคุณหญิงมิร์เรอร์ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถไปช่วยได้ เมื่อเธอเห็นแรงระเบิดนั่น เธอก็หน้าซีดไป
“กัปตัน! มันจบสิ้นแล้ว” จากในระยะที่ไกลออกไป ภายในวาฬขาวโจรสลัดทุกคนตกตะลึง
แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าคนหนึ่งก็จะถูกฆ่าตาย ถ้าพวกเขาถูกพลังมหาศาลอแบบนั้นเข้า แถมหานเซิ่นยังไม่ใช่ระดับเทพเจ้า เขาแค่มีสมบัติระดับเทพเจ้าเท่านั้น
เหล่าโจรสลัดกำลังคิดว่าควรจะคุกเข่ายอมแพ้ดีไหม ถ้าพวกเขาทำแบบนั้น มันก็โอกาสที่พวกเขาจะรอด ส่วนทางด้านอัศวินเอ็กซ์ตรีมคิงที่ถูกจับตัวเป็นเฉลยรู้สึกดีใจ
“หานเซิ่นตายไปแล้ว และพวกเจ้าจะเป็นรายต่อไป!” หนึ่งในอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงพูดข่มขู่เหล่าโจรสลัด
อัศวินเอ็กซ์ตรีมคิงที่พูดออกมาถูกตบลงไปนอนกับพื้น หลังจากนั้นเป่าเอ๋อก็เช็ดมือราวกับว่าเธอเพิ่งจะสัมผัสกับสิ่งสกปรก
อัศวินเอ็กซ์ตรีมคิงคนนั้นกลิ้งไปกับพื้นขณะที่กุมใบหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ฟันของเขาหักและขากรรไกรของเขาก็ถูกทำลาย
อัศวินเอ็กซ์ตรีมคิงคนอื่นไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก พวกเขาเกือบจะลืมไปเลยว่าปีศาจตัวน้อยยังคงอยู่บนยาน
เป่าเอ๋อมองไปที่เหล่าอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิง พวกเขาทุกคนก็รีบก้มหัวลง
“พ่อยังไม่ตาย” เป่าเอ๋อพูดด้วยความดูถูก หลังจากนั้นเธอก็หันกลับไปมอง
เหล่าอัศวินเอ็กซ์ตรีมคิงไม่ได้พูดอะไรเพื่อโต้แย้ง แต่พวกเขาคิดกับตัวเองว่า ‘หานเซิ่นมีแค่อาวุธระดับเทพเจ้าไม่กี่อย่าง เขาจะไปต่อกรกับเหมิงเลี่ยได้ยังไง? เขาจะต้องตาย และรายต่อไปก็จะเป็นเจ้า นางปีศาจน้อย’
หลังจากผ่านไปสัก เมื่อสว่างไสวเริ่มจะมัวลงไปแล้ว จู่ๆฟางชิงอวี่ก็ตะโกนขึ้นมา “หานเซิ่นยังไม่ตาย!”
เหล่าโจรสลัดและอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงรีบหันไปมอง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง พวกเขาเห็นหานเซิ่นลอยตัวอยู่ในอวกาศขณะที่กำลังถือโล่ที่ปกป้องทั้งร่างกาย เนื่องจากความจริงที่ดวงดาวถูกระเบิดไป เสือคลุมขนนกของเขาก็ดำลงไปเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไร
บาดแผลที่เลวร้ายที่สุดที่เขาได้รับยังคงเป็นบาดแผลที่เกิดจากแส้เหล็กที่ปักอยู่บนอกของเขา
“ลืมไปเลยว่าเจ้ามีโล่เมดูซ่าส์เกซอยู่ แต่โล่เมดูว่าส์เกซนั้นไม่ใช่อาวุธเผ่าพันธุ์ มันจะไม่ทำตามคำสั่งของเจ้า และเจ้าจะใช้มันอย่างแส้เหล็กเทพเสน่หาไม่ได้ มันคงจะเป็นอะไรที่น่ารำคาญถ้าเจ้าทำได้” ดวงตาของเหมิงเลี่ยลุกเป็นไฟขณะที่เขามองลงไปที่โล่เมดูซ่าเกซ
หานเซิ่นไอและกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย เขามองไปที่เหมิงเลี่ยและพูด “เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าใช้มันไม่ได้?”
“โล่เมดูซ่าส์เกซเป็นอาวุธขั้นทรูก็อตของอัลฟ่าเผ่ากาน่า” เหมิงเลี่ยพูดอย่างเย้ยหยัน
“เมื่อก่อนมันเป็นอาวุธระดับเทพเจ้าที่ติดหนึ่งในสิบของจักรวาลจีโน พลังของมันเทียบได้กับสถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์ที่เป็นอาวุธเผ่าพันธุ์ของเผ่ากาน่า แต่มันมีความแตกต่างที่ใหญ่หลวงระหว่างอาวุธขั้นทรูก็อตกับอาวุธเผ่าพันธุ์ ในนัยหนึ่งอาวุธเผ่าพันธุ์ถือเป็นสิ่งมีชีวิตรูปแบบหนึ่ง พวกมันคิดและทำการตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ถ้าพวกมันยอมรับผู้ใช้ ผู้ใช้ก็จะเปิดใช้พลังของพวกมันได้ ถึงแม้ผู้ใช้จะมีระดับต่ำก็ตาม แต่อาวุธขั้นทรูก็อตนั้นแตกต่างออกไป ถ้าไม่มีพลังขั้นทรูก็อต เจ้าก็จะใช้พลังของอาวุธขั้นทรูก็อตไม่ได้ ถ้ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นต่ำมีธาตุเดียวกับอาวุธขั้นทรูก็อต พวกเขาก็อาจจะใช้พลังของมันได้เล็กน้อย แต่เจ้าไม่ใช่ระดับเทพเจ้า และพลังของเจ้าก็เข้ากันไม่ได้กับโล่เมดูซ่าส์เกซ ดังนั้นเจ้าไม่มีทางเปิดใช้พลังของมันได้ เจ้าได้ใช้มันเป็นเหมือนกับโล่ธรรมดาๆเท่านั้น”
“น่าเสียดาย ถึงแม้โล่เมดูซ่าส์เกซจะเป็นโล่ แต่พลังของมันก็ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การป้องกัน”
เหมิงเลี่ยพูดทั้งหมดนี้ หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมพลังไว้ในมีดอีกครั้ง ตอนนี้มีดหัวสิงโตทองมีแสงสีทองที่แปลกประหลาด มันเหมือนกับว่าจักรวาลกำลังจะถูกตัดขาดโดยแสงสีทองนี้
เมื่อเห็นว่าเหมิงเลี่ยกำลังจะปลดปล่อยมีดแสงมา ใบหน้าของหานเซิ่นก็ยังคงเยือกเย็น เขาจับโล่เมดูซ่าส์เกซเอาไว้แน่น ขณะที่มองดูมีดแสงที่มีพลังมหาศาลนั้น พลังในร่างกายของเขาก็หลั่งไหลเข้าไปในโล่เมดูซ่าส์เกซอย่างบ้าคลั่ง
น่าแปลกที่จู่ๆก็มีแสงปรากฏในดวงตาที่ปิดอยู่ของผู้หญิงที่สลักอยู่บนโล่