หานเซิ่นมองกระดาษปึกหนาที่เขาตกขึ้นมาได้ เขาอยากจะร้องไห้ออกมา ภาพโป๊ที่เขาตกขึ้นมาได้นั้นมากพอจะประกอบขึ้นเป็นหนังสือเล่มหนึ่งได้เลย และนอกจากกระดาษสีเหลืองแล้ว เขาก็ไม่สามารถตกอะไรอย่างอื่นขึ้นมาได้เลย
‘รูปภาพพวกนี้ดูเหมือนกับหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่ง’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ถ้าเป่าเอ๋อไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย หานเซิ่นก็อยากจะตรวจสอบพวกมันอย่างละเอียด
หานเซิ่นมองไปที่เป่าเอ๋อและเห็นสิ่งของต่างๆมากมายที่เธอตกขึ้นมาได้ ถึงแม้พวกมันจะไม่ได้เป็นสมบัติระดับเทพเจ้าทั้งหมด แต่สิ่งที่เธอได้รับก็ดีกว่ากระดาษที่หานเซิ่นตกได้เป็นไหนๆ
‘ดูเหมือนว่าในช่วงนี้ดวงของเราจะไม่ค่อยดี บางทีเราควรจะไปขอให้กุนซือไวท์ช่วยคำนวณโชคลาภและหาวิธีที่จะเสริมดวง’ หานเซิ่นคิดขณะที่คำนึงถึงหนทางต่างๆที่อาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
เมื่อถึงตาที่เป่าเอ๋อจะตกปลา รูปปั้นหยกของเขาก็แสดงปฏิกิริยาขึ้นมา หานเซิ่นรีบเอาเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์กลับคืนมาและนั่งลงข้างทะเลสาบด้วยตัวเองโดยแกล้งทำเป็นว่าเขากำลังอยู่ระหว่างการตกปลา
ไม่นานหลังจากนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็เทเลพอร์ตมาที่นั่น
เอ็กซ์ควิสิทเดินเข้ามาหาหานเซิ่นและมองไปที่เขา เธอไม่เห็นอะไรอยู่ข้างๆเขา เธอจึงพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องกังวล บ่อยครั้งที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์เป็นแบบนี้ ในบางครั้งมันต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะได้อะไรสักอย่างนั้น บางทีมันอาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์ ข้าให้เจ้ามาที่นี่ก็เพื่อทดสอบดวงและมอบเวลาให้เจ้าได้ฝึกวิชาจีโน”
หานเซิ่นแปลกใจ จากที่เอ็กซ์ควิสิทพูด มันฟังดูเหมือนกับว่าต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะตกอะไรขึ้นมาได้ แต่เขาได้รับบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาในครึ่งวันอย่างมากสุด เวลาที่สั้นที่สุดที่เขาตกบางสิ่งขึ้นมาได้คือครึ่งชั่วโมง ด้วยเหตุนั้นถ้าให้หานเซิ่นคาดเดาโดยเฉลี่ยแล้วมันจะใช้เวลาเพียงแค่สองถึงสามชั่วโมงเท่านั้น
ในตอนแรกหานเซิ่นอยากจะแสดงกระดาษสีเหลืองพวกนั้นให้เอ็กซ์ควิสิทดู แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
“ดูเหมือนที่นี่จะไม่มีทรัพยากรอะไรให้ข้าใช้เพื่อฝึกฝนวิชาได้เลย” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปที่เอ็กซ์ควิสิท
ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์เป็นอะไรที่มหัศจรรย์ แต่ถ้าเขาตกได้แค่แผ่นกระดาษเก่าๆ เขาก็เลือกจะไปล่าซีโน่เจเนอิคดีกว่า
“อย่าเพิ่งรีบร้อน ช่วงนี้น้องสาวของข้าต้องการความช่วยเหลือ ข้ายังไม่มีเวลาออกไปล่ากับเจ้า ดังนั้นเจ้าฝึกอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักพัก ถ้าเจ้าโชคดีพอ บางทีทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์อาจจะมอบสิ่งที่น่าประหลาดใจให้กับเจ้า” เอ็กซ์ควิสิทพูดด้วยรอยยิ้ม
บางทีหานเซิ่นอาจจะคิดไปเอง แต่เขารู้สึกว่าในตอนที่เธอพูดกับเขา ถึงแม้เธอจะยังดูสงบเสงี่ยม แต่เธอยิ้มแย้มมากขึ้น เธอแตกต่างไปจากเมื่อก่อน
‘มันมอบสิ่งที่น่าประหลาดใจจริงๆนั่นแหละ แต่มันน่าประหลาดใจจนฉันไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกยังไงดี’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
หลังจากที่พูดคุยกันในช่วงสั้นๆเอ็กซ์ควิสิทก็จากไป เธอได้ทิ้งของบางอย่างเอาไว้ให้กับหานเซิ่นก่อนที่เธอจะไป ซึ่งนั่นรวมถึงขวดของจีโนฟลูอิด
จริงๆแล้วหานเซิ่นนำของตัวเองติดมาด้วย แต่เขาลืมบอกเธอในเรื่องนั้น
หลังจากที่เธอจากไปแล้ว หานเซิ่นก็เอาร่มกันแดดและเก้าอี้อาบแดดออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตา หานเซิ่นและเป่าเอ๋อนอนลงบนเก้าอี้อย่างผ่อนคลายอยู่ที่ริมทะเลสาบ ขณะที่พวกเขาทำแบบนั้น หานเซิ่นก็ยังคงเผื่อเวลาบางส่วนไว้สำหรับการศึกษาวิชาจีโน
จีโนฟลูอิดที่เอ็กซ์ควิสิทให้กับเขาเป็นอะไรที่ไม่เลว พวกมันดีต่อร่างกายของเขา แต่หานเซิ่นยังคงไม่พบหนทางที่จะกลายเป็นระดับครึ่งเทพ
ไม่กี่วันหลังจากนั้น หานเซิ่นก็ยอมแพ้ต่อการตกปลาย เขาปล่อยให้เป๋าเอ๋อตกปลาตามลำพัง ขณะที่เขาหันมาใช้สมาธิกับการฝึกวิชาจีโน
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้หานเซิ่นยอมแพ้นั่นเป็นเพราะเขาได้รับแต่แผ่นกระดาษสีเหลืองเก่าๆเหมือนเดิม มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะตกปลาต่อไป ส่วนเมื่อไหร่ก็ตามที่เป่าเอ๋อตกปลา เธอจะได้รับบางสิ่งที่ประดับด้วยอัญมณี สิ่งของทุกชิ้นที่เธอได้รับต่างก็เป็นอะไรที่หรูหราและสวยงาม
แต่นอกจากดาบทองคำขนาดใหญ่และที่คาดผมแล้ว เป่าเอ๋อก็ไม่ได้รับสมบัติระดับเทพเจ้าเพิ่มอีก เห็นได้ชัดว่าสมบัติระดับเทพเจ้าไม่ใช่สิ่งที่จะพบได้ง่ายๆ
แต่ถึงอย่างนั้นเป่าเอ๋อก็ยังได้รับพวกมันมาถึงสองชิ้น นั่นถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว
ไม่ใช่ทุกสิ่งที่เธอตกขึ้นมาได้จะเป็นสมบัติระดับสูง มันมีสิ่งของธรรมดาปะปนอยู่ด้วย แต่ไม่ว่าพวกมันจะเป็นระดับสูงหรือต่ำ พวกมันทั้งหมดก็ดูหรูหราอย่างมาก
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังเข้ามา เขารีบอุ้มเป่าเอ๋อขึ้นและนำเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์กลับคืนมา
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นใครบางคนเดินเข้ามา ซึ่งเขาก็คือพี่สองของเอ็กซ์ควิสิทที่ชื่อหลี่อวี้เจิน
หลี่อวี้เจินเห็นพวกหานเซิ่นทำเหมือนกับว่ามาที่นี่เพื่อพักร้อน ทั้งสองคนนอนอยู่บนเก้าอี้อาบแดดพร้อมกับมีร่มกันแดดกลางอยู่เหนือหัว มันมีทั้งขนมและเครื่องดื่มวางอยู่บนโต๊ะข้างๆพวกเขา มันมีแม้กระทั่งตู้เย็นขนาดเล็ก ภาพที่เห็นทำให้ชายคนนั้นต้องขมวดคิ้ว
“เอ็กซ์ควิสิทพาเจ้ามาที่นี่เพื่อฝึกวิชา ไม่ใช่มาพักร้อน” หลี่อวี้เจินพูดอย่างเย็นชา
“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเจ้า?” หานเซิ่นยังคงนอนบนเก้าอี้อาบแดด เขาไม่ได้ลุกขึ้นมา เขาไม่แม้แต่จะเหลือบไปมองชายคนนั้น
ใบหน้าของหลี่อวี้เจินดูเย็นชา เขาจ้องมองหานเซิ่นอยู่สักพัก แต่หลังจากนั้นเขาก็เดินไปที่อีกด้านหนึ่งของทะเลสาบโดยไม่พูดอะไร เขานำเอาเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์ออกมา ดูเหมือนกับว่าเขามาที่นี่เพื่อตกปลาเช่นกัน
ถ้าเป็นคนอื่นที่พูดแบบนั้น หลี่อวี้เจินก็คงจะตอบสนองไปแล้ว แต่หานเซิ่นเป็นตัวไหมของเอ็กซ์ควิสิทเรียบร้อยแล้ว ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้ เพราะนั่นเป็นหนึ่งในกฎของเผ่าเวรี่ไฮ ถึงแม้ตัวไหมจะไปก่อคดีขึ้น เจ้านายของตัวไหมก็จำเป็นต้องจัดการมัน
ถ้าหลี่อวี้เจินต่อสู้กับหานเซิ่น เขาไม่ได้เพียงแค่จะต่อสู้กับหานเซิ่น แต่เขาจะหยามเกียรติของเอ็กซ์ควิสิทด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ทำอะไร
แต่การที่หลี่อวี้เจินมาอยู่ที่นี่ หานเซิ่นก็ไม่สามารถปล่อยให้เป่าเอ๋อตกปลาแทนได้ เขาต้องตกปลาด้วยตัวเอง
แต่สถานการณ์ของหานเซิ่นยังคงเหมือนเดิมซะส่วนใหญ่ เขายังคงนอนอยู่บนเก้าอี้อาบแดดขณะที่ผูกเส้นไหมอันเดอร์เวิลด์เอาไว้กับนิ้ว
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็กลับไปอ่านวิชาจีโนต่อ เขาไม่ได้จดจ่ออยู่กับการตกปลาตลอด นั่นก็เพราะเขารู้ว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะได้รับกระดาษสีเหลืองอีกแผ่นหนึ่ง
แน่นอนว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สายเบ็ดของเขาก็กระตุก หานเซิ่นดึงมันขึ้นมาจากเมฆหมอกและเผยให้เห็นกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง
หลี่อวี้เจินหันไปมองและเห็นว่าหานเซิ่นได้รับกระดาษเก่าๆผ่านหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงเลิกสนใจหานเซิ่นและหันความสนใจกลับไปที่ทะเลสาบ
แต่ตอนนี้เมื่อหลี่อวี้เจินได้เห็นสิ่งที่หานเซิ่นดึงขึ้นมาจากทะเลสาบ ตอนนี้หานเซิ่นไม่สามารถปิดบังได้อีกต่อไป ถ้าเอ็กซ์ควิสิทอยากรู้ว่าพวกมันคืออะไร เขาก็ต้องยอมให้เธอดูพวกมัน
“เขามาทำอะไรที่นี่?” หานเซิ่นไม่สามารถไล่ชายคนนี้ไปที่อื่นได้ ส่วนตัวเขาเองก็ไปจากที่นี่ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่ตกปลาต่อไป
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน หลี่อวี้เจินก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ ในเวลาอันสั้นหานเซิ่นดึงบางสิ่งขึ้นมาจากทะเลสาบถึงสามครั้ง และพวกมันเป็นแผ่นกระดาษเก่าๆเหมือนกันหมด
ในตอนที่หานเซิ่นดึงกระดาษแผ่นที่สามขึ้นมา หลี่อวี้เจินก็เก็บเส้นไหมของเขาและเดินมาตรงหน้าหานเซิ่น
“ให้ข้าดูกระดาษพวกนั้น”