Super God Gene – ตอนที่ 2625

ผู้นำปราสาทนภาบอกว่าต้องใช้เวลาหลายวันก่อนที่การปิดผนึกแส้เหล็กเทพเสน่จะเสร็จสิ้น ดังนั้นหานเซิ่นจึงฝากอาวุธไว้กับผู้นำปราสาทนภา เขาไม่กลัวว่ามันจะขโมย และถึงจะขโมยไป หานเซิ่นก็ไม่รังเกียจ ตราบใดที่พลังของอาวุธไม่ส่งผลกระทบต่อเขา เขาก็ไม่รังเกียจที่แส้เหล็กจะถูกขโมยไป

 

‘ถ้าผนึกได้ เราจะขอให้ผู้นำปราสาทนภาช่วยผนึกดาบเขียวน้อยของหนิงเยวี่ยดีไหมนะ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

แต่สถานการณ์ของหนิงเยวี่ยนั้นแตกต่างไปจากหานเซิ่น หลังจากที่พลังของแส้เหล็กเทพเสน่หาถูกผนึก มันก็ไม่มีผลกระทบอะไรต่อพลังของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นมีร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด เขาสามารถลบล้างผลในทางลบออกไปจากตัวได้ เขาสามารถกำจัดหูและหางจิ้งจอกได้ แต่ร่างกายขั้นสุดยอดของหนิงเยวี่ยนั้นทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ เขาจะกลายเป็นผู้หญิงที่บอบบางและอ่อนแอไปตลอดการ

 

ดาบเขียวน้อยนั้นส่งผลกระทบต่อระดับพลัง หนิงเยวี่ยกลายเป็นคนขี้เกียจไปและถ้าไม่มีพลังของดาบเขียวน้อยนั่นอยู่ เธอก็อาจจะไม่วันเพิ่มระดับขึ้นอีก

 

เมื่อกลับไปที่เกาะหยกน้อย หานเซิ่นก็รออยู่เป็นเวลาหลายวัน แต่แส้เหล็กเทพเสน่หาก็ยังคงไม่กลับมา ซึ่งทำให้หานเซิ่นรู้สึกค่อนข้างโล่งใจ

 

ในระหว่างที่รอให้แส้เหล็กเทพเสน่หาถูกผนึก หานเซิ่นไม่ได้ออกไปไหน เขาแค่รออยู่บนเกาะหยกน้อยไปเรื่อยๆ

 

ในวันที่สี่ ยามอารักขาปราสาทก็มาเรียกให้หานเซิ่นไปเข้าพบผู้นำปราสาทนภาที่สวน หานเซิ่นได้รับแส้เหล็กเทพเสน่หากลับคืนมา

 

แต่เมื่อหานเซิ่นได้เห็นอาวุธ เขาก็เห็นว่ามันมีชั้นสนิมปกคลุมอยู่ มันคงจะไม่มีใครเชื่อว่าแท่งโลหะขึ้นสนิมนี้เป็นอาวุธเผ่าพันธุ์ชิ้นหนึ่ง

 

“การปิดผนึกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ถ้าไม่มีใครไปฝืนเปิดผนึก แส้เหล็กนี้ก็ควรจะไม่มีผลข้างเคียงต่อเจ้าอีก แต่เจ้าก็จะใช้พลังของมันไม่ได้อีกต่อไป” ผู้นำปราสาทนภาพูด

 

“ขอบคุณ ท่านผู้นำ!” หานเซิ่นกล่าวด้วยความดีใจ

 

“ข้าขอย้ำว่าเจ้าต้องใช้เวลา 3 วันของทุกเดือนเพื่อทำการสอน” ผู้นำปราสาทนภายิ้ม

 

หานเซิ่นออกจากสวนโดยไม่ได้พูดถึงดาบเขียวน้อยของหนิงเยวี่ย ถ้าผู้คนได้รู้ว่าหนิงเยวี่ยมีอาวุธเผ่าพันธุ์อยู่ สายตาที่โลภมากก็จะมองมาที่เธอ หนิงเยวี่ยไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อต้านคนที่คิดจะมาเอาดาบเขียวน้อยไป ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงคิดว่าควรจะลืมความคิดนั่นไป

 

เมื่อกลับมาที่เกาะหยกน้อย หานเซิ่นก็ใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อหมุนฟันเฟืองจักรวาลและเข้าไปในคอร์แอเรียฮอลล์ ที่นั่นเขาใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดเพื่อกำจัดหูและหางจิ้งจอกทิ้งไป

 

“อ้า นั่นรู้สึกดีขึ้นเยอะ” หานเซิ่นสัมผัสหัวและไม่ได้รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ควรอยู่บนนั่น เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

 

เขาเข้ามาในคอร์แอเรียด้วยตัวตนของดอลลาร์ นี้เป็นครั้งแรกในปีนี้ที่เขาใช้ตัวตนของดอลลาร์เข้ามาในคอร์แอเรีย

 

หานเซิ่นมองไปรอบๆ แต่เขาไม่เห็นจระเข้น้อยหรือเตาหลอมทองแดง

 

“มันผ่านมาหนึ่งปีเต็มๆ พวกมันจะยังอยู่แถวๆนี้ไหมนะ”
ในช่วงที่หานเซิ่นได้รับผลกระทบจากแส้เหล็กเทพเสน่หา เขาไม่ต้องการเข้ามาในคอร์แอเรียด้วยฐานะดอลลาร์ เขากลัวว่าคนอื่นจะดูออกว่าเขาคือหานเซิ่น

 

หานเซิ่นครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเริ่มบินออกไป แต่หลังจากที่เขาบินไปได้ไม่นาน เขาก็เห็นหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทที่ติดตามเธอมา

 

“ดอลลาร์ เจ้าอยู่ที่นี่!” หลี่เคอเอ๋อดูประหลาดใจ เธอรีบเข้ามาข้างๆหานเซิ่น

 

เธอรอคอยมาหนึ่งปีเต็มๆเพื่อจะได้พบกับดอลลาร์อีกครั้ง มันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดสำหรับเธอ ถ้าเธอรู้ว่าต้องรอนานถึงขนาดนี้ เธอก็คงจะไม่มัวเสียเวลารอ

 

“นี่คงจะเป็นการพบกันแห่งโชคชะตาอีกหน มันยากจะเชื่อได้ว่าพวกเราจะบังเอิญมาพบกันอีกครั้งแบบนี้” หานเซิ่นพูด

 

“โชคชะตา? ข้ารอคอยเจ้าอยู่ที่นี่มาตลอดหนึ่งปี!” หลี่เคอเอ๋อกรอกตา

 

“อะไรนะ?” หานเซิ่นถามด้วยความประหลาดใจ

 

หลี่เคอเอ๋อลังเล แต่เธอก็ตัดสินใจได้แล้ว เธอไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปอีก ถ้าดอลลาร์จากไปอีกครั้ง เธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหน

 

“ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง ข้าเป็นคนของเผ่าเวรี่ไฮ พวกเรากำลังรับสมัครคน ข้าหวังว่าเจ้าจะไปที่เผ่าเวรี่ไฮกับข้า พวกเราจะมอบวิชาจีโนและทรัพยากรเพื่อทำให้เจ้ากลายเป็นระดับเทพเจ้า เจ้าแค่ต้องทำงานให้กับข้าเป็นเวลาสี่ปีเท่านั้น” หลี่เคอเอ๋อพูดอย่างจริงจัง เธอต้องการทำให้แน่ใจว่าโอกาสนี้จะไม่หลุดมือไป

 

หานเซิ่นอึ้ง เขาไม่ได้รู้สึกตัวมาก่อนเลยว่าหลี่เคอเอ๋อเองก็ต้องการพาเขาไปที่เผ่าเวรี่ไฮเช่นเดียวกัน

 

“ต้องขอโทษด้วย แต่ข้ากลัวว่าจะต้องทำให้เจ้าผิดหวัง ข้าเกลียดการถูกจำกัด ข้ายอมตายดีกว่าที่ต้องถูกผูกมัดกับใครคนไหน” หานเซิ่นไม่มีความสนใจจะไปที่เผ่าเวรี่ไฮ และเขาก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจเพื่อหลี่เคอเอ๋ออย่างแน่นอน

 

หลี่เคอเอ๋อแปลกใจ เธอไม่อยากเชื่อว่าหานเซิ่นจะปฏิเสธข้อเสนอของเธออย่างไม่คิดแบบนั้น

 

“ได้โปรดคิดเกี่ยวกับมันอีกที! นี่ไม่ใช่ข้อตกลงที่เลวร้ายสำหรับเจ้าเลยสักนิด เผ่าพันธุ์ของข้าจะมอบทรัพยากรที่จะช่วยให้เจ้าได้กลายเป็นระดับเทพเจ้า” หลี่เคอเอ๋อขอร้อง หลังจากที่รอคอยมาอย่างยาวนาน เธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ

 

เอ็กซ์ควิสิทมองดอลลาร์อย่างประหลาดใจ เธอคิดว่าตัวเองโชคร้ายที่หานเซิ่นปฏิเสธเธอ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าหลี่เคอเอ๋อจะประสบกับเหตุการณ์แบบเดียวกัน

 

“ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆ ข้าอยากจะเป็นเพื่อนกับเจ้าต่อไปมากกว่า” หานเซิ่นพูดลดความเลวร้ายของการปฏิเสธในทันทีทันใด

 

หลี่เคอเอ๋อเข้าใจแนวคิดของหานเซิ่น เธอจึงเงียบไปและไม่ได้พูดอะไรอีก เธอรู้สึกผิดหวัง ใครก็ตามที่รอคอยตลอดทั้งปีเพื่อผลลัทธ์แบบนั้นก็จะรู้สึกเสียใจเหมือนกันหมด

 

“นี่พวกเจ้าทั้งคู่เห็นจระเข้น้อยกับเตาหลอมทองแดงบ้างไหม?” หานเซิ่นถามเพื่อเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา

 

“พวกมันควรจะอยู่ในระบบจักรวาลนั่น” หลี่เคอเอ๋อชี้ออกไปทางหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็จากไปพร้อมกับเอ็กซ์ควิสิท เธอดูผิดหวังอย่างมาก

 

“พี่สาม นี่พวกเราหายเงียบไปเป็นเวลานานเกินอย่างนั้นหรอ? นี่เผ่าพันธุ์อื่นๆลืมไปแล้วหรอว่าเผ่าเวรี่ไฮนั้นทรงพลังขนาดไหน?” หลี่เคอเอ๋อมองเอ็กซ์ควิสด้วยความเศร้า

 

เอ็กซ์ควิสิทส่ายหัว “บุคคลที่พิเศษมักจะไม่ยินดีมอบชะตากรรมของตัวเองให้กับคนอื่น ถ้าเจ้าอยากได้ดอลลาร์มาเป็นตัวไหม เจ้าก็จำจำเป็นต้องมีความอดทน”

 

หลังจากนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็เริ่มจะคิดเกี่ยวกับหานเซิ่น

 

ในช่วงนี้เอ็กซ์ควิสิทกำลังลำบากใจอย่างมาก เธออยากจะเข้าใกล้หานเซิ่นและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา

 

แต่เธอเองก็ไม่สามารถทนต่อพลังของแส้เหล็กเทพเสน่หาได้ เธอกังวลว่าจะไปทำบางสิ่งที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุนั้นเธอจึงไม่ได้แวะไปหาหานเซิ่นเลย

 

“พี่สาวดูเปลี่ยนไป นี่หานเซิ่นพิเศษถึงขนาดที่เปลี่ยนพี่สามได้เลยอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อมองเอ็กซ์ควิสิทด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เธอไม่เคยจินตนาการเลยว่าเอ็กซ์ควิสิทจะพูดออกมาแบบนั้น มันทำให้หลี่เคอเอ๋อรู้สึกสนใจขึ้นมาว่าหานเซิ่นเป็นใครกัน

 

“ทุกคนมีข้อบกพร่องบางอย่างอยู่ไม่ว่าคนๆนั้นจะเก่งกาจมากสักแค่ไหน” เอ็กซ์ควิสิทพึมพำ

 

หลี่เคอเอ๋อมองเอ็กซ์ควิสิท เธอคิดว่าในช่วงนี้เอ็กซ์ควิสิทนั้นทำตัวแปลกๆ

 

“นี่หานเซิ่นเป็นผู้ชายแบบไหนกัน? เขาทำให้พี่สามลืมเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟได้ยังไงกัน?” หลี่เคอเอ๋อรู้สึกสับสน

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทกำลังพูดอะไร เขาบินต่อไปเรื่อยๆและเขาก็ต้องตกใจ เมื่อได้เห็นเตาหลอมทองแดง

 

เตาหลอมทองแดงนั้นตัวใหญ่โตราวกับปราสาท มันมีดาบเป็นล้านเล่มอยู่ภายในเตาของมัน ไม่มีใครรู้ว่ามันได้รับทรัพยากรมากมายแค่ไหนจากการติดตามจระเข้น้อย

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset