Super God Gene – ตอนที่ 2639

“มิสเตอร์จั่วอวี้ อวี้คุนได้ไปขอให้หานเซิ่นช่วยจัดการราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ พวกเขากำลังจะไปที่เดม่อนอะบิสส์”
ภายในห้องโถง ศิษย์ของปราสาทนภาคนหนึ่งกำลังพูดกับชายเผ่านภาในชุดเกราะสีดำ

 

“อวี้คุนฝึกวิชาดีปอะบิสส์เดม่อนสเปลล์ ถ้าเขาได้ยีนระดับเทพเจ้าของราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์มา เขาก็จะกลายเป็นระดับเทพเจ้า แต่ความจริงที่เขาไปขอให้หานเซิ่นช่วยนั้นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ” จั่วอวี้พูดอย่างไร้ความรู้สึก

 

“ข้าได้ยินว่าเขามอบแรดไม้สปิริตให้กับหานเซิ่นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นตกลงจะช่วยเขา” ศิษย์ของปราสาทนภาคนนั้นพูด

 

“แบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นมันก็เป็นอะไรที่สมเหตุสมผล” จั่วอวี้พยักหน้า

 

“มิสเตอร์จั่วอวี้ อวี้คุนยังคงเป็นผู้ต้องสงสัย พวกเราควรจะไปเตือนหานเซิ่นไหม?”

 

จั่วอวี้ส่ายหัว “ไม่ หานเซิ่นเป็นเหมือนบุตรชายของผู้นำปราสาทนภา ถ้าเขายินดีจะช่วยอวี้คุน นั่นก็หมายความว่าผู้นำปราสาทนภาต้องเห็นชอบด้วย พวกเราควรจะรอดูไปอีกสักพัก”

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ จั่วอวี้ก็พูด “ไปหาซือหยา บอกนางให้เตรียมตัว นางต้องไปที่เดม่อนอะบิสส์พร้อมกับข้า”

 

“จะไปที่เดม่อนอะบิสส์ด้วยตัวเอง?” ศิษย์ของปราสาทนภาคนนั้นถามด้วยความแปลกใจ

 

“นี่ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหานเซิ่นและอวี้คุนมากขึ้น” จั่วอวี้พูด

 

ขณะที่หานเซิ่นและอวี้คุนเดินทางไปที่เดม่อนอะบิสส์ อวี้คุนก็ดูผ่อนคลายมากๆ นอกจากหานเซิ่นแล้ว เขาไม่ได้จ้างคนอื่น

 

หานเซิ่นรับค่าตอบแทนล่วงหน้ามาแล้ว ดังนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากช่วยชายคนนี้

 

หลังจากที่ได้ทำการตกลงกับอวี้คุน หานเซิ่นก็ได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์จากผู้นำปราสาทนภา ข้อมูลภายในไฟล์นั้นเหมือนกับที่อวี้คุนมอบให้กับเขา หานเซิ่นมีโอกาสเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวนี้ได้สำเร็จ

 

แน่นอนว่ามันมีโอกาสที่ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์จะแข็งแกร่งกว่าในรายงาน ดังนั้นหานเซิ่นจึงจำเป็นต้องคำนวณทุกสิ่งอย่างระมัดระวัง

 

เดม่อนอะบิสส์เป็นหลุมขนาดยักษ์ในอวกาศที่มีดวงดาวขนาดมหึมาอยู่ภายในมัน อวกาศบริเวณนั้นดูเหมือนจะถล่มภายใต้น้ำหนักของดวงดาวขนาดมหึมานั้น แต่หลังจากนั้นดวงดาวก็เข้าสู่สภาวะสมดุลที่ประหลาดแทนที่จะระเบิดเหมือนกับดวงดาวอื่น

 

หลุมอวกาศนั้นมีซีโน่เจเนอิคอยู่เป็นจำนวนมาก ศิษย์ของปราสาทนภาชอบมาล่าที่นี่ แต่ศิษย์ธรรมดาจะไม่เข้าไปในเดม่อนอะบิสส์ลึกมากนัก พวกเขาสามารถล่าซีโน่เจเนอิคระดับต่ำที่อยูขอบนอก ซึ่งเป็นอะไรที่ปลอดภัยมากกว่าการมุ่งหน้าลึกเข้าในหลุมอวกาศ

 

เมื่อศิษย์ของปราสาทนภาที่อยู่ใกล้เคียงเห็นหานเซิ่นและอวี้คุนเดินทางเข้ามา พวกเขาก็พากันโค้งคำนับ หลักๆแล้วพวกเขามาเพื่อแสดงความเคารพหานเซิ่น พวกเขาแค่โค้งคำรับให้กับอวี้คุนเพราะมันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ

 

หานเซิ่นสังเกตใบหน้าของพวกเขาและคาดเดาว่าพวกเขาคงจะรู้เกี่ยวกับอวี้คุน

 

แต่อวี้คุนไม่ได้สนใจอะไร เขาเดินทางตรงลึกเข้าไปในเดม่อนอะบิสส์ร่วมกันหานเซิ่นต่อไป เขาหลีกเลี่ยงกลุ่มซีโน่เจเนอิคเพื่อไม่ให้เสียเวลา

 

หานเซิ่นตามอวี้คุนลึกเข้าไปในเดม่อนอะบิสส์เป็นเวลา 2 วันเต็มๆ ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงที่หมาย ซึ่งที่นั่นพวกเขาได้เห็นราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์

 

ในไฟล์ที่หานเซิ่นได้รับมันมีวิดีโอของราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ติดมาด้วย แต่การมองสิ่งมีชีวิตในวิดีโอนั้นแตกต่างในชีวิตจริงมาก ภาพของเจ้าซีโน่เจเนอิคนั้นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ

 

ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์มีร่างกายของแมงป่องและหัวของมังกร ปีกมังกรกางออกจากด้านหลังของเจ้าซีโน่เจเนอิคและปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีน้ำเงิน หัวของมันมีดวงตามังกรแปดคู่ ดังนั้นมันมีดวงตาทั้งหมดสิบหกดวง ตอนนี้มันกำลังนอนอยู่บนกำแพงในเดม่อนอะบิสส์ มันเหมือนกับปีศาจที่กำลังหลับไหล

 

หานเซิ่นเรียกเสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงและธนูงูหกครอ์ออกมา หลังจากนั้นเขาก็หันมาหาอวี้คุน

 

“พวกเราเริ่มทำตามแผนการที่วางเอาไว้ได้เลย”

 

อวี้คุนพยักหน้า เขานำเอาอาวุธออกมา อาวุธของเขาเป็นใบมีดวงแหวนสีดำที่กว้างเกือบสามสิบเซนติเมตร มันดูคมกริบ มันเป็นอาวุธที่ประหลาดและหายาก

 

หานเซิ่นดึงสายธนู แต่ก่อนที่เขาจะปล่อยมันออกไป ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ก็ตื่นขึ้นมา ดวงตาทั้งสิบหกดวงของมันจ้องมาที่หานเซิ่น

 

หานเซิ่นไม่ลังเลและยิงลูกธนูที่อาบด้วยแสงสีรุ้งออกไปใส่ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ ลูกธนูบินผ่านอวกาศตรงเข้าไปที่หนึ่งในดวงตาของเจ้าซีโน่เจเนอิค

 

แต่ในจังหวะที่ลูกธนูกำลังจะถูกเป้าหมาย ดวงตาของราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ก็กลายเป็นอะไรที่เหมือนกับหลุมดำและดูดลูกธนูหายเข้าไปข้างใน ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ไม่ได้รับความเสียดายใดๆ

 

หลังจากนั้นเจ้าซีโน่เจเนอิคก็กรีดร้องอย่างประหลาด และร่างกายของมันก็ส่องสว่างด้วยแสงสีน้ำเงิน ขณะที่มันบินขึ้น ปีกของมันก็ตัดกับฉากหลังอย่างน่าประหลาด โซ่สสารถูกปล่อยออกมาจากร่างกายมันขณะที่มันบินตรงเข้าไปหาหานเซิ่น

 

หานเซิ่นดึงสายธนูและยิงออกไปอีกหลายครั้ง ลูกธนูสีรุ้งหลายต่อหลายดอกพุ่งเข้าไปหาราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ แต่เจ้าซีโน่เจเนอิคนั้นไม่สนใจ หานเซิ่นเล็งไปที่ส่วนต่างๆของร่างกาย แต่ไม่ว่าบริเวณไหนที่ลูกธนูของพุ่งไปถูก มันก็มีหลุมดำปรากฏขึ้นมาและลูกธนูก็ดูดหายเข้าไป

 

ตูม!

ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์อ้าปากของมัน ทันใดนั้นคลื่นพลังสีน้ำเงินก็ถูกพ่นออกมาราวกับภูเขาไฟที่ปะทุ

 

ร่างกายของหานเซิ่นแว็บหายไปเพื่อหลีกเลี่ยงคลื่นโซ่สสารสีน้ำเงินที่เข้ามา แต่เขาไม่ได้ถอยออกไป เขายังคงยิงลูกธนูและเข้าไปใกล้ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ขึ้นเรื่อยๆ

 

หานเซิ่นเหมือนกับกำลังโต้คลื่นสึนามิที่จะนำมาซึ่งจุดจบของโลก ท้องฟ้านั้นปกคลุมไปด้วยสีน้ำเงิน แต่มันไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรกับเขา ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์ขั้นพริมิทีฟนั้นไม่สามารถทำร้ายเขาได้

 

จากระยะไกล ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังมองดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้น

 

“เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เลวเลย!” ผู้หญิงเอยชมหานเซิ่น

 

“การเคลื่อนไหวของเขาไม่ใช่สิ่งที่น่าประทับใจที่สุด”
จั่วอวี้ส่ายหัวและพูดต่อ “สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษของเขาคือความสามารถในการตัดสินใจและวิเคราะห์สถานการณ์ ร่างกายของเขาตอบสนองด้วยความแม่นยำที่สมบูรณ์แบบ”

 

“ความแม่นยำ?” ซือหยาขมวดคิ้ว

 

“เจ้าคงจะเห็นว่าเขาถอยออกไปด้านซ้าย แต่ก่อนที่เขาจะถอยไปนั้น ร่างกายของเขาเอนไปด้านขวา และในขณะที่เอนไปด้านขวากว่าเจ็ดสิบองศา เขายิงลูกธนูออกไปสามลูก เขาทำทั้งหมดนี้ในเวลาเดียวกัน เขาหลอกให้ราชาเดม่อนอะบิสส์บีสต์พ่นพลังไปทางด้านขวา ซึ่งนั่นทำให้ร่างกายของมันถูกบังคับให้ไปด้านขวาไปด้วย มันทำให้เขามีพื้นที่ทางด้านซ้าย ดังนั้นเขาจึงมีเวลาเคลื่อนไหวไปยังจุดที่ได้เปรียบสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป รายละเอียดแบบนี้อยู่ในทุกการเคลื่อนไหวของเขา ถ้าเขาไม่ได้แค่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำขั้นรุนแรง แบบนั้นเขาก็เป็นคนที่เกิดมาเพื่อเป็นนักสู้” จั่วอวี้พูด

 

ซือหยามองจั่วอวี้ด้วยความตกใจ วิชาการต่อสู้ของหานเซิ่นไม่ได้ดูพิเศษอะไร แต่เมื่อเธอให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวของเขาอย่างละเอียด มันก็เป็นอย่างที่จั่วอวี้พูดจริงๆ เขาเคลื่อนไหวด้วยความแม่นยำ และทุกการเคลื่อนไหวยังถูกคำนวณเป็นอย่างดี ซือหยาทีอคติกับหานเซิ่น ในตอนที่เธอเห็นเขาต่อสู้กับเอ็กซ์ควิสิท การโจมตีที่โหดร้ายไร้ปรานีนั้นฝังลึกเข้าไปในจิตใจของซือหยา และทำให้เธอคิดไปว่าเขาเป็นผู้ชายหัวรุนแรง ด้วยเหตุนั้นเธอจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของเขา แต่ตอนนี้เมื่อเธอมองดูมันดีๆ เธอก็ต้องตกใจ วิธีการต่อสู้ของเขาในตอนนี้นั้นแตกต่างไปจากวิธีการต่อสู้ที่เขาใช้กับเอ็กซ์ควิสิทโดยสิ้นเชิง มันยากที่จะเชื่อได้ว่านี่เป็นสไตล์การต่อสู้ของคนๆเดียวกัน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset