“ใช่” ชายแก่รู้ว่าหลี่อวี้เจินกำลังคิดอะไรอยู่ หลังจากหยุดไปชั่วครู่เขาก็พูดขึ้นมา
“หานเซิ่นทำได้ดีกว่าเจ้า ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเหมาะสมจะมาดูแลต้นไม้ดารามากกว่า”
“นั่นเป็นไปไม่ได้! ข้าเดิมพันว่าเขาฆ่าด้วงดาราได้ไม่ถึงหนึ่งพันตัวด้วยซ้ำ จะบอกว่าเขาทำได้ดีกว่าข้าได้ยังไงกัน?”
หลี่อวี้เจินพูด เขาไม่เชื่อในเรื่องนี้ เขารู้ว่าหานเซิ่นถูกไล่ล่าโดยด้วงดาราระดับเทพเจ้าอยู่ตลอดทั้งวัน ดังนั้นมันไม่มีทางที่หานเซิ่นจะทำได้ดีกว่าเขาที่เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
“ลองไปดู เจ้าควรจะหาความจริงด้วยตัวเจ้าเอง” แทนที่จะอธิบาย ชายแก่ชี้ขึ้นไปบนต้นไม้
หลี่อวี้เจินถูกคนอื่นแนะนำให้มารับงานนี้ ชายแก่จึงไม่ได้สนใจความรู้สึกส่วนตัวของหลี่อวี้เจิน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงคิดว่าควรจะให้ชายหนุ่มได้เห็นกับตาตัวเอง ไม่อย่างนั้นหลี่อวี้เจินจะยังมีคำถามที่ค้างคาใจ และผู้คนอาจจะพูดไม่ดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนี้
แทนที่จะไปดูด้วยตัวเอง หลี่อวี้เจินเพียงแค่หันมาถามหานเซิ่น “เจ้าฆ่าด้วงดาราไปกี่ตัว?”
“สามพันหกร้อยสิบสี่ตัว” หานเซิ่นตอบ
“เป็นไปไม่ได้! เจ้าถูกด้วงดาราระดับเทพเจ้าไล่ล่าอยู่ตลอด และถึงแม้เจ้าจะไม่ได้ถูกไล่ล่า มันก็ไม่มีทางที่เจ้าจะฆ่าด้วงดาราได้มากมายขนาดนั้นในเวลาอันสั้น” ดวงตาของหลี่อวี้เจินเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เนื่องจากพวกเขาถูกสั่งห้ามไม่ให้สร้างความเสียหายกับต้นไม้ขณะที่กำจัดแมลง ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถใช้วิชาจีโนที่มีพลังทำลายล้างในวงกว้างได้ พวกเขาต้องฆ่าด้วงดาราทีละตัวๆด้วยความระมัดระวัง การฆ่าด้วงดาราได้สองพันตัวในหนึ่งวันถือเป็นจำนวนที่น่าตกใจแล้ว แต่หานเซิ่นกล่าวอ้างว่าฆ่าได้สามพันหกร้อยสิบสี่ตัว นั่นเป็นจำนวนที่มีเฉพาะยอดฝีมือระดับเทพเจ้าเท่านั้นที่จะทำได้
แถมหานเซิ่นยังต้องใช้เวลาในการเดินทางไปกลับอีก ดังนั้นเขาจึงมีเวลาน้อยกว่าหนึ่งวันในการฆ่าเหล่าแมลง
หานเซิ่นยิ้ม แต่เขาไม่ได้พูดอะไรอีก
สีหน้าของหลี่อวี้เจินเปลี่ยนไป เขาเทเลพอร์ตขึ้นไปยังบริเวณที่หานเซิ่นเคยอยู่
หลี่อวี้เจินพบด้วงดาราที่ถูกหานเซิ่นฆ่าตายอย่างรวดเร็ว ในตอนแรกที่เขาเห็นพวกมัน เขาคิดว่าพวกมันยังมีชีวิตอยู่ นั่นเป็นเพราะดูเหมือนกับว่าพวกมันไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย
แต่พลังชีวิตของพวกมันดับไปแล้ว พวกมันเป็นเพียงแค่ซากศพ
หลี่อวี้เจินขมวดคิ้ว เขาตรวจเช็คร่างกายด้วงที่อยู่ใกล้ที่สุดและค้นพบรูขนาดเล็กบนหน้าผากของมัน
“หนึ่งการโจมตีเพื่อฆ่าพวกมันด้วยการตัดเส้นประสาท แบบนั้นด้วงดาราก็ไม่มีเวลาจะดิ้นรน นั่นเป็นทั้งวิชาจีโนที่ทรงพลังและเป็นการควบคุมที่แม่นยำ” หลี่อวี้เจินพึมพำ
แต่เขายังไม่เชื่อว่าหานเซิ่นจะฆ่าด้วงดาราได้ทั้งหมดสามพันหกร้อยสิบสี่ตัว วิชาจีโนที่แม่นยำสูงแบบนั้นสามารถใช้ได้เฉพาะในสถานการณ์ที่เป็นใจเท่านั้น
หลี่อวี้เจินบินไปรอบๆและพบร่างของด้วงมากมายตายเกลื่อนอยู่บนต้นไม้ดารา พวกมันทั้งหมดตายด้วยบาดแผลบนหน้าผากที่เหมือนกันทุกตัว
ความสามารถที่ถูกสร้างขึ้นเป็นอะไรที่แม่นยำ แม้แต่หลี่อวี้เจินเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำได้ถึงแม้เขาจะมีเวลาในการเตรียมตัวก็ตาม และยิ่งถ้าเขากำลังถูกไล่ล่าโดยซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า เขาก็คงจะทำไม่ได้อย่างแน่นอน
หลังจากที่ค้นหาอยู่ช่วงสั้นๆ หลี่อวี้เจินก็ค้นพบร่างของด้วงดาราสามพันตัว หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจหยุดจะค้นหาตัว จำนวนที่หานเซิ่นบอกนั้นคงจะเป็นอะไรที่ถูกต้อง เพราะไม่มีทางที่หานเซิ่นจะหลอกผู้อาวุโสเกี่ยวกับจำนวนที่เขาฆ่าได้
แต่ตอนนี้หลี่อวี้เจินเชื่อว่าหานเซิ่นต้องขี้โกงหรือใช้อาวุธที่ทรงพลังบางอย่าง ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีทางที่เขาจะฆ่าด้วงได้มากมายขณะที่ถูกไล่ล่าโดยด้วยระดับเทพเจ้า
เขาเทเลพอร์ตกลับไปหาชายแก่ หลี่อวี้เจินโค้งคำนับและพูด “ท่านลุง ข้าขอดูวิดีโอการทดสอบหน่อยจะได้ไหม?”
“ได้แน่นอน” ชายแก่พูด
หลี่อวี้เจินเปิดวิดีโอการทดสอบ ด้านหนึ่งของหน้าจอแสดงการทดสอบของหลี่อวี้เจิน ขณะที่อีกด้านแสดงการทดสอบของหานเซิ่น เขาไม่ได้ดูภาพวิดีโอของตัวเอง เขาจดจ่อไปที่การทดสอบของหานเซิ่น เขาดูมันด้วยความเร็วแปดเท่าของความเร็วปกติเพื่อตรวจเช็คว่าหานเซิ่นทำการฆ่าด้วงทั้งหมดได้ยังไง
ในตอนแรกหลี่อวี้เจินพยายามจะหาหลักฐานการขี้โกงของหานเซิ่น แต่หลังจากที่มองดูไปสักพัก ใบหน้าของหลี่อวี้เจินก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
ถึงแม้จะถูกไล่ล่าโดยด้วงระดับเทพเจ้า แต่หานเซิ่นก็ยังคงล่าด้วงดาราระดับราชันต่อไป ทุกครั้งที่เขาฆ่าด้วงตัวหนึ่งได้ เขาจะเคลื่อนที่ไปอื่น การเคลื่อนไหวของเขาลื่นไหลและมันเป็นอะไรที่อิ่มใจที่ได้ดูพวกมันทั้งหมดเกิดขึ้น
หลังจากที่มองดูอยู่สักพัก หลี่อวี้เจินก็สรุปได้ว่าวิธีการฆ่าพวกแมลงของหานเซิ่นเป็นอะไรที่แปลก แต่เขาไม่ได้ขี้โกงแต่อย่างใด หานเซิ่นทำเหมือนกับว่าด้วงดาราระดับเทพเจ้านั้นหุ่นเชิดที่ถูกชักใย
ถ้าหานเซิ่นล่อมันไปทางซ้าย มันก็จะไปทางซ้าย ถ้าเขาล่อมันไปทางขวา มันก็จะไปทางขวา มันติดตามเขาเหมือนกับลูกสุนัข
แต่หลี่อวี้เจินรู้ว่าด้วงระดับเทพเจ้าไม่ใช่ลูกสุนัข มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่ทรงพลังและน่ากลัว ถึงแม้เขาจะใช้สมบัติระดับเทพเจ้าช่วย หลี่อวี้เจินก็ไม่คิดว่าฆ่ามันได้ง่ายนัก
หานเซิ่นไม่ได้ใช้สมบัติอะไร แต่เขาก็ยังหลอกล่อด้วงดาราระดับเทพเจ้าได้อย่างสบายๆ วิธีการควบคุมสภาพแวดล้อมรอบตัวของหานเซิ่นนั้นคล้ายคลึงกับวิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูต่างออกไป
“เจ้าฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์อย่างนั้นหรอ?” หลี่อวี้เจินถามหานเซิ่น
หานเซิ่นส่ายหัว “ข้าไม่เคยฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ ข้าแค่ใช้วิชาใต้นภาของปราสาทนภา”
เอ็กซ์ควิสิทพยักหน้าและพูด “เขาเชี่ยวชาญในการใช้วิชาใต้นภา”
เนื่องจากเอ็กซ์ควิสิทยืนยันในเรื่องนี้ หลี่อวี้เจินก็ไม่สามารถสงสัยอะไรได้อีก หานเซิ่นเป็นตัวไหมของเอ็กซ์ควิสิท ดังนั้นความคิดของเขาไม่สามารถซ่อนจากเธอได้
หลี่อวี้เจินดูไม่ค่อยพอใจ เขาตั้งใจจะสั่งสอนบทเรียนให้กับหานเซิ่น แต่ไม่เพียงแค่เขาจะสั่งสอนบทเรียนให้กับหานเซิ่นไม่ได้แล้ว หานเซิ่นยังแย้งงานที่ควรจะเป็นงานของเขาไป
ตอนนี้หลี่อวี้เจินรู้สึกเสียใจที่เสนอว่าควรทำการทดสอบพร้อมๆกัน ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะได้เป็นคนดูแลต้นไม้ดาราไปแล้ว
หลังจากที่ได้เห็นการทดสอบของหานเซิ่น หลี่อวี้เจินก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เขาโค้งคำนับชายแก่และรีบจากไป เขาอับอายเกินกว่าจะอยู่ต่อ พวกเขาทั้งคู่เป็นระดับราชันขั้นที่เก้าเหมือนกัน แต่หานเซิ่นที่ถูกไล่ล่าโดยด้วงดาราระดับเทพเจ้ายังฆ่าด้วงได้มากกว่าเขาถึงหนึ่งพันตัว ในตอนที่หลี่อวี้เจินจากไป เขาเอาวิดีโอของหานเซิ่นกลับไปด้วย ไม่มีใครรู้ว่าเขามีแผนจะทำอะไรกับมัน
“ตามข้อตกลง เจ้าจะได้รับผลไม้ดาราทั้งหมดสามสิบหกลูก แบบนั้นทำไมข้าไม่ปัดขึ้นไปเป็นสี่สิบลูกซะเลยล่ะ?” ชายแก่ยิ้ม หลังจากนั้นเขาพูดต่อไปว่า
“จากนี้เป็นต้นไปเจ้าจะได้รับหน้าที่ดูแลต้นไม้ดารา เจ้าจะรับผลไม้ดาราสิบลูกต่อเดือนเป็นรางวัล ดังนั้นในตอนนี้เจ้าจะรับผลไม้ดาราไปทั้งหมดห้าสิบลูก”
หานเซิ่นดีใจ มันนานมากแล้วที่ไม่มีเรื่องดีๆแบบนี้เกิดขึ้นกับเขา เขาแค่ต้องคอยเฝ้าต้นไม้ดาราและกำจัดแมลง นั่นทำให้เขาได้รับผลไม้ดาราสิบลูกต่อเดือน มันเป็นรางวัลที่ได้มาง่ายๆ แถมการฆ่าด้วงดาราก็ถือเป็นรางวัลอย่างหนึ่งด้วย
เอ็กซ์ควิสิทอธิบายเกี่ยวกับวิธีการจะรับผลไม้ดาราไป หานเซิ่นไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ดังนั้นหลังจากที่ฟังคำอธิบายจบ หานเซิ่นก็รีบบินขึ้นไปหาผลไม้ดาราที่ดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ในทันที