Super God Gene – ตอนที่ 2613

“เป่าเอ๋อ ทำไมหนูไม่ไปกับอา?” หานเซิ่นถามเป่าเอ๋อขณะที่ยืนอยู่หน้าประตูนภา

 

เป่าเอ๋อพยักหน้า เธอจับมือของหานเหยียนและยิ้มออกมา “อา เป่าเอ๋อจะเดินไปเป็นเพื่อนอา”

 

แต่หลังจากนั้นหนึ่งในศิษย์ของปราสาทนภาที่เฝ้าประตูก็เข้ามาหยุดพวกเขาเอาไว้ เขาพูดกับหานเซิ่น
“อาจารย์หาน ท่านผู้นำสั่งเอาไว้ว่าน้องสาวของอาจารย์หานต้องข้ามถนนนภาตามลำพัง เป่าเอ๋อข้ามไปด้วยไม่ได้”

 

หานเซิ่นผิดหวังกับเรื่องนั้น แต่เขาไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้นำปราสาทนภาได้ ดังนั้นเป่าเอ๋อจึงต้องกลับมาข้างกายเขา

 

ผู้นำปราสาทนภาที่กำลังดื่มชาอยู่พึมพำกับตัวเอง
“ถ้าน้ำเต้าสั่นไหวอีกครั้ง มันจะลดลมปราณศักดิ์สิทธิ์ภายในเถาวัลย์ ถ้าเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก เถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ก็อาจจะแห้งตาย”

 

ผู้นำปราสาทนภาเป็นห่วงเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ พืชนั่นเป็นรากฐานของปราสาทนภา ถ้าเป่าเอ๋อได้รับอนุญาตให้ข้ามถนนนภาทุกครั้งที่หานเซิ่นนำคนมาที่ปราสาทนภา พลังของเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ก็จะหายไปจนหมด ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเถาวัลย์น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ก็คงจะแห้งตายไปจริงๆ

 

ครั้งก่อนที่เป่าเอ๋อข้ามถนนนภา เธอได้รับการอวยพรจากน้ำเต้ามากพอสำหรับคนเป็นหมื่นคน พวกมันเสียพลังไปมากในวันนั้นและปราสาทนภาก็ไม่สามารถสูญเสียแบบนั้นอีกครั้งได้

 

นอกจากนั้นปราสาทนภายังมีกฎที่ให้ข้ามถนนนภาได้แค่ทีละคน ครั้งก่อนที่เป่าเอ๋อได้รับอนุญาตให้ข้ามพร้อมกับหานเซิ่นก็เป็นเพราะเธอยังเด็ก แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์สูญเสียพลังไปมาก ผู้นำปราสาทนภาจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก

 

เอ็กซ์ควิสิทมองดูถนนนภาจากระยะไกล เธออยากรู้ว่าน้องสาวทางสายเลือดของหานเซิ่นจะมีพรสวรรค์แค่ไหน บางทีนั่นอาจจะทำให้เธอได้รู้เกี่ยวกับระดับพรสวรรค์ที่แท้จริงของหานเซิ่นมากขึ้นกว่าเดิม

 

พรสวรรค์ระดับ 11 เปลือกนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไป มันยากจะเชื่อได้ว่านั่นเป็นผลลัพธ์ที่ถูกต้อง

 

“พี่ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง” จุดประสงค์ในชีวิตของหานเหยียนก็คือไล่ตามหานเซิ่นให้ทัน เธอดูมั่นใจในเรื่องนี้

 

“ไม่ต้องฝืนตัวเอง แค่ข้ามไปก็พอ” หานเซิ่นไม่อยากให้หานเหยียนก่อเรื่องใหญ่ขึ้นในตอนที่เธอข้ามถนนนภา เขาเชื่อว่าการสร้างชื่อให้กับตัวเองนั้นไม่เคยเป็นเรื่องดี

 

ถึงการเดินข้ามถนนนภาไม่ได้เป็นอะไรที่เสี่ยง แต่ในตอนที่เธอขึ้นบันไดไปสู่ปราสาทนภา โอกาสที่จะสร้างความประทับใจต่อคนอื่นก็จะปรากฏขึ้นมา ถ้าหานเหยียนทำได้เป็นอย่างดีที่นั่น เธอก็ต้องลืมชีวิตที่เงียบสงบไปได้เลย

 

หานเหยียนไม่รู้ว่าหานเซิ่นหมายถึงอะไร เธอคิดว่าเขาพูดแบบนั้นก็เพื่อบรรเทาความกดดันของเธอ

 

“ศิษย์น้องหาน เจ้าแค่เดินไปอย่างสบายๆ นี่เป็นแค่ทางข้ามสั้นๆ”
ยวิ๋นซู่อีพูดให้หานเหยียนสบายใจ เธอไม่อยากให้หานเหยียนรู้สึกประหม่า

 

“ขอบคุณศิษย์พี่ยวิ๋น” หานเหยียนเริ่มเดินออกไป คนปราสาทนภาต่างก็พากันมาดูเธอเดินข้ามถนนนภาแคบๆ

 

หานเหยียนรู้ว่าการข้ามถนนนภาอาจจะกระตุ้นให้น้ำเต้าปลดปล่อยลมปราณศักดิ์สิทธิ์ออกมา ดังนั้นเมื่อเธอก้าวไปบนเถาวัลย์ เธอก็จ้องมองลงไปที่น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์

 

น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์นั้นมีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก พวกมันน่ารักในแบบของตัวเอง แต่พวกมันไม่มีวี่แววที่จะปล่อยลมปราณศักดิ์สิทธิ์ออกมา

 

“ศิษย์พี่ยวิ๋นบอกว่าในตอนที่พี่หานเดินบนถนนนภา เขาก็ไม่ได้รับพรจากลมปราณศักดิ์สิทธิ์ แต่พี่ทำให้น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดสั่นไหว ทำไมมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะที่เราเดิมข้ามไป?” หานเหยียนขมวดคิ้ว

 

เธอเดินหน้าต่อไป และน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่แม้แต่จะสั่นไหว

 

“แน่นอนว่าถ้าไม่มีเป่าเอ๋อจอมซนคนนั้น คริสตัลไลเซอร์ก็ไม่ควรจะกระตุ้นการสั่นไหวของน้ำเต้านับพันได้”
หานเหยียนเดินข้ามไปครึ่งทางแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีน้ำเต้าไหนที่เคลื่อนไหว ผู้นำปราสาทนภายกถ้วนชาขึ้นมาจิบอย่างรื่นรมย์ เขาดูชอบใจ

 

“น้องสาวของอาจารย์หานดูเหมือนจะไม่มีพรสวรรค์ที่พิเศษอะไร มันยังไม่มีน้ำเต้าแม้แต่ลูกเดียวที่อวยพรให้กับนางด้วยลมปราณศักดิ์สิทธิ์”

 

“ในโลกนี้มีคนชื่อหานแค่คนเดียวที่รู้จักในฐานะบิดาของเทพ ไม่ใช่คนชื่อหานของเผ่าคริสตัลไลเซอร์ทุกคนจะได้รับสมญานามแบบนั้น”

 

“น่าเสียดายที่เป่าเอ๋อถูกห้าม ถ้านางข้ามมาด้วย น้ำเต้านับพันก็อาจจะสั่นไหวให้กับหานเหยียน”

 

ยวิ๋นฉางคงผิดหวังเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นหานเหยียนมาก่อน แต่เขาตกลงจะรับเธอเป็นลูกศิษย์ เขาทำการตัดสินใจแบบนี้ก็เพราะเธอเป็นน้องสาวของหานเซิ่น และยวิ๋นซู่อีก็ได้ขอกับเขาหลายครั้ง

 

ยวิ๋นฉางคงไม่ได้คาดหวังให้หานเหยียนยอดเยี่ยมเหมือนอย่างพี่ชายของเธอ แต่เนื่องจากเธอเป็นน้องสาวจริงๆของหานเซิ่น เขาจึงคาดหวังเอาไว้สูง

 

ถึงแม้น้ำเต้านับพันจะไม่สั่นไหวเหมือนอย่างหานเซิ่น แต่อย่างน้อยเธอก็ควรจะได้รับลมปราณศักดิ์สิทธิ์บ้าง

 

แต่ในตอนนี้มันเหมือนกับว่าจะไม่น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ไหนมอบลมปราณศักดิ์สิทธิ์ให้กับเธอ

 

“ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะชื่อหาน แต่นี่ไม่ใช่หานเซิ่น เจ้าผิดหวังอย่างนั้นหรออาวุโสยวิ๋น?” ผู้อาวุโสหกยิ้มให้กับยวิ๋นฉางคง ยวิ๋นฉางคงรับคนนอกคนหนึ่งเป็นลูกศิษย์ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งจะรับคนนอกเป็นลูกศิษย์

 

ผู้คนในปราสาทนภาหลายคนซุบซิบกันว่ายวิ๋นฉางคงพยายามจะเอาใจหานเซิ่น มันจะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของผู้นำปราสาทนภาไปด้วย ด้วยเหตุนั้นหลายคนจึงไม่พอใจกับสิ่งที่ยวิ๋นฉางคงทำ

 

แน่นอนว่ามันสมเหตุสมผลที่ผู้อาวุโสคนอื่นจะรู้สึกแบบนี้ ผู้อาวุโสในปราสาทนภาหลายคนต่างก็อยากจะสร้างความสัมพันธ์กับหานเซิ่น แต่ไม่มีใครที่ใกล้ชิดกับหานเซิ่นเหมือนอย่างตระกูลยวิ๋น เมื่อพวกเขาได้ยินว่ายวิ๋นฉางคงจะแย่งตัวหานเหยียนไปเป็นลูกศิษย์ พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจกับข่าวนั่น

 

แค่พลังในการอวยพรของหานเซิ่นเพียงอย่างเดียวก็มากพอที่จะทำให้ผู้คนมากมายอยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ผู้อาวุโสทุกคนต้องการลูกศิษย์ที่ดี และถ้าพวกเขามีลูกศิษย์ระดับเทพเจ้าสักคน ชื่อเสียงของพวกเขาก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ปราสาทนภามียอดฝีมือระดับเทพเจ้าอยู่เท่าไหร่กันเชียว? และกี่คนที่กลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟในอนาคต? เพียงแค่ระดับนั้นก็มากพอที่จะทำให้ใครคนหนึ่งมีชื่อเสียง

 

เอ็กซ์ควิสิทมองดูหานเหยียนเดินข้ามถนนนภาไปโดยที่น้ำเต้าสักลูกเคลื่อนไหว นี่ทำให้เธอผิดหวังอย่างมาก

 

เอ็กซ์ควิสิทรู้ว่าคนที่มีพรสวรรค์ระดับ 8 เปลือกหรือสูงกว่าจะได้รับลมปราณจากน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ธาตุเดียวกัน แต่หานเหยียนยังไม่ได้รับลมปราณศักดิ์สิทธิ์ใดๆ นั่นหมายความว่าพรสวรรค์ของเธอต่ำกว่าระดับ 8 เปลือก

 

ถ้าน้องสาวของหานเซิ่นมีพรสวรรค์ที่ธรรมดาๆ แบบนั้นมันก็ไม่สำคัญว่าพี่ชายของเธอจะกลายพันธุ์สักกี่ครั้ง มันก็ไม่มีทางที่เขาจะมีพรสวรรค์ระดับ 11 เปลือกไปได้

 

เมื่อเห็นว่าหานเหยียนข้ามถนนนภาไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น หานเซิ่นก็คิดว่าน่าเสียดายที่เป่าเอ๋อไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามไปพร้อมกับเธอ หานเหยียนไม่มีโอกาสจะดูดซับลมปราณศักดิ์สิทธิ์ของน้ำเต้านับพัน

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้ประหลาดใจกับผลลัพธ์นี้ เพราะยังไงซะมันก็ไม่มีน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ลูกไหนมอบลมปราณศักดิ์สิทธิ์ให้กับเขาเช่นกัน มันมีแค่ตอนที่เขาข้ามพร้อมกับเป่าเอ๋อในครั้งที่ 2 เท่านั้นที่เขาได้รับบางสิ่ง เธอเป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำเต้าทั้งหมดปลดปล่อยลมปราณศักดิ์สิทธิ์ให้กับเขา

 

เขาจึงคาดคิดว่าน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์อาจจะไม่มอบอะไรให้กับหานเหยียนเช่นกัน

 

สีหน้าของหานเหยียนยังคงดูสงบนิ่ง เธอเดินไปจนถึงปลายทางของถนนนภาและเตรียมจะก้าวลงไปจากเถาวัลย์น้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ แต่จู่ๆหานเหยียนก็หยุดเดิน เธอหันกลับมามองน้ำเต้าศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 ข้าง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset