Super God Gene – ตอนที่ 2647

“ภายในเอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคอยู่มากมาย แต่พวกมันเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ บ้านหลังนี้มีพลังในการป้องกันซีโน่เจเนอิคในรัศมีหนึ่งพันไมล์ แต่ถ้าเจ้าออกไปข้างนอก มันก็บอกได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเจ้าออกไปตามลำพังและเจอกับอันตรายเข้า ข้ากลัวว่าจะช่วยเจ้าไม่ทันเวลา ดั้งนั้นถ้าเจ้าอยากจะออกไปล่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พวกเราควรไปด้วยกัน” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

“บริเวณรอบๆนี้มีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่ข้าพอจะล่าได้?” หานเซิ่นถาม ไหนๆเขาก็มาที่นี่แล้ว เขาก็อยากจะกอบโกยทรัพยากรให้ได้มากที่สุด

 

“พวกมันมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และพวกมันก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆตลอดช่วงเวลาที่ยาวนาน พวกมันจะไม่มารบกวนที่อยู่อาศัยของเผ่าเวรี่ไฮ แต่นอกจากที่อยู่อาศัยของพวกเรา พวกมันจะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ ดังนั้นในตอนที่เจ้าออกจากเขตปลอดภัย เจ้าต้องระวังตัวทุกฝีก้าว มันมีแม้กระทั่งซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาและบัตเตอร์ฟลายให้พบเห็น สิ่งมีชีวิตแบบนั้นปิดชีวิตเจ้าได้ด้วยการพ่นลมหายใจด้วยซ้ำ” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

หานเซิ่นอึ้ง “ข้าคิดว่าจะมีทรัพยากรให้ใช้ได้ตามใจชอบ อย่างนั้นทำไมมันถึงได้มีอันตรายขนาดนี้?”

 

“ถ้าเจ้าต้องการทรัพยากร เจ้าไม่จำเป็นต้องไปล่าพวกมันด้วยตัวเอง เผ่าของพวกเรามีทรัพยากรเก็บตุนเอาไว้”
เอ็กซ์ควิสิทพูด ตอนนี้เธอพูดด้วยโทนเสียงที่แตกต่างออกไปขณะที่เธอมองมาที่หานเซิ่น

 

“ทรัพยากรแบบไหนกัน?” หานเซิ่นถาม

 

“ตามข้ามา” เอ็กซ์ควิสิทพูดสั้นๆ เธอพาหานเซิ่นออกไปจากสวน แต่ครั้งนี้เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้ใช้ยานลำน้อยๆของเธอ เธอวางมือลงบนไหล่ของหานเซิ่น และทันใดนั้นการเทเลพอร์ตก็เริ่มทำงาน พวกเขาถูกเทเลพอร์ตไปที่ไหนนั้นหานเซิ่นก็ไม่รู้

 

เมื่อพวกเขาไปปรากฏตัวที่อีกฝากหนึ่ง เอ็กซ์ควิสิทก็ยังไม่ได้ปล่อยมือไปจากเขา เธอใช้ความสามารถในการเทเลพอร์ตอีกครั้งหนึ่ง เธอทำแบบนี้เป็นสิบๆครั้งก่อนที่จะหยุด

 

หานเซิ่นเห็นบนหน้าผากของเธอมีเหงื่อไหลออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะใช้พลังไปเป็นจำนวนมากกว่าจะมาถึงที่นี่

 

“พวกเรามาถึงแล้ว” เอ็กซ์ควิสิทพูดขณะที่มองไปข้างหน้า

 

หานเซิ่นมองตามสายตาของเธอ ทะเลสาบที่แปลกประหลาดอยู่ตรงหน้าพวกเขา มันเป็นทะเลสาบที่เต็มไปด้วยเมฆแทนที่จะเป็นน้ำ

 

หานเซิ่นคิดว่าทะเลสาบอาจจะแค่ถูกบดบังโดยหมอกหนา แต่เมื่อเขามองลงไป เขาก็รู้สึกตัวว่าไม่สามารถมองทะลุผ่านหมอกไปได้ ถึงแม้เขาจะมีสายตาที่ดี แต่เขาก็ไม่สามารถเห็นอะไรที่ลึกเกินกว่าสิบเมตร และสิบเมตรที่เขามองเห็นเป็นเมฆทั้งหมด มันไม่มีวี่แววของน้ำให้เห็นแม้แต่นิดเดียว และบางสิ่งที่ระยิบระยับกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในเมฆนั้น

 

“ทะเลสาบนี้เรียกว่าทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ เนื่องจากเอาท์เตอร์สกายนั้นตั้งอยู่ระหว่างโลกความเป็นจริงและโลกปฏิสสาร มันกล่าวกันว่าทะเลสาบนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกความเป็นจริงและโลกปฏิสสาร” เอ็กซ์ควิสิทอธิบายขณะที่เธอชี้ไปทางทะเลสาบประหลาด

 

“ไม่เคยมีใครดำลงไปในนี้มาก่อนอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับทฤษฎีหลายอย่างของโลกปฏิสสาร แต่สิ่งที่เขาเคยได้ยินมาเป็นเพียงแค่ข่าวลือ เขาไม่รู้ว่าข่าวลือเหล่านั้นเป็นความจริงหรือเปล่า

 

“เมื่อก่อนเคยมีคนดำลงไป แต่ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน พวกเขาก็ไม่เคยกลับออกมา” เอ็กซ์ควิสิทพูดด้วยเสียงที่ไร้ความรู้สึก

 

“อย่างนั้นพวกเรามาที่นี่ทำไม? เจ้าคงจะไม่ให้ข้าลงไปในนั้นหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นมองเอ็กซ์ควิสิทอย่างตื่นตระหนก

 

เอ็กซ์ควิสิทหัวเราะและพูด “แน่นอนว่าไม่ ถึงแม้ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์จะเป็นอันตราย แต่มันจะปลอดภัยตราบใดที่เจ้าไม่ลงไปในนั้น เจ้าควรทำบางสิ่งอย่างเช่นการตกปลา ถ้าเจ้าโชคดี เจ้าก็อาจจะดึงบางสิ่งขึ้นมาได้”

 

“พวกเราจะตกปลาในเมฆอย่างนั้นหรอ? เจ้าบอกว่าที่นี่เชื่อมต่อกับโลกปฏิสสารไม่ใช่หรอ นี่โลกปฏิสสารเป็นสถานที่อยู่อาศัยของปลากับกุ้งและอะไรทำนองนั้นหรือยังไง?” หานเซิ่นถามเอ็กซ์ควิสิทด้วยความสับสน

 

แทนที่จะตอบคำถาม เอ็กซ์ควิสิทนำเอาม้วนของเส้นไหมที่คล้ายกับลวดออกมาและวางมันลงในมือของหานเซิ่น
“เจ้าต้องลองตกมันด้วยตัวเอง เมื่อเจ้าตกบางสิ่งขึ้นมาได้แล้ว เจ้าก็จะเข้าใจ”

 

หานเซิ่นมองม้วนของเส้นไหมและสังเกตเห็นว่ามันบางราวกับเส้นผม มันเป็นสีเทาและไม่ได้แวววามเหมือนกับเส้นไหมทั่วไป ความจริงแล้วมันดูค่อนข้างจืดชืด

 

หานเซิ่นมองเส้นไหมที่ได้รับมาอยู่สักพักหนึ่ง เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้มอบคันเบ็ดตกปลาให้กับเขา และมันไม่มีแม้แต่ตะขอ แม้แต่เจียงไท่กงก็จะไม่เป็นเลิศในเครื่องมือที่ธรรมดาแบบนี้ ถึงแม้ชายคนนั้นจะไม่ได้มีตะขออยู่ที่ปลายสายเบ็ด แต่อย่างน้อยๆเขาก็มีคันเบ็ดอยู่ แต่หานเซิ่นได้รับมาเพียงแค่สายเพียงอย่างเดียว

 

“มันไม่มีตะขอเกี่ยวปลาและเหยื่อล่ออะไร นี่ข้าจะตกปลาด้วยของแบบนี้ได้ยังไงกัน?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่เอ็กซ์ควิสิทอย่างไม่เชื่อ แต่เธอคงจะมีเหตุผลที่ให้เครื่องมือนี้กับเขามา

 

“หยดเลือดของเจ้าลงไป” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

หานเซิ่นหยดเลือดลงบนสายตามที่เธอบอกขณะที่คิดกับตัวเอง
‘นี่เผ่าเวรี่ไฮหรือว่าแวมไพร์? ทุกอย่างที่นี่ใช้เลือดเหมือนกันหมด!’

 

เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เธอกระพริบตาปริบๆและพูด
“จริงๆแล้วมันไม่จำเป็นต้องใช้เลือด มันแค่จำเป็นต้องใช้ยีนของเจ้า ซึ่งเลือดเป็นอะไรที่ง่ายที่สุด”

 

หานเซิ่นอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก แต่เขาไม่มีอารมณ์จะมาโต้เถียงกับเธอ หลังจากที่มันดูดซับเลือดของหานเซิ่นเข้าไป มันก็บินออกไปจากมือของเขาด้วยตัวเอง มันบินไปปะปนท่ามกลางเส้นผมของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เขารู้สึกตัวว่าตอนนี้มันมีสายสีเงินเส้นหนึ่งในเส้นผมของเขา มันคือเส้นไหมที่เขาเพิ่งจะได้รับมา

 

แต่ตอนนี้เส้นไหมดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับจิตใจของเขา เส้นไหมจะขยับตามคำสั่งของเขา มันสามารถยาวออกหรือหดสั้นลงตามคำสั่งของเขา มันเหมือนกับว่าเส้นไหมนั่นมีชีวิตจริงๆ

 

“สิ่งนี้มันคืออะไรกัน?” หานเซิ่นหันมาถามเอ็กซ์ควิสิทอีกครั้งหนึ่ง

 

“มันเป็นสมบัติซีโน่เจเนอิคที่เรียกว่าไหมอันเดอร์เวิลด์” เอ็กซ์ควิสิทอธิบาย
“มันทำขึ้นมาจากแก่นแท้ของเมฆในทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ ของสิ่งนี้ไม่มีระดับพลัง ความแข็งแกร่งของมันไม่สูง แม้แต่คนธรรมดาก็ฉีกมันขาดได้อย่างง่ายดาย แต่มันเป็นเพียงแค่สิ่งเดียวที่จะกลับมาจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ เจ้าใช้มันตกปลาในทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ได้”

 

“แบบนั้นทำไมข้าถึงต้องใช้เลือดของตัวเองเป็นเหยื่อปลา?” หานเซิ่นไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก เอ็กซ์ควิสิทอธิบายเพียงแค่ทีละนิดๆ แทนที่จะบอกเขาทุกอย่างตั้งแต่แรก หานเซิ่นไม่ชอบในเรื่องนั้น

 

“เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้เหยื่อ ตอนนี้ยีนของเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของไหมอันเดอร์เวิลด์เรียบร้อยแล้ว ตัวตนของเจ้าตอนนี้อยู่ภายในเส้นไหมและนั่นก็คือเหยื่อล่อของเจ้า”

 

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เอ็กซ์ควิสิทก็พูดต่อ “ข้ามีเรื่องต้องไปทำ และข้าจำเป็นต้องไปที่อื่นสักพัก จนกว่าข้าจะกลับมา ข้าหวังว่าเจ้าจะตกปลาอยู่ที่นี่ อย่าได้ออกไปไหนไกลเป็นอันขาด ในบริเวณรอบๆนี้มีซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวอยู่มากมาย แต่พวกมันจะไม่เข้ามาบริเวณทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ ดังนั้นการอยู่ที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเจ้า”

 

“หนูอยากตกปลาด้วยคน” เป่าเอ๋อพูดขึ้นมา

 

“พวกเรามีไหมอันเดอร์เวิลด์อยู่เพียงแค่เส้นเดียว ข้าจะนำอีกเส้นมาให้กับเจ้าในครั้งหน้า” เอ็กซ์ควิสิทพูดกับเป่าเอ๋อ และก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดอะไรอีก เธอก็ใช้วิชาเทเลพอร์ตและหายตัวไป

 

หานเซิ่นสะดุ้ง ไหมอันเดอร์เวิลด์ยืดผ่านมือและเลื้อยลงไปในทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์

 

“นี่ข้าตกบางสิ่งจากที่นี่ได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองสายของเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ที่ตอนนี้หายลงไปในทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ เขาคลางแคลงใจอย่างมากกับเรื่องนี้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset