ตอนที่ 2671 ข้อความจากจีโนฮอล์
ถึงแม้หลี่เคอเอ๋อจะยังคงสงสัยและค้นหาจนทั่วหอคอย แต่เธอก็ไม่พบอะไรที่น่าสงสัย สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้และกลับออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตา พวกเขาเริ่มกลับไปทำตามจุดประสงค์เดิม ขณะที่พวกเขาทั้งคู่เดินไปบนทะเลทราย หานเซิ่นก็ยังคงมองไปยังสิ่งต่างๆที่ผุดขึ้นมาจากทราย รูปร่างของพวกมันเป็นอะไรที่แปลกประหลาด หลังจากที่พวกเขาเดินไปจนถึงโอเอซิสแห่งหนึ่ง หลี่เคอเอ๋อก็บอกกับหานเซิ่น
“มิติอวกาศของที่นี่เสถียรมากกว่าบริเวณอื่นๆ เจ้าจะเปิดประตูไปสู่คอร์แอเรียได้จากที่นี่”
หานเซิ่นกล่าวขอบคุณหลี่เคอเอ๋อ หลังจากนั้นเขาก็ลองเรียกประตูสู่คอร์แอเรียออกมา ครั้งนี้ประตูสู่คอร์แอเรียเปิดออกเหมือนกับปกติ และหานเซิ่นก็สามารถเข้าไปในคอร์แอเรียได้สำเร็จ
ที่หานเซิ่นอยากเข้าไปในคอร์แอเรียนั่นเป็นเพราะว่าเมื่อเข้ามาแล้ว หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความคิดของเขาอีก แบบนั้นหานเซิ่นก็จะสามารถฝึกวิชาจีโนลับได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะถูกจับตามอง
หานเซิ่นไม่กล้าจะฝึกวิชาจีโนที่แท้จริงของเขาในเอาท์เตอร์สกาย เพราะถ้าเขาทำแบบนั้นความลับของวิชาจีโนทั้งสี่ก็จะถูกเปิดเผยกับหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิท หานเซิ่นเชื่อว่านั่นจะสร้างความยุ่งยากให้กับชีวิตของเขา
สำหรับช่วงเวลาที่เขาอยู่ในเอาท์เตอร์สกาย หานเซิ่นใช้เวลาไปกับฝึกวิชาจีโนที่เอ็กซ์ควิสิทมอบให้กับเขา และจากวิชาจีโนลับทั้งสี่ หานเซิ่นเลือกจะฝึกแค่เรื่องราวของยีนเท่านั้น เพราะทางรีเบทและปราสาทนภารู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของมันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าพวกเขารู้ เผ่าเวรี่ไฮเองก็คงจะรู้เช่นเดียวกัน
แต่เมื่อหานเซิ่นเข้ามาในคอร์แอเรีย เขาสามารถฝึกวิชาจีโนอื่นได้ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่เขามาที่นี่ เขาต้องการจะฝึกฮาร์ทคอนเน็คชั่น ถ้าเขาไม่สามารถใช้วิญญาณอสูรในการประลองได้ นี่ก็อาจจะเป็นการโจมตีเดียวของเขาที่จะความเสียหายกับคู่ต่อสู้ระดับเทพเจ้าได้
แถมหานเซิ่นยังต้องการจะพบกับกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ เขาต้องการให้พวกเธอทำบางสิ่งแทนเขา โชคดีที่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์กำลังฝึกฝนอยู่ในคอร์แอเรียเช่นกัน และพวกเธอก็อยู่ไม่ไกลไปจากตำแหน่งของหานเซิ่น หานเซิ่นจึงรีบไปหาพวกเธอ
“มันรู้สึกเป็นยังไงบ้างที่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงของสาวงามเผ่าเวรี่ไฮ?” จันทราสวรรค์พูดเย้ยหานเซิ่นด้วยรอยยิ้ม
“แย่มาก มันเหมือนกับว่าฉันเปลือยเปล่าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยแม้แต่นิดเดียว” หานเซิ่นพูดยอมรับอย่างหดหู่
“เจ้ารีบมาหาพวกเราแบบนี้ มันมีบางสิ่งเกิดขึ้นอย่างนั้นหรอ?” จันทราสวรรค์สามารถบอกได้ว่าเขาต้องมีปัญหาบางอย่าง
“ฉันมีวิชาจีโนอยู่ตัวหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่ามันทำอะไรได้ และฉันก็ไม่อยากจะเสี่ยงฝึกมันด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันต้องการให้พวกเธอนำวิชาจีโนนี้ไปหาคนๆหนึ่ง ให้เขาช่วยดูและระบุว่ามันมีประโยชน์อะไร” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็ส่งคัมภีร์นภาอำพันให้กับกู่ชิงเฉิง
“พวกเราต้องนำมันไปมอบให้กับใครกัน?” กู่ชิงเฉิงถามขณะที่รับคัมภีร์นภาอำพันไป
“ในหมู่เอ็กซ์ตรีมคิงมีชายอยู่คนหนึ่งที่ถูกเรียกว่ากุนซือไวท์ ฉันมีหนทางติดต่อกับเขาอยู่ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้กลัวว่าการจะไปพบกับเขาคงจะเป็นเรื่องยาก ดังนั้นพวกเธอต้องระมัดระวังให้ดีขณะที่ติดต่อไปหาเขา หลังจากนั้นนำคำพูดของกุนซือไวท์มาบอกกับฉัน” หานเซิ่นพูด หลังจากนั้นเขาก็อธิบายเกี่ยวกับวิธีที่จะติดต่อไปหากุนซือไวท์
หานเซิ่นแค่อยากรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาใช้คัมภีร์นภาอำพัน ถ้ามันไม่มีปัญหาอะไร เขาก็จะใช้มันได้อย่างอิสระ เขาไม่จำเป็นต้องฝึกมันด้วยซ้ำ เขาแค่ต้องใช้วิชาโลหิตชีพจรแบบกลับตาลปัตร
หลังจากที่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์จากไป หานเซิ่นก็หาที่เงียบๆเพื่อฝึกฮาร์ทคอนเน็คชั่น ถ้าเขาต้องการจะสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเชล เขาก็จำเป็นต้องมีวิชานี้
หานเซิ่นมีวิชาเบรกซิกซ์สกายอยู่เช่นกัน แต่มันเป็นการโจมตีในวงกว้าง ดังนั้นพลังของมันไม่ได้อัดแน่นเหมือนอย่างฮาร์ทคอนเน็คชั่น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นหนึ่งในวิชาจีโนที่มีพลังทำลายล้างสูงที่สุด
มันไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นเหมือนที่หานเซิ่นหวังเอาไว้ เขารอคอยอยู่สี่วันก่อนที่จันทราสวรรค์และกู่ชิงเฉิงจะกลับเข้ามาในคอร์แอเรีย
“ฉันได้มอบสิ่งนั้นให้กับกุนซือไวท์เรียบร้อยแล้ว เขาบอกว่าจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อตรวจสอบมันสักสองอาทิตย์” กู่ชิงเฉิงพูด
“สองอาทิตย์?” หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว มันเหลือเวลาอีกแค่สามวันเท่านั้นก่อนที่การประลองระหว่างตัวไหมจะเริ่มต้นขึ้น ถ้ามันใช้เวลาถึงสองอาทิตย์กว่าที่กุนซือไวท์จะติดต่อกลับมา เขาก็ไม่สามารถใช้วิชาจีโนนี้ในการประลองได้
แต่หานเซิ่นไม่คิดจะใช้วิชาโลหิตชีพจรในการประลองอยู่แล้ว ดังนั้นเขาไม่ได้ผิดหวังจนเกินไป
หานเซิ่นถามกู่ชิงเฉิงเกี่ยวกับดาวอุปราคาและสถานการณ์ภายในของปราสาทนภา หลังจากนั้นเขาก็ฝึกวิชาจีโนต่ออีกหน่อย และเมื่อถึงเวลาเขาก็กลับออกจากคอร์แอเรีย
“ทำไมเจ้าถึงได้ใช้เวลานานนัก?” หลี่เคอเอ๋อรู้สึกโล่งใจเมื่อได้เห็นหานเซิ่น มันเหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งวันก่อนที่การประลองจะเริ่มขึ้น มันจะเป็นปัญหาถ้าหานเซิ่นกลับมาไม่ทันเวลา
“เพื่อนของข้าไม่ได้เข้ามาในคอร์แอเรียเร็วอย่างที่หวังเอาไว้ ข้าต้องรอคอยอยู่หลายวันก่อนที่จะได้พบกับเขา” หานเซิ่นพูด
“เกิดอะไรขึ้น?” หลี่เคอเอ๋อถาม
“มันเป็นอะไรที่เสียเวลาเปล่า เขาไม่มีเวลาพอจะคิดอะไรออกมาได้” หานเซิ่นพูดและแสดงสีหน้าที่เจ็บปวด
“นี่เจ้าต้องการจะหาหนทางทำให้ระดับราชันขั้นที่เก้าคนหนึ่งจะเอาชนะระดับเทพเจ้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หลี่เคอเอ๋อถาม
“มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะรอนานสักแค่ไหน นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นอกซะจากเจ้าจะใช้สมบัติ เรื่องแบบนั้นก็ไม่มีวันเกิดขึ้น และมันก็ถูกตัดสินใจเรียบร้อยแล้วว่าสมบัติทุกอย่างถูกห้ามนำมาใช้ในประลอง มันเห็นได้ชัดว่าเชลจะได้อันดับที่หนึ่งในการประลองครั้งนี้”
หานเซิ่นคิดว่าเธอพูดถูก แต่การตัดสินใจของเผ่าเวรี่ไฮนั้นเหมือนกับว่าพวกเขาต้องการให้เชลได้อันดับที่หนึ่ง
“เชลคนนั้นเป็นใครกัน? ทำไมเหมือนกับว่าเผ่าเวรี่ไฮต้องการมอบอันดับที่หนึ่งให้กับเขา?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่หลี่เคอเอ๋อ
“มันเกือบจะถึงเวลาแล้ว พวกเราเป็นต้องไปที่หุบเขาและเข้าร่วมการประลอง พวกเราค่อยคุยระหว่างเดินทาง” หลี่เคอเอ๋อพูด หลังจากนั้นเธอก็รีบออกไปจากโอเอซิส
ขณะที่พวกเขาเดินทางข้ามทะเลทราย หลี่เคอเอ๋อก็อธิบายให้หานเซิ่นฟัง
เนื่องจากเชลเป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดและมีพรสวรรค์ระดับสิบเปลือก เขาอาจจะกลายเป็นขั้นทรูก็อตได้สำเร็จถ้าเขามีทรัพยากรที่มากพอ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออัจฉริยะคนหนึ่งของเผ่าเวรี่ไฮที่ทำพันธสัญญากับเชลนั้นเป็นบุคคลที่สำคัญมากๆ เผ่าเวรี่ไฮดูเหมือนจะตั้งใจทำให้เขาเป็นคนที่เก่งกาจที่สุด เผ่าเวรี่ไฮต้องการทำให้เขาต่อสู้เพื่อเปิดประตูของจีโนฮอลล์ ด้วยเหตุนั้นตัวไหมของอัจฉริยะจึงได้รับการสนับสนุนอย่างดีที่สุดเช่นเดียวกันเพื่อเพิ่มโอกาสของเขา
“เผ่าเวรี่ไฮเองก็ต้องการจะเข้าไปในจีโนฮอล์เหมือนกัน? ภายในจีโนฮอล์มีอะไรอยู่กัน?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้
“ข้าไม่รู้ หนึ่งในบรรพบุรุษของพวกเราเคยเข้าไปในจีโนฮออล์และนำข้อมูลบางอย่างกลับมา แต่ข้อมูลที่เขามอบให้กับพวกเราเป็นอะไรที่คลุมเครือมากๆ มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนต้องการให้พวกเราเข้าไปในจีโนฮอลล์ และข้าคิดว่าพวกเขากำลังขอความช่วยเหลือ” หลี่เคอเอ๋อพูด
“ข้าคิดว่าการได้เข้าไปในจีโนฮอล์หมายความว่าคนๆนั้นจะกลายเป็นเทพสปิริตซะอีก ทำไมใครบางคนที่อยู่ภายในถึงส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน
“นั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเราอยากจะหาความจริง แต่พวกเรายังคงไม่พบคำตอบ” หลี่เคอเอ๋อพูด