Super God Gene – ตอนที่ 2652

บนยานอวกาศที่มุ่งหน้าไปที่ระบบแอนดรอเมดา คริสตัลไลเซอร์หญิงคนหนึ่งหันมาหาผู้ชายที่นั่งถัดไปจากเธอ เธอดูหวาดกลัว

 

“เจ้าเป็นคริสตัลไลเซอร์อย่างนั้นหรอ?” เธอถาม

 

“ใช่” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับพยักหน้า เขาดูค่อนข้างเย็นชา

 

ผู้หญิงคนนั้นดูประหลาดใจอย่างมาก “ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้พบกับคนอื่นที่เป็นเผ่าเดียวกันที่นี่ ชื่อของข้าคือลิเดีย เจ้าเดินทางไปที่ระบบแอนดรอเมดาเพื่อล่าซีโน่เจเนอิคเหมือนกันอย่างนั้นหรอ?”

 

“ใช่” ชายคนนั้นตอบ อารมณ์ของเขาดูเหมือนจะไม่กระสับกระส่ายเลยแม้แต่นิดเดียว

 

“นั่นเยี่ยมไปเลย พวกเราควรจะร่วมมือกัน เจ้าคิดว่ายังไง?” ผู้หญิงคนนั้นพูด

 

“ไม่” ชายคนนั้นตอบ

 

ผู้หญิงคนนั้นดูผิดหวัง “นั่นไม่เป็นไร ว่าแต่เจ้าชื่อว่าอะไร? พวกเรามาแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกันได้ไหม? มันมีคริสตัลไลเซอร์เหลืออยู่ไม่มากนัก แบบนั้นพวกเราจะได้มีทางช่องทางติดต่อกันและกัน”

 

“ไม่” ชายคนนั้นพูด ใบหน้าของเขายังสงบนิ่ง

 

ผู้หญิงคนนั้นพูดดีๆกับเขา แต่ชายคนนี้ไม่พูดดีๆตอบกลับเลยแม้แต่น้อย เขาไม่เคยพูดตอบเธอยาวเกินไปกว่าหกพยางค์

 

หลังจากที่พวกเขาไปถึงระบบแอนดรอเมดา ผู้โดยสารก็กระจายไปตัวกันออกไปตามจุดหมายของตัวเอง ชายคนนั้นลงจากยาน ขณะที่คนผู้หญิงตามเขาไปจากด้านหลัง

 

“ทำไมเจ้าถึงตามมา?” ชายคนนั้นถามขณะที่หันไปมองลิเดียอย่างแปลกๆ

 

“มันเป็นเพราะว่าในจักรวาลนี้ การที่คริสตัลไลเซอร์หญิงจะได้พบกับคริสตัลไลเซอร์นั้นมีโอกาสน้อยมากๆ ข้าไม่อยากพลาดโอกาสไป ดังนั้นได้โปรดบอกชื่อของเจ้ากับข้า”
ลิเดียตอบ เธอลดหัวลงและพึมพำอย่างรวดเร็ว เธอพูดด้วยระดับเสียงที่จะมีแค่สุนัขเท่านั้นที่จะฟังออก

 

“อีตงมู่” ในที่สุดชายคนนั้นก็พูดชื่อออกมา

 

ลิเดียดูดีใจอย่างมากที่ได้ยินแบบนั้น เธอเงยหน้าขึ้นมาและกำลังจะบอกบางสิ่งกับอีตงมู่ แต่ในจังหวะที่เธอเปิดริมฝีปาก มีดของอีตงมู่ก็ได้แทงมีดทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอ

 

“ทำไมกัน…ทำไม…” ลิเดียไม่อยากเชื่อสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เธอจ้องไปที่อีตงมู่ด้วยความแปลกใจ

 

“มันเป็นเพราะข้าสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่อันตรายภายในหัวของเจ้า” อีตงมู่ดึงมีดออกจากลิเดียและส่งเธอล้มลงไปกับพื้น

 

เขามองร่างกายของลิเดียอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็หันหลังและหายไปจากภูเขาลูกนั้น

 

ไม่นานหลังจากที่อีตงมู่จากไป ร่างที่ไร้ชีวิตของลิเดียก็ลืมตาขึ้นมา แสงประหลาดแว๊บในดวงตาของเธอ ขณะที่เธอลุกขึ้นมาราวกับหุ่นไม้

 

ในจังหวะนั้นลิเดียดูเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิต ดวงตาของเธอเบิกกว้าง แต่พวกมันขาดจุดโฟกัส มันเหมือนกับว่าข้อมูลมากมายกำลังเคลื่อนผ่านดวงตาของเธอ

 

“ล้มเหลวอีกแล้ว เป็นนักฆ่าที่ไร้หัวใจอะไรขนาดนี้ เขาฆ่าผู้หญิงที่งดงามจากเผ่าพันธุ์เดียวกันอย่างง่ายดาย เพราะเขาสัมผัสได้ถึงอันตราย มันเป็นเรื่องยากที่จะรับมือกับเขา”
หลังจากผ่านไปสักพักลิเดียก็พูดกับตัวเอง “น่ารำคาญจริงๆ! ตอนนี้ข้าพลาดโอกาสจะเข้าใกล้เป้าหมายคนนี้ถึงแปดครั้งแล้ว อีกทีมหนึ่งก็หาข้อมูลเกี่ยวกับเขาไม่ได้เช่นเดียวกัน ทำไมมันถึงได้ยากลำบากขนาดนี้กับการจะสืบข้อมูลจากคนที่เคยติดต่อกับหานเซิ่นมาก่อน ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คริสตัลไลเซอร์กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่ง? มันดูเหมือนว่าการสืบข้อมูลในครั้งนี้จะเป็นอะไรที่ยากมากๆ”

 

หลังจากนั้นร่างกายของลิเดียก็ล้มลงกับพื้น แสงในดวงตาของเธอหายไปและเธอก็กลับไปดูเหมือนกับศพอีกครั้งหนึ่ง

 

“เซี่ยชิง ในช่วงนี้มีอะไรที่พิเศษเกิดขึ้นกับเจ้าบ้างไหม?” หวังอวี่ฮังมองไปที่โทรศัพท์ขณะที่พูดคุยกับเซี่ยชิง

 

“ข้าได้เพื่อนใหม่มา” เซี่ยชิงพูดขณะที่สูบซิการ์และแอนหลังบนเก้าอี้ซีอีโอ เขาดูผ่อนคลายอย่างมาก

 

“ข้าก็เหมือนกัน ดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับหานเซิ่น นี่เขาไปก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้วหรอ?” หวังอวี่ฮังพูด

 

“บางทีอาจจะไม่ พวกเขาคงแค่ต้องการจะสืบที่มาที่ไปของหานเซิ่น ไม่อย่างนั้นผู้คนก็คงจะไม่มาถามคำถามกับพวกเราอย่างสุภาพแบบนั้น” เซี่ยชิงหลี่ตาขณะที่พูดออกมา

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราควรจะทำยังไงดี?” หวังอวี่ฮังถาม

 

“ถ้าใครบางคนมอบเงินและผู้หญิงที่งดงามให้กับเจ้าอย่างฟรีๆ เจ้ายังคิดจะพูดปฏิเสธอีกอย่างนั้นหรอ? มันเป็นอะไรที่เสียมารยาทมากๆ และมันยังจะทำให้บุคคลที่เสนอให้กับเจ้าเสียใจอีกด้วย ดังนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเราจะไม่ปฏิเสธพวกเขา” เซี่ยชิงหัวเราะ

 

“ฮ่าๆ! นั่นเป็นสิ่งที่ข้าคิดเหมือนกัน หลินเฟิง ถังเตียงลิ่วและคนอื่นก็คงจะประสบกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เจ้าช่วยติดต่อไปหาพวกเขาได้ไหม? การที่มีคนเข้ามาขอเป็นมิตรกับข้าไม่มีทางเป็นแค่เรื่องบังเอิญ” หวังอวี่ฮังหัวเราะ

 

ทุกๆวัน หานเซิ่นนั่งอยู่ที่ริมทะเลสาบและค่อยๆตกแผ่นกระดาษขึ้นมา ด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อไหร่ก็ตามที่มันถึงตาของเป่าเอ๋อ เธอมักจะตกสมบัติจริงๆขึ้นมาได้ ขณะที่หานเซิ่นตกปลาทุกครั้ง เขาก็จะได้รับแผ่นกระดาษของคัมภีร์นภาอำพัน

 

“นี่มันแปลกจริงๆ ทำไมเราถึงตกได้แค่วิชาจีโนนี่?” หานเซิ่นสงสัย เขาไม่สามารถคิดหาคำตอบได้

 

เพราะยังไงซะโลกปฏิสสารก็เป็นอะไรที่ยากจะอธิบาย สามัญสำนึกและตรรกะไม่สามารถใช้กับสถานที่แบบนี้ได้ และหานเซิ่นก็ไม่อยากจะเสียเวลาครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน เขาแค่ต้องการจะรวบรวมหน้ากระดาษของคัมภีร์นภาอำพันให้ครบเร็วที่สุด เขาอยากจะรู้ว่ามันเป็นวิชาจีโนแบบไหน

 

‘วิชาจีโนที่มาจากโลกปฏิสสาร ไม่ว่ามันจะแย่สักแค่ไหน มันก็ต้องเป็นอะไรที่พิเศษถูกไหม?’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง

 

ทันใดนั้นรูปปั้นหยกของเขาก็เรืองแสงขึ้นมา หานเซิ่นรับรู้ว่าเอ็กซ์ควิสิทกำลังมาที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรีบซิงค์ความคิดด้วยรูปปั้นหยก

 

“ตกอะไรได้ไหม?” หลังจากนั้นไม่นานเอ็กซ์ควิสิทก็เทเลพอร์ตมาอยู่ข้างๆหานเซิ่น

 

“ได้ แต่ของที่ข้าตกขึ้นมาได้เป็นอะไรที่ค่อนข้างประหลาด” หานเซิ่นพูดด้วยโทนเสียงแปลกๆ

 

“ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์นั้นเชื่อมต่อกับโลกปฏิสสาร ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติที่จะตกของประหลาดขึ้นมาได้ ว่าแต่เจ้าตกอะไรขึ้นมาได้?” เอ็กซ์ควิสิทถาม

 

“ข้าได้รับกระดาษ” หานเซิ่นพูดอย่างช้าๆ หลี่อวี้เจินได้เห็นกระดาษสีเหลืองพวกนี้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเผยสิ่งที่เขาตกขึ้นมาได้ออกไป

 

“กระดาษ? กระดาษแบบไหน?” เอ็กซ์ควิสิทถามด้วยความอยากรู้ ถึงแม้ไม่ว่าอะไรก็สามารถถูกตกขึ้นมาจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ได้ แต่มันก็หาได้ยากที่จะตกบางสิ่งอย่างกระดาษขึ้นมา

 

“เรื่องนั้น…” หานเซิ่นอ้ำๆอึ้งๆ ในตอนที่เขาคิดเกี่ยวกับภาพที่วาดอยู่บนกระดาษสีเหลืองพวกนี้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดออกไปยังไงดี

 

เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด ดังนั้นเธอจึงหน้าแดงและพูดขึ้นมา
“ไม่เป็นไร เจ้าไม่จำเป็นต้องบอกข้า อะไรก็ตามที่เจ้าได้รับจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์นั้นเป็นของของเจ้า ถึงแม้เจ้าจะได้รับสมบัติระดับเทพเจ้ามา มันก็เป็นของของเจ้า ในตอนที่เจ้าออกไปจากเอาท์เตอร์สกาย เจ้าก็เอาพวกมันติดตัวเจ้าออกไปได้เลย”

 

“ขอบคุณ” หานเซิ่นแกล้งทำเป็นโล่งใจ

 

“เจ้าต้องการทรัพยากรจากซีโน่เจเนอิคอย่างนั้นสินะ ข้าหาพวกมันมาให้กับเจ้าได้แล้ว แต่เจ้าจะได้รับมันมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพลังของเจ้า” เอ็กซ์ควิสิทพูดกับหานเซิ่น เธอดูค่อนข้างเบิกบาน

 

“หมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นถามด้วยความสงสัย

 

“เอาท์เตอร์สกายมีต้นไม้ดาราอยู่ ต้นไม้นั้นจะให้กำเนิดผลดาราที่ถูกห้อมรอบไปด้วยซีโน่เจเนอิคอวกาศที่ทรงพลัง พวกมันเป็นระดับราชันเป็นอย่างน้อย แน่นอนว่าบางตัวเป็นถึงระดับเทพเจ้า ตอนนี้เจ้าไปเก็บผลดาราได้ แต่จะเก็บได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset