Super God Gene – ตอนที่ 2662

บนภูเขาลูกหนึ่งภายในเอาท์เตอร์สกาย หลี่อวี้เจินไปพบกับชายเผ่าเวรี่ไฮคนหนึ่ง พวกเขาเริ่มดูวิดีโอที่หลี่อวี้เจินเอาติดตัวมา ซึ่งแสดงภาพที่หานเซิ่นกำลังสังหารด้วงดารา

 

“หลี่เสวี่ยเฉิง เจ้าคิดว่ายังไง?” หลี่อวี้เจินถามชายในชุดสีเขียว

 

“เขาแข็งแกร่งมากๆ เขาอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าคนเผ่าเวรี่ไฮที่อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำ เขาคือใคร?” หลี่เสวี่ยเฉิงถามโดยไม่ได้ละสายตาไปจากวิดีโอของหานเซิ่น

 

“เขาเป็นตัวไหมที่เอ็กซ์ควิสิทเลือก ชื่อของเขาคือหานเซิ่นและเขาก็เป็นคริสตัลไลเซอร์” หลี่อวี้เจินตอบ

 

“ข้าคิดว่าเอ็กซ์ควิสิทนั้นโชคดีมากๆที่ได้ตัวไหมแบบนี้มา” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดพร้อมกับพยักหน้า

 

หลี่อวี้เจินยิ้มและพูด “ถึงแม้นางจะโชคดี แต่นั่นเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา? ขอบอกเจ้าตามตรง นางเป็นบุคคลที่มีค่ามากๆในเผ่าเวรี่ไฮ ในทางกลับกันพวกเราเป็นเพียงแค่เครื่องจักรสำหรับผลิตลูก”

 

เมื่อเห็นหลี่เสวี่ยเฉิงขมวดคิ้ว หลี่อวี้เจินก็พูดต่อ “หลังจากที่เห็นวิดีโอนี้ เจ้าไม่มีความคิดเห็นอะไรเลยอย่างนั้นหรอ?”

“เจ้าหมายความว่ายังไง?” หลี่เสวี่ยเฉิงขมวดคิ้วอีกครั้ง

 

“เมื่อหลี่เคอเอ๋อเลือกตัวไหมได้แล้ว การประลองระหว่างตัวไหมก็จะเริ่มต้นขึ้น มันมีตัวไหมเข้าประลองทั้งหมดสิบสามคน เจ้าคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะ?” หลี่อวี้เจินพูด

 

“จากที่ข้าเห็น หานเซิ่นยอดเยี่ยมมากๆ แต่เขายังเป็นแค่ระดับราชันขั้นที่เก้า ตัวไหมส่วนใหญ่เป็นครึ่งเทพกันหมดแล้ว แถมยังมีคนที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดด้วย เมื่อตัดสินจากพลังแล้ว ข้าคิดว่ามีโอกาสสูงที่ตัวไหมที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่เกิดจะเป็นผู้ชนะ” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด

 

“เหตุผลของเจ้าฟังขึ้น แต่จากที่ข้าวิเคราะห์ หานเซิ่นดูเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ เขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ และเขาก็มีสมบัติอยู่หลายอย่าง เขามีแม้กระทั่งโล่เมดูซ่าส์เกซที่เป็นอาวุธขั้นทรูก็อต ข้าคิดว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะเป็นผู้ชนะ”

 

หลังจากที่ต้องพบกับอับอายในการทดสอบที่ต้นไม้ดารา หลี่อวี้เจินก็ได้ไปสืบเรื่องของหานเซิ่นอย่างละเอียด ตอนนี้เขารู้เกี่ยวกับหานเซิ่นมากกว่าที่คนอื่นๆในเผ่าเวรี่ไฮรู้

 

เอาท์เตอร์สกายมีทรัพยากรอยู่มากมาย ดังนั้นเผ่าเวรี่ไฮไม่เคยขาดแคลนอะไร พวกเขาแค่จำเป็นต้องออกไปภายนอกเพื่อหาตัวไหมที่มีพรสวรรค์

 

ด้วยเหตุนั้นเผ่าเวรี่ไฮจึงไม่ได้ให้ความสนใจเผ่าพันธุ์อื่นมากนัก และหานเซิ่นก็เป็นเพียงแค่ระดับราชันคนหนึ่ง แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าธรรมดาก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเผ่าเวรี่ไฮได้

 

หลี่อวี้เจินส่งข้อมูลเกี่ยวกับหานเซิ่นให้หลี่เสวี่ยเฉิงดู ซึ่งนั่นรวมถึงวิดีโอที่หานเซิ่นใช้โล่เมดูซ่าส์เกซเปลี่ยนเหมิงเลี่ยให้กลายเป็นรูปปั้นด้วย

 

“มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรอเนี่ย?” หลี่เสวี่ยเฉิงแปลกใจ เขาเงียบไปสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา
“ถ้าวิดีโอนี้เป็นของจริง เขาก็อาจจะชนะในการประลองระหว่างตัวไหม แต่เขาแค่มีโอกาสเท่านั้น ชัยชนะของเขาไม่ได้ถูกรับประกัน เพราะยังไงซะการใช้สมบัติซีโน่เจเนอิคก็ไม่ได้ทำให้คนๆนั้นเก่งกาจเหมือนกับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าจริงๆ มันยังคงมีความแตกต่างระหว่างพลังอยู่ แต่ถ้าเขาใช้อาวุธอย่างโล่เมดูซ่าส์เกซ เขาก็อาจจะเป็นผู้ชนะ”

 

“และถ้าเกิดการประลองของตัวไหมในครั้งนี้เกิดห้ามใช้สมบัติขึ้นมาล่ะ?” จู่ๆหลี่อวี้เจินก็หัวเราะขึ้นมา

 

“แน่นอนว่าถ้าใช้พลังของตัวเองเพียงอย่างเดียว เขาคงจะสู้กับระดับเทพเจ้าที่แท้จริงไม่ได้ วิดีโอนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาฆ่าด้วงดาราระดับเทพเจ้าไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน พลังของเขาในตอนนี้ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อกรของยอดฝีมือระดับเทพเจ้า วิชาการต่อสู้ของเขาไม่ได้มีความหมายอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่เหนือกว่า”
หลี่เสวี่ยเฉิงหยุดไปชั่วครู่และพูดต่อ “แต่การประลองระหว่างตัวไหมนั้นไม่ได้ห้ามการใช้สมบัติ”

 

“มันไม่ได้ถูกห้ามในอดีต แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป ข้ามีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ครั้งนี้การประลองของตัวไหมจะห้ามการใช้สมบัติ” หลี่อวี้เจินพูดด้วยความมั่นใจ

 

“นี่สมาชิกในครอบครอบของเจ้า…” หลี่เสวี่ยเฉิงดูเหมือนจะคาดเดาบางสิ่งขึ้นมาได้ แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา

 

หลี่อวี้เจินยิ้ม “เจ้าแค่จำเป็นต้องรู้ว่าการประลองตัวไหมในครั้งนี้ไม่อนุญาตให้ใช้สมบัติเพียงแค่นั้น สำหรับตอนนี้มันมีเพียงแค่สี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเจ้ากับข้าไม่นำไปบอกคนอื่น อีกสองคนก็จะไม่ไปบอกใครเช่นกัน”

 

“แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา?” หลี่เสวี่ยเฉิงยังคงไม่เข้าใจว่าหลี่อวี้เจินพยายามจะบอกอะไร

 

“นี่เจ้าลืมไปแล้วหรอ?” หลี่อวี้เจินถามขึ้นมา
“โดยปกติแล้วการประลองตัวไหมจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อ แต่การประลองครั้งนี้จะเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าสนใจ ถ้าเจ้าส่งข้อมูลเกี่ยวกับหานเซิ่นออกไป เจ้าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนพวกเราที่เชื่อว่าหานเซิ่นจะเป็นผู้ชนะในการประลองเหมือนกันไหม?”

 

“นั่นก็เป็นไปได้…เพราะยังไงซะตัวไหมที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดก็ยังเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟ จริงๆแล้วเขาอ่อนแอยิ่งกว่าเหมิงเลี่ย ด้วยสมบัติที่หานเซิ่นมี เขาก็คงจะเป็นฝ่ายชนะ” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด หลังจากที่เขาพูดออกมา ดวงตาของเขาก็เริ่มเป็นประกาย ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าหลี่อวี้เจินพยายามจะบอกอะไร

 

“เจ้าต้องการให้ทุกคนเดิมพันข้างหานเซิ่น เพื่อที่เจ้าจะได้เอาเงินของพวกเขาอย่างนั้นหรอ?” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดด้วยความสนใจ

 

“ใช่ และหลังจากที่ทุกคนต้องสูญเสียเพราะความเชื่อในตัวหานเซิ่น เจ้าคิดว่าพวกเขาจะยังดีกับหานเซิ่นอีกไหมล่ะ?” หลี่อวี้เจินหัวเราะ

 

“เจ้าชั่วร้ายจริงๆ เจ้ากำลังจะหลอกเอาทรัพยากรของคนอื่น และพวกคนที่หานเซิ่นอาจจะต้องไปเยี่ยมเยือน ถ้าพวกเขาไม่ชอบหานเซิ่น มันก็ยากที่เขาจะได้รับทรัพยากร” หลี่เสวี่ยเฉิงพูดหลังจากที่เข้าใจ

 

“ข้า หลี่อวี้เจินจะไม่ปล่อยให้บางสิ่งถูกขโมยไปโดยเปล่าๆ”
หลี่อวี้เจินหัวเราะ หลังจากนั้นเขาก็พูดกับหลี่เสวี่ยเฉิง “พวกเขาจะประกาศเรื่องที่การประลองห้ามใช้สมบัติในเร็วๆนี้ ดังนั้นเจ้าควรรีบดำเนินการ พวกเราจำเป็นต้องให้คนอื่นทำการเดิมพันก่อนที่ข่าวนี้จะแพร่ออกไป”

 

“นี่ดูจะเป็นโอกาสที่ดี แต่ทำไมเจ้าไม่ทำมันด้วยตัวเอง? ทำไมเจ้าต้องลากข้าเข้าไปเกี่ยวในเรื่องนี้ด้วย?” หลี่เสวี่ยเฉิงถามอย่างสับสน

 

“ข้ามีภูมิหลังกับเขา” หลี่อวี้เจินพูดขณะที่ส่ายหัว
“ถ้าข้าเดิมพันว่าหานเซิ่นจะแพ้ ผู้คนก็จะเกิดสงสัยขึ้นมา แต่เจ้าไม่ได้รู้จักเขา พวกเราจะแบ่งผลประโยชน์กันคนละครึ่ง”

 

“เจ้าพูดถูก ด้วยความสัมพันธ์ของเจ้ากับหานเซิ่น ถ้าเจ้าเดิมพันว่าเขาจะแพ้ คนอื่นก็จะรู้ว่ามันต้องมีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล”
หลี่เสวี่ยเฉิงหัวเราะและพูดต่อ “เอาสิ ถ้าอย่างนั้นมันก็เป็นอันตกลง”

 

ข้อมูลเกี่ยวกับหานเซิ่นแพร่กระจายไปทั่วเผ่าเวรี่ไฮ คนของเผ่าเวรี่ไฮเกิดสนใจในตัวเขาขึ้นมา แน่นอกว่ายกเว้นคนที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ แต่พวกเขาเพียงแค่ไม่ได้พูดอะไร ผลลัพธ์ทำให้คนของเผ่าเวรี่ไฮส่วนใหญ่เชื่อว่าหานเซิ่นมีโอกาสที่จะชนะการประลองระหว่างตัวไหม

 

หลี่เสวี่ยเฉิงสามารถใช้โอกาสนี้ทำการเดิมพันระหว่างคนของเผ่าเวรี่ไฮ

 

ผลการเดิมพันเป็นไปตามที่หลี่อวี้เจินคาดการณ์เช่นกัน ไม่นานหลังจากที่ทุกคนวางเดิมพันกันเสร็จแล้ว ผู้นำของเวรี่ไฮก็ประกาศว่าตัวไหมจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สมบัติในการประลอง คนของเวรี่ไฮหลายคนคิดว่าหลี่เสวี่ยเฉิงหลอกพวกเขา และพวกเขาก็รู้สึกเกลียดชังไปด้วย

 

ทุกอย่างจะไม่เป็นอะไร ถ้าหานเซิ่นชนะการประลองระหว่างตัวไหม แต่ถ้าเขาไม่ชนะ ชาวเวรี่ไฮหลายคนก็จะสูญเสียเงินจำนวนมาก ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ แต่เขาก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

 

หานเซิ่นไม่ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขายังคงตกปลาอยู่ที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ต่อไป และหลังจากผ่านไปสิบวัน เขาก็กลับไปที่ต้นไม้ดารา

 

ชายแก่ที่อยู่ใต้ต้นไม้ได้จากไปแล้ว และหานเซิ่นก็เป็นคนรับหน้าที่ดูแลต้นไม้ต่อ เขาใช้เวลาสักพักค้นหาตามกิ่งก้านของต้นไม้อย่างละเอียด แต่เขาไม่พบด้วงดาราเลยสักตัว ดูเหมือนกับว่าชายแก่นั้นจะจัดการพวกมันจนหมดก่อนที่เขาจะจากไป

 

“ฝูงด้วงดาราจะมาทุกๆสองถึงสามเดือน เจ้าไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ตลอด เจ้าแค่ต้องมาในตอนที่พวกแมลงเดินทางมาถึง หลังจากนั้นเจ้าก็แค่ต้องฆ่าพวกมันให้หมด” เอ็กซ์ควิสิทพูดกับหานเซิ่น

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset