ในตอนที่หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทออกไปจากทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ หลี่เคอเอ๋อก็หันมามองเอ็กซ์ควิสิทด้วยความสับสน
“นี่พี่จะไม่บอกเขาเกี่ยวกับการเรื่องที่ผู้คนวางเดิมพันข้างเขาอย่างนั้นหรอ?”
“ถึงเขาจะรู้เรื่องนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร นี่พวกเราจะให้เขาต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับคนที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดหรือยังไง? ข้าไม่อยากหาตัวไหมคนใหม่” เอ็กซ์ควิสิทพูด
“พี่พูดถูก” หลี่เคอเอ๋อพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“มันเป็นไปไม่ได้ที่ราชันคนหนึ่งจะเอาชนะคนที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิด แถมระดับเทพเจ้าคนนั้นก็ไม่ได้ขาดพรสวรรค์ เขาเก่งกาจไม่ต่างไปจากคนของเผ่าเวรี่ไฮ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะเอาชนะเขาได้ และหานเซิ่นก็เป็นเพียงแค่ระดับราชันขั้นที่เก้า”
หลี่เคอเอ๋อถอนหายใจและพูดต่อ “ผู้คนที่เชื่อว่าหานเซิ่นจะได้รับอันดับที่หนึ่งและวางเดิมพันข้างเขาด้วยทรัพย์สินจำนวนมากกำลังจะต้องเสียสิ่งที่พวกเขาเดิมพันไป พวกเขาทำอะไรกับหลี่เสวี่ยเฉิงไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาคงจะต้องมาระบายความโกรธที่หานเซิ่นเป็นแน่ แบบนั้นที่ไหนก็ตามที่เขาไป เขาก็คงจะเจอกับปัญหา”
“นั่นเป็นบางสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเราแค่ต้องหาหนทางที่จะแก้ไขเรื่องนี้หรืออย่างน้อยก็บรรเทาผลร้ายที่จะตามมา” เอ็กซ์ควิสิทพูด
…
หานเซิ่นใช้เวลาสักพักไปกับการอ่านข้อมูลที่ได้มา มันบรรยายเกี่ยวกับตัวไหมทั้งสิบเอ็ดคนที่เขาจะต้องต่อสู้ด้วย ข้อมูลนั้นเป็นอะไรที่ครอบคลุม มันเป็นเหมือนกับเมนูของร้านอาหาร
มันมีภาพของตัวไหมทุกคนอยู่ในหนังสือ หานเซิ่นเห็นคนที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำหนดอยู่ที่หน้าแรกสุด
เชล : เผ่าไลอ้อนฮาร์ทกลายพันธุ์
ระดับ: เทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ
เพศ: ชาย
วิชาจีโนหลัก: ไลอ้อนคิลเลอร์
งานอดิเรกและสิ่งที่สนใจ: ของหวาน
ข้อมูลนั้นละเอียดมากๆ แต่ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์สำหรับหานเซิ่น เขาไม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับงานอดิเรกคู่ต่อสู้ เขาไม่จำเป็นต้องรู้สีของชุดเกราะที่คนอื่นสวมใส่หรือสิ่งที่พวกเขาชอบทำเพื่อความสนุก มันไม่ได้มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับพลัง ทั้งหมดที่หานเซิ่นรู้ก็คือเรื่องที่ระดับเทพเจ้าคนนี้มีวิชาจีโนที่เรียกว่าไลอ้อนคิลเลอร์
“การอ่านข้อมูลพวกนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย” หานเซิ่นส่ายหัว
หานเซิ่นอ่านต่อไป และเขาสังเกตว่าข้อมูลเกี่ยวกับตัวไหมคนอื่นเป็นเหมือนกัน ในตอนที่เขาเปิดไปถึงหน้าที่สี่ เขาก็เห็นข้อมูลของอวี้ซ่านซิน แต่ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์เช่นเคย มันบอกแค่ว่าเขาเชี่ยวชาญในวิถีเอ็กซ์ตรีมอีวิลแค่นั้น
หานเซิ่นอ่านข้อมูลไปเรื่อยๆโดยจำจดแค่ใบหน้า ชื่อและเผ่าพันธุ์ของตัวไหมทุกคน ข้อมูลอื่นที่เหลือเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์สำหรับเขา
หานเซิ่นเปิดไปจนถึงหน้าสุดท้ายและได้เห็นข้อมูลของตัวเอง
หานเซิ่น : เผ่าคริสตัลไลเซอร์ (รับใช้ปราสาทนภา)
ระดับ: ราชันขั้นที่เก้า
เพศ: ชาย
วิชาจีโนหลัก: เรื่องราวของยีน, มีดเขี้ยวดาบ, มีดใต้นภา…
สมบัติที่เป็นเจ้าของ: แส้เหล็กเทพเสน่ห์หา, โล่เมดูซ่าส์เกซ, เสื้อคลุมขนนกที่ไม่รู้ที่มา, ธนูที่ไม่รู้ที่มา…
“เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันอะไรกัน?” หานเซิ่นอึ้งไป ข้อมูลเกี่ยวกับตัวไหมอื่นแทบจะเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ แต่ข้อมูลของตัวเขาเป็นอะไรที่ละเอียดอย่างน่าประหลาดใจ มันบอกทุกสิ่งอย่างค่อนข้างชัดเจนและมันยังพูดถึงสมบัติที่เขามี แถมมันยังบรรยายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชาจีโนแต่ละตัวและสมบัติแต่ละชนิดของเขาอย่างละเอียดอีกด้วย
“ใครกันที่เป็นคนจัดทำหนังสือบ้าๆนี่ขึ้นมา? ทำไมเขาถึงได้จงใจที่จะเปิดเผยพลังของเรา?” หานเซิ่นรู้สึกอยากจะฆ่าใครสักคน เขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับศัตรูของเขา แต่คู่ต่อสู้ได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา นี่มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิดเดียว
หลังจากอ่านข้อมูลของตัวไหมทุกคน มันก็มีบทสรุปให้ “อัจฉริยะที่จะสยบเผ่าพันธุ์นับพันที่ประกอบเป็นจักรวาลที่พวกเราอาศัยอยู่ คนที่โดดเด่นที่สุดจะกลายเป็นตัวไหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นอกจากเชลที่พวกเรารู้ว่าต่อสู้ได้แล้ว คนอื่นยังไม่ถูกตัดสิน เขาคือคนที่หลายคนเชื่อว่าจะเป็นผู้ชนะในการประลองระหว่างตัวไหม”
“ไอ้เวรเอ้ย” หลังจากที่อ่านบทสรุป หานเซิ่นก็รู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล เขาพลิกหน้าหนังสือไปอีกจนกระทั่งเขาเห็นบรรทัดสุดท้ายที่ด้านหลังของหนังสือ มันเขียนเอาไว้ว่า “ผู้เรียบเรียง: หลี่เสวี่ยเฉิง”
“หลี่เสวี่ยเฉิงคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมเขาถึงได้จงใจเปิดเผยข้อมูลของเรา?” หานเซิ่นสงสัย เขาจำไม่ได้ว่าเคยเจอคนชื่อนี้ ความจริงแล้วเขาได้เจอคนของเผ่าเวรี่ไฮเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นตั้งแต่มาถึงเอาท์เตอร์สกาย เขาไม่ได้รู้จักใครคนไหนที่ชื่อหลี่เสวี่ยเฉิง ดังนั้นมันไม่มีทางที่เขาจะไปล่วงละเมิดคนๆนี้ไปได้
“นี่หลี่เสวี่ยเฉิงและหลี่อวี้เจินร่วมมือกันอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย เพราะนอกจากหลี่อวี้เจินแล้ว เขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครในเผ่าเวรี่ไฮ
เมื่อคิดได้แบบนั้น หานเซิ่นก็ต้องตกใจอีกครั้งหนึ่ง เขารู้สึกตัวขึ้นมาว่าการประลองระหว่างตัวไหมนี้ไม่ได้เป็นอะไรที่เรียบง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้ในตอนแรก
หานเซิ่นเปิดหนังสือกลับไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับคู่ต่อสู้อีกครั้ง พวกเขาทุกคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด มันมีคนของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอยู่ด้วย และหนึ่งตัวไหมก็คืออวี้ซ่านซินที่เป็นคนหน้าใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่านภา
ส่วนเชลที่มาจากเผ่าไออ้อนอาร์ทนั้น จริงๆแล้วเป็นเพียงแค่เผ่าพันธุ์ไร้ชื่อเผ่าหนึ่ง และมันมีครึ่งเทพเพียงแค่คนเดียวในหมู่พวกเขา เชลเป็นบุตรชายของครึ่งเทพคนหนึ่ง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างในตอนที่เขาถือกำเนิดขึ้นมามันมีการกลายพันธ์ของยีน มันทำให้เขากลายเป็นระดับเทพเจ้า และพรสวรรค์ของเขาก็สูงอย่างไม่น่าเชื่อ
ผลลัพธ์ของการทดสอบของก็อตสปิริตทัชบอกว่าเขามีพรสวรรค์ระดับสิบเปลือก หลังจากนั้นเผ่าพันธุ์ไลอ้อนฮาร์ทก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา ถ้าเขาไม่ได้ถูกเลือกโดยหนึ่งในคนของเผ่าเวรี่ไฮซะก่อน เขาก็มีแผนที่จะต่อสู้เพื่อจุดดวงไฟในจีโนฮอลล์
เชลถูกเลือกมาเป็นตัวไหมเมื่อสี่ปีก่อน เขาฝึกฝนอยู่ภายในเอาท์เตอร์สกายมาเป็นเวลานาน ดังนั้นมันง่ายที่จะจินตนาการว่าเขาจะน่ากลัวขนาดไหน
‘ถ้าเราใช้สมบัติได้ เราก็อาจจะเอาชนะเชลคนนี้ได้อยู่ แต่ถ้าเราใช้สมบัติไม่ได้ อย่างนั้นเราก็คงจะเอาชนะเชลไม่ได้ และการเอาชนะตัวไหมคนอื่นๆคงจะเป็นเรื่องยากเช่นกัน ถึงแม้จะไม่ได้คำนึงถึงคนอื่น เราก็ต้องต่อสู้กับอวี้ซ่านซิน หมอนั่นเป็นอะไรที่ยากจะรับมือ’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ที่ด้านหลังของหนังสือ มันมีรายชื่อของรางวัลที่จะได้รับจากอันดับต่างๆในการประลองระหว่างตัวไหม รางวัลอันดับที่หนึ่งคือเซ็ตสมบัติระดับเทพเจ้า ในตอนแรกที่หานเซิ่นได้อ่านมัน เขาก็รู้สึกสับสน แต่หลังจากที่เขาอ่านละเอียด เขาก็อ้าปากค้าง
เซ็ตสมบัติระดับเทพเจ้าที่พูดถึงคือชุดเกราะครบเช็ตที่ประกอบไปด้วยสมบัติที่ทรงพลัง ส่วนลำตัวคือสมบัติระดับเทพเจ้าชิ้นหนึ่ง ส่วนเข็มขัดเองก็เช่นเดียวกัน ทั้งถุงมือและรองเท้าก็เป็นสมบัติระดับเทพเจ้าสี่ชิ้น ด้วยหมวกอีกชิ้นหนึ่ง มันก็จะรวมเป็นสมบัติระดับเทพเจ้าเจ็ดชิ้นด้วยกัน มันรวมกันกลายเป็นเซ็ตสมบัติระดับเทพเจ้าที่เรียกว่า “เซ็ตอะพอลโล”
หานเซิ่นยังคงอ่านต่อไป และเขาก็สังเกตเห็นว่าเซ็ตอะพอลโลไม่ใช่แค่สมบัติระดับเทพเจ้าชิ้นหนึ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนเจ็ดอย่าง ทุกชิ้นส่วนเป็นสมบัติระดับเทพเจ้าในตัวของมันเอง พวกมันทั้งหมดเป็นขั้นพริมิทีฟ ถ้าหานเซิ่นใช้พวกมันทั้งหมดร่วมกัน มันก็จะทำให้เขาเทียบได้กับระดับเทพเจ้าขั้นทรานมิวเทชั่น
อันดับที่สองจะได้รับสมบัติระดับเทพเจ้าเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น รางวัลอันดับที่สองกับอันดับที่หนึ่งนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว ในหนังสือมีภาพของเซ็ตอะพอลโลให้ดูด้วย มันเป็นชุดเกราะสีเงินที่แวววาวราวกับกระจกที่มันเงา มันทั้งดูเท่และลึกลับ มันดูเหมือนจะเปล่งรัศมีของความรุ่งโรจน์
หลังจากที่หานเซิ่นอ่านข้อมูลเกี่ยวกับเซ็ตอะพอลโลเสร็จ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะน้ำลายไหล ถ้าผู้ใช้ยังไม่ถึงระดับเทพเจ้า พวกเขาก็ไม่สามารถเปิดใช้พลังของเซ็ตอะพอลโลได้ แต่ถ้าคนหลายคนใช้ชิ้นส่วนของเช็ตพร้อมๆกัน ทั้งเจ็ดชิ้นก็สามารถเปิดใช้ปีกของอะพอลโลซึ่งเป็นโซ่สสาร พวกมันมีพลังระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ ซึ่งแม้แต่ระดับราชันคนหนึ่งก็สามารถควบคุมพวกมันได้